5 กันยายน 2551 22:48 น.
				
												
				
								ไหมแก้วสีฟ้าคราม
		
					
				
แด่.....คุณยายระเบียบผู้เพียบพร้อม
ประณตน้อมค้อมเคารพสู่ภพสันติ์
ล่วงชราเก้าสิบกว่าล้าชีวัน
ลับดับขันธ์อาลัยใจอาวรณ์
ยายชะแง้แลเฝ้าพะเน้าผูก
เลี้ยงดูลูกหลานสะพรั่งพร้อมสั่งสอน
ไกวเปลเห่กล่อมเกื้อเอื้ออาทร
เรียงสลอนค้อนสำรับประทับใจ
..ยอดคุณยาย..หลายหลานขนานว่า
หญิงเก่งกล้าปราดเปรื่องเรื่องวิสัย
โลกทัศน์ชัดฉายไม่อายใคร
ยายวิจัยได้ลึกซึ้งคะนึงควร
อยู่กับยายสบายสุขมีทุกข์ปลอบ
ยายชื่นชอบมอบรักให้ไม่เหหวน
ยายใส่เสริมเติมน้ำใจไม่เรรวน
ยายชอบชวนทวนความหลังฝังฝากใจ
ดลวิญญาณคุณยายสัมปรายภพ
หอมตรลบมวลผกายามาไสว
สู่สุคตินิมิตรฝันสวรรค์วิไล
..แด่ คุณยายในดวงใจ..ผู้วายชนม์
                          เคารพรักและอาลัยยิ่ง
                                   จากหลานๆของคุณยาย				
			 
			
				22 สิงหาคม 2551 21:10 น.
				
												
				
								ไหมแก้วสีฟ้าคราม
		
					
				
 ไพรเพลงพิณรินไหลสายน้ำแก้ว
  กังวานแว่วแผ่วพลิ้วทิวไม้ไหว
  เมโลดี้คีตการธารพฤกษ์ไพร
  มวลแมกไม้ไสวช่อล้อลมครวญ
  เสียงสายลมพรมสายน้ำร่ำลาเมฆ
  สวรรค์เสกวิเวกขับสดับหวล
  เพลงสายธารผ่านภูผาฟ้ารัญจวน
  เหมือนเสียงสรวลชวนเชิญดำเนินไพร
  เหล่าวิหคนกร้องก้องป่ากว้าง
  ทั้งลิงค่างบ่างชะนีกวางหมีไก่
  ร่วมบรรเลงเพลงธรรมชาติวาดฝันไกล
  ทุ้มละไมไพเราะเสนาะทรวง
  เพลงใบไม้สายธารลานเขาโขด
  เหมือนตัวโน้ตโลดเล่นเส้นสายสรวง
  ดุจคนธรรพ์บรรเลงเพลงดาวดวง
  เลยลับล่วงหวงแหนแดนพนา
  ย้อนอดีตสายน้ำย้ำรำลึก
  ในไพรพฤกษ์สายธารผ่านภูผา
  เหลือเพียงคำเล่าขานตำนานมา
  นับวันป่าร่อยหรอรอพลิกฟื้น
  ฤาหมดแล้วสายน้ำแก้วแพรวพิลาส
  วิประวาสป่าจ่อมจมข่มใจขืน
  ทุกคราวเยือนเตือนย้ำสุดกล้ำกลืน
  ใยหน้าชื่นอกตรมชมป่าไทย
  ...........................................
  ความเงียบสงัดในป่าดงพงไพรเมื่อ 20-30 ปีก่อน(ผู้เขียนเคยเรียน
  มช. ปี 2522-2525 )
  ได้ไปสัมผัสเมื่อครั้งเดินขึ้นดอย
  จึงได้ยลยินเสียงดนตรีธรรมชาติจากป่าเขา
  ได้ยินเสียงสายลมพรมสายน้ำ
  ไหลรินคล้ายเสียงพิณบรรเลง
  กังวานแว่วแผ่วพลิ้วกระทบทิวแมกไม้
  ไหวระริก  ดั่งเพลงใบไม้ทักทายสายลม
  ประโลมลูบไล้สายธารที่กำลังร่ำลาก้อนเมฆ
  เสียงสายน้ำไหลผ่านลานหิน โขดเขา 
  ผสมผสานกับเสียงสิงสาลาสัตว์  นกร้อง
  กู่ก้องป่า  จึงคล้ายกับบทเพลงแห่งธรรมชาติ
  เหมือนมีคนธรรพ์มาบรรเลงตามเส้นเสียงตัวโน้ต
  เพื่อขับกล่อมป่าเขาให้มีชีวิตชีวา
  แต่มาบัดนี้   ผู้เขียนได้อ่านพบใน
  เว็บ  www.lannacorner.net/
  น้ำตกห้วยแก้ว  กลายเป็น อดีตสายน้ำแห่งความทรงจำ
  เนื่องจากน้ำตกที่มีอยู่  แห้งสนิทไม่มีน้ำแม้แต่น้อย  
  พอช่วงฤดูฝนก็มีเฉพาะน้ำที่ไหลเอื่อยๆเท่านั้น
  ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 
  จึงได้ทำน้ำตกเทียม  และปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่ม
ไพรเพลงพิณรินไหลสายน้ำแก้ว
  กังวานแว่วแผ่วพลิ้วทิวไม้ไหว
  เมโลดี้คีตการธารพฤกษ์ไพร
  มวลแมกไม้ไสวช่อล้อลมครวญ
  เสียงสายลมพรมสายน้ำร่ำลาเมฆ
  สวรรค์เสกวิเวกขับสดับหวล
  เพลงสายธารผ่านภูผาฟ้ารัญจวน
  เหมือนเสียงสรวลชวนเชิญดำเนินไพร
  เหล่าวิหคนกร้องก้องป่ากว้าง
  ทั้งลิงค่างบ่างชะนีกวางหมีไก่
  ร่วมบรรเลงเพลงธรรมชาติวาดฝันไกล
  ทุ้มละไมไพเราะเสนาะทรวง
  เพลงใบไม้สายธารลานเขาโขด
  เหมือนตัวโน้ตโลดเล่นเส้นสายสรวง
  ดุจคนธรรพ์บรรเลงเพลงดาวดวง
  เลยลับล่วงหวงแหนแดนพนา
  ย้อนอดีตสายน้ำย้ำรำลึก
  ในไพรพฤกษ์สายธารผ่านภูผา
  เหลือเพียงคำเล่าขานตำนานมา
  นับวันป่าร่อยหรอรอพลิกฟื้น
  ฤาหมดแล้วสายน้ำแก้วแพรวพิลาส
  วิประวาสป่าจ่อมจมข่มใจขืน
  ทุกคราวเยือนเตือนย้ำสุดกล้ำกลืน
  ใยหน้าชื่นอกตรมชมป่าไทย
  ...........................................
  ความเงียบสงัดในป่าดงพงไพรเมื่อ 20-30 ปีก่อน(ผู้เขียนเคยเรียน
  มช. ปี 2522-2525 )
  ได้ไปสัมผัสเมื่อครั้งเดินขึ้นดอย
  จึงได้ยลยินเสียงดนตรีธรรมชาติจากป่าเขา
  ได้ยินเสียงสายลมพรมสายน้ำ
  ไหลรินคล้ายเสียงพิณบรรเลง
  กังวานแว่วแผ่วพลิ้วกระทบทิวแมกไม้
  ไหวระริก  ดั่งเพลงใบไม้ทักทายสายลม
  ประโลมลูบไล้สายธารที่กำลังร่ำลาก้อนเมฆ
  เสียงสายน้ำไหลผ่านลานหิน โขดเขา 
  ผสมผสานกับเสียงสิงสาลาสัตว์  นกร้อง
  กู่ก้องป่า  จึงคล้ายกับบทเพลงแห่งธรรมชาติ
  เหมือนมีคนธรรพ์มาบรรเลงตามเส้นเสียงตัวโน้ต
  เพื่อขับกล่อมป่าเขาให้มีชีวิตชีวา
  แต่มาบัดนี้   ผู้เขียนได้อ่านพบใน
  เว็บ  www.lannacorner.net/
  น้ำตกห้วยแก้ว  กลายเป็น อดีตสายน้ำแห่งความทรงจำ
  เนื่องจากน้ำตกที่มีอยู่  แห้งสนิทไม่มีน้ำแม้แต่น้อย  
  พอช่วงฤดูฝนก็มีเฉพาะน้ำที่ไหลเอื่อยๆเท่านั้น
  ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 
  จึงได้ทำน้ำตกเทียม  และปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่ม				
			 
			
				22 สิงหาคม 2551 11:31 น.
				
												
				
								ไหมแก้วสีฟ้าคราม
		
					
				
 ไฟรัก ฤ ไฟรบ
มิสงบ อสงไขย
สืบสานสมานใจ
ปะทะไว้ไสวธรรม
ด้ามขวานมิราญรอบ
ระบิขอบมิตอบย่ำ
รอมชอมฤทัยช้ำ
ฐิติแจ้งแถลงไข
เข้าใจและเข้าถึง
ก็คะนึง ธ ห่วงใย
ร่วมพัฒนาไทย
นิรนัย วิกฤตผล
เข้าถึงและเข้าที่
สุรสีห์ สิ พึงยล
ปรองดอง ฤทัยดล
ท ม ข่มถล่มภัย				
			 
			
				17 สิงหาคม 2551 10:24 น.
				
												
				
								ไหมแก้วสีฟ้าคราม
		
					
				
 พระห่วงใยใส่พระทัยในป่าไม้
 ดำริไซร้ใช้หญ้าแฝกแทรกพฤกษา
 แฝกใบสดลดป่าแห้งแล้งพนา
 ชุ่มชีวาเขียวชอุ่มคลุมพื้นดิน
 กรองตะกอนก้อนดินสู่แอ่งน้ำ 
 ยามฝนฉ่ำไม่ร่วงหล่นลงอ่างหิน
 แม้นน้ำเซาะไหลเลาะระรวยริน
 ผืนแผ่นดินมิถล่มทลายมา
 รากชอนไชไร้กัดเซาะเพราะช่วยยึด
 ด้วยแรงฮึดคงมั่นปานภูผา
 ชลอไหลสายน้ำลำธารา
 ฝายขวางหน้ากั้นดินไว้ไม่ไหลลง
 แม้นชื่อแฝกผิดแผกแปลกจากหญ้า
 แต่คุณค่ามากมายหลายประสงค์
 ทั้งปกป่ากั้นน้ำไหลใฝ่จำนง
 รณรงค์คงคู่ป่าแฝกหญ้าเอย
           ..........................
  สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
        ไหมแก้วสีฟ้าคราม
           ..........................
พระห่วงใยใส่พระทัยในป่าไม้
 ดำริไซร้ใช้หญ้าแฝกแทรกพฤกษา
 แฝกใบสดลดป่าแห้งแล้งพนา
 ชุ่มชีวาเขียวชอุ่มคลุมพื้นดิน
 กรองตะกอนก้อนดินสู่แอ่งน้ำ 
 ยามฝนฉ่ำไม่ร่วงหล่นลงอ่างหิน
 แม้นน้ำเซาะไหลเลาะระรวยริน
 ผืนแผ่นดินมิถล่มทลายมา
 รากชอนไชไร้กัดเซาะเพราะช่วยยึด
 ด้วยแรงฮึดคงมั่นปานภูผา
 ชลอไหลสายน้ำลำธารา
 ฝายขวางหน้ากั้นดินไว้ไม่ไหลลง
 แม้นชื่อแฝกผิดแผกแปลกจากหญ้า
 แต่คุณค่ามากมายหลายประสงค์
 ทั้งปกป่ากั้นน้ำไหลใฝ่จำนง
 รณรงค์คงคู่ป่าแฝกหญ้าเอย
           ..........................
  สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
        ไหมแก้วสีฟ้าคราม
           ..........................				
			 
			
				10 สิงหาคม 2551 13:41 น.
				
												
				
								ไหมแก้วสีฟ้าคราม
		
					
				
 เห็นกันอยู่หลัดหลัดมาพลัดพราก
ด่วนมาจากไปไกลอาลัยแสน
ในหน้าที่ภาคใต้แถบชายแดน
เพื่อแว่นแคว้นแหนหวงปวงชาวไทย
ทั้งทัพบกทัพฟ้าชีวาวาตม์
วายชนม์เพื่อชาติทหารกล้าน่าเลื่อมใส
ทดแทนคุณแผ่นดินจวบสิ้นใจ
เหลือทิ้งไว้สุดอาลัยร้องไห้กัน
จงไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
หอมอวลอบพบห้วงสรวงสวรรค์
สู่สถานทิพย์พิสุทธิ์ดุจเทวัญ
สรวงไกวัลชั้นเมืองแมนแดนวิมาน
.....................................................
เนื่องจากครั้งหนึ่งผู้เขียนกลอนนี้
เคยเป็นนายทหารจัดการศึกษา
ทำหน้าที่จัดการฝึกอบรม
ที่โรงเรียนรวมสายวิทยาการ   
กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ
ผู้เขียนได้รู้จัก(แม้ว่าไม่ได้สนิทสนม)
กับผู้ที่เสียชีวิตใน ฮ. ตก แต่เกือบทั้งหมด
ทุกคนที่เสียชีวิต(ทอ.) ด้วยเคยตรวจทาน
รายชื่อผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ
จึงได้เขียนกลอนไว้อาลัย.......
...............................................
เห็นกันอยู่หลัดหลัดมาพลัดพราก
ด่วนมาจากไปไกลอาลัยแสน
ในหน้าที่ภาคใต้แถบชายแดน
เพื่อแว่นแคว้นแหนหวงปวงชาวไทย
ทั้งทัพบกทัพฟ้าชีวาวาตม์
วายชนม์เพื่อชาติทหารกล้าน่าเลื่อมใส
ทดแทนคุณแผ่นดินจวบสิ้นใจ
เหลือทิ้งไว้สุดอาลัยร้องไห้กัน
จงไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
หอมอวลอบพบห้วงสรวงสวรรค์
สู่สถานทิพย์พิสุทธิ์ดุจเทวัญ
สรวงไกวัลชั้นเมืองแมนแดนวิมาน
.....................................................
เนื่องจากครั้งหนึ่งผู้เขียนกลอนนี้
เคยเป็นนายทหารจัดการศึกษา
ทำหน้าที่จัดการฝึกอบรม
ที่โรงเรียนรวมสายวิทยาการ   
กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ
ผู้เขียนได้รู้จัก(แม้ว่าไม่ได้สนิทสนม)
กับผู้ที่เสียชีวิตใน ฮ. ตก แต่เกือบทั้งหมด
ทุกคนที่เสียชีวิต(ทอ.) ด้วยเคยตรวจทาน
รายชื่อผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ
จึงได้เขียนกลอนไว้อาลัย.......
...............................................