5 ตุลาคม 2550 18:21 น.

สังคหวัตถุธรรม เครื่องยึดเหนี่ยวใจของผู้อื่น

ปลายตะวัน

pojinban.jpg
สังคหวัตถุแผ้ว               ผ่องธรรม
สี่ประการกุศลกรรม        ก่อเกื้อ
คือเครื่องยึดเหนี่ยวนำ     มิตรภาพ
น้ำจิตน้ำใจเอื้อ              โอบอุ้มพิภพสถานฯ

(1.ทาน )
ทานคือเสียสละแม้น       ทรัพย์ตน
ละละโมบฉ้อฉล             ชั่วช้า
มิหวังเพื่อพึงผล             เพียงประโยชน์ ตนเฮย
พลีทรัพย์ ณ เมื่อหน้า      เมื่อนี้สุขสนองฯ

(2.ปิยวาจา)
ปิยพจน์โอษฐ์เอื้อน         วจี
อดหยาบหยามพาที        อวดอ้าง
เว้นส่อเสียดเสียศรี         ทุศีลบาป
สานสืบสัมพันธ์สร้าง        มิตรแม้นโลก-สวรรค์

(3.อัตถจริยา)   
บำเพ็ญสงเคราะห์ให้       แก่ชน
รู้ช่วยบำเรอผล               โลกหล้า
ยังประโยชน์ทุกหน         ทุกแห่ง
คนย่อมใคร่คบค้า           ครึกครื้นทุกสมัยฯ

(4.สมานัตตตา)
ประพฤติดีแต่ต้น            จนปลาย         
สม่ำเสมอใจกาย            ทั่วถ้วน
ละเว้นอัตตาคลาย          อคติ
รู้ตริรู้ตรองล้วน              โลกนั้นสรรเสริญฯ

นรชนแลโลกนี้               อนิจจัง 
เงาบาปเงาบุญบัง          บ่มไซร้
ชาติภพย่อมสิ้นสัง-        ขารที่ สุดนา
บังบาปเบิกบุญไว้           บ่มบ้างบ่เสียหลายฯ





หมายเหตุ 

สังคหวัตถุธรรม หมายถึง หลักธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่น 
ผูกไมตรี เอื้อเฟื้อ เกื้อกูล หรือเป็นหลักการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน 
มีอยู่ 4 ประการ ได้แก่ 

1. ทาน คือ การให้ การเสียสละ หรือการเอื้อเฟื้อแบ่งปันของๆตน
    เพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น  ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว 
    ไม่เป็นคนเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว คุณธรรมข้อนี้จะช่วยให้ไม่เป็นคนละโมบ 
    ไม่เห็นแก่ตัว เราควรคำนึงอยู่เสมอว่า ทรัพย์สิ่งของที่เราหามาได้ 
     มิใช่สิ่งจีรังยั่งยืน เมื่อเราสิ้นชีวิตไปแล้วก็ไม่สามารถจะนำติดตัวเอาไปได้

2. ปิยวาจา คือ การพูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน พูดด้วยความจริงใจ 
    ไม่พูดหยาบคายก้าวร้าว พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์เหมาะสำหรับกาลเทศะ 
     พระพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญกับการพูดเป็นอย่างยิ่ง 
     เพราะการพูดเป็นบันไดขั้นแรกที่จะสร้างมนุษย์สัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้น
      วิธีการที่จะพูดให้เป็นปิยวาจานั้น จะต้องพูดโดยยึดถือหลักเกณฑ์
      ดังต่อไปนี้
      -เว้นจากการพูดเท็จ
      -เว้นจากการพูดส่อเสียด
      -เว้นจากการพูดคำหยาบ
      -เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ 

3. อัตถจริยา คือ การสงเคราะห์ทุกชนิดหรือการประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น 

4. สมานัตตา คือ การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ หรือมีความประพฤติเสมอต้นเสมอปลาย 
   คุณธรรมข้อนี้จะช่วยให้เราเป็นคนมีจิตใจหนักแน่นไม่โลเล 
   รวมทั้งยังเป็นการสร้างความนิยม และไว้วางใจให้แก่ผู้อื่น
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายตะวัน
Lovings  ปลายตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายตะวัน
Lovings  ปลายตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายตะวัน
Lovings  ปลายตะวัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปลายตะวัน