23 กรกฎาคม 2545 15:29 น.

บทลงโทษ...ด้วยความรัก

Cartoon

>วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น 
>ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม
>ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ 
>แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ
>เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง แอนดี้ก็ก้มหน้างุดและทำท่ากระสับกระส่าย 
>เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิด
>แม้จากระยะไกล ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ
>และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองพ่อตาโตด้วยความหวาดหวั่น 
รอคอยที่จะถูกทำโทษ
>พ่อหยิบหนังสือขึ้นมามอง แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ
>หนังสือทุกเล่มมีความหมายต่อพ่อมาก หนังสือคือความรู้ 
>และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือสะสมราคาแพง
>แต่ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นพ่อที่รักลูกมาก 
>สิ่งที่พ่อทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นยอดเยี่ยมมาก
>แทนที่ท่านจะลงโทษหรือดุแอนดี้ หรือแม้แต่ตำหนิความซุกซน พ่อกลับนั่งลง 
>หยิบปากกาในมือแอนดี้ขึ้นมาถือไว้
>แล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงในหน้าหนังสือสะสมราคาแพงนั่นเสียเอง 
>พ่อเขียนที่ข้างๆ ลายเส้นที่แอนดี้ขีดว่า
>"ภาษาของแอนดี้ เมื่ออายุสองขวบ 
>ต่อไปนี้ไม่ว่าครั้งไหนที่พ่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเปิด
>พ่อก็จะเห็นใบหน้าน้อยๆ ที่น่ารักและดวงตาที่สดใสของลูก
>และจะขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเด็กน้อยคนนี้มาให้ขีดเขียนบนหนังสือแสนหวงของพ่อ
>ลูกทำให้หนังสือเล่มนี้ของพ่อมีความหมาย เหมือนกับที่พี่ๆ 
>ของลูกนำความหมายมาสู่ชีวิตของพ่อเหมือนกัน"
>"ว้าว..." ฉันคิด นี่หรือคือการลงโทษของพ่อ?
>นานๆ ครั้งฉันก็จะหยิบหนังสือที่สะสมไว้มาให้ลูกหลานของฉันขีดเขียนเล่น
>ทุกครั้งที่มองดูลายมือหยุกหยิกเหล่านั้น 
ฉันก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อทำในวันนั้น
>พ่อได้สอนให้ฉันรู้ว่า 'อะไรกันแน่ที่มีค่าต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง'
>ซึ่งนั่นก็คือ 'คนที่เรารัก ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ'
>ลองมองย้อนดูตัวคุณเองนะคะ ในแต่ละวันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อยู่เสมอ
>เช่นคุณนั่งกินข้าวกับภรรยาอยู่ที่ร้านอาหาร เธอหวังดีอยากจะเทซอสให้คุณ
>แต่มันกลับหกไปเลอะเสื้อตัวเก่งของคุณ 
>และคุณก็ทำสีหน้าที่ตำหนิเธอและคำพูดที่บอกว่า
>"เดี๋ยวผมเทเองก็ได้" นอกจากคำขอโทษที่เธอพร่ำบอก น้ำตาใสๆ 
>ก็เริ่มเอ่อขึ้นในใจเช่นเดียวกัน
>เพราะอาหารมื้อนั้นไม่มีรสชาติสำหรับเธอเสียแล้ว แต่ถ้าคุณบอกกับเธอว่า
>"ถ้าซักไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอก เมื่อผมหยิบเสื้อขึ้นมาใช้ครั้งใด 
>ผมจะหวนนึกถึงร้านอาหารนี้
>ทุกครั้งไปที่ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับคุณ 
>และได้คิดถึงทุกครั้งว่าภรรยารักและเอาใจใส่ผมมากเท่าใด
>อยากปรนนิบัติเอาใจ (จนเทซอสหกใส่ผม) แต่ว่าคราวหน้าออกมาทานข้าว
>ผมจะเป็นคนเทซอสให้คุณมั้งล่ะ (ทีนี้ตาผมมั่ง)"
>รอยยิ้มจากหัวใจของเธอได้เริ่มโบยบินแล้ว 
>แค่นี้คุณก็ลงโทษเธอให้ระวังมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
>สิ่งที่มีค่าต่อชีวิตคนเรานั้นไม่ใช่ นาฬิกาเรือนละแสน 
หรือเนคไทเส้นละหลายๆ 
>พัน
>แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่คุณรู้ว่ามีใครคนหนึ่งเฝ้ารัก 
>เฝ้าถนอมความรู้สึกคุณอยู่ตลอดเวลาต่างหาก
>...แล้วคุณละคะ เคยลงโทษใครด้วยความรักหรือเปล่า				
12 กรกฎาคม 2545 11:09 น.

นิยายและนิทาน ตำนานแห่งความรัก

Cartoon

ตอนเราเป็นเด็กเล็กๆ นิทานหรือเทพนิยายต่างๆ ซึ่งสนองจินตนาการในวัยเด็ก ประเภทเจ้าชายและเจ้าหญิง มีแม่มด มีตัวร้าย มีพรัดพรากจากกัน แต่ทั้งสองก็ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เหล่านั้นมาได้ แล้วในที่สุดทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิง ก็ได้ครองรักกันตราบชั่วนิจนิรันดร์... เป็นประโยคคำพูดที่ หล่อหลอมสร้างภาพของความรัก ที่สุขสม ที่จบอย่าง happy ending 

หลายคนเลย 'ฝังหัว' ว่าความรัก ต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน รุ่นแม่ก็ยายเล่ามาอย่างนี้ ตอนเราเป็นเด็กๆ ก็อ่านหนังสือนิทานมาแบบนี้ แถมลูกๆ ของเราก็ได้ดูวิดีโอ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า... เทคโนโลยีเปลี่ยนไป แต่เนื้อเรื่องเหมือนเดิม... สโนว์ไวท์เอย ซินเดอเรลล่าเอย เจ้าหญิงนิทราก็เหมือนกัน แล้วยังมีนางงามกับเจ้าชายอสูรอีก ไม่ต่างจาก บ้านทรายทองของไทยเท่าไหร่ และอีกหลายต่อหลายเรื่อง ที่กรูกันมาทั้ง ช่อง 3 ช่อง 7 

พาลทำให้หญิงสาวทั้งหลาย บังเกิดความเชื่อว่า ฟ้าต้องส่ง 'พ่อเทพบุตรสุดหล่อ' ผู้เป็นหนึ่งเดียวสำหรับตัวฉัน เพื่อเป็นของกันและกันในวันข้างหน้า คำถามอมตะของสาวๆ ที่ชอบถามหมอดูมักไม่พ้น... 'เมื่อไหร่จะเจอเนื้อคู่สักที' ...คำตอบมักสร้างความหวัง ให้ฝ่ายหญิงจินตนาการบรรเจิดจ้า จนกว่าจะเจอของจริง ได้ดีก็ดีไป แต่บางรายนึกว่า ซาตานกลับชาติลงมาเกิด 

'ความวัวยังไม่หาย ความควายเข้ามาแทรก' ...ขณะที่เรายังฝันหวาน ถึงนิทานรักอันสวยหรู ที่เรียนรู้ในวัยเด็ก นิยายรักของหนุ่มสาว ยังซ้ำเติมให้เห็นถึงพลานุภาพแห่งความรัก 

ความรักเป็นอารมณ์ที่รุนแรง... นวนิยายอมตะหลายเรื่อง กระแทกความรู้สึกของความไม่สมหวัง ก่อเกิดตำนานรักอันเป็นโศกนาฎกรรม มาแล้วหลายเรื่อง 

ตัวการเห็นจะเป็น วิลเลียม เช็คสเปียร์ ที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักเขา และเธอทั้งสอง... 'โรมิโอกับจูเลียต' การจากไปของชายในดวงใจ สร้างความอาลัยอาดูร แก่ฝ่ายหญิง อัตวินิบาตกรรม เพื่อบูชาความรักวาดหวัง ถึงการครองคู่ในภพหน้า  ...เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศอิตาลี  แต่ระบาดรู้กันไปทั่วโลก 

ใช่แต่เพียงเท่านั้น เมื่อต้นศตวรรษที่แล้ว แจ็คโคโม พุชชินี (Giacomo Puccini) คีตกวีชาวอิตาเลียนใฝ่ฝันไว้ว่า วันหนึ่งข้างหน้า จะต้องประพันธ์ละครร้อง ที่สะเทือนใจคนทั้งโลกให้ได้ ผลที่ได้คือ งานโอเปร่าอมตะนิรันดร์กาล เรื่อง 'มาดามบัตเตอร์ฟลาย' ก็สร้างตำนานรักของสาวญี่ปุ่น นามโจโจ้ซัง เธอพลีชีพสังเวยรัก สำหรับการเปลี่ยนใจ ของผู้พันพิงเกอร์ตัน ผู้มีรักใหม่ตอนกลับบ้านเก่า 

หลังจากโจโจ้ซังเสียชีวิต ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาไม่นาน เธอกลับชาติมาเกิดเป็นสาวไทย อยู่เชียงใหม่ ชื่อ 'สาวเครือฟ้า' ประวัติศาสตร์รอย เลยต้องมาเสียใจอีกรอบ เพราะนายร้อยจากเมืองกรุง เธอเลือกที่จะเสียชีวิตอีกรอบ ด้วยวิธีการเดิมๆ 

แต่เหมือนไม่รู้หลาบจำ ชาติต่อมาเธอได้สร้างตำนาน 'มิสไซ่ง่อน' ละครเวทีที่เล่นต่อเนื่องทุกคืน ที่ลอนดอน มานานกว่าสิบปีที่แล้ว คราวนี้เป็นเรื่องของสาวเวียดนาม ที่ต้องมาเสียรู้ทหารอเมริกันสุดหล่อ เนื้อเรื่องชีวิตเหมือนเดิม... สามีขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับประเทศบ้านเกิด  เธอตามไปไม่ทัน ต้องเลี้ยงลูกชายน้อยๆ ที่พระเอกไข่ทิ้งไว้ เธอหนีตายจากไซ่ง่อน มาหากินในกรุงเทพฯ พอรู้ว่าสามีเปลี่ยนภรรยาใหม่ ทำใจไม่ได้อีกแล้ว... ยิงตัวตายตอนจบ ...ถ้าใช้มีด เดี๋ยวคนดูหาว่าไม่รู้จักพัฒนา 

ผมเข้าใจว่า ตอนนี้สามีของเธอ ถูกส่งไปรบที่อัฟกานิสถาน... 

นิทานที่สุขสมหวังอย่างสวยหรูประทับใจ กับนิยายรักผิดหวัง จนนำไปสู่การตาย ก่อนเวลาอันควร อันน่าสะเทือนใจ คือความแตกต่างที่สุดขั้ว ของความรู้สึกแต่ละด้าน 

ทั้งคนอ่าน คนดูได้รับรู้เรื่องราวทั้งสอง ด้วยความซาบซึ้งกินใจไปกับ บทประพันธ์ทั้งหลาย ก็ต้องตั้งสติรู้ตัวว่า ไอ้ที่เขาแต่งมาให้อ่านให้ดูนี่นะ... ชีวิตจริงไม่จำเป็นต้องเหมือน อย่างนี้หมดหรอก ถ้าได้แต่งงานแล้ว ความรักก็ไม่หวือหวาน เหมือนตอนเป็นแฟนกัน ทั้งฝันหวาน ฝันร้าย แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน ชีวิตคู่อยู่เสมอ 

หรือหากต้องผิดหวังกับความรัก ไม่ต้องฆ่าตัวตายหรอก... อย่าไปละเมอว่าตัวเองเป็นนางเอก ที่ต้องรักปักใจกับชายเดียว ที่ทิ้งเราไป ชีวิตจริงหาพระเอกใหม่ได้... และพระเอกของเราก็ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ มีดีมีร้ายบ้าง เพราะเป็นมนุษย์ปุถุชน ไม่ใช่เจ้าชายหรือเทพบุตรที่ไหน ...เราเองก็ไม่ใช่เจ้าหญิง 

คู่ของโรมิโอกับจูเลียยังไม่จบ ...ผมขอเล่าต่อ 

เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งคู่ได้กลับชาติมาเกิดพร้อมกัน อยู่แถวๆ บางกะปิ สร้างตำนาน 'แผลเก่า' ...สองครอบครัวไม่ถูกกันอีกแล้ว เข้าใจว่าเป็นโคตรตระกูลเดิม กลับชาติมาเกิดพร้อมกันหมด พลอยเดือดร้อน ทำให้ความรักของหนุ่มสาวมีอุปสรรค... พอไอ้ขวัญสิ้นชีพ อีเรียมก็ตายตาม 

ตอนจบของเรื่อง 'ขวัญ-เรียม' ฉบับล่าสุด ทั้งสองคนกลับชาติมาเกิดอีกแล้ว หวังว่าภพนี้คงได้สมหวังซะที				
12 กรกฎาคม 2545 11:01 น.

เทอไม่ใช่สิ่งเหม็นคาว แต่คือลูกสาวที่พ่อแม่รัก

Cartoon

เธอไม่ใช่สิ่งเหม็นคาว แต่คือลูกสาวที่พ่อแม่รัก 
              ความห่วงใยต่อลูกสาว ทำให้เกิดคำกล่าวแบบไทยโบราณว่า 'มีลูกสาวก็เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน'  ซึ่งเป็นคำพูดที่น่าเกลียดที่สุด เพราะทำให้เกิดความรู้สึกทางลบ ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ หรือความรู้สึกตระหนักในคุณค่าแห่งตน 
              ไม่รู้ว่าทำไมต้องเอาลูกสาว ไปเปรียบกับของเน่าเหม็นที่อยู่หน้าบ้าน เหมือนสิ่งเสียหายน่าอับอาย ทั้งๆ ที่ตอนนี้ เขามี 'โครงการหน้าบ้าน น่ามอง' กันแล้ว 
              สังคมไทย รวมทั้งหลายประเทศในเอเชีย ยกย่องให้คุณค่าแก่ เพศชายหรือลูกชายเกินเหตุ และลดคุณค่าของเพศหญิงจนต้อยต่ำ 
              แท้ที่จริงแล้วลูกสาว เป็นคนที่พ่อแม่ อยากทะนุถนอมอย่างที่สุด... ไม่มีข้อกำหนดและไม่มีใคร บังคับให้ต้องทำเช่นนั้น จิตอันอุดมด้วยความรัก บอกใจให้รับผิดชอบในหน้าที่ 
              ลูกสาวคือคนที่พ่อแม่หวงแหน... หากลูกสาวถูกทำร้ายจิตใจ พ่อแม่ก็ถูกย่ำยีไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน 
              ลูกสาวคือ คนที่พ่อแม่ฝากความหวังไว้อย่างสุดชีวิต... ความสำเร็จของลูก ก็เป็นความภูมิใจของพ่อแม่ หากลูกทุกข์ทรมาน พ่อแม่ก็ร้าวรานใจมิต่างกัน 
              การมีลูกสาว ทำให้ชีวิตผู้ชายหลายคน เป็นคนดีมากขึ้น... ซึ่งพัฒนามาจากการเป็น 'คุณพ่อที่ดี' ก่อน คุณพ่อทั้งหลาย มักให้เกียรติเพศหญิงมากขึ้น เพราะอยากให้ใครๆ เคารพในเกียรติ และศักดิ์ศรีของลูกสาว คุณพ่อต้องไม่ดูหมิ่นเพศหญิง หากไม่ต้องการให้คนอื่นดูหมิ่นลูกสาวที่คุณพ่อรัก 
              พ่อแม่อยากมอบความรักให้ลูกอย่างเต็มที่... โดยไม่ให้ลูกต้องรู้สึกขาดแคลน พ่อและแม่กังวลว่า ลูกอาจโหยหาความรักจากผู้อื่น... ถ้าได้รับความรักจากพ่อแม่ไม่เพียงพอ 
              พ่อแม่ทั้งหลายพยายามขวนขวาย ให้ลูกอยู่โรงเรียนที่ดีที่สุด มีชีวิตอยู่ในบรรยากาศสิ่งแวดล้อมที่ดี คบเพื่อนที่ดี เลือกคนที่ดีเป็นคนรัก 
              เมื่อลูกเข้าสู่วัยสาว และเริ่มสนใจเพศตรงข้าม ผมบอกเขาว่า "คนส่วนมากที่เรารู้จักกัน ส่วนหนึ่ง เราสามารถคบเป็นเพื่อนสนิทได้ และมีเพียงไม่กี่คน ที่เราอาจชอบและรู้สึกกับเขาในฐานะเป็นแฟน แต่เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เราเลือกเป็นคู่ชีวิต" 
              การคบคนหรือความใกล้ชิดกับใคร นิสัยใจคอ และพฤติกรรมของผู้ที่เราให้ความสนิทสนม มีผลต่อชีวิต เราอย่างยิ่ง... 
             เพราะมนุษย์มีลักษณะนิสัย ที่แตกต่างกันมากมายหลายจริต บางจริต ทำให้คนอยู่ใกล้เป็นทุกข์ และเดือดร้อนได้ง่ายๆ เช่นพวกโทสะจริต...ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย ชอบมองคนอื่นในแง่ร้าย ขืนคบเป็น เพื่อนมีหวังเสียสุขภาพจิตได้ง่าย เพราะพวกนี้มักเต็มไปด้วยคำพูดเชิงลบ ถ้อยคำเชือดเฉือน น้ำเสียงกระชากวิญญาณ... เป็นพวก 'วจีพิฆาต' มักใช้วาจาเป็นอาวุธ ถ้าคำพูดเขา ไม่ทำร้ายเราให้เจ็บปวด ก็อาจทำร้ายคนอื่น ด้วยการให้ร้ายใส่ความนินทา ให้เราได้ยิน ถ้าเราเป็นคนหูเบา ก็อาจถูกครอบงำ เชื่อตาม... จนกลายเป็นคนมองส่วนดีผู้อื่นไม่เป็น 
             นอกเหนือจากมโนกรรม (มองโลกทางลบ) วจีกรรม (พูดจาทางลบ) ก็อาจถึงขั้นกายกรรม ทำร้ายร่างกายให้บาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต... เราอาจกลายเป็นเหยื่อของกายกรรมนั้น ถ้าไม่ใช่ฐานะโจทก์ ก็อาจเป็นพยาน หรือแม้แต่จำเลยที่ 2 ในฐานะเพื่อนสนิท และอยู่ในเหตุการณ์... จึงมีคำสอนว่า 'คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบพวกโทสะจริต ความผิดจะอยู่ชิดกับตัวเรา'... ประโยคสุดท้ายผมว่าเอง 
             บางคนเป็นพวกวิตกจริต... ขี้กังวล ฟุ้งซ่าน คิดมากเกินเหตุ เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เอามาคิดจนเป็นเรื่อง คิดแล้วใจเป็นทุกข์ พลอยทำให้เพื่อนสนิทเป็นทุกข์ไปด้วย เหลือเวลา คิดสร้างสรรค์น้อยลง เพราะภาวะอ่อนกำลังของศักยภาพทางสมอง 
             คนสองพวกที่กล่าวมา ถ้าห่างๆ ไว้ได้ก็ดี แต่ถ้าเคยทำบุญร่วมกันมาในอดีตชาติแล้วกลายเป็นเพื่อนสนิทในชาติปัจจุบัน ก็ถือเป็น โอกาสอันดี ที่คุณจะได้ 'สร้างกุศล' ในการรับฟัง และถ่ายทอดวิธีคิดทางบวก (Positive thinking) ให้เขาได้เกิดการพัฒนาตนเอง ชีวิตเขาจะดีขึ้นเพราะคุณ... ถ้าชีวิตคุณไม่แย่ลงก่อนเพราะเขา 
              เราทุกคนควรเลือกคบคน ที่มีพุทธิจริต จิตใจงดงาม พูดแต่สิ่งที่ดี และเป็นผู้ให้มากกว่าคิดเรื่องอยากได้ เขาเหล่านั้นจะไม่คิด ไม่มีคำพูดหรือ การกระทำใดๆ ที่จะก่อเกิดทุกข์ในใจเรา การอยู่ใกล้คนดี ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ผู้หญิงที่มีแฟนดีหรือสามีที่ดี จะสัมผัสความสุขทุกวันคืน 
              คำกล่าวต่างๆ ข้างต้น เป็นสิ่งที่ผมขอพูดเขียนแทนพ่อแม่ทุกคน ที่มีความรักและห่วงใยลูกสาว 
             และ 'ข้อแลกเปลี่ยน' ที่พ่อแม่ ต้องการจากลูกคือ อยากให้ลูกสาวทุกคน มุมานะดำเนินชีวิตในทางที่ดีขึ้น และรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีที่สุด โดยไม่เอาตัวเอง เข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยง 
             เพราะความหมายของ 'ลูกสาว' คือ ผู้หญิงที่คุณพ่อคุณแม่รักมากที่สุดในโลก				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟCartoon
Lovings  Cartoon เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟCartoon
Lovings  Cartoon เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟCartoon
Lovings  Cartoon เลิฟ 0 คน
  Cartoon
ไม่มีข้อความส่งถึงCartoon