7 มีนาคม 2557 03:57 น.

Standard Model

กวีวิเวก

อันเรื่องควาร์กมีสามเรียกแบรีออน

ส่วนเมซอนคู่ควาร์กสีต่อต้านสี

อันตัวเดียวเช่นอิเล็คตรอนนั้นก็มี

ชื่อเรียกดีว่าเล็ปตรอนควรรู้ทัน

 

ควาร์กตัวน้อยมีด้วยกันหกรสชาติ

อัพดาวดาดมากมายก่อสรรพสิ่ง

สเตนชามโตกว่าอยู่ก็จริง

แต่ใหญ่ยิ่งคือคู่ท็อปและบอททอม

 

เล็ปตรอนก็มีกันสามพี่น้อง

อันแรกต้องอิเล็คตรอนคงเคยคุ้น

มิวเป็นรองต่อจากเทาเรียงตามรุ่น

แปปเป็นจุนถ้าใหญ่รองเกิดขึ้นมา

 

เก้าตัวเรียกกลุ่มของเฟอร์มีออน

ส่วนโบซอนมีไว้ส่งแรงหนา

โฟตอนหนึ่งรับแม่เหล็กไฟฟ้ามา

กลูออนพานิวเครียร์แบบเข้มพลัน

 

แซดดับบิวรองรับแรงแแบบอ่อน

ที่เกิดตอนเบต้าสูญสลาย

ส่วนอีกตัวคือฮิกนั้นชอบหาย

และสุดท้ายกราวิตรอนโน้มถ่วงเอย

7 มีนาคม 2557 03:55 น.

เหนื่อย!!!

กวีวิเวก

เหนื่อยกับ รักเวลาและบุคคล

ชีวิต ตนเจ็บปวดใครเล่าเห็น

ที่ต้อง เจออุปสรรคแสนลำเค็ญ

ฝืนทน เป็นเหมือนไม่มีอะไร


คำสอน พรั่มว่าเรื่อยให้เจ้าคิด

ให้เป็น นิจอย่าให้ใครเขาหยาม

คนดี ซื้อบ่ได้ต้องทำตาม

ไร้ค่า ความหมายพูดให้ดูดี
				
7 มีนาคม 2557 03:54 น.

ไร้ค่า อย่างว่าไว้

กวีวิเวก

วิเวกวังเวงว้าวุ่นวิญญา

เรื่องเก่ามาเรื่องใหม่เกิดจนสับสน

เดินเวียนวนอย่างอยู่ในค่ายกล

ใจร้อนรนแต่มิได้เร่งรีบเลย

 

วิชาการเรียนร่ำเก็บในกรุ

มิบรรลุการงานเศร้าหนักหนา

โอกาศสิ้นเสียเวลาเสียน้ำตา

เสียวิญญาเสียสิ้นทั้งตัวตน

 

เชกเช่นหินก้อนใหญ่ประดับไว้

หนักโลกไหมไร้ค่าแม้นคนเห็น

เดินแตะดิ้นก้อนกลิ้งทุกเช้าเย็น

มิได้เป็นสิ่งของใครต้องการ

7 มีนาคม 2557 03:53 น.

มองมนุษย์ เมินสังคม

กวีวิเวก

อันสัตว์ใดในโลกย่อมเวียนว่าย

ต่างพลีกายทอดลงตอนวายสิ้น

มิอาจะคู่ฟ้าคู่แผ่นดิน

จักแดดิ้นสิ้นลมทุกตัวไป

 

เหลือทิ้งไว้แต่ส่วนมิสลาย

ร่างเนื้อกลายเหลือแค่งากับเขา

ยังประโยชน์แก่คุณมนุษย์เรา

ประดับเอาสวยงามตามแต่ใจ

 

มนุษย์นั้นถือตนฉลาดยิ่ง

สรรค์สร้างสิ่งต่างๆเปลี่ยนผันโลก

หรือเพียงแค่เราคิดอุปโลก

มือสร้างโลกแท้ไซร้ตรงข้ามกัน

 

คอยทำลายปากอ้างสิ่งนั้นนี้

ทั้งๆที่ทำลายกันทั้งนั้น

ทุบทิ่มแทงมิไว้เผ่าเดียวกัน

แบ่งชาติพันธุ์ฝักฝ่ายให้วุ่นวาย

 

คุณธรรมกฏเกณฑ์ที่ใช้อ้าง

อันใดบ้างมนุษย์มิตราขึ้น

ความเชื่อถือศรัทธาที่กล่างถึง

ให้คำนึงตรองก่อนไร้เร้นแฝง

 

สิ่งใดได้มาง่ายค่าเห็นยาก

คงลำบากกันอีกหลายชั่วหลาน

หลบหลังป่าอยู่หลังเขาให้สำราญ

ผ่านกลอนกาลแผ่วเบาเล่าให้ฟัง

7 มีนาคม 2557 03:52 น.

คืนเศร้า เช้าสุข

กวีวิเวก

จันทร์] ดับแสงเดือนมืดมิดมัวหมอง

[ที่] ใดมองมิเห็นซึ่งจุดหมาย

[ไร้] แสงนำทั้งใจและทั้งกาย

[เงา] ดำกรายกัดกร่อนกินหนทาง

 

ดู       [ช่าง] แร้งแค้นแสนสุดจะทน

ความ  [หนาว] ปนรวมด้วยสั่นสะท้าน

ใจ     [เหงา] คอยเวลามาช้านาน

ความ  [เศร้า] ผ่านพ้นไปนั้นไม่มี

 

มองหา  [ใคร] เจอะแต่ตัวตนเรา

มิอาจ    [เล่า] ระบายอย่างหมายได้

แมงเม่า [เข้า] กองไฟพากันตาย

มิใส่     [ใจ]  หันฟังข้าบ้างเลย

 

ที่เขาเคย      [ว่า] ไว้ไร้ประโยชน์

จะไปโกรธ     [เจ็บ] ปวดแสดงไหน

ที่เคยช่วย     [แค่] นั้นคุณอะไร

ไม่ยิ่งใหญ่    [ไหน] แคร์มาแลตน

 

พลางคิดต่อด้วย [เหตุ] อันเป็นผล

สิ่งที่ดลสิ่ง       [ใด] ทำเราเศร้า

ตัวคิดเองว่า     [ต้อง] โดดเดี่ยวเหงา

ช่างโง่เขลานั่ง [กลุ้ม] อยู่เดียวดาย

 

เห็นแสงส้มสาดส่อง [หรือ] ว่าเช้า

ค่ำคืนยาวพาให้      [แค่] หวนถึง

บ่นรำพันหมกมุ่น     [คิด] คำนึง

อายุพึ่งแรกแย้ม      [เอง] นะเรา

 

สติเกิดดั่งโบราณท่าน [ว่า] ไว้

จะทุกข์ใดเพียงแค่เรา [ไม่] สน

ปล่อยวางออกให้ว่าง ไม่[มี] จน

หนทางคนแก้ออก พบ [สุข] พลัน

 

จากนี้ไปอย่าได้คอยแต่     [ขอ]

อย่ารีรออยากได้จงทำ      [เถิด]

ในบางครั้งอาจพาสู่ทาง     [เปิด]

ให้กำเนิดเส้นทางดั่งตาม   [ใจ]

Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีวิเวก
Lovings  กวีวิเวก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีวิเวก
Lovings  กวีวิเวก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีวิเวก
Lovings  กวีวิเวก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีวิเวก