15 มีนาคม 2545 13:26 น.

Over the Rainbow บนสายรุ้ง

นกตะวัน

Over the Rainbow
บนสายรุ้ง

Somewhere over the rainbow
  way up high
Theres a land that
  I heard of once
  in a lullaby

สูงขึ้นไปขึ้นไปในฟากฟ้า
ถูกพาดทาด้วยสายรุ้งพุ่งสาดสี
บนสะพานสายรุ้งเขาว่ามี
ดินแดนที่งดงามอร่ามเรือง

เมื่อยังเด็กเล็กอยู่เคยจำได้		
แม่กล่อมให้ฉันฟังดังเป็นเรื่อง
ในเพลงนั้นเอ่ยดีว่ามีเมือง		
งามลือเลื่องจนอยากไปในทันที

Somewhere over the rainbow
  skies are blue
  and the dream that
  you dare to dream
  really do come true

สูงขึ้นไปบนรุ้งพุ่งพาดฟ้า		
ท้องนภาสดสวยด้วยแสงสี
ฟ้าปนครามอร่ามตาน่ามองดี	
ความฝันที่เคยมีได้เป็นไป

Some day I ll wish up
   on a star
And wake up
Where the clouds are far
  behind me
Where troubles melt like
  lemon drops away
  above the chimney tops
  thats where you ll find me

หากเป็นได้ดั่งใจเคยใฝ่ฝัน		
ขอให้ฉันอยู่บนดาวสักดวงได้
ตื่นขึ้นมาเห็นเมฆาในทันใด		
ลอยเคว้งไปอยู่ไกลสุดตามอง	

อยู่บนนั้นอุปสรรคจักไม่มี		
หมดเร็วรี่มลายคลายหม่นหมอง
น้ำมะนาวระเหยไปในทำนอง		
ลอยละล่องขึ้นไปเหนือปล่องไฟ

Somewhere over the rainbow
  blue birds fly
  birds fly over the rainbow
  why then, oh why can t I?
If happy little blue birds
  fly beyond the rainbow,
  why, oh , why

ณ บนนั้นบนรุ้งพุ่งทาบทา		
นกสีฟ้าพากันผินบินไปไหน
แต่ทำไมตัวฉันไม่เป็นไป		
คงสุขใจถ้าเป็นได้ดั่งนกบิน				
15 มีนาคม 2545 13:12 น.

Always on My Mind อยู่ในใจฉันเสมอ

นกตะวัน

Always on My Mind
อยู่ในใจฉันเสมอ

 Willie Nelson

* Maybe I didnt love you
Quite as often as I could have
And maybe I didnt treat you
Quite as good as I should have

แม้วันนั้นรักเธอน้อยไปหน่อย
รักไม่บ่อยเท่าที่ฉันนั้นทำได้
ถ้าหากฉันให้เธอน้อยเกินไป
แต่ในใจของฉันมั่นต่อเธอ

** If I made you feel second best
Girl, Im sorry I was blind
But you were always on my mind
You were always on my mind  (Repeat*)

แม้วันนั้นเธอรู้สึกว่าเป็นรอง
ฉันคงมองข้ามไปจนไผลเผลอ
ฉันเสียใจไม่ได้อยู่คู่กับเธอ
ฉันคงเผลอปล่อยเธออยู่เดียวดาย

Maybe I didnt hold you
All those lonely, lonely times   
And I guess I never told you
Im so happy that youre mine  (Repeat**)

หากวันนั้นฉันลืมบอกเธอไป
เธอยังอยู่ในใจไม่สลาย
ความสุขที่มีเธอไม่มลาย
ยังไม่ตายอยู่ในใจตลอดมา

Little things I should have said and done
I just never took the time
You were always on my mind
You were always on my mind

เรื่องเล็กน้อยฉันควรพูดและทำ
แต่ไม่พร่ำพูดพลอดอย่าถือสา
ถึงอย่างไรยังรักเธอเสมอมา
ทุกเวลามีแต่เธอเธอคนเดียว

Tell me
Tell me that your sweet love hasnt died
Give me
Give me one more chance to keep you satisfied

บอกฉันหน่อยได้ไหมใคร่อยากรู้
ฉันยังอยู่ในใจอย่างแลเหลียว
หรือถูกทิ้งเปล่าเปลี่ยวอยู่คนเดียว
แม้นิดเดียวไม่มีในใจเธอ

บอกฉันหน่อยคนดีที่รักจ๋า
ตลอดมาเธออยู่ดีมีสุขเสมอ
ฉันคนนี้ยังอยู่ในใจเธอ
ฉันพร่ำเพ้อขอเธอมาคืนดี				
15 มีนาคม 2545 13:12 น.

Yellow Bird นกสีเหลือง

นกตะวัน

Yellow Bird
นกสีเหลือง

Brothers Four								       
* Yellow bird
Up high in banana tree
Yellow bird
You sit all alone like me

แฝงบนต้นกล้วยใหญ่	
เกาะก้านใบนกสีเหลือง
ขนสวยด้วยแดดเรือง	
นกสีเหลืองเกาะโดดเดี่ยว

ทำไมเกลอเหมือนฉัน	
วันทั้งวันอยู่ตัวเดียว
คงเศร้าเหงาเปล่าเปลี่ยว	
นั่งซีดเซียวเหมือนกับฉัน

Did your lady friend
Leave your nest again
That is very sad
Makes me feel so bad
You can fly away in the sky away
You re more lucky than me.

หรือเพื่อนหญิงของเกลอ	
เลิกพร่ำเพ้อทิ้งเกลอกัน
จึงเศร้าเหงาเหมือนฉัน	
แต่เกลอนั้นโชคดีกว่า

เกลอโบกปีกโบยบิน	
ไปทั่วถิ่นแดนนภา
หนีไปได้ไกลตา		
จนสุดหล้าสุดฟ้าไหน

I also had a pretty girl
She s not with me today
They re all the same the pretty girls
Take tenderness, then they fly away. (Repeat * )

ฉันเคยมีเพื่อนหญิง		
เธองามพริ้งกว่าหญิงใด
แต่เธอจากฉันไป		
ไม่เหลือใครในวันนี้

เธอเป็นเช่นหญิงอื่น	
น่าระรื่นชื่นบานดี
หน่ายรักหนีเร็วรี่		
รีบหลบหนีหลีกลี้ไป

Let her fly away
In the sky away
Pick a town and soon
Take from night to noon 
Black and yellow you
Like a banana too
They might pick you someday

ปล่อยเธอบินสู่ฟ้า		
ข้ามนภาหาเมืองใหญ่
ลุ่มหลงแสงสีไป		
ช่างปะไรใช่เธอดี

เกลอนั้นมาดเท่หล่อ	
เหลืองลออมีราศี
สลับดำสวยล้ำดี		
คงจะมีใครสักวัน

เหมือนกล้วยที่สุกงอม	
กลิ่นหวนหอมต้องแย่งกัน
ชิมแล้วดั่งขึ้นสวรรค์	
ไม่แบ่งปันให้ใครลอง		

Wish that I  were a yellow bird
I d fly away with you
But I am not a yellow bird
So here I sit nothing else to do

ถ้าฉันนั้นเป็นนก		
เป็นวิหคเหลืองเรืองรอง
จะบินเคียงประคอง	
สองต่อสองสู่แดนไกล

แต่นี่ฉันเป็นคน		
จึงต้องทนนั่งเศร้าใจ
ไม่รู้เพราะเหตุใด		
สิ่งใดไหนไม่อยากทำ				
15 มีนาคม 2545 12:57 น.

The Traveller นักเดินทาง

นกตะวัน

The Traveller
นักเดินทาง

Eric Woolfson & Alan Parsons

The traveller is always leaving town
He never has the time to turn around
And if the road he s taken isn t leading anywhere
He seems to be completely unaware

เขาเป็นนักเดินทาง
ต้องก้าวย่างออกจากเมือง
เวลาหาใช่เรื่อง
ไม่สิ้นเปลืองทบทวนดู

ถ้าถนนที่มุ่งไป
นั้นมิได้นำไปสู่
เขาคงไม่หยั่งดู
เหมือนไม่รู้เรื่องใดใด

The traveller is always leaving home
The only kind of life he s ever known
When every moment seems to be
A race against the time
Theres always one more mountain left to climb

เขาเป็นนักเดินทาง
ต้องเหินห่างบ้านเรื่อยไป
สิ่งเดียวที่จำได้
จดจำไว้ตลอดมา

ทุกขณะนั้นดูเหมือน
รีบเร่งเคลื่อนแข่งเวลา
เพราะมีภูเขาผา
เหลือต่อมาให้ปีนอยู่

* Days are numbers
 Watch the stars
 We can only see so far
Someday, you ll know where you are 
Remember

วันคืนช่างมากมาย
ดาราพรายเราจ้องดู
แลได้ไกลสุดกู่
จ้องมองดูไปได้ไกล

สักวันคุณจะรู้
ตัวคุณอยู่ ณ ตรงไหน
คุณนั้นอยู่ที่ใด
จดจำไว้ใส่ใจรู้

** Days are numbers
Count the stars
We can only go so far
One day, you ll know where you are
Remember

วันคืนช่างมากมาย
ดาราพรายเรานับอยู่
เราไปได้สุดกู่
ก้าวเดินดูไปได้ไกล

วันหนึ่งคุณจะรู้
ตัวคุณอยู่ ณ ตรงไหน
คุณนั้นอยู่ที่ใด
จดจำไว้ให้จงดี

The traveller awaits the morning tide
He doesn t know what s on the other side
But something deep inside of him
Keeps telling him to go
He hasn t found a reason to say no

นักเดินนั้นต้องรอ
รุ่งเช้าหนอน้ำเต็มปรี่
อีกฟากแห่งนที
เขาไม่มีวันรู้เลย

แต่สิ่งลึกภายใน
บอกเขาไปไม่ให้เฉย
ให้เขาเดินไปเลย
ไม่ต้องเฉยรอผู้ใด

The traveller is only passing through
He cannot understand your point of view
Abandoning reality, unsure of what he ll find
The traveller in me is close behind ( repeat * and ** )

นักเดินนั้นเพียงผ่าน
ไม่อาจอ่านความคิดใคร
ละทิ้งความจริงใด
ไม่แน่ใจสิ่งได้พบ

นักเดินในตัวฉัน
ใกล้ชิดกันอย่างสงบ
เดินทางผ่านพิภพ
จนเจนจบทุกเส้นทาง				
15 มีนาคม 2545 12:57 น.

This is the Time ถึงเวลา

นกตะวัน

This is the Time
ถึงเวลา

Michael Bolton & G. Burr

As the years say good-bye
One by one on silent wings they fly
What will last, what is true
Thats a lesson I learned lovin you
This world will find its way somehow
I ve got all that I need right here
Right now

ฤดูกาลผันผ่านมาอำลาจาก
ปีเก่าพรากจากไปไม่มีหวน
เหล่านกต่างโบยบินแปรขบวน
ไม่เรรวนบินลงใต้ไกลออกไป

สิ่งใดสิ้นสิ่งใดจริงสิ่งรู้อยู่
ฉันได้รู้เพราะรักเธอเพ้อหลงใหล
โลกใบนี้ยังคงมีหนทางไป
ฉันได้ไว้สิ่งอยากได้ในครั้งนี้

This is the time when the cold winds blow
When the snow falls from Heaven
On the dreamers below
Baby this is the time when I need to know
That your love will always be mine
Baby this is the time, baby this is the time

ถึงเวลาลมหนาวมาพาเย็นสั่น
หิมะพลันหล่นจากฟ้าน่าสุขี
ร่วงลงมาประดับประดาธรณี
แด่นักฝันบรรดามีในแดนดิน

ที่รักจ๋าเวลานี้ดียิ่งนัก
อยากประจักษ์รักเธอนี้มิมีสิ้น
อยากรู้ไว้ไม่รักใครในแผ่นดิน
เพราะถวิลรักฉันสิ้นจนหมดใจ

Sometimes life leads you blind
To the one you ve been waiting to find
Sometimes life lets you see
Just how great the gift of love can be
Now the light that fires the brightest stars
Is waiting to shine on this moment of ours

บางเวลาชีวานี้ไม่ดีนัก
เพราะพบรักแต่ไม่รอดตาบอดใส
แต่บางทีชีวิตนี้ดีเกินไป
สิ่งยิ่งใหญ่ไม่เกินไกลได้รักจริง

ขณะนี้เวลาที่แสงสาดส่อง
ลำแสงต้องพรั่งพรูดั่งสู่สิง
จุดกระจ่างดาวดวงใดสุกใสจริง
งดงามยิ่งแสงส่องมาพาสุขใจ

If life is just a dream, I know within my heart
Just getting closer to you
Is by far the sweetest part
So tell me one thing baby
The one thing I need to know

หากชีวีที่ฉันเห็นเป็นเพียงฝัน
หัวใจนั้นฉันรู้ได้ไม่ไปไหน
อยากจะอยู่คู่เธอเผลอชิดใกล้
บอกได้ไหมอยากรู้จริงแค่สิ่งเดียว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนกตะวัน
Lovings  นกตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนกตะวัน
Lovings  นกตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนกตะวัน
Lovings  นกตะวัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนกตะวัน