22 กุมภาพันธ์ 2548 19:16 น.

มิตรภาพที่ถูกทำลาย

KimBerrY

เพื่อนคนหนึ่งคบกันมาสมัยเรียนประถมด้วยกัน ไม่ได้สนิทมากหรอก 
แล้วเธอกับฉันก็ได้เข้าเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนเดียวกัน
เพราะบ้านเราอยู่ใกล้กันและใกล้กับโรงเรียน เราจึงเลือกการเดินทางด้วยเท้าไปโรงเรียนทุกวัน
เธอกับฉันไปโรงเรียนด้วยกันได้เดือนหนึ่ง เธอก็มีเพื่อนคนหนึ่งมาเดินไปโรงเรียนด้วย
ฉันไม่ว่าอะไร มีเพื่อนหลายคนเดินไปด้วยกันก็สนุกดี
เราเดินไปโรงเรียนด้วยกันได้หนึ่งเทอม ขึ้นเทอมใหม่ เธอเปลี่ยนไป
แรกๆ เธอไปโรงเรียนเช้าขึ้น ฉันไม่ว่า ฉันก็ยอมไปโรงเรียนเช้าขึ้น
ต่อมา เธอไปโรงเรียนเช้าขึ้นกว่าเดิม เธอมารอฉันยังไม่ 6 โมงครึ่งดีเลย โรงเรียนก็อยู่แค่นี้ เดินแค่ไม่ถึง 20 นาที จะรีบไปทำไมนะ
ต่อมา ฉันเลยบอกให้เธอไปโรงเรียนก่อน ไม่ต้องรอฉันก็ได้ ถ้ารีบร้อน เธอกับฉันก็ตกลงกันตามนั้น

เหตุการณ์พลิกผัน กลายเป็นว่าจากวันนั้นจนวันนี้ เธอกับฉันก็ไม่คุยกันอีกเลย
สาเหตุ....ไม่รู้ ไม่อาจคาดเดาได้ หรือเพราะวันนั้นที่ฉันไม่ยอมไปโรงเรียนพร้อมกับเธอ และฉันบอกให้เธอไปก่อนถ้าเธอรีบร้อน
หรือว่า...อะไร ไม่รู้ งง

ถึงแม้เราสองคนจะเจอหน้ากันอยู่ก็ตาม แต่ทำไมต้องทำเป็นหมางเมินกันด้วย ทั้งๆ ที่รู้จักกัน 
ตอนนัดเจอเพื่อนสมัยประถม เธอเห็นฉันแล้วนะ ไม่ทักไม่ทาย แถมยังทำเป็นเหมือนไม่สนใจ 
เธออยู่ห่างจากฉันแค่เพื่อนของเราคนหนึ่งเท่านั้น เพื่อนที่ไม่รู้ว่าเราสองคนโกรธอะไรกันด้วย

ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเธอโกรธอะไรฉัน หรือว่า เธอคิดว่าฉันหยิ่ง
ฉันก็หยิ่งจริงๆ นั่นแหละ หยิ่งที่ไม่ยอมพูดกับเธอให้รู้เรื่องเอง ว่าเธอเป็นอะไร โกรธเกลียดอะไรฉัน
หยิ่งที่สามารถหาเพื่อนเดินกลับบ้านด้วยกันได้ (แบบไม่ง้อเธอ) และเดินไปโรงเรียนคนเดียวก็ได้ (โดยไม่ง้อเหมือนกัน)

ในเมื่อเธอไม่เหลือเยื่อใยความเป็นเพื่อนให้และฉันจะมีไว้ให้เธอทำไมกัน...ฉันขอถาม
เธอและฉันร่วมกันทำลายสายใยที่ผูกพันกัน
เราสองคนจะกลับคืนเป็นดั่งเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม ฉันไม่รู้
ที่ฉันอยากรู้เพียงอย่างเดียวคือ เธอหมางเมินฉันไปทำไม ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ช่วยอธิบายให้ที
ถ้าเธอต้องการให้เราเป็นอย่างนี้ต่อไป ฉันก็ไม่ว่าอะไร ฉันรับได้

คนเราก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ				
12 มกราคม 2548 11:41 น.

"งาน" กับ "ต้นไม้"

KimBerrY


                                   งาน
                              งานงานงาน
                       งานงานงานงานงาน
                 งานงานงานงานงานงานงาน
                 งานงานงานงานงานงานงาน
                 งานงานงานงานงานงานงาน
                                   งาน
                                   งาน
                                   งาน
                                   งาน
                                   งาน
                                   งาน
                             งาน     งาน
                       งาน      งาน     งาน


คุณคิดว่า "งาน" เหมือน "ต้นไม้" ไหม

คุณคิดว่า คุณจะต้องใส่ใจดูแลมัน มันถึงจะงดงามใช่ไหม

คุณคิดว่า คุณจะต้องรับผิดชอบกับมัน เพื่อผลตอบแทนที่ดีใช่ไหม

คุณคิดว่า คุณจะต้องแบกรับภาระมัน เพราะมันเป็นผลที่สะท้อนถึงตัวเราใช่ไหม

คุณคิดว่า คุณจะต้องเก็บเกี่ยวมันไว้ เพื่อประโยชน์ของตัวเราใช่ไหม

คุณคิดว่า คุณจะต้องใส่อาหารให้มัน ด้วยความรู้ สติปัญญา และอารมณ์ของตัวเราใช่ไหม

คุณคิดว่า คุณจะต้องหวังพึ่งมัน เพียงเพื่ออนาคตของตัวเองใช่ไหม

แล้ว คุณคิดว่า "งาน" เหมือน "ต้นไม้" ไหม				
20 ธันวาคม 2547 12:37 น.

อ้อมกอดอบอุ่น

KimBerrY

คำบางคำ จากคนบางคน ไม่อาจจะบอกเรื่องราว
คำบางคำ แค่เอ่ยเบาๆ ก็ยังว่ายากเกินไป
ใจบางใจ เก็บคำเป็นพัน ที่อยากจะสื่อถึงใจ
ก็คงต้องใช้ เวลามากมาย เอ่ยคำเป็นพันที่มี

ไม่รู้ว่าเธอรู้ไหม หัวใจของฉันในตอนนี้
ล้านคำดีๆ ไม่จำเป็นต้องมี เพียงแค่เธออยู่ตรงนี้

และเมื่อเธอกอดฉัน ไม่ต้องบอกว่ารัก ก็รู้ได้ทันที
หัวใจรู้สึก ถึงอะไรดีๆ เมื่อใจได้ใกล้ใจ
และเมื่อเธอกอดฉัน ก็ไม่มีคำไหน ให้ฉันต้องบรรยาย
แล้วเธอว่าไง แล้วเธอรู้สึกไหม เมื่อฉันกอดเธอ



มันคงเป็นอ้อมกอดแสนอบอุ่นของเธอ

ที่ทำให้ฉันหลับอย่างมีความสุข

แม้กระทั่งตอนนี้ ฉันยังรู้สึกถึงมันได้

เมื่อยามลืมตาตื่นรับเช้าอันสดใส

ฉันสังเกตเห็นว่าข้างข้างฉันยังเป็นเธอ

เธอ...คนที่ให้อ้อมกอดฉัน

เธอ...คนที่เมื่อคืนปลอบประโลมฉัน

เธอ...คนที่เป็นกำลังใจให้ฉัน

เมื่อคืน...ฉันกลับมาบ้านฟูมฟายเสียยกใหญ่

ฉันที่เพิ่งสูญเสียคนที่ฉันรักที่สุดไป

ฉัน...คนนี้ที่ไม่สามารถฉุดรั้งร่างเขาไว้

ทำไม "พ่อ" ต้องจากฉันไป

ฉันเป็นหมอ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตพ่อไว้ได้

ฉันเอาแต่โทษตัวเอง

และเป็นเขาที่นั่งอยู่ข้างข้าง คอยบีบมือถ่ายทอดกำลังใจและทุกทุกอย่างมาให้ฉัน

เขาปล่อยให้ฉันร้องไห้

เขาพูดแต่เพียงว่า มันไม่ใช่ความผิดฉันเลย

น้ำตาของฉันไหลหลั่งลงเปื้อนสองข้างแก้ม

เขาใช้มือของเขาค่อยค่อยปาดน้ำตาบนใบหน้าฉันออกไป

แล้วเขาก็ให้ฉันซบบ่ากว้างและกอดปลอบประโลมฉันไว้

ฉันสะอื้นไห้อย่างนั้น และไม่รู้ตัวเลยว่าหลับไปเมื่อใด

ฉันรู้แต่เพียงว่า ฉันรู้สึกอบอุ่นดีจัง

อ้อมกอดเขานั่นเอง

วันนี้ฉันจึงดูสดใสขึ้น...แม้ใจจะมัวหมองกับเรื่องที่ผ่านเข้ามา

แต่ฉันจะกลับไปทำหน้าที่ของฉันดังเดิม

หน้าที่ของลูกเป็นครั้งสุดท้าย

พร้อมกับ "ผู้ให้อ้อมกอด" อันแสนอบอุ่นแก่ฉันเมื่อคืน				
17 ธันวาคม 2547 11:35 น.

คนแปลกหน้า

KimBerrY

"คุณเคยตื่นมาตอนเช้าวันนึงแล้วรู้สึกว่าคุณกำลังใช้ชีวิตอยู่กับคนแปลกหน้าหรือเปล่า"
จาก เรื่องสั้น "คนแปลกหน้า : ปรัชญาที่สวนสาธารณะ" หนังสือ "อาเพศกำสรวล" ของวินทร์ เลียววาริณ

ทัศนคติข้างต้นดูแปลกยิ่งนัก........
แต่ละวันที่คุณตื่นขึ้นมา คุณพบเห็นใครบ้าง
พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย หรือ
คนแปลกหน้า
การได้พบคนแปลกหน้าซักคน ดูเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่อยู่บนความสมบูรณ์พร้อม คนที่พบเจอแต่ความคุ้นเคยคุ้นตาชินใจ
 
จริงๆ ในโลกนี้ ไม่มีคำว่า "แปลกหน้า" สำหรับมนุษย์เรา
ที่มัน "แปลกหน้า" เพราะเราไปกำหนดเอาเองว่า "คนนี้เรารู้จัก สิ่งนี้เราคุ้นตา"
มันไม่มีหรอก "คนแปลกหน้า" ถ้าเรากำหนดว่า "เขาหรือเธอคนนั้นก็เป็นเพื่อนเรา"
แม้ว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นคนที่เราไม่รู้จักมักจี่กันเลยก็ตาม
 
บนความไม่แน่นอนในโลกใบนี้ ทุกคนต้องพบเจอกับคนแปลกหน้าอยู่เสมอ
เมื่อเราไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ก็ต้องเจอผู้คนที่ไม่คุ้นตาหรือที่เราเรียกกันว่า "คนแปลกหน้า"
ยากอธิบายว่า คนแปลกหน้าจะเข้ามาพัวพันกับชีวิตเราได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่ได้เปิดใจรับพวกเขาเข้ามา
ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดใจรับเข้ามา เพียงแค่คุณไปอยู่ในสถานที่หนึ่ง เวลาหนึ่ง พบเจอคนประเภทต่างๆ พวกเขาก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับคุณ
และนั่นหมายถึงว่า คุณได้ใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาแล้ว โดยที่คุณไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว
 
วันวันหนึ่ง ถ้าคุณอยู่บนความคุ้นเคย ความรู้จัก คุณจะไม่ได้พบเห็นอีกโลกหนึ่ง
โลกแห่งความเป็นจริง
 
ถ้าคุณตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองเป็นอีกคนหนึ่ง
นั่นแสดงว่า คุณพบคนแปลกหน้าในตัวคุณเข้าไปแล้ว
ถ้าคุณพบว่าคนสนิทรู้จักมักคุ้นกับคุณ มองคุณด้วยสายตาแปลกไป แบบคนไม่รู้จัก 
นั่นแสดงว่า คุณกลายเป็นคนแปลกหน้าของคนคุ้นเคยของคุณไปแล้ว
อย่าท้อแท้ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเอง 
เพราะมันแสดงให้เห็นว่า คนอื่นแม้ว่าเขาจะสนิทสนมกับคุณไม่รู้จักมักคุ้นกับคุณอย่างแท้จริง
คุณยังมีอีกโลกหนึ่งที่คนที่คุณสนิทสนมมองไม่เห็น
ดังนั้นจงมองตัวเองในมุมกว้าง มองว่าเราเป็นเช่นไร 
อีกทางหนึ่ง คุณจงมองคนรอบข้าง คนที่คุณเห็นเป็นคนแปลกหน้าด้วย
การมองคนรอบข้างจะทำให้เราเห็นโลกกว้างกว่านี้ เห็นโลกอีกแง่มุมหนึ่ง เรียนรู้ชีวิตอีกแง่มุมหนึ่ง
อย่างน้อย โลกของคนแปลกหน้า ที่เราเข้าไปพัวพันอยู่กับเขา จะช่วยให้เราได้ความหมายอะไรที่แปลกไปก็เป็นได้
 
จงอย่าปิดกั้น ถ้าเราต้องพบกับ "คนแปลกหน้า"				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟKimBerrY
Lovings  KimBerrY เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟKimBerrY
Lovings  KimBerrY เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟKimBerrY
Lovings  KimBerrY เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงKimBerrY