21 เมษายน 2557 23:56 น.

หาได้มิบอกรักไม่

Prayad

คืนแขไขใคร่ครวญเคยเคลียเคล้า
แสงโสมส่องสุดเศร้าสบเสาสวน
เหม่อมองเมียงแมกไม้มีมากมวล
จิตรัญจวนหวลหอมยามดอมดม
ดุจดื่มด่ำพร่ำพะวงดงดอกรัก
กระหายหนักวักดื่มจนลืมขม
ราวภมรอ่อนโลกลืมโศกตรม
ลิ้มอารมณ์ชมชื่นลืมคืนวัน
เมืองมนุษย์สุดล้ำสร้างคำ “รัก”
จิตประจักษ์จมทุกข์เห็นสุขสันต์
พิษรักรุมสุมทรวงราวบ่วงทัณฑ์
จึ่งเงียบงันงดปากบอกฝากรัก
ดั่งมานพรบเร้าคอยเฝ้าเอ่ย
โลกเฉลยเผยคำจึงช้ำหนัก
เอ่ยเบาๆเราสองคงต้องพัก
เผื่อใครจักแอบฟังเสื่อมขลังคำ
คืนจันทร์นวลยวนเย้าคลายเศร้าสร้อย
จึ่งเรียงร้อยถ้อยถกอกถลำ
“หาได้มิบอกรักไม่”  หึ! ใจดำ
แต่แสร้งทำล่อหลอกแท้บอก “...”
(๙ เมษายน ๒๕๕๗)
21 เมษายน 2557 00:56 น.

เธอและฉัน : You and I

Prayad

เธอและฉันมั่นรักประจักษ์จิต
รักดั่งฤทธิ์ร้อนเร่าไฟเผาผลาญ
หุ่นดินเผารูปเราสองต้องไฟนาน
แล้วทุบแตกแหลกลาญปานธุลี
ผสมน้ำคลุกคลีบดบี้ซ้ำ
แล้วขยำแปะปั้นเสกสรรสี
เป็นรูปเธอและฉันขวัญชีวี
ดินส่วนนี้ของฉันปันในเธอ
ชั่วชีวิตชิดใกล้ผูกใจรัก
ร่วมสมัครหนึ่งแพรพรรณมั่นเสมอ
แม้นมอดม้วยยังหมายสบมาพบเจอ
สองเราเพ้อละเมอเคียงร่วมเตียงเดียว
You and I
Have so much love
That it
Burns like a fire,
In which we bake a lump of clay
Molded into a figure of you
And a figure of me.
Then we take both of them,
And break them into pieces,
And mix the pieces with water,
And mold again a figure of you,
And a figure of me.
I am in your clay.
In life we share a single quilt.
In death we will share one bed.
(Kuan Tao-Sheng, 1262-1319, translated from the Chinese by Kenneth Rexroth and Ling Chung)
20 เมษายน 2557 19:39 น.

แม่ค้าขายไข่

Prayad

สาวแม่ค้าขายไข่วิไลล้ำ
ยังจดจำรูปลักษณ์จนหนักอก
ไม่เห็นหน้าคราใดใจช้ำพก
ดุจดั่งตกเหวรักกระอักตาย
จะซื้อไข่มากินลิ้นกระดาก
จะออกปากถามไถ่ก็ใจหาย
เห็นดวงตาน่ารักก็ชักอาย
แกล้งกรีดกรายเมินพักตร์ไม่ทักเลย
เก็บมาคิดเช้าเย็นเห็นจะบ้า
เหม่อมองฟ้าครวญคร่ำแล้วทำเฉย
นั่งอมยิ้มคนเดียวกี่เที่ยวเอย
พี่สาวเย้ยตัดพ้อว่าคลอเพลง
จะกินไข่ครั้งใดใจยังนึก
เห็นภาพตึกขายไข่กับใบเข่ง
พร้อมรอยยิ้มคนขายก็หายเซ็ง
จนท้องเต่งเต็มที่ทุกทีกิน
เจ้าของไข่ไม่รู้สู้แอบรัก
ไม่ยอมทักเลยเจ้าเฝ้าถวิล
ลูกค้าไข่ไข้หนักรักยุพิน
เกรงจะสิ้นชีวาตม์ขาดลูกค้า
แกล้งไม่รู้ว่ารักหรือจักรู้
ก็อดสูแก่ใจจะไขว่คว้า
เฝ้าแต่คอยซื้อไข่อยู่ไปมา
จนใบหน้าจะเป็นไข่...เพราะใจรัก
(๑๘ เมษายน ๒๕๓๐)
20 เมษายน 2557 17:44 น.

คนนอกโบสถ์ : Outside the Church

Prayad

โฉมเอยโฉมงามทรามสวาท
คือเทพีปราสาทพระคริสต์เจ้า
ย้อนอดีตโบราณแต่นานเนา
ภวังค์เก่าเข้าฝันกระสันครวญ
เสียงดนตรีไพเราะเสนาะนัก
นางเยื้องยักรำงามตามกระสวน
เหล่านางรำอื่นๆต่างชื่นชวน
คนทั้งมวลเพ่งพิศอย่างติดใจ
นัยว่าเป็นเทวาลงมาโปรด
เพื่อชุบโบสถ์มวลชนพ้นสมัย
อธิษฐานขอพรฟ้อนรำไป
เพื่อบาปไถ่ถ่ายถอนคำสอนจริง
ชาวฝรั่งทั้งผองต่างจ้องจด
เธอร่ายบทล้ำเลิศดูเพริศพริ้ง
ให้นึกรักหนักเศียรจนเวียนวิง
หลงยอดหญิงชาวฝรั่งจะคลั่งตาย
สงบเสียงดนตรีนารีหยุด
ก็สิ้นสุดขอพรฟ้อนถวาย
เหล่าชาวคริสต์ทุกคนบ่นเสียดาย
ต่างแยกย้ายกันกลับลาลับไกล
เหลือชายทาสความรักนั่งพักโบสถ์
นางจงโปรดเมตตาได้ปราศรัย
จะขอมอบรักหอมสู่อ้อมใจ
ขอตามไปเมืองฟ้าโปรดปราณี
(๑๓ มีนาคม ๒๕๓๐)
Outside the church
Perfectly charming, how you look,
Known as the female Servant in the house of Christ.
It’s in the past, but refreshing vividly in trance of my dream.
The tone of music was so sweet;
Whilst she was beautifully dancing.
And all other girl dancers admired her, and the audience was also enthralled. 
It’s a rumour of angel herself, who came down to earth;
For a salvation of the Church’s people.
Dancing was a performing of repentance and being released the sin.
Attractive girl, all westerners watched her;
Skillfully dancing was so wholeheartedly impressed. 
So my whole heart fell in love, my dearest foreigner, I was dying for love.
As the end of the music, she stopped dancing;
So the salvation pray was finished.
All Christian was reluctantly walked away, heading their homes. 
Only one man left outside the Church, who was now a Servant of Love.
“Please kindly come to talk to me!
I would like to present my love to you,
And ready to follow you, heading for the Heaven!”
By P. Pantasri (13th March 1987)
20 เมษายน 2557 15:41 น.

อีสานแดนไกล

Prayad

โอ้ อีสานแดนไกลใจยังรัก
สุดห้ามหักใจคิดลิขิตถึง
ทุ่งท้องนาป่าเขาเฝ้ารำพึง
ครวญคะนึงถึงถิ่นเสียงพิณแคน
คิดถึงครั้งคูนเหลืองเรืองอร่าม
คือความงามคลายทุกข์ให้สุขแสน
กลิ่นพยอมหอมกลั้วไปทั่วแดน
ช่างเหมือนแม้นมันปาบุปผาไพร
แว่วกังวานหวานล้ำหมอลำเอื้อน
คอยย้ำเตือนผูกพันมิหวั่นไหว
ยามได้ยินเสียงลำร่ำจากใจ
ยิ่งอยากไปเยือนถิ่นถวิลคอย
บุญบั้งไฟปีก่อนคราย้อนคิด
งามวิจิตรทั้งรถดูหยดย้อย
นาคราชพ่นน้ำงามเลิศลอย
กับสาวน้อยยิ้มร่าช่างน่ายล
เสน่ห์ดั่งเมืองแมนคือแดนนี้
ยังมากมีสารพัดมิขัดสน
ซ่อนนิยามนานเนิ่นเกินผู้คน
เพียงผ่านพ้นผิวเผินอาจเมินพักตร์
โอ้...อีสานดินแดนเสียงแคนอ้อน
ยิ่งอาวรณ์ครวญคร่ำระกำหนัก
แว่วขับขานการกลับอาภัพนัก
ไกลถิ่นรักร้างเร่...ว้าเหว่เอย
(๑๐ สิงหาคม ๒๕๓๐)
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟPrayad
Lovings  Prayad เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟPrayad
Lovings  Prayad เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟPrayad
Lovings  Prayad เลิฟ 0 คน
  Prayad
ไม่มีข้อความส่งถึงPrayad