กลอนคิดถึง

คิด(ไม่)ถึง

แมงกุ๊ดจี่


ปล่อยคิดถึงปลิวไปในอากาศ
ด้วยหมายมาด...นำเสนอแด่เธอนั้น
เพราะว่าคือหนึ่งเดียวอยากเกี่ยวพัน
นับรอวัน...ได้พบประสบเจอ... ปล.ไม่มีอะไรแค่....นั่งทำงานแล้วมันเหงาๆ 

เหน็บหนาว

Prayad


เหมันต์หวนครวญหาคนน่ารัก
ได้รู้จักแล้วจากเพียงฝากฝัน
ลมหนาวโหมโถมมายิ่งจาบัลย์
ความโศกศัลย์ระคนปนหนาวใจ
เก็บเอาความอาภัพไว้คับอก
ถึงเข็นครกขึ้นเขาเรายังไหว
สุดยากเย็นเข็นรักหนักทรวงใน
เข็นเท่าไหร่ไม่พ้นวังวนลวง
เสียดายความรู้สึกที่นึกรัก
เสียดายที่สมัครปักใจหวง
สงสารความจริงแท้ในแดดวง
ที่เซ่นสรวงให้แด่ความแปรปรวน
พบกับความผิดหวังครั้งที่ร้อย
คิดแล้วน้อยใจช้ำสุดกำสรวล
เหมันตกาลผ่านผันยิ่งรัญจวน
ได้แต่ครวญเพลงเศร้าเคล้าสายลม
นี่ก็อีกราตรีที่หนาวเหน็บ
ทนปวดเจ็บอีกคราให้สาสม
เป็นทาสรักปักจิตคิดระทม
ร้าวระบมไร้คู่อดสูใจ
เหมันต์หวนครวญหาสุดว้าวุ่น
ได้พบคุณเพียงฝันยิ่งหวั่นไหว
หนาวลมโชยโหยหาห่วงอาลัย
ป่านนี้ใครเค้าหนอเคลียคลอคุณ
(เหมันตฤดู ๒๕๓๕)

คืนใจ

Siritorn


คืนกลับมา คืนใจ...ใช่คืนก่อน
ใจสะท้อน  ปวดใจ ...ใยกลับคืน
ก้าวแยกทาง ร้างไกล  ...สุดกล้ำกลืน
ใจสะอื้น  ...คืนใจ  ...ใช่คืนรัก

ระบายถึงยายเพิ้ง

ไผ่ลู่ลมม


 
อุษาชื่นตื่นนอนตอนไก่ขัน
รังสิมันต์เเรกเริ่มประเดิมศรี
หยาดน้ำค้างแวววับจับฤดี...
ก่อนจะหนีลงหลบซบผืนดิน
แต่สายใยกลับต่างมิห่างถอย
ยังรอคอยนงนุชสุดถวิล
ถึงแม้เจ็บระรัวหัวใจริน
คงยลยิลรักเผลอเธอส่งมา
จวบสุรีย์ร่วงโหยโรยแสงสูรย์
ทวีคูณใจลอยคอยเพ้อหา
ดั่งฟอนไฟเร้ารุมสุมอุรา
กัลยาน้องหลบซบถิ่นใด
แสงจันทร์เสี้ยวเกี่ยวดาวพราวระยับ
หิ่งห้อยขับวาดแจ้งแถลงไข
มารุตเอื่อยพัดโบกโยกดวงใจ
เจ้ารู้ไหม...คืนนี้พี่รอคอย
กระทิงแดง(ไผ่ลู่ลม)
 
 

๏ เขาคิดถึงฉันไหม ?

อัลมิตรา


 ..๏ เขาคิดถึงฉันไหม ? .. ไม่กล้าคิด
เพราะดวงจิตของเขายากเดาหนา
อาจซาบซึ้งคิดถึงบ้างบางเวลา
หรือสักคราหัวใจเขาไม่เคย
เหมือนลำพังฝังใจในสำนึก
ความรู้สึกซ่อนไว้ไม่กล้าเผย
แต่ละวันฝันคว้างเคว้งอย่างเคย
โอ้อกเอ๋ยทุกข์ทุรนอดทนเอา
คิดถึงเขาข้างเดียวเปลี่ยวใจแท้
ฉันได้แต่แล้งลมสมมุติเขา
แล้วเพ้อพกเพียงรูปหลงจูบเงา
คล้ายคนเขลาโง่งั่งทุ่มทั้งใจ
อยากให้เขาเข้าใจในจิตฉัน
ว่า .. คืนวันผันผ่านเนิ่นนานไหน
ความคิดถึงยังคงส่งตรงไป
แม้นเขาไม่รู้สึกนึกคิดตาม
เขาคิดถึงฉันไหม ?  .. ฉันไม่รู้
วอนท่านผู้เห็นใจช่วยไถ่ถาม
แล้วร่ายถ้อยอักษรสะท้อนความ
ให้ลือนามเป็นสักขีตรงนี้เทอญ ๚ะ๛

