18 ตุลาคม 2545 12:22 น.

เดินไปตามความฝันของคุณ

ต้ยนุ้ย

บทความเรื่อง เดินไปตามความฝันของคุณ
เล่าถึงเด็กชายอายุ 16 ปี คนหนึ่งชื่อว่า มอนตี้ 
ซึ่งคุณครูสั่งให้เขียนเรียงความเรื่อง โตขึ้นอยากเป็นอะไร 
มอนตี้ก็เขียนบรรยายไป 7  หน้ากระดาษถึง
ความฝันของเขาที่จะเป็นเจ้าของคอกม้า 
พร้อมด้วยบ้านพื้นที่ 4,000 ตารางฟุต บนเนื้อที่ 200 เอเคอร์ 
เขาบรรยายพร้อมกับวาดแผนผังแสดงรายละเอียดไว้ทุก ๆ ส่วน 
แต่เมื่อเขานำไปส่งกลับได้คะแนน  F  และเรียกให้ไปพบหลังเลิกเรียน 
หลังเลิกเรียน มอนตี้ ก็เขาไปพบคุณครู 
และถามว่าทำไมเรียงความของเขาจึงได้   F  ก็ได้รับคำตอบว่า 
สิ่งที่เขาเขียนนั้นมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ 
เพราะมันต้องใช้เงินมากมายเกินกว่าฐานะของครอบครัวของมอนตี้ 
จะสามารถทำได้ แม้ว่ามอนตี้จะชี้แจงให้ฟังว่ามันเป็นแค่ความฝันของเขา 
แต่คุณครูไม่รับฟังและขอให้มอนตี้ไปเขียนเรียงความมาใหม่ 
โดยขอให้เขียนถึงเรื่องที่มันพอจะเป็นไปได้บ้างแล้วจะแก้คะแนนให้ 
มอนตี้ก็กลับบ้านและนำปัญหานี้ไปปรึกษากับพ่อของเขา 
ซึ่งพ่อของเขาก็ให้คำตอบว่า  เรื่องนี้พ่อคงช่วยอะไรลูกไม่ได้ 
มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกเอง 
แต่พ่อมีความรู้สึกบางอย่างว่า การตัดสินใจของลูกครั้งนี้
จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่ออนาคตของลูกอย่างแน่นอน 

.........มอนตี้ ไคร่ครวญกับเรื่องนี้อยู่เป็นสัปดาห์ 
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ 
เขานำเรียงความเรื่องเดิมไปส่งคุณครูพร้อมกับพูดว่า 
ให้คะแนน F กับผมก็แล้วกัน ผมจะรักษาความฝันของผมไว้

...............มอนตี้เล่าเรื่องนี้ให้กับผู้มาเยือนเขาฟังพร้อมกล่าวว่า
ที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้พวกคุณฟังเพราะว่าขณะนี้คุณกำลังนั่งอยู่หน้าเตาพิงในบ้าน 
พื้นที่ 4,000 ตารางฟุต ซึ่งตั้งอยู่กลางคอกม้าเนื้อที่ 200 เอเคอร์ 
และเรียงความ 7 หน้ากระดาษนั้นได้ใส่กรอบเรียงอยู่เหนือเตาพิง
และเขาได้เล่าต่อว่า 
ที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ ในฤดูร้อนเมื่อสองปีที่แล้ว
 คุณครูคนเดิมพาเด็กนักเรียน 30 คนมาพักค้างแรมที่นี่
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจากไปท่านพูดกับผมว่า 
มอนตี้ สมัยครูเป็นครูของเธอ ครูคงเป็น นักขโมยความฝัน 
ครูเสียใจนะที่ครูได้ขโมยความฝันของเด็ก ๆ ไปตั้งมากมาย 
แต่ครูก็ดีใจที่เธอไม่ยอมให้ครูขโมยความฝันของเธอ

* เดินไปตามความฝันของคุณอย่ายอมให้ใครขโมยมันไปได้ *				
3 ตุลาคม 2545 00:58 น.

ส่วนที่สำคัญที่สุดของร่างกาย

ต้ยนุ้ย

แม่ของผมเคยถามผมว่า ส่วนไหนของร่างกายที่สำคัญที่สุด

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมได้ทาย สิ่งที่ผมคิดว่ามันเป็นคำตอบที่ถูก

เมื่อตอนผมยังเป็นเด็กเล็ก

ผมเคยคิดว่าเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเราในฐานะที่เป็นมนุษย์

ดังนั้น ผมจึงบอกว่า แม่ มันคือ หู ผมไง

แต่แม่บอกว่า ไม่ใช่จ้ะ คนจำนวนมาก หูหนวก แต่ก็ยังอยู่ได้

ลูกลองคิดดูไปก่อนนะ แล้วเร็วๆนี้แม่จะถามลูกใหม่

หลายปีผ่านไปก่อนที่แม่จะถามผมเรื่องนี้อีกครั้ง

ตั้งแต่ที่ผมทายผิดครั้งแรกผมก็พยายามครุ่นคิดหาคำตอบที่ถูกต้องตลอดมา

และในตอนนี้ผมบอกกับแม่ว่าแม่ การมองเห็น สำคัญมากสำหรับทุกๆ คน

ดังนั้นมันต้องเป็นตาของเราแน่เลย ที่สำคัญที่สุด

แม่มองมาที่ผม และบอกกับผมว่าลูกเรียนรู้ได้เร็วมาก

แต่ว่าคำตอบยังไม่ถูกจ้ะ

เพราะว่า ยังมีคนมากมายที่ตาบอด แต่ก็ยังอยู่ได้

อึ้งไปอีกครั้ง แต่ผมก็ยังคงพยายามค้นคว้า หาความรู้ต่อมาอีกหลายปี

และแม่ก็ยังคงถามผมอีก หลายครั้ง และทุกครั้ง

คำตอบของแม่ก็คือไม่ใช่จ้ะ

แต่ลูกก็ฉลาดขึ้นทุกๆ นะจ๊ะ ลูกรัก

จนเมื่อปีที่แล้ว ปู่ของผมตายลง ทุกคนในบ้านเศร้าใจกันมาก

ทุกคนร้องไห้ แม้แต่พ่อของผมก็ร้องด้วย

ผมจำได้ดีเพราะว่า มันเป็นเพียงครั้งที่สอง ที่ผมเห็นพ่อร้องไห้

แม่มองมาที่ผม ตอนที่เรากล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายต่อคุณปู่

แล้วแม่ก็ถามผมว่า ลูกรู้หรือยังส่วนไหนของร่างกายเราสำคัญที่สุดลูกรัก ?

ผมรู้สึกงุนงง ที่แม่ถามผมตอนนี้

ผมคิดตลอดมาว่าคำถามนี้เป็นเกมส์ระหว่าผมกับแม่

แม่มองเห็นสีหน้ามึนของของผม และก็บอกว่าคำถามนี้สำคัญมากลูก

มันแสดงให้เห็นความจริง ในชีวิตของเรา

สำหรับอวัยวะต่างๆที่ลูกเคยบอกกับแม่ว่าสำคัญ ในอดีตที่ผ่านมา

และแม่ได้บอกกับลูกว่า มันผิดมาตลอด

พร้อมกันนั้นแม่ก็ได้ยกตัวอย่างให้ลูกฟังว่าทำไมมันถึงผิด

แต่ว่าวันนี้ เป็นวันที่ลูกจะได้เรียนบทเรียนที่สำคัญที่สุด

แม่ ก้มลงมองมาที่ผม ด้วยความรู้สึกลึกซึ้งอย่างที่แม่คนนึงจะทำได้

ผมเห็นตาแม่เอ่อด้วยน้ำตาและแม่ก็พูดว่าลูกรัก

ส่วนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกก็คือ บ่าจ้ะ

ผมถามแม่ว่าเป็นเพราะว่ามันคอยรองรับหัวของเ ราไว้ ใช่มั้ยครับ?

แม่ตอบว่า ไม่ใช่จ้ะแต่เป็นเพราะว่ามันสามารถรองรับศรีษะของเพื่อนของเรา

หรือคนที่เรารัก เมื่อยามที่เค้าร้องไห้

คนเราทุกคนต้องการบ่าใครซักคนไว้คอยซบยามร้องให้ในบางช่วงเวลาของชีวิต

ลูกรักแม่เพียงแต่หวังว่า ลูกจะมี

เพื่อนและคนรักที่จะมีบ่าพร้อมที่จะให้ลูกซบตอนร้องไห้

ยามเมื่อลูกต้องการ

=== แล้วคุณล่ะ มีเพื่อน หรือ คนรักคนที่คอยให้คุณซบบ่ายามที่คุณต้องการรึเปล่า 
?? ===

ตรงนั้นเองที่ผมได้รู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดของร่างกายเราคือการไม่เห็นแก่ตัว

และ มันคือความรู้สึกร่วมรับรู้กับความเจ็บปวดของคนอื่น

คนเราอาจจะลืม สิ่งที่คุณพูด.......

คนเราอาจจะลืมสิ่งทีคุณทำ.........

แต่ไม่มีใครลืม สิ่งที่ทำให้เค้า รู้สึกได้......

ต้นฉบับของจม.ฉบับนี้มาจาก ไหนไม่ทราบ

แต่มันจะนำพรประเสริฐมาสู่คนที่เผยแพร่ข้อความนี้ออกไปต่อๆกัน

เพื่อนที่ดีก็เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า....

คุณไม่ได้เห็นมันตลอดเวลาหรอก

แต่คุณรู้ว่า พวกเค้าอยู่ที่ตรงนั้นกับคุณ ตลอดเวลา........				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต้ยนุ้ย
Lovings  ต้ยนุ้ย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต้ยนุ้ย
Lovings  ต้ยนุ้ย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต้ยนุ้ย
Lovings  ต้ยนุ้ย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงต้ยนุ้ย