25 กันยายน 2553 23:08 น.

มิติกาลตอนบุกแผ่นดินชัยวรมัน ส่วนที่ 17-18

ไบเซ็บ

อีกหนึ่งสิ่ง คือเสื้อ ใช้ล่องหน	
กำบังตน ไม่ให้เห็น ให้ตัวหาย
เมื่อใส่แล้ว ไม่มีใคร ได้เห็นกาย			
แม้ตั้งใจ ไปที่ใด สมฤดี 

เหลืออีกหนึ่ง นั่นคือ นาฬิกา		
บอกเวลา ที่จะกลับ มายานนี้
เมื่อใกล้ถึง เวลา เครื่องจำดี			
ให้เสียงตี รีบกลับ อย่างเร็วรี่

ท่านจงนำ สามสิ่งนี้ ติดไปด้วย		
จะได้ช่วย อำนวยให้ เมื่อยามหนี
แต่ขอจง อย่าใช้ ไปต่อยตี				
ใช้เมื่อมี ภัยร้าย ไม่มาดี

ทันใดนั้น ประตูยาน ก็เปิดอ้า		
แสงเจิดจ้า สาดเข้ามา ต้องเมินหนี 
จริงหรือนี่ เรามาถึง ซึ่งบุรี			
เป็นเมืองที่ อยู่ใน อดีตกาล

ทั้งสองรีบ หยิบของ มาเก็บไว้	
อาจต้องใช้ เพื่อป้องกัน ยามขับคัน
แล้วเพ่งมอง ออกไป ข้างนอกยาน			
เพียงพบพาน โดยรอบ ขอบอรัญ

พลางก้าวเดิน จากยาน มาภายนอก	
เห็นมีหมอก บางๆ ดูเงียบสันต์
ทั้งสองมอง ซ้ายขวา ยืนข้างกัน			
ประตูพลัน เลื่อนปิด สนิทลง

หันกลับมอง ดูยาน เห็นฉงน		
ก็ได้ยล เป็นเนินดิน ทำให้หลง
ไม่มีใคร ดูได้รู้ เหมือนเป็นพง			
ดูแล้วงง นี่มัน อะไรกัน

เราจะหา รีก้า ได้ที่ไหน		
คงต้องไป ค้นหาดู อย่าได้พรั่น
หากเมื่อถึง เวลา ที่ต้องการ		 	
ไม่พบพาน ต้องรีบกลับ มาที่นี้

พลางเห็นแสง แวววับ เหนือยอดไม้	
แทนร้องขึ้น มีอะไร อยู่ที่นี่
รีบเดินไป มองดู แล้วรีบชี้			
จริงหรือนี่ ปราสาท พนมรุ้ง

เป็นประสาท ฉาบยอด ด้วยทองคำ	
พวกเขานำ มาบรรจุ ด้วยเครื่องสูง
ช่วงนี้คง เป็นช่วง ยามแรกรุ่ง			
เขาจึงมุ่ง สร้างประสาท ให้งดงาม

แต่ทำไม ไม่มีคน อยู่ตรงนี้		
เพราะตามที่ ประวัติศาสตร์ มีล้นหลาม
ผู้ทำบุญ รวมทั้ง ผู้ติดตาม			
ทั้งเหล่าคน ผู้เป็นยาม คอยดูแล

อีกทั้งมี นักบุญ ผู้คอยช่วย		
คอยอำนวย ผู้คน คอยช่วยแก้
เฟรดดี้บอก มีคนที่จวนแจ		
ดูเชือนแช เดินเข้ามา ใกล้กับเรา

แทนรีบวิ่ง เข้าไป แล้วถามว่า		
พี่ชายจ๋า ข้านี้ ช่างโง่เขลา
ทำไมจึง ไม่เห็นคน แม้แต่เงา	
มีแต่เรา โปรดแจ้ง ให้รู้ความ

ชายหนุ่มจึง รีบตอบ บอกขึ้นว่า	
จงอย่าช้า รีบหนี อย่าได้ถาม
เพราะจะมี กองทัพ ของพวกจาม	
ที่ติดตาม โจมตี เมืองของเรา

พวกมันรบ โจมตี ตาเมียงแตก	
แม้หญ้าแพรก แหลกลาญ ถูกผลาญเผา
มันกำลัง บุกเข้ามา โจมตีเรา		
จงรีบหนี รีบเข้า วิมายปุระ

ทั้งสองรีบ วิ่งหนี ไปทางที่	
ชายหนุ่มชี้ บอกทาง ไม่ลดละ
เห็นผู้คน หนีภัย ได้พบปะ		
แม้หนทาง ขรุขระ ก็ไม่ท้อ				
20 กันยายน 2553 20:24 น.

มิติกาลตอนบุกแผ่นดินชัยวรมัน ส่วนที่ 15-16

ไบเซ็บ

แทนก้าวเดิน มานั่ง ที่หน้าเครื่อง		
ไม่รู้เรื่อง นี่มัน อะไรหวา
เฟรดดี้เดิน มานั่งข้าง พิจารณา		
มองไปมา กรอกตา แล้วตรองดู

พลางชี้นิ้ว ไปที่เครื่อง แล้วร้องว่า		
ตรงนี้น่า จะเป็น ที่หาอยู่
มีปุ่มกด เวลา ที่อยากรู้				
คงต้องลอง กดดู คงรู้ดี

แล้วตั้งวัน เวลา ตามที่หมาย		
ปีที่ไป พันแปดร้อย ยี่สิบสี่
กดวันที่ สิบสาม เดือนห้านี้			
แล้วตรวจดู อีกที ให้มั่นใจ

เฟรดดี้ชวน แทนขึ้นนั่ง คาดเข็มขัด	
จงเร่งรัด เดินทาง อย่าสงสัย
เราจะเร่ง ออกเดินทาง ไปที่ไกล			
พลางเอื้อมไป กดปุ่ม ในทันที

เสียงเครื่องร้อง ครวญคราง ดังหวีดหวิว	
ทุกๆสิ่ง หมุนปลิว พร้อมแสงสี
ไฟกระพริบ กะปริบกะปรอย ดูไม่ดี		
อะไรนี่ น่าเวียนหัว ต้องหลับตา

เวลาผ่าน ล่วงไป ไม่นานนัก		
เสียงชะงัก ไฟมืดดับ น่ากังขา
แล้วทันใด ไฟสว่าง น่าแสบตา			
เอ๊ะ!เรามา ถึงแล้ว หรืออย่างไร

มีเสียงดัง ออกมา จากในเครื่อง		
ท่านเดินทาง มาถึงเมือง ดั่งใจหมาย
วันสิบสาม เดือนห้า เหมือนตั้งใจ			
ปีนั้นไซร้ พันแปดร้อย ยี่สิบสาม

ทั้งสองร้อง เฮ้ย..เฮ้ย อะไรนี่		
เวลานี้ ไม่ใช่ปี ที่เราถาม
เราจะทำ อย่างไร ให้ได้ยาม			
ที่เราตาม หาคน อดีตกาล

เราเดินทาง มาก่อน ตั้งหนึ่งปี	
ทำอย่างไร กันดี ให้แปรผัน
เร็วตั้งเครื่อง ไปยังปี ที่เขาวาน			
เพื่อพบพาน คนที่หมาย ดังต้องการ

เฟรดดี้ดู ที่เครื่อง ร้องแบตหมด	
ไม่มีทาง กำหนด ปีที่ขาน
ไม่มีทาง กำหนด ให้ตัวยาน			
ให้พบพาน เวลา ตามต้องการ    

ในยานนี้ ไม่มีน้ำ และอาหาร		
คงต้องออก นอกยาน หาอาหาร 
บางทีนั้น เราอาจ ได้พบพาน			
ก่อนเวลา ที่เขาขาน ตามที่หมาย
	
ทั้งสองคน ก้าวลง จากที่นั่ง		
มองไปยัง ทั่วห้อง แล้วสงสัย
กองกระดูก ที่เคยเห็น อยู่ที่ใด		
คงเป็นเพราะ เราย้อนไป ก่อนเขาตาย		

พลางเดินตรง ออกมา อย่างเก้กัง 	
ตรงมายัง ประตู ดูสงสัย
เราจะออก จากที่นี่ ได้อย่างไร		
แล้วทันใด ผนังเลื่อน เปิดออกมา

มีเสียงบอก ตรงนี้ มีสิ่งของ		
เมื่อยามต้อง คับขัน อาจเรียกหา
จำต้องใช้ เมื่อพบ พวกพาลา		
จะนำพา ให้ตัวรอด จากภัยคน

หนึ่งคือปืน โปรตอน ประจำกาย	
ปืนนี้ใช้ ต่อสู้ อย่างได้ผล
มีปุ่มตั้ง ให้ยิง ป้องกันตน			
ให้หวังผล เพียงสลบ ล้มกายา

เมื่อปรับเปลี่ยน ปุ่มกด ให้บิดหัน	
แล้วผลักดัน คันโยก ไปทางขวา
ก็จะเพิ่ม พลัง ยิงออกมา			
ถูกกายา ส่วนไหน ก็ถึงตาย				
11 กันยายน 2553 20:00 น.

มิติกาลตอนบุกแผ่นดินชัยวรมัน ส่วนที่ 13-14

ไบเซ็บ

เรา..เข้า..มา ในปี อัน..โศก..ศัลย์		
ปี..หนึ่ง..พัน เจ็ดร้อย ยี่..สิบ..หมอง
เป็น..ปี..ที่ พวกจาม เข้า..ครอบ..ครอง		
ย..โส..ธร ปุระผอง ทั้ง..แผ่น..ดิน

อีก..สี่..ปี ต่อมา เรา..ต้อง..หนี		
ด้วย..เพราะ..มี ผู้จะเอา ชี..วิต..สิ้น
ถึง..หนี..ได้ แต่ก็แทบ สิ้น..ชี..วิน			
เลือด..ไหล..ริน จากบาดแผล ต..ลอด..เวลา

เรา..คง..ตาย เพราะมิอาจ จะ.หยุด..เลือด	
หน้า..ซีด..เผือด หมดแรง ยาก..รัก..ษา
จึง..จำ..ต้อง บันทึก เมื่อ..เว..ลา			
มี..ผู้..มา เข้าในยาน โปรด..รู้..ไว้

หาก..มี..ใคร เข้ามา ใน..ยาน..นี้		
จะ..ไม่..มี ที่จะออก ข้าง..นอก..ได้
จะ..ต้อง..กลับ ไปช่วยเรา ไม่..ให้..ตาย		
มิ..ให้..หาย ไปใน อ..ดีต..กาล

ถ้า..ไม่..ไป ช่วยเรา ใน..อ..ดีต		
คง..ต้อง..ติด จนตาย น่า..สง..สาร
เพราะ..ประ..ตู มิอาจเปิด ดั่ง..ต้อง..การ		
ต้อง..ร้อง..ขาน ด้วยเสียงเรา เพียง..เท่า..นั้น

แต่..โปรด..จำ วันที่เรา สิ้น..ชี..วิต		
โปรด..จง..คิด อย่าได้ ใจ..แปร..ผัน
เป็น..วัน..ที่ สิบสาม เดือน..ห้า..นั้น		
ปี..หนึ่ง..พัน เจ็ดร้อย ยี่..สิบ..สี่

ท่าน..จง..ตั้ง เวลา ให้..ย้อน..กลับ		
ก่อน..ที่..เรา ชีพดับ อย่า..ได้..หนี
เพราะ..มิ..อาจ จะออกไป อย่า..รอ..รี		
โปรด..เร่ง..รี่ รีบไป ช่วย..เรา..ที

แล้วภาพนั้น ก็ดับ มืดสนิท		
แทนยืนคิด โอ้อะไร จริงหรือนี่
เราต้องกลับ ย้อนไป ช่วยชีวี			
มิรู้มี โอกาสกลับ ได้อย่างไร

แล้วก็คิด ถึงคนรัก ดั่งชีวา			
มิรู้จะ ตามหา เราที่ไหน
มิรู้จะ ห่วงใย มากเท่าใด				
ดวงฤทัย คงเศร้า แทบจาบัล

ทั้งสองคน ไม่ต้องการ กลับอดีต		
จำต้องคิด หาทาง เลี่ยงอาสัญ
เราต้องคิด หาทางออก โดยเร็ววัน			
มิฉะนั้น พวกเราคง ต้องอดตาย

แต่ในยาน ไม่มี อาหารน้ำ			
ครั้นพอค่ำ ต่างก็ร้อง อย่างกระหาย
ทรุดลงนั่ง หมดแรง มิอาจกราย			
พวกเราคง ต้องตาย สิ้นชีวัน

แทนนั่งลง เผลอหลับ แล้วฝันไป		
ฝันไฉน คล้ายวันวาน ที่เคยฝัน
เห็นตนเอง เป็นนักรบ เข้าโรมรัน			
แล้วฟาดฟัน ศัตรู ให้บัลลัย

แต่พลาดพลั้ง ถูกยิง ด้วยธนู		
ร่างตกสู่ ปฐพี น่าใจหาย
แล้วเห็นภาพ เธอที่รัก ร้องอาลัย			
โอ้..ไฉน สองเรา ต้องจากกัน

แทนสะดุ้ง ตื่นขึ้น แล้วครุ่นคิด		
หรือต้องติด จนตาย น่าสงสาร
แต่ถ้าเรา ไปตาม เจ้าของยาน			
อาจพบพาน ทางรอด อยู่ต่อไป

แล้วร้องบอก ร้องเรียก เพื่อนเฟรดดี้	
เราสองนี้ จำต้องยอม มิสงสัย
ถ้าไม่ยอม คงต้องติด อยู่ข้างใน			
ไม่มีใคร เห็นเรา ตลอดกาล

เฟรดดี้มอง กรอกตา พยักหน้า		
ไอคิดว่า คงต้องไป ดังยูขาน 
ไม่มีทาง หลีกหนี ดั่งต้องการ			
ต้องคงหาญ ย้อนกลับไป ดังพูดจา				
6 กันยายน 2553 14:27 น.

มิติกาลตอนบุกแผ่นดินชัยวรมัน ส่วนที่ 11-12

ไบเซ็บ

เฟรดดี้พลาง ก้มดูพื้น แล้วร้องว่า		
มีหลายอัน อยู่หน้า เนินดินนี้
แทนมองตาม จริงซิ ดูดีดี			
ลูกดอกนี้ มีอยู่ ตั้งหลายอัน

พลางเงยหน้า แล้วร้อง อะไรนี่		
เนินดินนี้ มีรอยแตก แปลกใจฉัน
เป็นรอยแตก เส้นตรง เหมือนขีดกัน		
ความสูงนั้น สองเมตร เห็นชัดเจน

รอยนี้คง ไม่เห็น ในแต่ก่อน		
เพราะดินก้อน บังอยู่ มิให้เห็น
แต่คงเพราะ พายุใหญ่ พัดกระเด็น	
จึงได้เห็น รอยแตก แยกออกมา

แล้วมองดู เข้าไป ในรอยแตก	
มองซอกแซก ข้างใน อะไรหวา
ก็มิอาจ มองเห็น ด้วยสายตา		
น่ากังขา ว่ามัน ช่างชอบกล

พลางหยิบมีด สอดเข้าไป ในรอยแตก	
มีเสียงแปลก ครืนครืน น่าฉงน
เห็นรอยแตก แยกออก ดั่งเวทย์มนต์	
ทั้งสองคน ผงะถอย มิกล้าพอ

แล้วต่างมอง ดูช่อง อ้าออกนั้น		
มิเคยพาน มิเคยพบ แปลกใจหนอ
เฟรดดี้บอก พวกเรา อย่างรั้งรอ		
เข้าไปขอ สำรวจดู ที่ข้างใน

อาจจะเป็น สิ่งแปลก ไม่เคยเห็น		
อาจจะเป็น สิ่งที่ เราพบใหม่
จะทำให้ ชื่อเราสอง ขจรไกล		
เมื่อบอกให้ ใครใครรู้ ที่เผชิญ

ทั้งสองคน ต่างเดิน อย่างช้าๆ		
อย่างกล้าๆ กลัวๆ ดูขัดเขิน
ไม่รู้ว่า ข้างใน ที่ใต้เนิน		
เราจะเดิน ไปพบ อะไรนี่

ทันใดนั้น รอยแยก ก็ปิดงับ		
รีบหันกลับ ใช้มือดัน อย่างเร็วรี่
เร็วช่วยกัน ช่วยแยกมัน โดยทันที	
ไม่รีบหนี น่ากลัว อย่ารีรอ

แต่ไม่อาจ เปิดออกได้ ดังใจหมาย	
โอ้พวกเรา จะตาย กันไหมหนอ
ต่างก็หัน กลับมา ด้วยใจท้อ		
ยืนรีรอ มืดมิด มิเห็นใคร

พลันก็เห็น แสงสว่าง กระจ่างขึ้น	
ทั้งสองยืน มองไป อย่างสงสัย
มองไปเห็น เป็นห้อง ไร้ผู้ใด		
ที่ข้างใน มีเครื่องมือ อยู่มากมาย

จึงเดินพลาง มองไป ภายในห้อง	
เห็นมีกอง โครงกระดูก ผุสลาย
ให้สงสัย เป็นกระดูก ของผู้ใด	
มีเสื้อใส่ ล้วนผุ ตามเวลา

แล้วทันใด มีภาพ ขึ้นกลางห้อง	
เป็นภาพของ ชายหนุ่ม หน้าปริศนา
มีลูกศร ปักไหล่ซ้าย อยู่ติดคา		
นอนใกล้ฝา มีแผล เลือดไหลนอง

ใบหน้าซีด ซบเซา น่าสงสาร		
ค่อยๆคลาน ลุกนั่ง ดูขัดข้อง
มือขวากุม บาดแผล แล้วหยุดมอง		
ดูตรึกตรอง เปล่งวาจา อย่างลำเค็ญ

เรา..นี้..คือ รีก้า ด๊อก..เตอร์..หนุ่ม	
เป็น..ผู้..คุม ยานนี้ เพราะ..อยาก..เห็น
ขอม..โบ..ราณ ในอดีต ให้..ชัด..เจน	
จะ..ได้..เป็น ผู้เชี่ยวชาญ อ..ดีต..ยาม

เรา..มา..จาก อนาคต ผู้..สร้าง..สรร	
ปี..สอง..พัน เจ็ดร้อย ห้า..สิบ..สาม
เดิน..ทาง..ด้วย ยานเวลา หมาย..ติด..ตาม	
มิ..เกรง..ขาม บุกอดีต ดั่ง..ใจ..ปอง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟไบเซ็บ
Lovings  ไบเซ็บ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟไบเซ็บ
Lovings  ไบเซ็บ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟไบเซ็บ
Lovings  ไบเซ็บ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงไบเซ็บ