15 ธันวาคม 2554 21:49 น.

จดหมายถึง...พระจันทร์

แมงกุ๊ดจี่

hug.gif
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต...



นานมากแล้วนะ
ที่ลูกไม่ได้เขียนจดหมายถึงแม่..
นานเพราะแกล้งลืมแม่ไปชั่วขณะ  T__T"  น่าตีจังเนาะ คริคริ.
ก็ลูกไม่อยากให้แม่รู้ว่าลูกไม่สบายใจนี่โน๊ะ...


อยากกอดแม่จัง... 
ถ้าได้อ้อมกอดจากแม่คงรู้สึกอบอุ่น  ในวันหนาวเหน็บ
และรู้สึกมั่นคงมากกว่าที่กำลังเป็น...
ณ เวลานี้ความไม่ชัดเจนกับเรื่องราวบางอย่างทำให้ความเชื่อมั่น
ความมั่นใจที่เคยมีลดลง จะคิดจะตัดสินใจก็ไม่หนักแน่นอย่างควรจะเป็น...

วันนี้มาถึงทีไร...
เหมือนย้ำเตือนให้รู้ว่าปีเก่ากำลังจะผ่านไปอีกแล้ว...
ความรู้สึก...เหมือนปีนี้ผ่านไปไวมาก  เพราะยังไม่ได้ทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง

เขาว่ากันว่า "เวลาของความสุขมักผ่านไปเร็ว"  
ซึ่งตรงข้าม
ถ้าหากเป็น "เวลาแห่งความทุกข์กว่าจะผ่านพ้นช่างเนิ่นช้า"


1_display.jpg

ใช่แล้วคะแม่...
ปีกระต่ายเป็นปีทองของลูก
ลูกมีความสุข มีความหวัง มีเรื่องราวดีดี เกิดขึ้นมากมาย
ปีนี้ลูกค้นพบว่าชีวิตมีค่า  การใช้ชีวิตแม้ว่าจะเป็นของยากแต่ทุกย่างก้าวนั้น
มีอะไรมากมายให้เราเรียนรู้  และยอมรับ ว่านั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ  เป็นเรื่องธรรมดาของโลก

ตั้งแต่วันที่รู้ว่าแม่จะไม่อยู่ด้วยมันเศร้า 
แต่พอเวลาผ่านกลับทำให้ลูกเสียดายเวลา ที่เกือบสิบปีที่ลูกปล่อยให้ความเศร้า 
และความทุกข์บดบังเรื่องราวดีดีที่ผ่านเข้าในทุกๆ นาทีแห่งชีวิต

ลูกน่าจะรู้ และค้นพบเร็วกว่านี้
ว่าในทุกลมหายเข้า-ออก นั้นมีค่ามาก...สำหรับเราและผู้คนรอบข้าง
ปีนี้ตลอดปีลูกค้นพบว่าทุกเวลาทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวนั้นทำลูกอยู่ได้อย่างมีความสุข
ทุกคน ทุกสิ่ง  ที่อยู่รายล้อมสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ลูกยิ้มได้อย่างสดใส

หรืออาจเป็นเพราะประสบการณ์หล่อหลอมให้ลูกเติบโตทางความคิด
ทำให้มุมมอง การคิดวิเคราะห์สามารถมองมุมกลับ มองทุกอย่างรอบคอบขึ้น
พร้อมยอมรับในเหตุและผลที่เข้ามาให้เรียนรู้ 
ทุกวันนี้ลูกอยู่ได้อย่างมีความสุขอาจเศร้าบ้างเวลาคิดถึงแม่...

แต่ลูกรู้ว่า...
แม่อยู่เคียงข้างเสมอๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ลูกไปหาพ่อ...
ปีนี้พ่อดูแก่ไปมาก สุขภาพก็ไม่ค่อยดีแต่ก็ตามประสาคนแก่ล่วงตามวัย
เขาก็ดูแลพ่อดีนะ  ดีจนลูกก็อดเกรงใจไม่ได้ คงเป็นบุญของพ่อที่เขารับช่วงดูแลพ่อต่อจากแม่
และดูแลได้ดี แม่ไม่ต้องห่วงพ่อหรอกนะ แต่พ่อกลับมาห่วงลูกแทน จริงๆ แล้วน่าจะดีใจ
ที่ลูกอยู่ได้อย่างมีความสุข อยู่ได้อย่างไม่ได้ผูกเวร หรือมีบ่วงใดใดมาคล้องไว้อยู่สบายอย่างตัวปลิว

แม่ไม่ต้องห่วงลูกแล้วนะคะ
ทุกย่างก้าวของลูกจะสง่างามเหมือนที่แม่เคยวาดไว้...




ลูกคิดถึงแม่ค่ะ  ^___^

ดาวสวยฟ้าใส : อุ่นไอหนาว
๑๒.๑๒.๒๕๕๔:๐๐.๑๒.๐๙  


				
8 ธันวาคม 2554 20:03 น.

จบที่ลพบุรี...

แมงกุ๊ดจี่

story-11.jpg

ชีวิตวุ่นๆ  ในสัปดาห์ก่อนสิ้นเดือน  
ที่เมื่อก่อนสบายสบายแบบพี่เบิร์ดมานาน  
แล้วสัปดาห์นี้งานมารุมมาตุ้มอะไรตอนนี้ว่ะเนี๊ย
ต้องหอบแฟ้มตามเจ้านายหยิกๆ  ตรูเหนื่อยน๊าาา  อิอิ

ถ้าบ่นแบบนี้  กิ๊กดร.  ก็จะบอกว่า"บ่นทำไมคร๊าบบบบบ ไม่ได้เงินเดือนหรอคร๊าบบบบ" (ฮ่วยพ่อใหย๋นิ โย่วว) คำปลอบโยนของด๊อกเตอร์เป็นเริดจริงๆ  เล่นเอาวารีรัตน์ออกแร็ฟโย่ววว แทนอาการเหวี่ยงรอบทิศได้ชะงักเลย

เข้าเรื่องดีกว่าเนาะ  วารีรัตน์ถูกระบุชื่อให้เดินทางเข้ากทม.  ในวันที่  30  พย. 2554  เวลา 06.00 น.  เจ้านายบอกว่าต้องไปนะ   โอ่ยจะสิ้นปี จะให้ไปทำไมค่ะ  เจ้านายจ๋า   หนูเหนื่อยแล้วน๊า   ขอหนูพักบ้าง  อิอิ  และทำไมหนูจะต้องเดินในวันนี้  วันที่  30  ด้วย   แง ๆ แต่ก็ไม่เป็นผลเจ้านายบอกว่าถ้าขัดคำสั่งมีความผิด 555  ไปก็ไปว่ะ

เดินทางถึง กทม.  17.00  น.  เสียงโทรศัพท์คนบางแค  แคร์บางคนบอกว่าจะพาไปทำบุญ  ไปสวดมนต์แต่สุดท้ายเฮียบอกว่าไม่อัพเดท  เขาไม่ได้จัดงานเขาเลื่อนออกไป  อิอิ  เอาแล้ว  หลอกตรูอีกแว้วววว....แต่ก็ไม่เป็นไรผิดแผนอีกแล้วตรู

จากนั้นก็เดินทางออกไปหนองแขมเพื่อดูที่พักให้เด็กในสังกัดและไปดูสภาพ   ที่เขาจะเยียวยา  เห็นแล้วก็โอ้โห...ความเสียหายประมาณค่าไม่ได้ด้วยสายตาตี่ๆ  ของวารีรัตน์ไม่ได้หรอกเนาะอิอิ

แต่เพลียจัดแล้วฮ่ะ  อยากพักแล้วอยากเข้าที่พักแล้ว  แต่ที่พักวารีรัตน์อยู่ใจกลางกทม. โอ้มายก๊อดนั่งรถอีกสองชั่วโมงวารีรัตน์เริ่มงอมแล้ว  และจะงอแงแล้ว  หนูจะนอนพักแล้วไม่ไหวแล้วคร่าาาาารุ่งเช้าวันที่  1 ก็เข้ารับการดัดนิสัยเต็มวัน   อ่อนล้าสมอง  อ่อนล้าพลังงาน  จะชาร์ตไงดีเนี๊ย  เพื่อนตรูไม่มีใครว่างเลย ช่างเถอะตรูนอนเฝ้าห้องก็ได้ฟร่ะ  แต่ขอบอกแอร์ก็ไม่เย็นฮือๆ  ตื่นมาดึกๆ เหงื่อทั่วเลยวารีรัตน์  โอ้ยอะไรเนี๊ย...

วันที่ 2  มีภารกิจที่จะต้องทำอีกอย่าง  พอภารกิจเสร็จเรียบร้อยวารีรัตน์รีบกระซิบพี่สาวร่วมห้อง เราซิ่งกันเถอะ  อิอิ  เราโดดร่มกันอิอิ  ส่งสัญญาณเตรียมความพร้อมคนของพี่เขาก็มารับแล้วไปส่งของขวัญให้พี่รี  วารีรัตน์เตรียมของขวัญที่สาวๆ  ทวงออกอากาศกันพอดีได้โอกาสหิ้วกระเป๋าที่ถักไว้ด้วยรักนำมามอบให้แต่ละนาง
 
เสียงโทรศัพท์สายด่วนมากจากพัทยา...
พอรับสายก็บอกว่าเจ้หนูจะเอากระเป๋าไปส่ง   ต้อนรับเลยเจ้แกไล่ค่ะ  ใจร้าย555
ไล่ให้วารีรัตน์ไปลพบุรี  หึจำไว้เลย  คริคริ...  ชวนไปด้วยก็ไม่ไปเชอะ !!!   เลยชวนพี่สาวคนดี พี่สาวคนดีน่ารักจะไปด้วยกันเป็นเพื่อนกัน  ก็ร่าเริงอะจิ  มีคนไปด้วยแล้ว เย้ๆ

แต่นัด  19.00  น. โอเคจะรอ  ก็เดินฆ่าเวลาตายไปหลายชั่วโมง สระผม  ดื่มกาแฟ ตาก็จะปิดเพราะไม่ได้นอนสองคืนรวด   อ่อนเพลียไปทั้งตัวเดินจะไม่ไหว  แต่ก็รอ  อิอิ  รอบางคนยังรอได้มาตลอดชีวิต แค่เพียงสักนิดทำไม?  วารีรัตน์จะทำไม่ได้ (แต่ก็เกือบหลุด 555 )

แต่ที่ทำให้เพลียเข้าไปอีกคือ หนูตกรถ  รถคิวสุดท้ายออกไปแล้วเพราะรถติดทำให้การเดินทางไม่สะดวก  พี่สาวคนดีเดินทางมาถึง  20.00 น. โอ้ม่ายยยยยยยยยยจริง  กะจะไปซื้อตั๋วรอ  รถออกไปแล้ว  ฮ่าๆ   สนุกแล้ว  เอาไงกะชีวิตเนี๊ย...

พอพี่สาวคนดีมาถึง  ก็เลยรีบบอกว่าตัวใครตัวมันแร่ะ  กลับบ้านใครบ้านมัน  
เอาไปของขวัญไม่ถือแระหนัก แล้วกลับบ้านนอนซะ  อิอิ  ตอนนั้นไม่อยากไปไหน?  แล้ว   เหนื่อยใจจะขาดแล้ว แต่พี่สาวคนดีก็น่ารักมากแก้ไขสถานการณ์แบบฉับไว  ทันเหตุการณ์  ถ้ามีแรงตอนนั้นสงสัยจะเดินขึ้นแท็กซี่ไปแว้ววว

คนแรกที่พี่สาวคนดีคิดถึง  เป็นเพื่อนที่ไม่เจอกันหกปี  แต่สามารถมาแก้ไขสถานการณ์ได้  (พี่หมูเป็นเลิศ ฮีโร่ของหนู อิอิ)  อีกประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อนพี่สาวคนดีก็มา  วารีรัตน์กระโดดขึ้นรถได้ขอหลับก่อนเลยไม่ไหวแล้วอ่อนล้าไปทั้งตัว  แล้วก็หลับไปกับความอ่อนเพลีย  มาถึงลพบุรี ฮีโร่ของหนูก็พาตรงไปร้านพี่ยาแก้ปวดหัวใจ   เด็กกำลังเก็บร้านแว้ววว  ถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆๆ  วารีรัตน์เดินเซลงจากรถเลย 555  

พี่ยาแก้ปวดและน้องเฌอมาลย์ดริ้งรอแบบว่ากำลังได้ที่
ทำให้หายจากอาการปวดหัวและเครียดกับเรื่องเมื่อบ่าย อิอิ
คนนึงจิบเบียร์สิงห์  อีกคนกรึบรีฯ  โอ้...ไม่น่าเชื่อว่าสองคนนี้จะซี้กันได้ขนาดนี้  
คงเพราะชอบกันคนละแบบไม่มีใครแย่งใคร ก็เลยคบกันได้อย่างลงตัว  แต่สองคนนี้เขาน่ารักนะคะ  ทุกคนที่ไปแวะเวียนหาจะดูแลเป็นอย่างดีจนบ้างครั้งก็อดเกรงใจไม่ไดเลย  พอไปถึงหย่อนก้นนั่งลงไม่ทันไร  เหมือนมีสัญญาณเตือนภัยพี่หมูของนู๋ ถูกจัดแน่ชัวร์  555   และมันก็เป็นอย่างที่คิด ฮีโร่ของนู๋ถูกสัมภาษณ์ทุกอย่างจนไม่รู้จะตอบไง  ฮีโร่ได้แต่นั่งบิดไป บิดมา  555  น่าสงสารมาก ไม่น่าเลยไม่น่าหลวมตัวมาเลยพี่หมูคงคิดในใจแบบนี้  เพราะพี่เขาโสดด้วยอ่ะนะ   แถมหน้าตาดี  พ่วงด้วยหน้าที่การงานมั่นคงถาวร  555  หุ่นเท่ห์ สมาร์ท  สูงฉลูดตูดปอด  555  ผู้ชายคนนี้สมบูรณ์แบบจ้า อิอิ  แหมรู้งี้นู๋จีบเอาแร่ะ 555 แต่ยังติดเพลียอ่อนล้า  เลยไม่ออกอาการตาวาว 555   

ดึกมากแล้วตี 3  เราต้องไปสู่ฮีโร่ของหนูเข้าที่พักก่อน  เพราะหนูเองไม่ไหวแร่ะเหมือนกันจ๊ะ  หลังจากส่งฮีโร่ของหนูเสร็จเราก็ไปค้างที่บ้านน้องเฌอมาลย์  กลับก็หลับกันสนิทเลยจ้าด้วยอาการอ่อนเพลีย  ให้พักผ่อนกันเต็มที่ พี่ยาแก้ปวดนัดเที่ยงจะมารับไปกินข้าวด้วยกัน  และไปถ่ายรูปกับต้นทานตะวันแคะ  555  

story-8.jpg
(แคะจริงๆ นะ)  ทายสิเท้าใครเอ่ย???



ถ่ายรูปจนเหนื่อยเราก็ไปอ่างซับเหล็กเพื่อนนั่งรับลมเย็นๆ  เอาบรรยากาศซะหน่อย  เราสนุกสนานกับการถ่ายรูปตลอดทั้งวันเลย  555






ต้องขอโทษด้วยวันนี้ต้องรีบนอน  อาการหวัดก็ยังไม่หาย  
พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า  ไว้ค่อยมาเพิ่มรายละเอียดเนื้อหาให้ใหม่ทีหลังนะคะถ้ามีเวลา  


ขอบคุณนะคะ  พี่ยาแก้ปวด น้องเฌอมาลย์  และพี่สาวคนดี   
สำหรับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นเสมอ ๆ  ทุกครั้งที่พบกันมะกรูดจะเก็บ
ทุกความรู้สึกประทับประดับใจอย่างนี้เสมอไปค่ะ



ไหนๆ  ก็ไหนๆ  ได้ลงรูปแล้ว  ก็ประกาศ!!!!!!  มันตรงนี้แร่ะกันนะคะ
คือว่า "แมงกุ๊ดจี่"  ไม่สวยแต่จนพร้อมรวยด้วยหนี้สิน  รับสมัครชายหนุ่มโสด  
สถานภาพโสดนะคะ (โฉดชั่วคราว แฟนเผลอไม่รับ)  
ถ้าใครสนใจ  ส่ง  Resume อย่างละเอียดมาได้ที่(.........................)
ด่วนนะคะรับจำนวนแค่  1  อัตราเท่านั้น  คริคริ   
ถ้าท่านติดต่อภายในเที่ยงคืนนี้  ท่านจะได้ของแถมพร้อมหนี้สินเพียบ 555				
13 ตุลาคม 2554 16:53 น.

เชื่อใน "รัก"

แมงกุ๊ดจี่

wedding5.jpgบนทางลาดชันฉันเดินถือตะกร้าใส่ของสำหรับถวายพระ
เดินลงมาเรื่อยๆ  เพื่อให้ถึงจุดหมายคือที่จอดรถ


ระหว่างทางก็ชมนกชมไม้มาเรื่อยแต่สิ่งที่ฉันเห็นเบื้องหน้านั้น  ทำให้ฉันอมยิ้ม
และยิ้มสวยใสอยู่ในใจ ฉันแอบมองสองชาย-หญิงที่เดินห่างฉันไปประมาณ 10 เมตรได้
จากด้านหลังฉันเห็นคุณหมอจูงมือภรรยาค่อยเดิน ๆ  คุยกันไป  อบอุ่นจัง 


ต่อมาเป็นภาพของคนทั้งสองเป็นภาพที่ฉันประทับใจเป็นภาพที่สอง ที่ถูกจัดเรียงเข้ามวลประสบการณ์ในหมวดของความรักเดินมาได้สักระยะ  ฉันก็เห็นสองตายายเดินจูงมือกันค่อยๆ เดินลงบนทางลาดมันเป็นภาพที่ฉุ่มชื่นหัวใจดีจัง  นี่เป็นภาพที่สองที่ฉันเก็บเข้าหมวดความรักในวันนี้  ภาพนี้เป็นภาพที่ประทับใจภาพมากที่สุด เพราะสถานที่  ที่ฉันเห็นเหตุการณ์เป็นวัดที่แสดงถึง ความดีงามยิ่งส่งให้ภาพที่เห็นเป็นภาพที่ฉันเองก็อธิบายไม่ได้ว่ารู้ปิติแบบอธิบายได้ไม่ทั้งหมด

ฉันเชื่อมั่นในความรัก...
และเชื่อมั่นว่ายังมี "รักแท้" อยู่บนโลกใบนี้
ฉันเองก็ยังแอบเพ้อเจ้ออยู่บ่อย  ว่าจะมีคนจูงมือเดินไปด้วยกัน
น้อมนำ จิตใจร่วมทำบุญสุนทาน  กอรปแต่กรรมดีให้แก่กัน
ชักชวนกันประพฤติปฏิบัติต่อกันด้วยกรรมดี   แต่ถ้าไม่มีก็ดี  ถือว่าเกิดมาแบบแบมือ ไม่ได้กำใดๆ มา




ยังยืนยันอย่างเดิม ถ้าไม่ได้ตามนี่ก็ไม่แต่งจ๊ะ   อิอิ

ตั้งดวงจิตอธิฐานผสานส่ง
แน่วแน่ตรงพนมกรขอพรว่า
"หากกุศลผลบุญเคยหนุนมา
โปรดเมตตาพานพบสพคนดี

ขอให้สมชีวิธรรมน้อมนำผล
ได้โปรดดลมานพล้วนครบมี
คุณสมบัติของบุรุษผ่องผุดศรี
สู่วิถีครรลองแลครองธรรม...

ขอให้สม...ศรัทธานำพาก้าว
ต่างโน้นน้าวรู้ชอบรู้กอปรคำ
น้อมใจเชื่อชัดเจนในเวรกรรม
ร่วมกระทำความดีวิถีงาม....

ขอให้สม...สีลาจรรยาพร้อม
ใจนบน้อมศีลธรรมนำทุกยาม
ประพฤติชอบสืบวงค์มั่นคงนาม
บนพื้นฐานความเหมาะเฉพาะกัน...

ขอให้สม...จาคะ สละ ทรัพย์
มิคิดขัดโต้แย้งพร้อมแบ่งปัน
น้ำใจกว้างเผื่อแผ่ให้แก่กัน
แลตั้งมั่นช่วยเหลือและเกื้อกูล...

ขอให้สม...ปัญญามองหาเหตุ
รู้ขอบเขต ถูก-ผิด แล้วคิดจูน
นิสัยคล้ายยิ่งเสริมมาเพิ่มพูน
ใจเกื้อกูลสมดุลย์บุญหนุนทาง...

ปฏิญาณ...ปฏิบัติด้วยสัจจ์ซื่อ
น้อมยึดถือ น้อมคิด จิตสว่าง
จะมีเหตุมากน้อยใจปล่อยวาง
ขออยู่อย่าง...สงบพบนิพพาน...



Ps. 
วันนี้มะกรูดไปทำบุญมา
ขอจงร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันเถิด...				
1 ตุลาคม 2554 20:13 น.

"โสด NO Sale"

แมงกุ๊ดจี่

no-sale.jpg
"แค่เพียงได้รู้ว่าคิดถึงกัน แค่เพียงเท่านั้นที่ฉันต้องการ"  เสียงโทรศัพทร้องเพลงอยู่บนโต๊ะทำงานฉันหันไปมองสามรอบแร่ะ  "ไม่อยากรับโว้ยยยยย"  ฉันนึกในใจแต่ไม่ได้เอ่ยออกมา  555


เมื่อถูกเพื่อนๆ เป็นห่วง  แต่ว่า...ฉันกลับรำคาญซะงั่น
ก็นะ  ไม่ให้รำคาญและเบื่อสาวๆ เหล่าเพื่อนเพราะอะไร?  ม๊ะมาดูกัน


เหตุเกิดต่อเนื่องจากเฟสบุ๊ค 
เพราะเฟสบุ๊คทำให้เพื่อนสมัยไหนก็ตามหากันเจอไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียของเฟสบุ๊คแน่ "เพื่อน" คำว่าเพื่อนบ่งบอกว่าต้องเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน(เพื่อนสมัยเรียน) แน่นอนอายุก็เท่ากัน


พอโคจรมาพบกันสิ่งแรกที่เพื่อนๆ  มักถามกัน "แต่งงานหรือยัง" (มันจะถามทำไมเฟ้ย?) มันถามทุกคนที่เจอหน้ากันครั้งแรกว่า "แต่งงานหรือยัง" "มีเจ้าตัวน้อยหรือยัง" หุหุ  สู*ถามอย่างอื่นบ้างก็ได้ ข้อยบ่มีคำตอบตรงคำถาม 555 ยิ่งช่วงนี้กระแสความโสดของสาวยุคใหม่ยิ่งมาแรง แม้แต่หนังในโรง ละครในจอก็ตอกย้ำความโสดกันเสียจริง เช่น 30+ โสด ON Sale, 30 กำลังแจ๋ว  และเส้นตายสลายโสด มันอะไรกันเนี๊ย!!!!!!  ตอกย้ำกันเข้าไป ทำให้กลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง "30+ แล้วโสดนี่มันทำให้ตูรมีความผิดหรอ?" อะไรว่ะ  ถามแล้วก็ได้แต่ความงวยงง 555


ล่าสุดฉันได้ติดต่อกับเพื่อนสาว ที่ไม่ได้ติดต่อกันนานมากเพราะหล่อนเข้าไปทำงานในกระทรวงแห่งหนึ่ง เพื่อนสาวคนนี้แต่งงานไปแล้วเมื่อปี 2550 ฉันเองก็ได้ไปร่วมงาน ตอนนี้มีพยานรักแล้ว 1 เป็นสาวน้อยกำลังน่ารักน่าหลง (ปกติฉันรักเด็กนะ อิอิ) คำถามแรกที่เพื่อนคนนี้ถามคือ "ว่าไงเพื่อนหาคนรับผิดชอบได้หรือยัง"  โหถามไม่ไว้หน้าตูรเลยนะคุณเพื่อน คำตอบก็ทำเอาเพื่อนสาวขำไม่หยุดเชียว "จะมีได้ไงเพื่อนวิ่งไล่จนเหนื่อยหอบแล้วนิ ยิ่งอายุมากขึ้นวิ่งไม่ไหวแร่ะ"  เพื่อนสาวรู้ว่านั้นคือประชดก็ขำจนหน้าเขียว พอหยุดขำได้ก็ต่อเลย "ไม่ต้องมีหน่ะดีแล้วเพื่อน  ถ้ามีเอาที่รวยๆ  นะ" ตาฉันขำบ้าง หยุดขำได้ฉันก็ตอกกลับ "หาแถวไหน? ได้ง่ายๆ มั่งเพื่อนจะไปหา"  พูดจบก็หัวเราะกันคิกคัก


เพื่อนสาว :  "พอพอ พอได้แล้วจริงจังมั่งเห๊อะ"  
มะกรูด : แกจะถามไปทำไม?  แกก็รู้การใช้ชีวิตเป็นของยาก
เพื่อนสาว : ก็จริง  ถ้าย้อนเวลาได้ก็อยากเป็นอย่างเพื่อนนั่นแร่ะ
มะกรูด  : ห๊ะอะไรนะ  ตอนนี้เพื่อนไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นตอนนี้หรอ?
เพื่อนสาว : มีความสุขนะ  แต่มันก็ทุกข์  ไม่ได้สุขทั้งหมดหรอกเพื่อน
มะกรูด : อืม...

เราสองคนนิ่งเงียบอยู่ครู่ ก่อนจะสนทนาเรื่องอื่นต่อ
จบไปเพื่อนสาวคนที่หนึ่ง

มาเม้าท์เพื่อนที่ทำงานฉันบ้าง...อิอิ (เสร็จล่ะ)
อยู่ดีดี เพื่อนสาวอยู่ฝ่ายวิจัยก็โทร.มาหาซะงั่น...คนนี้มีลิงสองตัวแล้ว น่าอิจฉาอ่ะ

เพื่อนสาว : ยายๆ กิ๊กเจ้าทำตัวน่ารักอีกแล้ว (งี้เง่า) 555
มะกรูด : ไผคนได มีหลายคน รายงานด่วน 
เพื่อนสาว : ก็ ดร.กิ๊กเจ้านั่นแร่ะ  555
มะกรูด : อย่ามาว่ากิ๊กชั้นนะ ยายก็  กิ๊กข้อยออกจะน่ารักอ่ะ (งี้เง่าอ่ะ) 
เพื่อนสาว : ยายเจ้าสองคนเหมาะกันดีน๊าาา
มะกรูด : 555  อยู่แล้วไม่งั่นไม่กล้า กั๊กเป็นกิ๊กหรอก 5555  
เพื่อนสาว : บ่ลองๆ จริงจังกันเบิ่งแหน่บ้อ ข้อยสนับสนุน
มะกรูด : ยายข้อยรักอิสระอันดับหนึ่ง ดูแลใครไม่เป็น เหวี่ยงก็อันดับต้นๆ ไม่สนหน้าไหนเจ้ากะรู้
เพื่อนสาว : แล้วล่ะ ตามใจเหงาต่อไปนะยายนะ  555


จบไปอีกหนึ่งสาว
มาต่อเพื่อนสาวอยู่จังหวัดที่ 77 มั่ง
เพื่อนสาวคนนี้ค่อนข้างจะสนิทและรักมากด้วยจิ  

เพื่อนสาว : เป็นไงหนุ่มหน้าตี๋ที่หมอดูทัก ไปถึงไหนแล้ว
มะกรูด : ก็ยังหน้าตี๋เหมือนเดิมว่ะ  555
เพื่อนสาว : ไอ้บร้า...จริงจังนะโว้ย เดี๋ยวไม่มีคนทำกระทงให้ชั้น
มะกรูด : แกไม่ต้องห่วงชั้น ยังไงก็จะอยู่ทำกระทงให้แกแน่นอน 555
เพื่อนสาว : ชั้นไม่เชื่อแกหรอก  แกจะหนีชั้นไปจากคานแล้วแน่ๆ
มะกรูด : ฉันถูกมัดติดคานแกะไม่ออกพร้อมๆ แกนั้นแร่ะจะแกะได้ไงแก
เพื่อนสาว : แล้วหนุ่มตี๋แกเขายอมหรอก ห๊ะ
มะกรูด : เฮ้ย...ชีวิตฉันนะ ใครจะบังคับได้ ฉันไม่สนหรอก
เพื่อนสาว : พี่เขาก็ดีนี่หว่า  แกก็ตกลงไปเห๊อะ  (ทำไม? มันพูดง่ายจังว่ะใครจะทำกระทงให้มัน)
มะกรูด : อึ้ม...ดี  แต่ว่าเจ้าชู้ไปแก  ไม่ปลื้ม
เพื่อนสาว : แล้วล่ะ
มะกรูด : จบม๊ะเพื่อน ยังไงก็อยู่ทำกระทงให้แกชัวร์

เป็นการถามข่าวกันระหว่างเพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะหล่อนย้ายไปทำงานที่จังหวัดใหม่ พอได้มาเจอกันก็ถามกันอยู่เรื่องเดียว  ทำไม?  ต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยว่ะ ไม่เข้าใจมนุษย์เราจริง ๆ


ล่าสุดลุงเป็นคนถามปกติ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ฉันไม่ค่อยโผล่หน้าออกไปนอกบ้านหรอก จะนอน ไม่ก็ไม่หนีจากหน้าจอคอมพ์ ทำงาน เล่นเน็ต พอออกไปตอนเย็นแค่นั่นแร่ะ  คุณลุงญาติๆ กันนั่น ก็ถามข้ามรั้วมา

คุณลุง : ลูกสาวแพง* บ้านนี่คือบ่แต่งงานน้อ
มะกรูด : (ยิ้มหวานก่อนตอบ)  สงสัยหลานบ่มีเนื้อคู่ลุง
คุณลุง : ฮว้ายยย!!!!  เขาบ่ปั้นมาคี่ดอกน๊าาา  
มะกรูด : แม้นแท้เบาะลุง 
คุณลุง : ฟ่าวเด้อ ให้ทันก่อนตาหมัยตายได  
มะกรูด : (หันหน้าไปมองหน้าพ่อ) พ่อหวงไว้ผู้เดียวแล่วลุง  555
พ่อมะกรูด : โอ่ยยยย!!!!  เอาไปโลดไผอยากได้ "เงินห้าร้อยหมูน้อยโตนึง" ย่านแต่บ่มีคนเอาแล่ว
คุณลุง : 555 นั่นละมันเลือกหลายโพด
มะกรูด : ปาติ....(ฉันลากเสียงยาว)  เงินห้าร้อยนึงติ  ป๊าดดดดๆ  

แล้วคุณตาทั้งสองก็พากันหัวเราะคึกคักกัน 
คุณพ่อมะกรูดหักเลี่ยมโหด  เล่นเอาลูกสาวหน้าชาไปเลย 



เสียงโทรศัพท์ดังอีกรอบ...
เดี๋ยวเพื่อนสาวมันคิดมาก  เป็นห่วง  หรือกังวลใจก็เลยรับซะจะได้จบ
เพื่อนสาวคนนี้เธอโสด  เธอเลยไม่ค่อยห่วง  แต่จะหวงมากกว่ากลัวไม่มีเพื่อน 555

เพื่อนสาว ; เป็นห่วงแทบแย่  นึกว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
มะกรูด : อืม... งานยุ่งอยู่  (แอบเอานิ้วมือไข่วกัน 555)
เพื่อนสาว : ยุ่งจริง   ใช่หรอ  แชทอยู่ละสิ 
มะกรูด : รู้ทันตลอดนะยะ
เพื่อนสาว : แกดูลิ้งค์ที่ชั้นส่งไปในเฟสยัง  30+ โสด ON Sale 
มะกรูด : ดูตัวอย่างแล้ว แต่ขอบอก "ชั้นต้อง โสด NO Sale"
เพื่อนสาว : หนังเข้าเราไปดูกันม๊ะ  นะไปเป็นเพื่อนชั้นหน่อยแก
มะกรูด : เฮ้ย!!!!  แกไปชวนคนอื่นโน้น ฉันไม่ชอบดูหนังแกก็รู้ 
เพื่อนสาว : เปลี่ยนตัวเองมั่งเห๊อะเพื่อน ไปขำไปอิน กับเรื่องตัวเองบ้าง
มะกรูด : เรื่องตัวเอง  เรื่องไร  มั่วแระแก
เพื่อนสาว : ก็เรื่องโสด ๆ  ตอน 30+ ไง ไปดูกันเลย สองเรื่องนะ 
มะกรูด : แกบ้าไปคนเดียวเถอะ  ชั้นไม่เอาด้วยหรอก  เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว
เพื่อนสาว : ฉันยังอยากมีอยู่นะ แฟนหน่ะ  แต่ผู้ชายเลวน้อยไม่ค่อยมีเลย (ไม่ได้พาดพิงใครนะฮ่ะ)
มะกรูด : อืม  ชั้นเลิกคิดเรื่องนี้ไปนานแร่ะ 
เพื่อนสาว ; ไม่รู้ล่ะ ไม่ว่ายังไง แก...  ต้องไปดูหนังสองเรื่องนี้เป็นเพื่อนชั้นเข้าใจ๋
มะกรูด : อืม...ไปนอนหลับในโรงเป็นเพื่อนแกหรอ  ก็ได้ๆ
เพื่อนสาว : แล้วงานแต่งพรุ่งนี้แกจะมารับชั้นหรือ ให้ชั้นไปรับ
มะกรูด : แกมารับฉันแร่ะกัน  อาจารย์แม่ชั้นไม่ไปแล้ว 


จบการสนทนากับเพื่อนสนิทที่ไปไหนๆ  ด้วยกัน
เพราะมีอะไรคล้ายๆ  กัน  เพราะโสดเหมือนกัน 555
ฉันเป็นคนไม่ชอบดูทีวี  ไม่ชอบดูหนังในโรง หรืออะไรก็แล้ว แต่ฉันต้องไปดู
จริงแล้วฉันอยากบอกว่า ฉันไม่ดู ฉันโกรธพี่เพชรแล้ว ทำไม? ทำร้ายคนบ้านเดียวกันได้ลงคอ 555



"แพง" หมายถึง รักมาก (พ่อรักลูกสาวคนนี้ เพราะเลี้ยงก็ยาก ดื้อก็ดื้อกว่าใคร)
"สู" หมายถึง  พวกมึง หรือเพราะหน่อยก็ พวกหล่อน 555 				
1 กันยายน 2554 18:11 น.

ถ้าหาก "ไม่รัก" (Facebook4)

แมงกุ๊ดจี่

6077.jpg



ความรู้สึกของใจเป็นเรื่องซับซ้อน...
โดยเฉพาะความรู้สึกว่า "รัก" นั้นซับซ้อนมากด้วยกลลวงใจ


"วรินทร์  เคืองพี่มากหรือ?  
มีอะไรบ้าง  ที่จะทำให้ความรู้สึกระหว่างเรากลับมาเหมือนเดิม 
พี่วัตรขอโทษ...นะครับ"


ภวัตรส่งความรู้สึกถึงวรินทร์เข้ากล่องข้อความในเฟสบุ๊ค  
เขากดโทรศัพท์ไปหลายครั้ง  แต่เจ้าของหมายเลขปลายทางไม่รับสาย
และไม่โทร.กลับ...


ยิ่งเห็นสเตตัสของวรินทร์ตั้งไว้  หัวใจเขาแทบสลาย...
.
.
.
"ว่างเปล่า...เพื่อผ่านผันสู่วันใหม่"  
.
.
.
ภวัตรอ่านทบทวนกลับไป-มา  ถึงนัยยะของข้อความที่วรินทร์ตั้งไว้
เขาปวดร้าวกับประโยคนี้เหลือเกินเมื่อนึกย้อนกลับไปเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา


วันเวลาผ่านไป
เขาต้องอดทนกับความเงียบงัน
และกดดันกับความเมินเฉยของอีกฝ่าย  จนแทบคลั่ง...
สิ่งที่เขาทำมันผิดมากนักหรือไง  ทำไมอีกคนจึงเงียบงันเช่นนี้


ภวัตรรู้สึกหน่วงในอก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ขณะที่สติรับรู้ถึงแรงกระแทกล้อของเรือบินแตะรันเวย์แล้ว 
เขาคิดกรุ่นตลอดการเดินทาง  เพราะการมาครั้งนี้เป็นการทำตามหัวใจ
เพื่อมาพบหญิงสาวคนที่เมินเฉยคนนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งหวั่นใจ


"ฉันไม่มีอะไรจะพูด จะบอก ไม่มีเหตุผลต้องตอบ"  วรินทร์จองตาเขาแน่นิ่ง
-
"พี่ทำให้รินทร์อึดอัด  หรือว่าพี่ไม่ดีพอที่จะรักรินทร์"  เขาเอ่ยถามแววตาฉายเอาคำตอบ
-
"ไม่ค่ะ  "วรินทร์" ดีเกินไป และพี่วัตรไม่มีทางรัก "วรินทร์" ได้"  ใบหน้ามนนิ่งเงียบ
"คุณภวัตรยอมรับเถอะคะ  ว่าคุณไม่ได้รักวรินทร์ คุณภวัตรเพียงต้องการเอาชนะเธอ"  
-
"ทำไม? รินทร์ไม่ให้โอกาสพี่ได้ทำ  ได้พิสูจน์บ้าง"  ภวัตรจ้องมองใบหน้ามนที่เมินเฉย
-
"ผู้หญิงแบบวรินทร์ไม่เหมาะกับคุณหรอกคะ  เธอดีเกินไปสำหรับคุณ"  
-

ประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินจากหญิงสาว  คนที่เขาคิดว่าหลงรักเธอแล้วจนหมดใจ...
ความ "รัก" จะมีอะไรเจ็บปวดมากไปกว่าอีกใจ "ไม่ได้รัก"  ภวัตรได้แต่ยินยอม
กับประโยคที่เขาได้ยิน  เพราะมันคือความจริง   เขาหลงลืมไปว่าหากวันหนึ่งได้พบใครคนที่พร้อมจะมอบความรักและหยุดที่เธอคนนั้น  เขาจะได้รับความไว้วางใจหรือไม่ความเจ้าชู้   ความไม่ยี่หระกับอะไร เพล์บอยแบบเขาไม่เคยคิดจะจริงจังกับใครสักคนหวังเพียงประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวดุจดั่งนักธุรกิจคิดถึงแต่ผลประโยชน์สูงสุด...


ใช่...
ผู้หญิงอย่าง "วรินทร์" เขาไม่เคยเจอ  เธอดีจนเขาอยากครอบครอง  เหมือนของมีค่า อยากได้มารักษาดูแล อยากอยู่ใกล้  เพราะทุกครั้งที่ได้พูดคุยอยู่ใกล้เขามักจะเย็นรื่นในหัวใจ ไม่รุ่มร้อนกระวนกระวาย เขาตอบตัวเองได้อย่างมั่นใจและหนักแน่นว่า "วรินทร์" นี่แหล่ะใช่  ที่จะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป


-
แต่อีกหัวใจที่เคยผิดหวังเรื่องรักมา  กลับรู้สึกหวาดหวั่น  หวาดกลัว กับการที่ต้องแชร์ทุกเรื่องราวในชีวิต  และฝากความหวังทุกสิ่ง รวมทั้งเวลาส่วนตัวให้กับอีกคนไป
  

วรินทร์รู้ตลอดมาเธอ "รักไม่ได้"  และต้องไม่รักภวัตร
จะมีอะไรทรมานใจมากไปกว่าการห้ามใจไม่ให้รัก  เพราะรู้ว่ารักไม่ได้ทั้งรู้ว่ารักนั่นแหล่ะ แม้ว่าจะได้รับการสัญญาที่หนักแน่นแต่อะไรจะเป็นหลักประกันให้แต่ละวันผ่านไปได้ราบรื่น ภวัตรไม่คิดจะหยุดที่เธอ  และเขาไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอ  เขาเพียงต้องการเล่นเกมกลลวงใจ ประวัติของเขาที่ผ่านมาทำให้วรินทร์ไม่กล้ายอมรับ  เพราะเธอคิดเผื่อถึงอนาคตแล้วว่าจะต้องตรอมใจอย่างแน่นอน



คำว่า "คนพิเศษ"  ของภวัตรจะอีกมีกี่คน วรินทร์คงไม่คิดค้นหาคำตอบ เพียงแต่ขอให้เขาตัดวรินทร์ออกไปสักหนึ่งคน เพราะความรัก  หากไม่ใช่รักเดียวใจเดียว  หากไม่ได้หมายถึงสองคนเป็นหนึ่งเดียว  ก็คงไม่เหตุที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกัน  วรินทร์ต้องห้ามใจไม่ให้รัก  เพราะผู้ชายอย่างภวัตร  "รักไม่ได้"  เขาไม่เหมาะกับผู้หญิงอย่างวรินทร์เธอย่อมรู้ดีกว่าใคร



-
"คุณหนีผมไปแล้วจริงๆ"  ภวัตรพร่ำเบา-เบา  พร้อมใบหน้าที่แสดงอาการบ่งบอกว่าผิดหวัง

ภวัตรรู้สึกดั่งสูญเสียของมีค่า  และคงหาไม่ได้จากที่ไหน?
เขาได้คำตอบที่ว่างเปล่า   และเขารู้ว่าไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก ไม่รู้ว่าจะตามหาเธอได้จากที่ไหน?  วรินทร์ทำเรื่องย้ายกรณีพิเศษไปช่วยราชการที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศแต่ที่ไหนล่ะ  เขาพยายามถามและอ้อนวอนใครต่อใคร  แต่ไม่มีใครให้คำตอบกับเขาได้  ภวัตรรู้สึกเหมือนชีวิตไร้ค่าขึ้นมาทันที
เมื่อรู้ว่าเขาจะไม่ได้พบวรินทร์อีก  เพราะเธอไม่ต้องการพบเขาอีกแล้ว



"ฉันไม่เหมาะจะเป็นคนพิเศษ ของคุณหรอกนะคะ"  วรินทร์เอ่ยพร้อมกับจ้องหน้าภวัตรเนิ่นนิ่ง
-
"พี่เป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้เลยหรอ  รินทร์"  ภวัตรเอ่ยเบาเบาเหมือนจะหมดแรง
-
 "ฉันไม่เคยคิดรักคุณ  คุณเป็นผู้ชายที่รักไม่ได้"  หญิงสาวจ้องมองด้วยแววตาเฉยชา
 -
"เพราะอะไร ? " เขาจ้องแน่วนิ่ง ด้วยสายตาเพื่อเค้นเอาคำตอบให้ได้
-
"รักไม่ได้"  วรินทร์ตอบน้ำเสียงหนักแน่น  แล้วเมินหน้าหนีสายตาของคู่สนทนา
-
"ถ้าหากไม่รัก  รินทร์ทำดีกับพี่ทำไม? แสนดีกับพี่ทำไม?"  ภวัตรจ้องนิ่ง
-
"เพราะคุณเป็นผู้ชายเจ้าชู้..."  วรินทร์น้ำเสียงหนักนิ่งทำอีกคนงุนงง
-
"วรินทร์!!!!  แกล้งทำดีกับพี่งั้นหรือ?" ภวัตรหน้าซีดเผือกลงทันทีที่ได้ฟัง
-
"วรินทร์ดีเกินไปสำหรับคุณภวัตร  ฉันดีเกินไป"  หญิงสาวนิ่งเงียบ
-
-
-
-
-
ภวัตรครุ่นคิดกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา  เขาผิดเองที่ทำร้ายจิตใจวรินทร์  และเขาเองก็รู้แล้ว  ว่าเขา  "รัก"  วรินทร์จนหมดหัวใจ  เขาเป็นคนทำลายความรู้สึกดีดีของเธอ  หลายต่อหลายครั้งที่เขาปล่อยให้ผู้หญิงของเขาหลายคนมาวุ่นวายโวยวายทำให้เดือดร้อนใจ  แต่วรินทร์ไม่เคยแสดงออก  ว่าโกรธ เกลียด หรือรังเกียจเขา...ภวัตรต้องยอมรับและก้มหน้ารับโทษทัณฑ์นี้				
Calendar
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟแมงกุ๊ดจี่
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแมงกุ๊ดจี่