2 กุมภาพันธ์ 2551 23:52 น.

กลไก การดับสลาย

ณ.คลองฉวาง

1   สัญญานก่อนดับสูญ
                      แว่วเสียงเคียดแค้นเข่นฆ่า
                  ลอยมาตามกระแสลม
                  เห็นความเจ็บร้าวขื่นขม
                  ระทมไปทั่วโลกา
                   เวทนามากมายกำเนิด
                   เกิดก่อที่ไม่เคยเห็น
                   ทุกทนที่ไม่มีไม่เป็น
                   กลับเห็นๆได้ชัดเจน
                  วิวัฒนาการเข่นฆ่า
                   บุคคลนำพาเพื่อกาลนี้
                  คุณความรู้มากมายที่มี
                  เพื่อการย่ำยีประชากร
                  นทีปฐพีแปรปรวน
                  ชักชวนหวันไหวหนาวสะท้าน
                  อัคคีเกิดขึ้นทั่วกัน
                  มินานคงเริ่มกลไก
2  เริ่มต้นกลไก

                    วิถีชีวีเริ่มจะสูญสิ้น
                  แผ่นดินรุมเร้าดังไฟ
                  ร้อนรนดังเหมือนมีใคร
                  ทำให้รางกายพุพอง
                  ความกลัวปกคลุมไปทั่ว
                  มืดมัวด้วยกลิ่นความตาย
                  ลองลอยมาจากที่ใด
                  ชวนให้คลื่นไสอาเจียน
                  ฟ้าใสกลับกลายเปลียนสี
                  ไม่มีแม้ก้อนเมฆขาว
                  ฝนตกเนินนานยืดยาว
                  ฟ้าคาวด้วยกลิ่นโลกีย์
                  สายน้ำเปลี่ยนเป็นสีเลือด
                  ปฐพีคุเดือดเร้าร้อน
                  ท้องฟ้ายามตะวันรอน
                  เห็นภาพสะท้อนความตาย
    3  กลไก สุดท้าย
                  มืดมนไปทัวโลกัณฑ์
                  ไหวหวั่นดังพายุร้าย 
                  พัดแรงผู้คนเลือนหาย
                  เกิดการล้มตายดับสูญ
                  แผดเผาด้วยไฟคุโชน
                  กลไกแห่งการดับสลาย
                 ผู้คนต่างฆ่ากันตาย
                  เกิดความวอดวายไปทั่ว
                 สายน้ำเริ่มเอ่อรินไหล
                 ท่วมที่อาศัยสูญสี้น  
                 ท่วมจนไม่เหลือแผ่นดิน
                 ดับสิ้นทั่วทั้งปฐพี
                 แผ่นดินเกิดเป็นรอยแยก
                 แล้วแตกดับสิ้นสลาย
                เกลื่อนกลาดซากศพกระจาย
                สลายหมดสิ้นตำนาน
4 จบสิ้น กลไก!
                เกลือนกลาดกลิ่นฟุ้งกระจาย
                 ซากความฉิบหายลอยล่อง
                 ดับสิ้นกอกาลกำเนิด
                 คงเหลือแต่ความอัปปาง
                 กัดกินโลกัณฑ์   ผุพัง
                 ซากยังย้ำเตือนให้เห็น
                 ฝุ่นควันเกาะกุมไปทั่ว
                 มืดมัวดังอเวจี
                 คาราวานวิญญานร้ำไห้
                 หมดที่อาศัยลอยลอง
                 พินาศพังสิ้นไม่เหลือ
                ดับสูญชัวกัปชั่วกัลป
                    หมดสิ้นวิทยาการก้าว
                หมดความโง่ง่าวฉลาด
                หมดสิ้นทั้งดีทั้งเลว
                หมดสิ้นตำนานเล่าขาน

                                        มีนา 43
     
				
2 กุมภาพันธ์ 2551 22:10 น.

ประกายน้ำค้าง

ณ.คลองฉวาง

ใสๆประกายน้ำค้าง    ฟ้ากว้างทอประกายแสงสุรีย์
นกน้อยโอ้เจ้านกเสียงดี  ตื่นจากราตรีขับกล่อมโลกา
ผลิบานดอกไม้มากมาย   หอมอันใดเท่ากลิ่นพฤกษา
ระรินหอมกลิ่นลอยมา    ดังมนต์มายาพาใจลองลอย
เรไรขับกล่อมดวงดาว   ยามเช้าขับกล่อมด้วยเจ้านกเสียงดี
น้ำค้างเกิดขึ้นยามราตรี  แสงสุรีย์พาให้เลือนหายไป
ประกายน้ำค้างจากฟากฟ้า  ตกลงมาจับปลายยอดหญ้า
ใสๆเหมือนใครแต่งแต้มมา   ดังเพชรพลอย นานาระยับ จับแผ่นดิน
                                                                              30 มีค 2543				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณ.คลองฉวาง
Lovings  ณ.คลองฉวาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณ.คลองฉวาง
Lovings  ณ.คลองฉวาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณ.คลองฉวาง
Lovings  ณ.คลองฉวาง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงณ.คลองฉวาง