25 ตุลาคม 2550 09:46 น.

อาลัยบีมจากมุก

ทรายกะทะเล

บีม.....จ๋านอนหลับให้สบายเถอะนะ
เธอ....จะไปอยู่ณ แห่งภพไหน
ยัง.....เป็นห่วงเธอว่าจะเป็นอย่างไร
อ่อน....โยนอกินไปเธอก็อ่อนแอ

เกิน.....กว่าจะคิดว่าเธอทำไปได้
กว่า.....พ่อมแจะเลี้ยงเธอให้การแยแส
ที่.....ได้รับการศึกษาค้นคว้าพ่อแม่ยังแคร์
จะ...น้อยใจไปทำไมให้ป่วยการ


สู้....เถอะนะตื่นขึ้นมาสิ
ต่อ.....โลกอันแสนจะหลอกลวงป่วยการ
โลก...ยังมีคนดีที่เค้าต้องการเธอนาน
อย่า....จากไปป่วยการเค้าไม่สนใจ.........

สง....สารเธอทำไมปล่อยให้ใครังแก
สาร....พัดทุกสิ่งเธอต้องอดทนเท่าไหร่
เธอ....มีใครเห็นใจบ้างไหม
ไม่....มีแม้นใครจะมีเยื่อใย

รัก....ของเธอช่างบริสุทธิ์จริงจริงนะ
ตัว....เธอกับสามีเธออย่าทำให้มีเรื่องใน
เอง........ที่บอกจากใจว่าใช่สามีใช่ไหม
เลย......ห่วงใยเธออยู่คนเดียว................


ฉันสงสารเธอบีม ขอบใจที่ให้และจัดการเตรียมตัวทั้งหมด ไม่ต้องห่วง				
25 ตุลาคม 2550 00:04 น.

ใครเอยจะรู้ทัน................... : (

ทรายกะทะเล

ฉันมันโง่ จริงจริงที่จงรัก
ที่มีรักภักดีมีให้เห็น
ตั้งแต่เริ่มรังเกียจไม่อยากเป็น
แต่ที่เห็นเห็นใจ เธอไม่มี

ใครใครรักเธอก็ดีแย่แล้ว
มาทำแวฉันแตกแบกศักดิ์ศรี
ดง่ไปแล้วช่างมันเถิดนะ ชชั่วและดี
ก็มีที่ปะปนกันฉันและเธอ

จำได้ไหมหินกับทรายเธอกล่าวไว้
หินย่อมให้ความหนักแน่นกว่าทรายเสมอ
เธอมอบคำคำนี้ให้ฉันฉันเชื่อเธอ
แต่เธอเองละเมอไปหาใคร.....				
24 ตุลาคม 2550 07:01 น.

เธอผู้อยู่ในใจ

ทรายกะทะเล

เสียงรำลึกคึกคัก ปักใจไว้
อันสดใสรวยรินกลิ่นน้ำหอม
สดชื่บาน กลิ่นหอมชอบดสนอ

สุขสดชื่นรื่นลิ่นระริตัวไม่เมามัว
ไม่มีชั่วควมหอทระรื่นกาย
รักท้มีทั่วไปใครก้อยาก
แค่ขออยากจะให้เราท้องวงอยูสบาย				
22 ตุลาคม 2550 19:19 น.

เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม

ทรายกะทะเล

อยากไปทะเลกับเธอ
สิ่งซึ่งไม่มีใครมาวุ่นวาย
มองท้องฟ้าแสนสบาย
ขร่เรือเล่นตามลำพัง				
19 ตุลาคม 2550 20:45 น.

.......แกนกลาง ของความรู้สึก...........

ทรายกะทะเล

ขอเป็นร้อยกรองนะคะ

เมื่อมองโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากเกินกว่า จะค้นให้ทั่ว และเป็นเป็นประจักษ์ แจ้งในทุกเรื่องราวได้   แต่โลกกว้างทางวัตถุที่กว้างกว่านั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบใจของคนเราแล้ว แลบมิอาจเทียบได้กับความซับซ้อนของ....ใจ

เรียนรู้อย่างอ่อนโยน ปรับให้ได้ ก็สามารถตอบคำถามข้อสงสัยที่ต้องการรู้ได้ในชั่วข้ามคืน

ทว่า พอหันกลับมาดูจิตใจที่ซ่อนเร้นอยู่ในชีวิตของคนเรา ซึ่งดูเหมือนใกล้แต่กลับไกลเกินกว่าที่จะเอื้อมดึงมาอยู่ใกล้ตัว จึงมีปัญหากับจิตใจที่ใกล้ตัว

เราจะรู่เท่าทันได้อย่างไร

เราพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างล้วนมีทางออกในตัวมันเอง รวมทั้งการแสวงหาภาวะของจิตที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในชีวิตด้วย
ต้องหาด้วยจุดเริ่มต้น ในการเปิดโลกแห่งจิตใจให้ใสสว่าง และปรากฎ เป็นภาพที่จับต้องไดก็คือ ......การเปิดใจของตัวเราเอง



เพราะการเปิดใจให้มองเห็นความจริงในชีวิตต้องหาจุดเริ่มต้นในการเปิดโลกแห่งใจให้ใสสว่าง


เป็นการปรับวิถีแห่งจิตใจให้ใกล้ความเป็นจริงที่สำคัญ การมีสัมมาทิฏฐิ ถือว่าเป็นการเปิดใจที่อยู่ภายในให้กว้างขึ้น

อย่าปล่อยให้ความเสร้าเข้ามาครอบงำตัวเราเองและแคบลง จึง ให้ภาวะของความลวงก่อตัวเป็นควมเขลาอยู่ร่ำไป

ดังนั้น ปราชญ์ทั้งหลายจึงเตือนอยุ่เสมอว่าเมื่อจะเรียนรู้ชีวิตให้มีความดีงามเกิดขึ้น จงเบิกตาที่จะมองเห็นสิ่งต่างๆให้ไกล

มีการนำเรื่องมาเล่าเปรียบเทียบระหว่างผู้มีใจเปิดรับและเรียนรู้สิ่งต่างๆกับผู้ที่ปิดใจตนเองว่า ทั้งสองนั้นมีวิ๔ชีวิตคิดและความเป็นอยู่ต่างกันอย่างไรไว้ว่า มีกบน้อยตัวหนึ่ง มีนิสัยชอบโอ้อวดในเรื่องที่อยู่อาศัยของตน ไม่ยอมเปิดใจให้กว้างที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่า ที่อยู่ของตนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลกว่าใคร

วัน หนึ่ง เจ้ากบน้อยได้เห็นเต่าทะเลผ่านมา จึงทักทายและชวนคุย และด้วยความที่เป็นผู้ชอบโอ้อวด กบน้อยจึงมิวายจะกล่าวอวดบารมีของตนให้เต่ฟัง

ท่านเต่า ท่านเชื่อมั้ยว่าข้าอาศัยอยู่บ่อนี้มีความสุขมาก วันๆ ข้าก็กระโดดละแหวกว่ายน้ำอย่างอิสระทุกอย่างข้ายิ่งใหญ่หมด

ฝ่ายเต่าทะเลเมื่อได้รับฟังกบน้อยเล่าให้ฟัง และเชื้อเชิญให้ไปชมที่อยู่ของตน จึงตัดสินใจที่จะลงไปใน่อนั้น ทว่า เมื่อยื่นขาลงไปก้มไสมารถที่จะลงไปได้ เนื่งอจาก บ่อตื้นและเล็กมาก เต่าทะเลจึงต้องเลิกล้มความพยายามที่จะลงไปในที่อยู่ของกบ

หลังจากนั้นเป้ฯการเตือนสติ และเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ให้กบน้อย เต่าทะเลจึงเล่าเรื่องที่อยู่ในทะเลของตนให้กบฟัง

ความกว้างใหญ่ของทะเลนั้นยิ่งหญ่มาก แม้ระยะทางจะกี่พันกิโล ก็ไม่ทำให้รู้ถึงความกว้างของทะเล แม้ความสูงของทะเลกี่พันศอกก็เทียบไม่ได้กับความลึกของทะเล ในทะเลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้ ก็ไม่เคยเห็นน้ำทะเลแห้งหรือลดลงแม้แต่น้อยด้วยเหตุนี้ควมสุขที่ยิ่งใหญ่ข้า ก็คือ การได้แหวกว่ายอยุ่ในทะเลอันกว้างใหญ่นั้น

กบอีกตัวจึงตาสว่าง.... เช่นเดียวกับชีวิตคนเราที่บางครั้งก็ไม่ต่างอะไรกับกบน้อยที่ลอยคออยู่แต่ในที่อยู่ของตน อละจมกับความคิดเห็นของตัวเองฝ่ายเดียว คิดว่า สิ่งที่คิดและทำนั้นถูกต้งที่สุด

ไม่ยอมที่จะค้นคว้าสิ่งที่ลึกเข้าไปในอีกหลายๆ เรื่อง

แต่.....ถ้าเราเปิดตา ให้ไกล และเปิดใจให้กว้างที่จะเรียนรู้และรองรับสิ่งดีๆ ที่โลกมอบให้ด้วยจิตใจที่เบิกบานและอ่อนโยนต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น เราย่อมมีโอกาสที่จะตอบโจทย์...ชองชีวิตได้ชัดเจนมากขึ้นและเข้าใจอย่างแท้จริง เมื่อนั้นความสุขอันเกิดจากใจที่เเบกบาน ย่อมปรากฎ มีแก่เราตลอดกาลนาน....

ขอบคุณสำหรับหนังสือเล่มนี้ ที่ได้มาถึงมือ
ขอบคุณผู้แต่งเพื่อให้ใจสว่างขึ้น
ขอขอบคุณทุกคนที่ให้อะไรมาเป็นโจย์และก็แยกได้ว่าควรทำอะไรก่อนหน้าและหลัง ไม่ใช่จมจ่อมอยู่ในกะลา


ใจที่แคบลง ย่อมหมายถึงโอกาสที่จะได้เรียนรุ้เรื่องราวต่างๆน้อยลงไปด้วย
ทำให้ชีวิต จมจ่อม อยู่กับ สิ่งที่ตัวเองคิดแต่เพียงฝ่ายเดียว
แม้จะมี สิ่งดีงาม ผ่านเข้ามา ก็ไม่สามารถ ที่จะสัมผัสสิ่งนั้นได้.....				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงทรายกะทะเล