ให้คะแนนกลอน

นิธิรำพึง

nidhi

ค่ำคืนนี้แม้มืดหนาวจงก้าวต่อ
อย่าไปรอหวังสัมฤทธิ์จะผิดหวัง
จงแปรเปลี่ยนความคับแค้นเป็นพลัง
แล้วจงตั้งใจสู้กู้ฐานะ
๒๒ธันวาคม๒๕๔๖
เกาะสายไฟเส้นเดียวเปลี่ยวไหมนี่
สูงอย่างนี้จะโดดเดี่ยวเปลี่ยวแค่ไหน
อยู่ตัวเดียวเที่ยวไปทั่วทุกถิ่นไกล
นานเท่าใดแล้วเจ้านกวิหคเหลือง
 ๒๘มกราคม๒๕๔๗
สามสิบมกราเวียนมาครบ
จงประสบแต่ความสุขความเจริญเดินก้าวหน้า
ให้ได้เรียนสำเร็จทุกวิชา
ให้ก้าวหน้าต่อไปอย่าได้หยุด
 ๓๐มกราคม๒๕๔๗
    ตะวันสายสาดส่องเรืองรองทั่ว
ฟ้าที่มัวกลับสว่างกระจ่างใส
เหลือแต่เพียงร่องรอยค่อยลบไป
เช่นกับใจที่หมองไหม้ในวันนี้
 ๓๑มกราคม๒๕๔๗
ขอพระวิษณุกรรมประสิทธิ์
ผู้ทรงฤทธิ์วิทยาเลิศประเสริฐศรี
ได้โปรดดลใจด้วยช่วยลูกที
ต่อแต่นี้ให้มีสุขสำเร็จหวัง
 ๖กุมภาพันธ์๒๕๔๗
มาฆะบูชาครานี้วันที่ห้า
พุทธบูชากำหนดมาอย่าสงสัย
สวดมนต์เช้าเข้านอนค่ำดื่มด่ำใจ
เกิดเป็นไทยใจเราพุทธหยุดทำชั่ว
 ๘มีนาคม๒๕๔๗

- คำสารภาพ -

สาว พฤษภ


กับเรื่องราวของความรัก
หัวใจฉันมันโกหกไม่ได้
รู้สึกกับเธออย่างไรก็พูดออกไป
แม้คำตอบที่ได้จะปวดใจก็ยอม

ก็...หัวใจ

ฅนกาหลง

รัตติกาลมืดมิดสนิทเงียบ
ดั่งเทียบสายลมไม่พรอดหวน
ฤา   เปรียบจิตใจที่แปรปรวน
ให้รัญจวนแปรพัดสบัดไป
สายลม  ความมืดสร้างบรรยากาศ
แล้วก็อาจสั่งใจให้คิดไหล
แต่ความคิดมิอาจสั่งหัวใจ
สร้างบรรยากาศเพียงใด   ก็หัวใจไม่คิดตาม

HAPPY BIRTHDAY TO ^J^ กฤษณะ

ราชิกา

กฤษณะนามหนึ่งนั้น      คือใคร
สัมผัสด้วยดวงใจ         เจิดจ้า
คุณธรรมเลิศวิไล         เกียรติก้อง
คือศรัทธาเหยี่ยวกล้า    ปราชญ์แก้วกาลสมัย....ฯ
โอ้เหยี่ยวกล้า  ถลาลม  ชื่นชมนัก
ประสบพักตร์  ประจักษ์ใจ  ให้หรรษา
ทั้งอ่อนโยน  แข็งแกร่ง  มีเมตตา
เชิงปรัชญา  ซึ้งคุณค่า  คำวาที
ลิขิตกลอน  ที่ฝากไว้  ในโพเอ็ม
ช่วยเติมเต็ม  จรรโลงใจ  ให้สุขศรี
พร้อมสอดแทรก  แนวความคิด  จิตรไมตรี
ให้น้องพี่  ด้วยศรัทธา  น่านิยม
วอนทวยเทพ  เทวา  มาปกปัก
ร่วมพิทักษ์  รักษากาย  ให้สุขสม
ทั้งจิตใจ  ใสสว่าง  พร่างภิรมย์
พร้อมประพรม  น้ำมนต์ขลัง  พลังพร
อาราธนา  คุณพระศรี  รัตนตรัย
อวยพรชัย  ให้มีสุข  สโมสร
ทั้งชื่อเสียง  ลาภยศ  เกียรติขจร
นิรันดร  ด้วยสินทรัพย์  นับอนันต์
วันเกิดนี้  ขอให้มี  แต่ความสุข
นิราศทุกข์  ให้ห่างไกล  ใจฝากฝัน
เพื่อนนักกลอน  ต่างพร้อมใจ  มาร่วมกัน
เพื่อสุขสันต์  วันเกิดพี่  ที่นี่เอย.....ฯ

ฟ้า..เคียงดิน..!

สาวบ้านนา


ตะวันสีส้มอมแดงแปร๊ดดวงโตเท่ากระด้งฝัดข้าว
กำลังค่อยๆผลิโผล่แย้มยิ้มพริ้มเพรา
นวลนภาสีหวานระเรื่อๆละมุนๆอุ่นละไม
ด้วย..
สายแสงเรืองรองผ่องพรายพราว
ดั่ง..
เรียวรุ้งจากอ้อมอกอุ่นอรุณรัศมี
ออกมาทายทักดงตาลแลนาทอง
ทั่วทั้งผองพสุธาไท
ในวันมหามิ่งมงคลนี้
วันปิติงามวันปิติใจวันแสนยิ่งใหญ่
วันหลอมรวมขวัญกำลังใจพลังศรัทธาใจ
ของคนไทยทั้งแผ่นดิน
ทุกถิ่นที่ทุกธุลีหล้า 
ให้ทุกข้าพระบาท
ได้น้อมรำลึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
อันหาที่สุดมิได้
และ...
ได้ถวายความจงรักภักดี
ด้วยการสร้างสานสมานฉันท์กุศลสามัคคี
ทำความดี ความงาม ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
*พระพ่อหลวงแห่งชาติ*
ธ.ผู้ประดุจเทพยุรยาตรลงมาดับแล้งไร้ร้อนเข็ญ
วันที่..
สาวนาตื่นมาแต่ย่ำรุ่ง
ด้วยเสียงปลุกของดุเหว่าไพร
พร้อม..
กับเสียงไก่ขันเทือน
กับเดือนดวงหวานแอร่ม
กับ
ดาวนับแสน ล้านดวง 
ที่ยังมิยอมลาล่วง
พร้อมพลี....
โปรยปรายสายเพชรกระพริบพราว
เพื่อ..
ถวายพระพรชัยมงคล
ในท่ามสายลมหนาวแลหมอกนวล  
อวลโอบมาด้วย
กรุ่นกลิ่นแก้ว
จำปีจำปา มะลิซ้อน มะลิลา
พุดซ้อน พุดลาภา กุหลาบป่ากอใหญ่
บริสุทธิ์ใสด้วยหยาดละอละอองน้ำค้าง
ที่กำลังพร่างพรมกลางกลีบอ่อนหวานของ
บัวต

ในวันนี้ทำอะไรลงไปบ้าง

พี่ดอกแก้ว

ความไม่รู้มากมายในชีวิต 
ทำให้จิตสับสนและค้นหา 
ใครกันหรือคือผู้สร้างชีวา 
คำตอบนั้นเขาบอกว่าชื่อพระพรหม 
ความไม่รู้ทู่ซี้รี่ถามต่อ 
ใครกันหนอสร้างสุขและขื่นขม 
ใครกันเล่าที่สร้างองค์พระพรหม 
ใครกันหรือคือปฐมแห่งชีวี 
ตามหาเหตุเลศนัยอย่างไกลโพ้น 
เที่ยวตะโกนหาคำตอบทุกถิ่นที่ 
อยากจะรู้เรื่องแสนล้านกัปป์ปี 
ทุกนาทีปัจจุบันนั้นเสียไป 
บ้างโทษพรหมชั้นฟ้าว่าสร้างเรื่อง 
ลิขิตตามต่อเนื่องชีวิตให้ 
ดีและชั่วเพราะพระพรหมสาสมใจ 
น้อยนักที่มีใครย้อนดูตน 
ทำความดีย่อมได้ดีที่ตนแน่ 
ทำชั่วตนย่อมแย่ตามเหตุผล 
ไม่ได้เกี่ยวกับพระพรหมเลยสักคน 
อยู่ที่ตนลิขิตกรรมทำเหตุมา 
ในวันนี้ทำอะไรลงไปบ้าง 
สิ่งที่สร้างความดีหรือบาปหนา 
เพาะพืชใดลงไปในเนื้อนา 
วันหนึ่งผลตามมาสนองเอง

.ที่ เ ค ย รั ก ก่ อ น ม า.

ผู้ชายคนเดิม

..ที่ เ ค ย รั ก ก่ อ น ม า... 
..ตั้งแต่ 3 ทุ่มเมื่อคืน จนถึง ตอนนี้ ...เพิ่งจะมีเวลาว่าง 
อะไร ๆ มันดูวุ่นวายไปซะหมด .. 
แว๊บบบบบบบบบบ มาพักสมอง ...นิดนึง 
เดี๋ยวคงต้องไปแระะ... 
^__^ 
************************** 
...ในห้องเล็ก-เล็กของฉัน 
บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวนั้น..มีกรอบรูปตั้งอยู่ 
ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน..ฉันมักจะเหลียวดู 
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่า..ทำไม 
..เป็นภาพของใครคนหนึ่ง 
ที่ครั้งนึง..คือคนคุ้นเคยใกล้-ใกล้ 
แต่วันนี้ตัวเขา..กลับอยู่ ณ ที่แสนไกล 
ซึ่งฉันยังคงคิดถึง-ห่วงใย..ตลอดเวลา 
..เขาคงไม่อาจกลับใกล้ 
ฉันเข้าใจ..เหตุผลบางอย่างที่ว่า 
ไม่เคยนึกเสียใจเลยนะ..ที่เคยรักกันก่อนมา 
วัน-เวลาได้ทำให้ฉันรู้ค่า..ความรักดี-ดี 
แม้ปัจจุบัน..สมุดบันทึกจะถูกเปลี่ยน 
และอาจเป็นเพียงเรื่องราวใหม่-ใหม่..ที่ถูกฉันเขียนตอนนี้ 
ทุกตัวอักษร..แม้จะไม่ใช่เรื่องราวถึงเค้าคนดี 
แต่ทุกครั้งที่ได้นั่งเขียนบันทึกแบบนี้.... 
....ความทรงจำดี-ดีเก่าก่อน..ก็มักจะย้อนคืนมา. 
********************************* 
..แหะ ๆ ๆ ...... 
มานั่งเขียนลอนอยู่พักนึงแล้ว ... ได้ทำอะไรที่ใจรัก 
..รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย 
คิดถึงทุกคนค

แม่

กุ้งหนามแดง

..
ตั้งแต่เด็กเล็กไล่ไม่เดียงสา
มีมารดาใกล้ชิดสนิทสนม
ลูกร้องจ้าว้าวุ่นอุ่นชงนม
ป้อนจนกลมกล้วยบดหมดหวีเครือ
แม่อาบน้ำพร่ำบ่นปนคำสอน
กล่อมลูกนอนกับแคร่ดั่งแม่เสือ
ระแวดวังทุกข์ภัยมิให้เจือ
ไม่เคยเบื่อแม้ดึกปรึกษาความ
หนังสือไทยไวยากรณ์แม่สอนสั่ง
แม่มานั่งหลังยอบตอบคำถาม
กออะกะกออากาลูกว่าตาม
หนึ่งสองสามทรามวัยได้สูตรคูณ
ยามมีไข้ไม่สบายหลายเพลา
แม่รักษาจนหายมลายสูญ
เฝ้าดูแลรักล้นจนเพิ่มพูน
จิตจำรูญเกินกว่าค่าผูกพัน
ขอให้แม่รับทราบกราบด้วยรัก
มาลัยถักจักร้อยสร้อยสวรรค์
แทนพระคุณหนุนคำล้ำกตัญ-
ญุตาพลันกลั่นทั่วจากหัวใจ
ในวันนี้เห็นแม่เริ่มแก่เฒ่า
ลูกจึงเข้าปรนนิบัติพัดวีให้
หมั่นดูแลตามกาลผสานใจ
แม่อวยชัยให้พรบังอรรับ
เป็นกุศลผลบุญจะหนุนส่ง
ดีให้ตรงคงไว้ให้สดับ
ทำอย่างไรได้อย่างนั้นท่านกำชับ
กงกรรมกับกงเกวียนมิเปลี่ยนเลย
จดจำคำจำนรรจ์ต้องผันผาย
เก็บอุบายแม่คิดจิตเฉลย
เย็นน้ำใจชนนีที่รำเพย
ธรรมมะเผยนำทางเสริมสร้างตน

วันฉัตรมงคล

ไหมแก้วสีฟ้าคราม


                                    
ดิถีมงคลนพปฎลเศวตฉัตร
ฉลองรัชท์กษัตริย์ไทยสมัยที่เก้า
ใต้ร่มฉัตรบาทบงส์ทรงบรรเทา
เยี่ยมเยือนเหล่าชาวไทยไกลกันดาร
พระเมตตาประชาชนทุกหนแห่ง
ถิ่นใดแล้งประทานฝนหล่นทุกย่าน
น้ำพระทัยหลั่งไหลดุจสายธาร
ทรงเจือจานห่วงใยในปวงชน
ห้าพฤษภามหามงคลดลสมัย
เหล่าชาวไทยบังคมคัลกันทุกหน
รำลึกพร้อมน้อมบูชาพระภูมิพล
ทรงพระชนม์ยิ่งยืนนานสราญเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
น.ท.หญิงเนืองนิจ มากบุญ
ที่มาภาพ  :   www3.rid.go.th

เพียงหยดน้ำค้าง

เรไร


ไม่เคยเห็นดอกไม้...........ผลิบาน
ตั้งแต่เมื่อวันวาน.............เจ็บช้ำ
สีสันจะแสนหวาน.............สวยสด
เห็นแต่ความหมองคล้ำ.....หมดสิ้นความงาม
ชีวิตจึงเหี่ยวแห้ง..............โรยรา
รันทดโศกโศกา...............หม่นเศร้า
ความฝันที่โหยหา..............ลาจาก
สุขพรากทุกข์รุมเร้า...........ปวดร้าวทรมาน
ความหวังพังหมดแล้ว........ปัจจุบัน
เหมือนดั่งสรวงสวรรค........กลั่นแกล้ง
ขีดลิขิตจาบัลย์....................มาสู่
หดหู่เพราะสุดแล้ง..............ขาดน้ำทิพย์ชโลม
ปลอบประโลมชีพด้วย.........ความหวัง
ช่วยเก็บซากผุพัง...............กอบสร้าง
ใส่เสริมเพิ่งพลัง.................ดวงจิต
แค่หยาดหยดน้ำค้าง...........รดให้ก็พอ
รอถึงพรุ่งนี้ก่อน..................คงมี
ความเมตตาปราณี..............จากฟ้า
น้ำค้างดั่งนที.......................ชุ่มฉ่ำ
มาหล่อเลี้ยงจิตล้า................ช่วยฟื้นคืนฝัน
จะได้มองดอกไม้.................แย้มบาน
เห็นซึ่งสีแสนหวาน..............สักครั้ง
ลวดลายเด่นตระการ...........ชมชื่น
เริงรื่นลืมพลาดพลั้ง.............เริ่มต้นอีกครา

** ขอให้คิด..อีก สักหน **

กอกก


.            ...อย่าได้คิด...        โดย..ketana
สิ่งที่หวังตั้งใจ ไม่แน่นอน
บทเรียนสอนฝังจำ ความขื่นขม
ยังติดตรึงรักร้าว คราวระทม
เพียงแค่ข่มเอาไว้ ในอุรา
อยากจะเปิดหัวใจ ใหม่อีกหน
ยังเวียนวนกับพลั้งพลาด หวาดผวา
เคยร่ำไห้ทั้งคืน กลืนน้ำตา
จนทิวารุ่งราง สว่างเยือน
อยู่อย่างนี้อยู่ไป อย่างใจเหงา
พอบรรเทาคลายทุกข์ สุขกับเพื่อน
แค่คิดถึงวันเก่า คอยเฝ้าเตือน
มิลืมเลือนแม้ผ่าน นานเป็นปี
เก็บหัวใจกับตัวไม่มัวหมอง
มิหมายปองให้ใคร หทัยนี้
ถึงจะต้องระกำ ช้ำชีวี
ดวงฤดียับเยิน เกินรักใคร
              
            ***********
     
    
.       ....ขอให้คิดอีกสักหน....     โดย..กอกก
ซ่อนความตรมขมขื่น  ฝืนเอาไว้
อยู่ในใจ หลอกหลอน  ตอนเพ้อถึง
รัก  ร้าว  ร้าง  นึก  คิด  ยังติดตรึง
เศร้า  โศก  ซึ้ง  ข่มไว้  ในอุรา
ความพลาดพลั้งรั้งหทัย  ให้หวาดหวั่น
จึงปิดกั้นใจสวาท  ขลาดผวา
หลับตานอน ย้อนฝืน  คืนระอา
มีน้ำตาไหลล้น  จนรุ่งราง
วันนี้โศก เพียงพบ  สงบนิ่ง
แต่ยังดิ่งกับอดีต  ที่ขีดขวาง
แล้วคิดถึงรักเก่า  เศร้ามิจาง
อดีตร้างไม่เลือน  ผ่านเดือนปี
คิดแน่หรือว่าฤทัย  ไม่มัวหมอง
น่าตรึกตรองหมายใหม่  ให้สุขี

..เดียวดายในความเหงา..........

พิมญดา


หากวันนี้ไม่มีใครเดินเคียงข้าง
คงต้องเดินอ้างว้างดังเก่าก่อน
ไม่มีเธอไม่มีใครให้อาทร
ก็ขอยอมเดียวดายพ่ายรักเธอ
ให้เจ็บปวดทรมานมากเท่าใด
จะไม่ยอมเผยความในใจเสนอ
เก็บเอาไว้หลบให้ไกลคนใจเบลอ
ไม่ขอเจอรักเรรวนกวนใจตรม
ฟ้าวันนี้ยังคงอยู่มองดูฉัน
ดูทุกวันว่าฉันสุขหรือขื่นขม
คอยรับฟังคำระบายใจระทม
รักฉันล่มฟ้าไม่บ่นทนรับฟัง
หากวันนี้ต้องเดินทางของคนเหงา
ทางข้างหน้าจะว่างเปล่าทิ้งความหลัง
ถึงเหน็บหนาวหรือเร่าร้อนในภวังค์
จะขอฝังความเจ็บเก็บใจคืน
หากต้องเดินเดียวดายในความคิด
ไม่ว่าถูกหรือผิดไม่คิดฝืน
เสียน้ำตาเท่าไหร่ทนกล้ำกลืน
เสียงสะอื้น..ว่าฉันเจ็บ.เก็บทรวงใน 

