29 พฤศจิกายน 2547 02:36 น.

~ เพลินห้วงฝัน ~

รำนำ


...๏ลอยล่องระหว่างว้าง.........เวหา 
ผกายเปี่ยมทิพอาภา.............ภาคย์แผ้ว 
เอมซาบซ่านกายา................ยวนพิศ 
เผยภาพดุจแแพรวแก้ว.......ก่อเกื้อจิตงามฯ.... 

...๏นวลผ่องแสงผ่องหล้า.......เลื่อมแข 
สาดส่องนิลส่องแปร..............พิภพพร้อย 
เลื่อนเรื่อยระเรื่อยแช..........ชลพร่าง 
ภาคขจ่างภาขจ่างคล้อย.........คลี่เฟื้อยคลุมผาฯ....

..๏งามฟ่องลอยฟ่องฟ้า.........ฟองธาร 
รื้นลิ่วแล่นลิ่วดาล.................ดุจรุ้ง 
เคลียคลอหยาดคลอกาล.......เกลียวฟั่น 
ลอยเอื่อยยวนเอื่อยฟุ้ง.........เฟื่องล้อคลอจันทร์ฯ.... 

...๏ทลระย้าพฤกษ์พริ้ม........ปลิวไสว 
พร่างสวัสดิ์คละคลุมไพร......เพริศพลิ้ว 
พรั่งพรูหวีดลมไหว.............หวิวแผ่ว 
หวามผ่องพรรณรายริ้ว........เหลื่อมไล้แพรวพันธุ์ฯ....

...๏หรี่หรี่เริงหิ่งห้อย.............ระยิบแสง 
ระยับเสกพรายเปลวแยง......หยอกเคล้า 
เย้าคล่าวคล่ำอร่ามแผง.........เฟื้อยเรื่อ รุจีแฮ 
ฟ้อนร่ายระเริงเร้า................ระเร่ครื้นเคียงพงฯ... 

...๏แว่วแว่วหวานจิ้งหรีด......ร่ายเพลง 
ร่ายพรั่งสรวลเสียงเครง.........คึกครื้น 
คึกครึ้มคีตละเลง....................ร่ำสนั่น 
ร่ำเสนาะพรมภพพื้น..............พาทย์เพี้ยงเลอสรวงฯ....

บอกอกูรู



.๏ดวงลดาชื่นรื้น...................เริงใจ
เริงรับรื่นละไม........................พิสุทธิ์เพี้ยง
พิสุทธิ์เอมอิ่มหอมใน................วิเศษรักษ์
วิเศษเสพภาพหล่อเลี้ยง..........โอสถแก้วทิพย์ไท

.๏ชมชวนใจแอร่มแย้ม..........แต้มปรีดิ์
แต้มแต่งเพิ่มภามชีวี................เสกสร้าง
เสกสรรสรรพสิ่งดี.....................ประดับจิต
จิตเจิดแจ่มแกร่งกว้าง..............โอบเอื้ออารมณ์.

...๏พราวแสงพรมพร่างแพร้ว...แสงพราว
เคล้าหยอกหิ่งห้อยราว..............หยอกเคล้า
ร่ายระบำเริงดาว......................ระบำร่าย
เรืองเรื่อระยับเร้า....................สว่างซ้อง เรื่อเรือง...

...๏หวานแว่วคีตเก็จแก้ว.........แว่วหวาน
แพร้วเพริดธรรมชาติสาน........เพริดแพร้ว
รื่นรมย์สดับเพลงขาน...............รมย์รื่น
ยินโสตไร้เสริมแผ้ว.................เสนาะแจ้ว โสตยิน...

.๏จินต์ฝันซ่านซ่านซึ้ง............สคราญตา
ยืนหยัดภูภูผา..........................เหยียดแล้ว
เพลินพราวพิศพิศตรา.............ตรึงสุข
สงบส่งซาบซาบแก้ว.................สฤษฏ์แผ้วในกมล

.๏จันทร์นวลแจ่มแจ่มฟ้า.......นทีธาร
ไอโอบชุ่มชุ่มกานต์..................รักร้อย
ไม้งามผลิผลิบาน.....................พร้อมพรั่ง
มนตร์วิเศษเวทเวทคล้อย.......นิมิตแพร้วพลอยงาม.

รำนำ				
20 พฤศจิกายน 2547 19:39 น.

กรอง..จารกานท์รตะหวานลุซ่านหทัยนัย

รำนำ

สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙



@_กราย..เรียงร่ายรจนาจรดบทกวี
สรรค์พรายระบายศรี
ประไพ...

@_กรอง..จารกานท์รตะหวานลุซ่านหทัยนัย
ซาบซึ้งคะนึงไหว
กมล...

@_กลืน..เก็บกล้ำอุระรานสมานภวอนนต์
ขอฝันมิรั้นหน
ครรลอง...

@_กรุ่น..ชื่นแกมมนรื่นและขมฤดิก็ปอง
เรียงคำและพร่ำผอง
ฤทัย...

@_กรอม..แม้กลั้นหฤหรรษ์มิสรรค์วัจนใด
ร้อยกรองประคองใจ
และขวัญ...

@_เกรียม..เทียมแก้วปริแนวมิแววคุณอนันต์
จึงร่ายและเรียงสรร
ประโลม...
				
20 พฤศจิกายน 2547 19:19 น.

บกกวี...ไม่มีฉันทลักษณ์

รำนำ


ใจเอย...เปิดเผยความนัยอันซ่อนไว้

กรองกานท์...ผ่านจิตลิขิตไป

วาดหวัง...สื่อหฤทัยให้เหลียวมอง

หนังสือ...มีคำมากกว่าตัวหนังสือ

เคยยิน...ผินเข้าใจสื่อ-ความนี้ไหม

ร่ายเรียง...ถ้อยเคียงตามเมียงไป

บ่งบอก...มากกว่านัยที่อยากแจง

ความฝัน...ไม่น่าหยันหากมั่นใจใสแสวง

สื่อสาร...ใจสวยด้วยจิต-พินิจแจ้ง

ภาษา...ส่อสิ่งที่แฝง-แย้งยากเย็น
				
17 พฤศจิกายน 2547 00:08 น.

~จะเข้าวัดขจัดจิตให้นวลผ่อง~

รำนำ


...๏ดูดู๋!!ช่างถกช่างเถียงลำเอียงจัด
มาทำกัดทำค้อน ฤ อรศรี
ช่างรีบปรี่รีบปราบขนาบตี
โถ!!นวลดีนวลเด่นช่างเฟ้นคำฯ....

...๏คงคิดนิดคิดน้อยจึ่งพลอยพล่าน
จึ่งร้อนซ่านร้อนซ่าช่างน่าขำ
ไยแสร้งเปรยแสร้งปดให้จดจำ
แงๆใจด๋ำใจดำมาทำกลัวฯ....

...๏เอ้อ!!เหนื่อยล้าเหนื่อยร้าวเพราะเฝ้ารัก
แม้พร้อมภักดิ์พร้อมเพียรยังเวียนหัว
มาว่าร้ายว่าเรียมช่างเหี้ยมตัว
แล้วแสร้งกลัวแสร้งกริ่งแม่หญิงงามฯ....

...๏ขอเข้าวัดเข้าวาเพื่อหาพระ
ให้หมองละหมองลดขอปลดหวาม
พบหลวงพี่หลวงพ่อฟังข้อความ
ให้ท่านปรามท่านปราบกำราบลายฯ....

...๏ง่า!!พระเทศน์พระเตือนเกลื่อนธรรมชุ่ม
รักหากลุ่มหากหลงก็คงสลาย
พลาดจิตแสบจิตซ่านและลาญกาย
หากแสร้งร่ายแสร้งร่ำ ฤ ทำพาลฯ....

...๏เกรงรักขมรักคุดเพราะนุชหลอก
จะสาวนอกสาวนาที่หน้าหวาน
มีมนตร์ร่ายมนตร์เลื่อมดุจเชื่อมตาล
แล้วจักสานจักซุ่มดักหนุ่มดงฯ....

...๏ฟังพระเทศน์พระธรรมให้คำคม
ละอารมณ์อาลัยอย่าให้หลง
แล้วรันท้อรันทดขอปลดปลง
อย่าผจงผจัญจะรัญจวนฯ....

...๏ท่านพระเด่นพระดีสอนปรีดิ์วัตร
หมั่นเข้าวัดเข้าวาธรรมาขวน
แล้วผ่องกายผ่องเกล้าจิตเจ้านวล
จึ่งขอชวนขอจัดเข้าวัดเร้วววววฯ....



บอกอกูรู






@_อันคำย้อนที่โต้ติงอิงหลักแนว
ใครค่อนค้อนพี่แก้วให้หมองศรี
แม้ว่าจิตใสพิสุทธิ์หยุดตามตี
นวลฤดีหรือจะโทษโกรธพี่ลง...

@_แต่ต้องคอยครุ่นคิดพินิจเจตน์
เกรงเทวษหมองเศร้าเย้าให้หลง
แม้แน่แน่วเที่ยงแท้จิตภักดิ์ปลง
ให้มั่นคงอย่าล่อลวงทำบ่วงนาง...

@_ยังมาวอนอ้อนว่าล้าเหนื่อยนัก
ที่แสนภักดิ์แสนเพียรใครทำหมาง
มาให้ร้ายว่าแสร้งแกล้งหลบพราง
ใครไม่เกรงวางดักล่อแล้วขอไกล...

@_หน้าจะหวานปานใดใช่มาตรวัด
มากล่าวหามัดด้วยมนตร์ด้วยคุณไสยฯ
ทั้งแกล้งว่าดื้อรั้นแล้วพาลใคร
ทั้งว่ายุวางไฟใส่เชื้อเพลิง...

@_ใครกันคนตามผจัญให้ฝันถึง
ใครดักขึงคนไถลลื่นจนเหลิง
ใครกันแน่ยุให้แยกแตกกระเจิง
มาหว่านล้อมทำระเริงเช่นเชิงชาย...

@_พระเทศน์ดีก็ว่าดีตามที่เทศน์
ไม่หลงเหตุมัวเมาสติหาย
รู้จักผ่อนวางหนักเบาไม่วางวาย
ไม่ถึงตายเพราะรักลวงล่วงหลงลม...

@_ที่ท้วงทักเรื่องเข้าวัดไปปัดจิต
เพราะพี่คิดมาค่อนขอดแคะทับถม
มาแขวะย้ำคำบอกสาวนอกคม
จะลวงลมเล่นลิ้นหนีหนุ่มดงใด...

@_จะเข้าวัดขจัดจิตให้นวลผ่อง
หรืออยู่บ้านน้องครองเรือนก็จิตใส
เพราะน้อมนำพุทธคุณเกื้อหนุนใจ
เรื่องคนชวนเกรงจะไป..ปั่นจิตปรวน...



รำนำ				
16 พฤศจิกายน 2547 23:18 น.

~พยัคฆ์ร้ายแกล้งกลายคล้ายว่าเชื่อง~

รำนำ


@_ทั้งเหนื่อยล้ารานร้าวคราวถูกพิษ
พรานคิดปลิดวางลวงบ่วงบาศก์ฝัง
เพียงคิดล่าเล่นเหยื่อเถือใจพัง
ปราบพยศคราพลั้งสมดังนัย...

@_เพื่อให้แน่แท้ในชัยฉกาจ
ยังล่ามทาสผูกมัดแล้วรัดใหม่
ไม่ให้ดิ้นแคล้วคลาดนาดกรายไกล
คอยเลี้ยงให้พอประทังยังชีพยืน...

@_แม้หายใจรวยรินก็สิ้นศักดิ์
จะหาญหักตักษัยใดก็สุดขืน
บ่วงก็รัดเชือกก็ล่ามหยามเต็มกลืน
เจ็บที่อื่นไม่เหมือนแม้แพ้ใจตน...

@_จึงหยุดยื้อรื้อใจกระชากกลับ
ปล่อยให้ดับสับให้แหลกไหลรวมฝน
ยามหยุดนิ่งไม่ไหวติงเพราะทุกข์ทน
กลับระแวงว่าเป็นกลท้นมารยา...

@_จะให้ร่ำคำใด ฤ ใจเจ้า
ชัยชนะเจ้าก็เอาไปเถิดหนา
แม้นไม่เห็นว่าพ่ายพิษริดวิญญา
อย่ารอช้าลงดาบปราบให้วาย...


รำนำ


เด็กดอย


...๏แม้น!!ถวิลถวัลย์แลสั่นอก
ฤ สะทกสะท้านแลพล่านโหย
ขอเดี่ยวดายเดี่ยวโดดมิโอดโอย
เพราะแรงโรยแรงรอนจึ่งซ่อนกาย

...๏ไย!!สะอางสะอ้านจึ่งขานร่ำ
ช่างซัดคำซัดคมเพื่อข่มหมาย
เอ้อ!!กล่าวติกล่าวเตียนอิดเอียนชาย
แม๋!!ช่างร้ายช่างรัดมาตัดรอนฯ....

...๏โถ!!เปรียบเรียมเปรียบรานเป็นพรานป่า
คอยดักล่าดักแร้วตามแนวขอน
แล้วข้ามเทือกข้ามถิ่นเจ้ากินนร
เพื่อต่อกรซ่อนบ่วงจะลวงนางฯ....

...๏เอ้อ!!พรานบุญพรานบาปเป็นภาพโฉด
ก็ดูโหดดูเหี้ยมทัดเทียมสาง
เห็นสำเนาสำนวนจึ่งครวญคราง
ว่าเรียมพ่างเรียมพุ่มแค่หนุ่มดอยฯ....

...๏เรียมไร้พิษไร้ภัยต่อใครนั่น
อย่าประหวั่นประหวัดและซัดฝอย
เหมือนฝากคมฝากคำและย้ำรอย
ให้เด็กดอยเด็กดีบัดสีพลันฯ....

...๏ปราบพยศพยัคฆ์ ฤ ดักพิษ
บ่กล้าคิดกล้าเกยจะเผยฝัน
เอ้อ!!คิดล่วงคิดลามผิดครามครัน
นางสวรรค์นั่นรู้มิคู่ควรฯ....

...๏จักเจียมตนเจียมตัวเพราะกลัวเร่า
ขอจับเจ่าจับจิตอยู่ติดสวน
คอยเก็บผักเก็บปลามิกล้ากวน
แล้วนั่งพรวนนั่งพรอดขอกอดดินฯ.


บอกอกูรู
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_65677.php



@_พยัคฆ์ร้ายแกล้งกลายคล้ายว่าเชื่อง
ทำซึมเซื่องอดโซโผพักหนี
แล้วแสร้งถอดเขี้ยวเล็บที่ฤิทธี
แปลงร่างพีเป็นแมวน้อยคอยเมตตา..

@_เสือสมิงยังคงสิงในร่างจ้อย
ปริบตาสร้อยเศร้าเว้าวอนหา
ที่พักพิงรักษ์แผลวอนแลตา
ต่อไม่โปรดวิฬาร์ยังคว้าพะนอ...

@_แมวหรือเสือเชื่อหรือไม่ใช่จะต่าง
แมวเคล้าข้างคลอเพียงเพื่อเคียงหนอ
ที่เคลียเคล้าเฝ้าชิดใช่ภักดิ์รอ
ทำเพราะพอใจตนกลเล่ห์ลวง...

@_จึงบาดข่วนนวลเจ็บรอยเล็บแนว
ยังติดแร้วบ่วงพยัคฆ์ดังมนตร์สรวง
ยามเสือร้ายกลายร่างไร้แรงทวง
ไม่โทษดวงปวงด้อยด้วยปัญญา...

@_เคยผงาดองอาจมาพลาดบาศ
สวรรค์สาดส่งสมิงลงโทษา
ให้เจ็บลาญพานพลิ้วพรางกายา
มาเยื้อนยิ้มเย้ยสาว่าต่ำตน...

@_แล้วแสร้งวอนกลอนร่ายถูกร้ายใส่
เป็นคนดอยซื่อใสไม่รู้หน
ไม่เคยปองมองฟ้ากล้าวกวน
ให้เจ็บอายสุดทนด้วยจนคำ...


@_แม้เป็นดวงลดาผกาอ่อน
ถูกริดรอนจากกิ่งแล้วทิ้งขยำ
จะไปร้องเรียกเร้าร่ำไยให้เย้ยยำ
เพียงฝากจำกุหลาบอาบพิษคิดให้ดี...

@_เป็นคนสวนเด็กดอยคอยเก็บผัก
มาหักกิ่งกุหลาบเล่นทิ้งแล้วชิงหนี
มือที่ริดกิ่งก้านผลาญมาลี
พิษร้ายมีจะแทรกซานคว้านลาญทรวง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรำนำ
Lovings  รำนำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรำนำ
Lovings  รำนำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรำนำ
Lovings  รำนำ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงรำนำ