28 มกราคม 2554 11:31 น.
โอ้ละหนอ
กลอนของฉันนั้นแสนธรรมดา................
ไม่หวือหวาเร้าใจเช่นใครเขา
กลบทโคลงฉันท์ฉันไม่เอา
กาพย์นั้นเล่าก็ไม่เก่งตะเบงไป
เขียนเป็นแค่กลอนแปดธรรมดา...........
แม้ภาษาก็ไม่ซึ้งไม่เอาไหน
แต่ชอบเขียนนักหนา"ภาษาใจ"
ที่สื่อได้ในกลอนแปดธรรมดา.............
ธรรมดา ธรรมด๊า ธรรมดา
แค่ภาษาเรียบง่ายคงไม่ว่า
กลอนของฉันนั้นแสนธรรมดา
แต่ทว่าเขียนจากใจในบ้านกลอน.............
คำขอของหญิงชราน่าสงสาร
อาศัยบ้านนี้มานานเพื่อพักผ่อน
มาเขียนอ่านมาชื่นบานในบ้านกลอน
มาเรียงร่อนร้อยถ้อยคำแสน......ธรรมดา!.......
26 มกราคม 2554 00:08 น.
โอ้ละหนอ
เส้นทางรัก สายไหม ทอให้ลูก
ความผิดถูก แม่ทอถัก ลงกับไหม
ให้ลูกรัก อบอุ่น ละมุนละไม
กับสายไหม สายใจรัก แม่ถักทอ...............
ราบรื่นเรียบ บนเส้นไหม จากใจแม่
บรรจงถัก พร้อมรักแท้ ที่แม่ก่อ
เส้นทางรัก สายไหม เทใจทอ
อุ่นละออ ละเมียดใน สายไหมงาม.........
ระรื่นริ้ว พริ้วพรม กับลมรัก
แม่บรรจง ทอถัก จิตวาบหวาม
ขอให้ลูก แม่นั้นสุข ทุกโมงยาม
เดินตามทาง เส้นสายไหม ใจแม่ทอ...............
25 มกราคม 2554 13:01 น.
โอ้ละหนอ
ปัญหามีไว้แก้ใช่ไว้เก็บ
เลาะตะเข็บแก้ปัญหาอย่านิ่งเฉย
มีปัญญาแก้ปัญหาอย่าละเลย
คำเฉลยมีไว้ตอบให้ขอบคุณ..........
อย่าหมักหมมปัญหาบนบ่านะ
เพราะมันจะปวดหลังไหล่ให้หัวหมุน
แก้ปัญหาด้วยปัญญาของตัวคุณ
เพื่อเป็นทุนต่อตัวตนบนโลกนี้..........
ถ้ายังแก้ไม่ตกอย่าวิตก
อย่าตกอกตกใจไม่ควรที่
วันนี้แก้ไม่ได้พรุ่งนี้มี
หลับเต็มที่ตื่นขึ้นใหม่ไว้ว่ากัน.......
มันต้องแก้ได้สักวันในปัญหา
เพราะปัญญามีไว้ใช่ไหมนั่น
แก้ปัญหาด้วยปัญญาในทุกวัน
ไม่ต้องหวั่นปัญหาไม่น่ากลัว..........
17 มกราคม 2554 22:23 น.
โอ้ละหนอ
ยามไอหมอกหยอกลมหนาวสาวสะท้าน
สะเทิ้นสร้านสราญสรวงทรวงสั่นไหว
เมื่อไอหมอกหยอกลมหนาวโลมเร้าใจ
จะห่มใดใจสาวเจ้าเฝ้าครึมคราง.......
จะห่มเนื้อเนื้อใดจะให้ห่ม
อกระทมข่มใจให้หมองหมาง
โอ้อกเอ๋ยเคยอยู่ชิดติดกายนาง
ไยจืดจางยามหนาวนี้พี่อยู่ใด............
ระรวยไล้ละไอหมอกหยอกลมหนาว
ระทวยสาวระทมถึงซึ่งชายไหน
ชายผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในดวงฤทัย
ระอุในไอหมอกหนาวในหนาวนี้...........
ให้รู้ไว้ยามไอหมอกหยอกลมหนาว
ว่าสาวเจ้าระทวยพ้อรอคอยพี่
จะรอห่มฉมเนื้อพี่คนดี
รอคอยพี่มาห่มให้ไอหมอกจาง........
10 มกราคม 2554 21:48 น.
โอ้ละหนอ
ฉันมีวันคืนของฉันบนฝั่งฝัน
ตลิ่งชันฝันคว้างบนทางเหงา
ที่ไขว่คว้าได้นี้มีเพียงเงา
บนทางเหงาตลิ่งชันฝันเดียวดาย...........
แต่ตัวฉันนั้นแสนบรมสุข
นิรทุกข์ได้นั่งฝันบนฝั่งฝาย
ตลิ่งชันฝันคว้างอย่างเดียวดาย
มีความหมายคือเดียวดายอย่างแท้จริง.............
แต่ใครใครไม่เข้าใจในความหมาย
เกรงว่าฉันจะเดียวดายไปทุกสิ่ง
เข้ามายุ่งเกี่ยวพันฉันเสียจริง
ฉันก็วิ่งหนีสุดหล้าสุดฟ้าดิน...........
ใยผู้คนจึ่งวุ่นวายในชีวิต
ชอบลิขิตขีดเส้นละเลงสิ้น
ชอบลิขิตขีดชะตาแทนฟ้าดิน
ฉันนั้นสิ้นความอดทนจนอยากตาย..............
ขอให้ฉันมีคืนวันเป็นของฉัน
บนฝั่งฝันตลิ่งชันมีความหมาย
บนทางเหงาเงียบงันนั้นเดียวดาย
มีความหมายคือ"คืนวันของฉัน"เอง.............
หน้าส่วนตัว
1981
Calendar
Lovers
1 คน เลิฟโอ้ละหนอ