ถึงเพื่อน

เฌอมาลย์


คิดถึงเพือนเหมือนกันฉันขอบอก
เคยเย้าหยอกคุยกันในวันเหงา
เคยค่อนแคะ-แขวะ-แซว-ตามแนวเรา
เคยสุข-เศร้า-เมามายมาหลายปี
มาตอนนี้ห่างเหินเกินต่อติด
เพราะชีวิตบนทางต่างวิถี
ต้องดิ้นรนขวนขวายวุ่นวายมี
เพื่อสิ่งดีกว่ากันในวันวาน
อีกเศรษฐกิจฝืดเคืองบ้านเมืองแย่
เป็นตัวแปรเกินใจจะไขขาน
จึงหมดไฟไร้ฝันจะบันดาล
เขียนกลอนกานท์เหมือนเก่าโปรดเข้าใจ
คิดถึงเพื่อนเหมือนก่อนขอย้อนบอก
มิได้นอกใจกันอย่าหวั่นไหว
มิได้ติดเฟซบุ๊คสนุกไลน์
ที่หายไปเพราะว่า..ฉันบ้าเกมส์ 555

คิดถึงเพื่อน

ยาแก้ปวด


กลับมาบ้านกลอนเก่าเคยพิพาท
วาทะวาดสวนกันสนั่นไหว
ไหนจะพี่น้องครูดูมั่นใจ
ละเลงไว้เริงเล่นเป็นกลอนกานท์
ครั้นบ้านใหม่เล่นไม่เหมือนใจฝัน
พี่น้องนั้นลืมปลุกสนุกสนาน
เจอเวปใหม่มึนงงคงรำคาญ
ไม่เหมือนกาลก่อนเก่าเคยเย้ากัน
อาจจะเพราะบางอย่างที่เปลี่ยนไป
เลยทำให้ห่างเหินเกินกว่าฝัน
แอบคิดถึงบ้านเก่าของเรานั้น
หรือคงมีแค่ฉันรู้สึกมา
เคยไหมเคยย้อนดูกลอนเก่าเก่า
แล้วนั่งขำหยอกเย้าสิเหน่หา
แต่ยามนี้ไม่เห็นไม่พบพา
หรือเพราะว่าแปลกไปไม่เข้าใจ?
เคยทักทายง่ายง่ายไม่ต้องเพียร
แต่วันนี้แม้เขียนยังสงสัย
ว่ากี่เพื่อนกี่พ้อหนอเข้าใจ
จะเข้ามาเม้นท์ให้คิดถึงกัน
ยามนี้ฉันเมาไปไร้ความหมาย
ไม่มีที่ระบายขยายฝัน
ทั้ง..แมนยู..บางใคร..บรรลัยกัน
ไม่มีที่ให้ฉัน...บอกรักเธอ
วอนดวงดาวสักดวงบนท้องฟ้า
กรุณาส่องแสงสำแดงเสนอ
ช่วยสาดส่องเข้าใจ"ฉันและเธอ"
ให้"พวกเรา"เจอกันอีกสักครา
เพลงฝากจากใจ 
http://www.youtube.com/watch?v=nHiP520rPMw

เทส เทส เทส

KIRATI


คิดคิดไปใจหายคล้ายคล้ายเศร้า
บ้านของเราเขาลืมเคยปลื้มฝัน
ไปปลื้มไลน์ ในมือ...ถือทั้งวัน
เหมือนลืมวัน เคยทัก...ทิ้งรักลืม
 
เพื่อนเพื่อนท้อ รอทน คนมาทัก
เสารักปัก หลักท้อ รอรักปลื้ม
ลืมทายทัก รักเยือน เหมือนเพื่อนยืม
ปลื้มฝันลืม คืนรัก เพื่อนทักใจ
 
ใครแอบซุ้ม ซุ่มอ่าน เพียงพาลผ่าน
พิศกลอนกานท์ งานสัก อักษรไข
ไม่โผล่กาย หน่ายแหนง แสร้งหายไป
ได้ยินไหม...คิดถึง คิดถึงว้อยส์...55555+
 
 
 
 

แก้บ่วง

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


เธอกรวดน้ำคว่ำขันเลิกฝันใฝ่
เกิดชาติไหนอย่าพบสบสมาน
สำหรับฉันกลับปองน้องนงคราญ
นิรันดร์กาลจะอยู่เป็นคู่ครอง
"แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงษ์
จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป็นคู่ครองพิศวาททุกชาติไป"
จะหลบลี้หนีหายไปไหนยาก
เพราะกรวดน้ำฝังรากด้วยคุณไสย
พันธการมัดไว้ด้วยหัวใจ
ใจสองใจมิพรากไปจากกัน
แม้เสแสร้งแกล้งปัดว่าตัดขาด
ไม่ขอเกิดร่วมชาติขอผาดผัน
แต่ส่วนลึกหัวใจได้ผูกพัน
ไม่มีวันเลือนหายคล้ายต้องมนต์
ยอมรับเถิดความรักประจักษ์จิต
เมื่อบ่วงทัณฑ์สัมฤทธิ์ต้องเกิดผล
ในโลกนี้มีเพียงเราสองคน
ฟ้าเบื้องบนประทานแล้วไม่แคล้วจร...

แค่ฝัน

ไผ่ลู่ลมม


เพียงคืนวันฝันถึงก็ซึ้งจิต
แม้นน้อยนิดยังวาดปรารถนา
ช่างอบอุ่นซ่านทรวงบ่วงนิทรา
เมื่อตื่นมาสุขล้นก็พ้นไป...
แต่จะขออิงแอบเเนบเคียงข้าง
มิลบล้างภาพวันที่ฝันไฝ่
จักกำเก็บเหน็บลงตรงหัวใจ
เนิ่นนานไป ยังอยู่คู่อกชาย
ไผ่ลู่ลม

เศร้าชิวๆ

อาบูไซยาบ


บนความเหงา เศร้ารัก เกินหักถอน
แม้จะนอน นอนไม่ได้ ใจมันหวิว
ปล่อยใจลอย คอย..!เฮ้อ...!! เศร้าชิวๆ
เวลาหิว ท้องไม่รับ ตับพิการ
ยามอกหัก เพ้อพร่ำ จนเพื่อนเบื่อ
"เมิงจะเพ้อ ไปเพื่อ..."น่าสงสาร
เฝ้าชะแง้ แลเฟส อยู่ตั้งนาน
ใจร้าวราน เธอคงไม่ รับรู้เลย....

โอ้แม่เสี้ยวดอกขาว

อาบูไซยาบ


โอ้แม่เสี้ยว ดอกขาว เจ้าพลัดถิ่น
นิวาสยัง แดนดิน ถวิลหา
ผลิดอกขาว พราวเพลิด เพลินพริ้มตา
ยั่วยวนให้ สกุณา ชิดชื่นชม
เจ้ายิ่งชู ดอกเด่น เป็นสง่า
อุราข้า ก็ยิ่งช้ำ ระกำขม
มิอาจเอื้อม แตะต้อง และดอมดม
ทุกระทม กี่ชาติจึง มิคลาดกัน... javascript:nicTemp();

ถามข่าวคราวจากแดนไกลสู่แดนไกล

แสงศรัทธา


ถามข่าวคราวจากแดนไกลสู่แดนไกล
 
1.
ที่รัก…ต้นตะแบกหน้าบ้านอยู่หรือยัง
แคร่ที่เรานั่งกินข้าวยังอยู่ไหม
กระถินริมรั้วแตกยอดหรือสิ้นไร้
คูนต้นใหญ่ตายไปหรือยังคง
 
น้ำในหนองเนืองนองหรือแห้งขอด
ผักแขยงแทงยอดหรือปลิดปลง
ข้าวน้องหว่านอุดมไหมพี่พะวง
หัวใจน้องเล่าซื่อตรง-หรือไม่เลย
 
พี่ต้องจากบ้านนาลาบ้านทุ่ง
หมายมุ่งสู่แดนดินมิคุ้นเคย
แผกวิถี ผิดทาง – ไร้ขวัญเชย
ยากจะเอ่ยถ้อยคำจำนรรจ์จา
 
2.
น้องอยู่ภูยืนดูพระอาทิตย์ตก
พี่ตระหนกท่ามกลางการเข่นฆ่า
น้องแย้มรับแดดเช้าสบายตา
พี่ก้มหัวหลบห่ากระสุนปืน
 
น้องทำไร่แปรสวนกลางธรรมชาติ
พี่รบเพื่อประชาราษฎมิอาจฝืน
น้องทุกข์ทนกับความแห้งแล้งเต็มกลืน
พี่ทนทุกข์หลับ – ตื่นกลางควันไฟ
 
น้องว่างงานนางจักสานตะกร้าเข่ง
พี่ว่างเวรเพ่งรูปน้องน้ำตาไหล
อ่านจดหมายทุกคราทุกครั้งไป
หัวใจพี่ก็หมองไหม้เหลือจะทน
 
3.
คิดถึง แกงส้มต้มไก่บ้าน
แกงผักหวานไข่มดแดงปลาร้าป่น
คั่วกุดจี่ จี่ข้าว ,
ในบางหน-
-ยามเราจนแค่แจ่วบองก็เกินพอ
 
คิดถึง เสียงแคนพ่อใหญ่เฒ่า
คลอเคล้าเสียงพิณอ้ายทิดสอ
คิดถึง เสียงขับลำนวลละออ
เมื่อไรหนอจะได้คืนสู่ลำเนา
 
คิดถึง พี่คิดถึงเจ้ายอดขวัญ
ทุกคืนวันเฝ้าคะนึงถึงวันเก่า
คิดถึงใบหน้าหวานดวงตาเศร้า
วันที่เราต้องพรากจากกันมา
 
4.
รอหน่อยนะคนดีรอพี่หน่อย
พี่เฝ้าแต่รอคอย
คืนปรารถนา
พี่เฝ้าแต่คอยรอเจอแก้วตา
อย่าอ่อนล้าในรักนะ
เจ้าขวัญทรวง
 
หากชีพนี้มิล่ว

หวน คำนึง

ลานเทวา


 
นานแล้วในงดงาม ความรู้สึก
หลากความหมายเร้นลึก ถึงคุณค่า
ท้นวันวัยในกาล ที่ผ่านพา
ใช่รับรู้เพียงกาลเวลา ที่ผ่านเลย
 
ภาพบางภาพ ตรึงทราบอยู่มิรู้สร่าง
คล้ายบอกเล่าแรมทาง ใจอ้างเอ่ย
บางรู้สึกอบอุ่น อย่างคุ้นเคย
แม้ล่วงเลยใจสบ ในพบพาน
 
เรายังจำกันได้ อยู่ใช่ไหม
ภาพริ้วรอยวันวัย ที่เนิ่นผ่าน
บางรู้สึกยังตรึงเตือน เหมือนไม่นาน
หอมเอย อดีตกาล แห่งเยาว์วัย…
 
รอยยิ้ม น้อง พี่ เพื่อน เรือนหลังเก่า
เสียงบอกเล่าผ่านปลุก ยุคสมัย
ณ วันนี้ วันที่เรา ต่างเข้าใจ
ถึงชีวิตที่เป็นไป และเป็นมา...
 
เราจำได้ บางสิ่งย้ำ ยังจำได้
ภาพอันคุ้นตรึงให้ ใจหวนหา
บางรอยยิ้มผ่านย้ำ บางน้ำตา
บอกเล่ากาลเวลา ของชีวิต…
…………………………..
โดยคำ ลานเทวา

คำสอนของแม่

สายรุ้ง


คิดถึงแม่แค่แชร์ก็เป็นสุข
บอกว่าลูกรักแม่นั้นเพียงไหน
อยู่ใกล้กันดูเหมือนไม่สนใจ
 พอห่างกันจึงเมื่อไรห่วงใยจริ
 
มารำลึกถึงคำที่แม่สอน
เป็นดั่งพรแก่ลูกทุกทุกสิ่ง
เป็นคำสอนกลั่นมาด้วยใจจริง
มีค่ายิ่งในชีวิตของลูกยา
 
ขอน้อมนำคำสอนของแม่นี้
เป็นแผนที่ชี้ทางในวันหน้า
พร้อมอุทิศชีวิตทุกเวลา
แม้ชาติหน้าขอเป็นข้าใต้ธุลี
 
 

เพาะรัก

แสงศรัทธา


เพาะรัก
 
เพราะรัก...
จึงตระหนักคุณค่าของคืนหนาว
จึงระลึกถึงราตรีดาวพร่างพราว
จึงรู้รสขื่นคาวความเศร้าตรม
ด้วยรัก...
จึงประจักษ์ความงามในความขม
จึงสัมผัสลมหายใจของสายลม
จึงสุขสมแย้มยิ้มอยู่เดียวดาย
พลังรัก...
จึงปกปักดูแลแม้เจียรตาย
จึงเป็นดั่งแสงไฟดวงสุดท้าย
จึงมอบใจมอบกายให้แก่กัน
ความรัก...
จึงเป็นแหล่งพิงพักคนหลับฝัน
จึงเป็นมือฉุดดึงเชื่อมสัมพันธ์
จึงเป็นเธอเป็นฉันและเป็นเราฯ
 
“แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า”

บทเพลงถึงดวงดาว

ศิวสิโรมณิ


 
ส่งบทเพลงล่องบรรเลงถึงดวงดาว
ที่พร่างพราววาวระยับปลายลับฟ้า
เปล่งทำนองแว่วหวานดุจวาจา
เอ่ยเอื้อนมาแทนหัวใจไปให้ดาว...
Monday 5.43 p.m., June 10, 2013
ศิวสิโรมณิ
หน้า / 15  
ทั้งหมด 247 กลอน