ยาวิเศษ

ผู้หญิงไร้เงา

ไม่สบาย  นิดหน่อย  ไม่บ่อยนัก
อย่ากังวล  เลยที่รัก  กะตัวฉัน
แค่นิดหน่อย  เท่านั้นเอง  ในทุกวัน
กับอาการ หนาวสั่น  ที่ฉันเป็น
รับประกัน  อีกไม่นาน  ฉันก็หาย
วิ่งและเล่น ได้สบาย อย่างที่เห็น
เพียงแต่ว่า  ตอนนี้  ที่ฉันเป็น
มีอาการ  ให้เห็น  เช่นว่าไอ
ซึ่งไม่มาก  นักหรอก  บอกให้รู้
แต่สิ่งหนึ่ง  ที่เป็นอยู่  รู้บ้างไหม
ไม่เคยชอบ เลยสักนิด ในจิตใจ
ยาแก้ไอ  ยาแก้ไข้  ไม่ชอบทาน
เพราะมันเหมือน  เป็นดั่ง  เช่นยาพิษ
ไม่เคยเทียบ  ได้สักนิด  ขนมหวาน
แล้วบังคับ  ฉันทำไม  ให้ฉันทาน
ไม่เอานะ  ขอบอกผ่าน  ไม่ทานยา
เจ็บแค่ไหน  รู้ไหม  ฉันหายได้
หากเธออยู่  ข้างกาย    ให้ห่วงหา
เหมือนดั่งว่า  เธอนั้น เปรียบเป็นยา
ที่วิเศษ  ยิ่งกว่า  ยาใดใด

เปลี่ยน

ไอดิน...กลิ่นฝุ่น

ไม่อ่อนหวานไม่เคยเอาใจ
เปลี่ยนไม่ไหวกุลสตรีแบบนั้น
แลกกันได้ไหมเปลี่ยนเป็นรักเธอทุกวัน
อาการอ่อนหวานสำหรับฉันมันฝืนใจ
............................................................
ฉันเปลี่ยนไม่ได้หรอกคนดี
เหมือนหัวใจดวงนี้ที่ไม่เปลี่ยนไปรักคนไหน
มีแต่เธอกลิ่นของความรักมันโอบล้อมใจ
เปลี่ยนตัวเองไม่ได้
ความรักที่ให้เอไปก็ไม่เปลี่ยนเหมือนกัน

ขายพวงมาลัย

ใบคา

พวงมาลัย  ไหมค่ะ  สามพวงสิบ
เด็กน้อยหยิบ  มาลัย  ให้ออกดู
กลางแดดร้อน  ตอนกลางวัน  เด็กเดินชู
ซื้อของหนู  ซื้อที  อยากมีเงิน
มือสิบนิ้ว  หิ้วมาลัย  เหงื่อแตกซ่าน
เพื่อข้าวสาร  เย็นนี้  ที่เผชิญ
เพื่ออยู่รอด  ปลอดภัย  จำออกเดิน
ถึงจะเกิน  กำลัง  ยังอดทน
อย่ารังเกียจ  หนูเลย  อย่าเบี่ยงบ่าย
หนูมาขาย  มาลัย  ใช่มาปล้น
หนูมาขาย  มาลัย  เพราะหนูจน
ไม่อาดทน  ความหิว  แทบขาดใจ
ขายมาลัย  ดีดี  อยู่อย่างหนู
ก็อยากรู้  ทำไม  ต้องมาไล่
หนูผิดหรือ  ทำไม  ต้องจับไป
แล้วจะให้  ทำอะไร  หรือขายตัว

ระบายกับพระจันทร์

ตุ่นตู๊น

มองดูพระ+จันทร์เปล่ง+ประกายแสง
ก็ตะแคง-มองดู-ไม่ไปหนาย
หลายคืนที่/ชั้นนั้น/ยังเดียวดาย
ก็ระบาย~ด้วยการที่~มองพระจันทร์

= คำรัก .. คำลวง =

sweety


   ถ้อยคำล้ำหวานชื่น .. ระรื่นจิต
ชวนให้พิตเพ่งหา พาใจไหว
ถ้อยคำหวานหว่านล้อม ตะล่อมใจ
ชวนให้ใคร ปล่อยใจ ไปพะวง
   ถ้อยคำลวงล่อหลอก ให้หลงเชื่อ
อาจเป็นเหยื่อคำร้าย  ชวนให้หลง
เพราะปล่อยใจ เพ้อใฝ่ ไปตรง ตรง
อาจงวยงง คำหลอก ยอกอุรา
   ถ้อยคำรักชักพาใจให้หลงเพ้อ
ลอยละเมอเผลอใกล้  ให้ห่วงหา
รักหวานล้ำ คำคน ค้นวาจา
พลอยนำพา ใจหวั่น สั่นคำคม
   ถ้อยคำใคร ใคร่หวานล้ำ จำในจิต
ชวนให้ใจ เพ่งพิศ สนิทสนม 
จนปล่อยตัว เผลอไปให้ใจตรม
อาจซานซม จมน้ำตา  พาเศร้าใจ
   ถ้อยคำคน ค่อยค้น ค่อยตามติด
ค่อยค่อย คิด ตริตรอง ก่อนเข้าใกล้
ใช้เวลา นำพา ความจริงใจ
อย่าปล่อยตัว ให้เผลอไป เพียงเลือนลาง
   ถ้อยคำใด หากเอ่ยไป โดยไม่คิด
อาจชวนใจ ให้ผิด คิดบาดหมาง
เพราะเอ่ยเอื้อน ทำร้าย ใจบางบาง
ให้เมินหมาง ร้างไร้ ในไมตรี
   ถ้อยคำคน ไม่พ้น เพียงลมปาก
บางครั้งอาจยากนัก หักใจหนี
บางครั้งเอ่ยด้วยจริงใจ และไมตรี
บางคราเอ่ย ด้วยใจที่  มีเลศนัย 
       *.*.*.*.*.*.*.*.*.*.*.*.*.*.*

กลายพันธุ์

โกฏิดารา

๏ ถอดรหัสตัดผ่าหาความลับ 
เกลียวสลับคู่สายเป็นข่ายหมุน 
เล็กเท่าเล็กเล็กกว่าอณูจุล 
คือเครื่องหนุนเผ่าพงศ์ดำรงไว้ 
นับจากจุลชีวันยันมนุษย์ 
ธารวิวัฒน์ฤๅหยุดหลั่งรินไหล 
ค่อยดัดแปรแพร่พันธุ์ต่างกันไป 
ก้าวมาไกลจนกว่าถึงวันนี้ 
รู้รหัสจัดวางสร้างลิขสิทธิ์ 
จดทะเบียนชีวิตกันอึงมี่ 
เปลี่ยนปลูกถ่ายขายเครื่องในไร้โรคี 
ดุจอมตะชีวีมีเงินทุน 
เยื่อแก้วตามาจากทารกน้อย 
ไขกระดูกปลูกคอยค่อยเปลี่ยนรุ่น 
ตับหัวใจใส่สุกรถอนมาตุน 
สลับหมุนวุ่นวายหลากสายพันธุ์๚ 
๏ ดังมนุษย์ฉุดขจัดมัจจุราช 
วิทยาศาสตร์ดัดแปลงแต่งสวรรค์ 
ก้าวข้ามเขตพระประสงค์องค์เทวัญ 
ผสมเดชดื้อรั้นแห่งปัญญา 
ยืนอายุทะลุสองศตวรรษ 
เบ่งกำหนัดกำเนิดละเมิดกล้า 
อยู่อัดแอแท้คนล้นโลกา 
จึงเข่นฆ่าลุกไหม้ไฟสงคราม 
ยิงอาวุธทำลายสายรหัส 
เชื้อไวรัสตัดแต่งแหล่งหวงห้าม 
จากอณูหนึ่งน้อยค่อยลุกลาม 
กลายพันธุ์ข้ามสู่สิ่งไรไม่รู้แล้ว!

รักของดอกหญ้า...(มีค่าเพียงดิน)

ตะแหง่ว

     อากาศแสนสดใสในตอนเช้า
     ดินคลอเคล้าดอกหญ้าพาสุขสันต์
     ต่างเย้าหยอกหลอกล้อเล่นเช่นทุกวัน
     สายลมเย็นแวะมาพัดก่อนผ่านไป
     แจกันเมียงมองมาทางหน้าต่าง
     เห็นดอกหญ้าน่ารักช่างสดใส
     ถ้าเราได้ดอกหญ้ามาแนบกาย
     คงจะเปลี่ยนรสชาติไปดีไม่เบา
     จึงร้องบอกออกไป ไฮ้..ดอกหญ้า
     เจ้ามาอยู่กับข้าได้รึปล่าว
     รับรองว่าดังได้ไม่ต้องเดา
     แล้วตัวเจ้าจะพร้อมพรั่งสู่สังคม
     ขอบคุณนะแจกันที่ท่านแนะ
     ตัวข้าแค่ดอกหญ้าหาเหมาะสม
     ไม่อาจไปกับท่านได้ใจตรอมตรม
     คงสิ้นลมถ้าต้องพรากห่างจากดิน
     มันมีดีอะไรนั่นแจกันถาม
     เป็นเพียงดินต้อยต่ำย่ำเหยียบสิ้น
     อ้าว..แจกัน แม้ข้านั้นค่าเพียงดิน
     แต่ไม่เคยดูหมิ่นติฉินใคร
     ท่านแจกันขอให้ท่านไปเถอะนะ
     ดอกหญ้าว่าข้าไม่อาจผันแปรได้
     ข้ารักดินดินรักข้าถ้าเข้าใจ
     นั่นดอกไม้ที่รอรักจากท่านจริง
     แจกันยินคำกล่าวให้เศร้าจิต
     ในใจคิดแค่ดอกหญ้ามาทำหยิ่ง
     แล้วร้องบอกออกไปว่าอย่าหวังอิง
     เมื่อเจ้าทิ้งโอกาสอันงดงาม
 
     หลังแจกันจากไปได้สักครู่
     ดินที่เฝ้าดูอยู่ก็เอ่ยถาม
     ไม่เสียใจ

วสันต์จะสิ้น

ม้าก้านกล้วย

เมื่อฝนโปรยแปลกไป ใจจึงหวั่น
ราววสันต์ส่อพิรุธว่าสุดสิ้น
เคยพิสุทธิ์ทุกพิสัยใจถวิล
ฝนจะรินสั่งฟ้าจะลาแล้ว
ดอกไม้จึงแข่งเบ่งเร่งผลิบาน
แลละลานผืนพนาผกาแก้ว
คลุ้งธุลีเกสรขจรแผ่ว
ผสมแล้วเร่งประดิษฐ์ผลิตพันธุ์
คุ้งวารีฉ่ำชื้นจะคืนลับ
จะทรงซับน้ำเหนือเพื่อกักกั้น
จะนองนิ่งขังไว้ไม่กี่วัน
ก็จะหลั่นลดลงคงจะแล้ง
อณูของละอองหมอกเหมือนบอกลา
ละล่องแล่นเป็นแผ่นหนากว่าจะแห้ง
ใบไม้เขียว เปลี่ยนขจีเป็นสีแดง
ราวกับแปลงคืนฝันเป็นวันเหงา
เพ็ญบนสรวงทรงกลดสลดนัก
น้ำค้างหนาวพราวหนักสลักเศร้า
สงัดหริ่งเรไรในลำเนา
ไพรเสลาแลสลายคลายเผชิญ
ฤาวสันต์จะจากจะพรากไป
ฤาไสวจะจางจะห่างเหิน
ฤาถึงยามเหมันต์หวั่นเหลือเกิน
ชิงอันเชิญพิรุณลาเชิงอาลัย
  (ม้าก้านกล้วย)