13 กันยายน 2550 21:40 น.

ห้วยขาแข้งรำลึก ...

แสงเหนือ

ishi.jpg

และวันคอย ก็มาถึง    ณ วันซึ่งแสวงหา
ประสบการณ์ผจญป่า   ณ ห้วยขาเขาว่าแข็ง

ก็เตรียมการตะลุยไพร และเตรียมใจจะต้องแกร่ง
ตะวันเริ่มจะร้อนแรง   ประกายแสงกระทบสินธุ์

ตะลุยเริ่ม ณ ปลายธาร   ตะลึงลาน ณ โขดหิน
ระยิบไหลกระแสริน      ประดับดั่งมณีไพร

ก็ผาดโผนกระโจนบ้าง   ก็เส้นทางมิเป็นใจ
ก็จ้ำเบ้าสิลื่นไป             และก้นกบก็เปียกปอน

ณ จิตใจสิกล้าแกร่ง    มิราแรงจะถ่ายถอน
จะหนักเป้มิอาทร        จะแน่วแน่ตะลุยทาง

ณ แนวป่าพนาเนา     พนมเขาทะมึนขวาง
จะยากแสน ณ เส้นทาง  ก็ร่วมฝ่าและเคียงกาย

จะแลไหนก็ใบกล้วย    ณ ริมห้วยละหานทราย
และกรวดหินก็เรียงราย  ณ หาดทรายระยิบธาร

พระคุณเจ้า ! อะไรนี่ !     ก็ตีนหมี นะซีท่าน
เอ๊ะ! นั่นรอย ก็เสือผ่าน   มิได้การเถอะรีบจร

ตะวันลอยจะคล้อยเขา  ก็เร็วเข้าตะแบกคอน
แน่ะ พี่ฉุยตะลุยก่อน    มิเคยอ่อนจะหมดแรง

และพี่ท่านจรูญนั้น     ก็คุ้มกันละขันแข็ง
ณ ท้ายแถวมิได้แซง   ระแวงเสือระวังหมี

และแล้วเราก็ได้พัก   ก็เหนื่อยหนักละวันนี้
ณ วันแรกก็ยิ้มปรี่      สนุกดี ณ ไพรวัน

และค่ำคืนก็พาเสียว    จะแลเหลียวก็พาหวั่น
ก็เลือกกินก็แล้วกัน     มิรู้มันจะเลือกใคร

ก็แว่วสรรพเสียงกู่      สะท้อนอยู่ ณ ห้องไพร
และโหยหวนก็ชวนไหว   วิถีไพรวิสัยพง

และหุบเขาก็เย็นเยือก   ณ ทิวเทือกพนาดง
ณ ไพรลึกก็พฤกษ์พง     ก็หวาดหวาดมิอาจชิน

พระพายพัดสะบัดโกรก   ณ ธารโตรกชะโงกหิน
ระรี่ไหลกระแสริน          กระซิบปลอบตลอดคืน

ผจญป่าพนาดอน          มิอาจอ่อนหทัยฝืน
ทุกเส้นทางสิโหดหื่น     ตะลุยแม้ตำแยดง

และ วันนั้น ณ วันนี้     ก็สุดที่จะลืมลง
และไมตรีที่ป่าดง         ก็ดำรง ณ ทรงจำ..


         kakaen.jpg


                                  

                ... ( ธันวา 46 )				
8 กันยายน 2550 23:20 น.

อัตตา.. ..

แสงเหนือ

ทะ  ลักทะล้นโลกแล้ว  กิเลสคน
ลุ่ม  ลึกหลงลวงจน       โลกร้อน
ปุ่ม  ปมอัตตาล้น         ลามโลก
ปู  แต่งแต่ร้ายต้อน     โลกให้ หวาดผวา ฯ

  ทะ  มึนนั้นดุจห้วง     โลกันต์*
ลุ่ม  เล่ห์สุดรำพัน          เปรียบอ้าง
ปุ่ม  ใดไป่เทียบทัน   ใหญ่ยิ่ง
ปู  ก่อกรรมสืบสร้าง       ห่อนร้าง ฤทธิ์แรง ฯ

  ทะ  ลวงทลายเถิดทิ้ง    อัตตา
ลุ่ม  ลึกแห่งปัญญา         หยั่งไว้
ปุ่ม  ปมแห่งอัตตา       เพียรถาก ท่านเอย
ปู  แต่งแต่ดีไซร้          จักพ้น โพยภัย ฯ 

  ทะ  เลธรรมเทียวท่องไว้     แวะเวียน
ลุ่ม  ลึกหลากหลั่นเพียร        เพ่งไว้
ปุ่ม  เปลือกเลือกรู้เรียน         ถึงแก่น
ปู  แต่งแก่นธรรมได้       ชีพนี้ เสมอสวรรค์ ฯ

wtc_meeting%255B1%255D.jpg				
29 สิงหาคม 2550 22:59 น.

แด่ ...ดวงใจที่ร้าวราน

แสงเหนือ

พักสักหน่อยดีไหม ใจที่ล้า
ให้กายาเอิบอาบฉาบอ่อนหวาน
ใต้นวลแสงแห่งจันทร์อันเจือจาน
เรไรขานบรรเลงเพลงราตรี

เพียงให้ใจ  ได้พักหากเคว้งคว้าง
ฟ้าที่กว้างทางที่ไกลใช่หลีกหนี
ใช่ยอมแพ้แค่หยุดก่อนผ่อนชีวี
ให้จันทร์ชี้ทางวิมุติดุจทางจันทร์

พักสักหน่อยดีไหม หากใจท้อ
จันทร์ลออทอรักจักห่มขวัญ
แสงละมุนแสนละไมจากใจจันทร์
จักปลอบขวัญให้กล้าเพื่อฝ่าไป

พักสักหน่อยดีไหม ใจที่เจ็บ
เพื่อตามเก็บบทเรียนฝันเริ่มวันใหม่
พักใต้แสงจันทร์กรอทอละไม
ให้เรไรประโคมขับรับขวัญคลาย

พักสักหน่อยดีไหม ใจที่ล้า
ให้กายาเอิบอาบฉาบจันทร์ฉาย
เบื้องสายธารเรืองระยิบทิพย์ประพาย
ให้ใจกายหายหม่นค่อยด้นเดิน...




..
				
23 สิงหาคม 2550 20:36 น.

ก้าวที่ใกล้ ..

แสงเหนือ

DSC05629_resize_exposure.JPG

ณ เบื้องหน้าสายตาคือฟ้ากว้าง
มีเส้นทางร้างไร้คนใฝ่ฝัน
เป็นทางรกลำบากยากฝ่าฟัน
เกลื่อนพฤกษ์พันธุ์หนามเหนี่ยวคอยเกี่ยวกาย

เป็นทางเชี่ยวเกลียวน้ำกระหน่ำกราด
ลมฝนสาดฟาดซ้ำกระหน่ำสาย
เป็นทางเวิ้งวาบว้างหว่างผืนทราย
ต้องเดียวดายทุกสิ่งทิ้งเดิมพัน

ทางสายนี้แน่นักประจักษ์รู้
เป็นทางสู่จุดหมายที่ใฝ่ฝัน
เป็นทางของนักสู้ผู้ประจัญ
ใช่ทางของนักฝันจะเกรียงไกร

ทุกย่างก้าวของนักสู้ผู้รู้ก้าว
มีค่าราวมณีทรัพย์นับไฉน
แม้หากใครใฝ่ฝันจะก้าวไป
ตื่นเร็วไวกล้าแกร่งแข่งเวลา

เมื่อไม่เริ่มเมื่อไหร่จะได้ก้าว
กี่เดือนดาวแล้วดับลับเวหา
กี่ตะวันลับเลือนเตือนเวลา
ให้นำพาเพียรเพ่งเร่งคำนึง

เมื่อไม่ก้าวเมื่อไหร่จะเข้าใกล้
เส้นทางไกลเมื่อไหร่จะไปถึง
เมื่อไม่พายสายน้ำยังขวางตรึง
กว่าจะถึงขึ้นฝั่งนั้นเมื่อไร

เมื่อไม่ทำเมื่อไหร่จะพูนเพิ่ม
เมื่อไม่เติมเมื่อไหร่จะเต็มได้
เมื่อไม่เข็นเมื่อไหร่จะเคลื่อนไป
ได้อะไรจากความคร้านผลาญชีวา

เพียงก้าวแรกรู้เริ่มประเดิมก้าว
เพียงเริ่มสาวก้าวย่างไปข้างหน้า
แม้จุดหมายเส้นชัยจะไกลตา
หนึ่งก้าวนั้นก็มากค่าคณาคุณ.

SAVE0232-thumb.png				
16 สิงหาคม 2550 00:54 น.

มุมหนึ่ง ณ ห้องใจ

แสงเหนือ

แม้ชะตาจะแกล้งให้แล้งโชค
แม้ว่าโลกจะแกล้งให้แล้งฝัน
แม้ผู้คนสิ้นแล้งจะแบ่งปัน
สังขารขันธ์ซ้ำแกล้งให้แรงโรย

ดวงตาแม้หมองกร่ำเพราะช้ำโศก
สู้ในโลกมืดมนจนระโหย
ไร้แม้เสียงครวญคร่ำจะร่ำโอย
อ่อนระโหยโรยล้าในอาภัพ

ขอเพียงแสงไรไรในก้นบึ้ง
ที่มุมหนึ่ง ณ ห้องใจอย่าให้ดับ
ริบหรี่แสงแห่งศรัทธาอย่าไรลับ
ไว้ประคับประคองครรลองธรรม


เพียงดวงแสงแห่งปัญญาไม่คลาเคลื่อน
ไม่พล่าเลือนวูบดับกับตาช้ำ
เพื่อดำเนินทางที่ดีคอยชี้นำ
ไม่ถลำทางรกให้ตกไกล

ยืนหยัดอยู่ด้วยใจไปให้สุด
ดุจกระแสวารีที่หลั่งไหล
คืนยิ่งมืดมิดมนหม่นหทัย
ก็ยิ่งใกล้ถึงเช้าพราวแสงทอง.

 เพลง : ใจรอนแรม   http://roukpanda.exteen.com/20070324/entry-3

ผู้ใด แม้หาเลี้ยงชีวิตได้โดยยาก ลำบาก 
ก็ไม่ประพฤติทุจริต ๓ 
ผู้นั้น ชื่อว่า เป็นผู้ประกอบในธรรม โดยแท้


5_272.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงเหนือ
Lovings  แสงเหนือ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงเหนือ
Lovings  แสงเหนือ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงเหนือ
Lovings  แสงเหนือ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแสงเหนือ