13 เมษายน 2552 05:12 น.
ทรายกะทะเล
อันมนุษยืสุดยากแท้จะหยั่งถึง
หน้าอย่างหนึ่งใจอย่างหนึ่งพึงไม่ไหว
จากโลกนี้ไปได้คงสุขใจ
วิมานเมฆลอยไปสู่แดนดิน
มีกิเลส มีโลภ มีสุข และมีทุกข์
หากสนุกผ่านไปแล้วใจหาย
เล่นกามกันนานเท่าไหร่ก้เบื่อไป
ไม่อยากไซร้อยากให้จริงใจกัน
การเข้าใจเป็นเพื่อนดีมีสุขไม่ทุกอย่าง
เดินตามทางสายกลางให้สดใส
ไม่วาชั่วดีมีไว้ก้ผ่านไป
ไม่มีงานเลี้ยงใดที่เลิกลา
เปรียบเหมือนสองหนุ่มสาวเล่นกามกันอยู่นี้
ทุกนาทีที่สนุกเป็นสุขไหม
อยากให้ตรองคิดมีสติสิคิดไป
พอเสร็จสรรพก้เลิกแล้วแยกต่อกัน
ไม่เหมือนการคบที่ใจให้นานมาก
ไม่อยากให้เป็นไปในอย่างอื่น
ขอความเนคนไม่ดีนั่นก็ต้องคืน
ยอมเป็นคนดีของเธอทุกเวลา
8 เมษายน 2552 03:17 น.
ทรายกะทะเล
ผิดตรงไหนอยากจะเป็นตัวของตัวเอง
ทำไมต้องมีการมาปัดแข้งและปัดขา
ไม่มีแม้นจะมีสิ่งเมตตา
ทั้งลับหน้าลับหลัง ไม่เหมือนกัน
ทำฉันอ่วมแทบตายไร้ที่พึ่ง
แต่เธอดึงตัวฉันให้ลงให้โศกศัลย์
ทำอย่างนี้กับฉันไป..ทำไมกัน
อย่างทิ่งแทงเลือดฉันสาดกี่ครั้งไป
ให้อภัยไปกี่ครั้งแล้วไม่สำนึก
ไม่รู้สึกไม่เป็นไร....อโหสิกรรมให้
เกิดชาติหน้าอย่าได้เป็นคู่อยู่นอนกินกันต่อไป
อย่าให้ลูกใสใสเกิดมาต้องจิตใจตาม...คนอย่างเธอ....
8 เมษายน 2552 03:04 น.
ทรายกะทะเล
ขอเรียงร้อยเป็นร้อยแก้วนะคะ........ชัดดี......
แปลกนะ.........คนเราทำไม...ต้องทะเลาะกันด้วย
เพื่ออะไร... หรือเพื่อความโก้.......หรู...เด่น........แก่ง..งแย่ง.....
หลายคนมีที่มีอายุแล้วตั้งแต่35ถึง80กว่าปีขึ้นนั้น...ที่เป็นคนดี...
การเป็นเด็กดีตอนเค้ายังเป็นเด็ก....
การเป็นผู้ใหญ่ ตอนที่เค้าทำงานนั้น......
ทำไมนะ...
เราอยู่ในโลกเดียวกัน...ทำไมไม่สามัคคีกัน
แม้นแต่ประเทศเดียวกัน...ทำไมไม่สามัคคีกัน
ไม่ได้ว่านะ....
กินอิ่มแล้ว.......ไม่มีอะไรทำเหรอ...ไอ้ที่สร้างสรรค์ให้โลกเราสวยงามบ้าง
พวกเราที่เคยทันฟังเพลงสากลเป็นภาษาอังกฤษว่า........We are the world, we are the children..
เป็นเพลงที่เพราะมากนะคะ.....มีความหมาย หากมีความประสงค์จะรู้เนื้อเพลงหมดก็ลองเข้าไปในwww.google.com แล้วพิมพ์คำว่า We are the world
แปลได้ก้รู้เร็วหน่อย หากแปลไม่ได้ก้หาคนที่เค้าพอรู้ ภาษา แปลให้ได้นะคะ
สมัยที่คุณแอ้ดคาสราบาว ดังนั้น
ข้พเจ้าต้องขอขอบพระคุณ ท่าน ที่ได้มีเพลงนี้มา
ยังแก้ทันค่ะไม่มีอะไรในโลกที่สายเกินไปในเมื่อเรามีลมหายใจอยู่
คุณพอทราบมั้ยคะ
ดิฉันประกอบอาชีพสุจริตได้ติดต่อกับชาวต่างชาติ ชาวนิวซีแลนด์ พอดิฉันทราบว่าลูกค้าเป็นชาวนิวซีแลนต์
ดิฉันก็บอกว่า...ดิฉันอยากมีชีวิตที่นั่น ไปเที่ยวนะไม่ได้ไปปักหลักที่นั่นเพราะดิฉันเป็นคนรักเมืองไทยมากเกิดแผ่นดินไหน ขออย่างเดียวที่ทำบุญมาก็ขอให้ตายที่นั่น ชาวนิวซีแลนด์ตอบว่า เค้าอยากมาอยู่เมืองไทยมาก....เห็นมั้ย......แล้วเค้าก้ไม่อยากกลับไปด้วย....เพราะใครคะ...หากคนไทยไม่ต้องมาทะเลาะกันเอง...บอกให้นะต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิต ไปตัดไม้ทำลายป่ามากๆ โลกจะวิบัติ ภาวะไม่สมดุล มีวิธีเดียว...ต้องกอกลับให้เมืองไทย..
เป็นเอกราช ความสวยงาม อากาศีดทั่งประเทศ ลดภาวะpollution เห็นใจเด็กตาดำๆกำลังจะโตบ้าง........!!!!!
6 เมษายน 2552 19:38 น.
ทรายกะทะเล
..สีแดงสด นั้นหรือก็คือชาติ
ขาวสะอาด นั้นหรือคือศาสนา
น้ำเงินเด่น เห็นชัดกษัตรา
สามสิ่งมารวมกันไว้เป็นไตรรงค์
เอกลักษณ์ปักใจไทยทุกผู้
สิ่งควรรู้ชาติไทยไม่ลืมหลง
สบัดพริ้ว ปลิวสล้าง อย่างยืนยง
เด่นดำรง เอกราชของชาติไทย
ประวัติศาสตร์ ราดด้วยเลือดไม่เหือดแห้ง
ยังคงแดง แดงสด รดรินไหล
ประกาศก้องให้โลกรู้ กูคือไทย
ที่เกรียงไกรแต่ก่อนกาลโบราณมา
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อว่าเชื้อไทย
จงตั้งใจ ตั้งมั่น อันแน่นหนา
เคารพธง เคารพชาติ ศาสดา
กษัตราอันเกริกก้อง ต้องยืนตรง
.เราเป็นไทยอยู่ได้ทุกวันนี้
เพราะมีชาติศาสน์กษัตริย์อยู่เหนือหัว
หากมีรักสามัคคีเพิ่มอีกตัว
เราจะกลัวสิ่งใดไม่มีเลย..
ผืนแผ่นดินถิ่นนี้เป็นที่เกิด
ถือกำเนิดชาวไทยทั่วทั้งผอง
แม้จะเกิดถิ่นใดในแหลมทอง
เป็นพี่น้องร่วมวงศ์เผ่าพงษ์ไทย..
.เราคือไทย รักไทย ไม่ใช่ทาส
เป็นทายาท กล้าสู้ มิรู้หนี
ขออุทิศ ชีวิต เป็นชาติพลี
สามัคคี หันหน้า เข้าหากัน..
ขออนุญาติ จากผู้แต่ง นำมาลงเพราะเป็นกลอนที่ไพเราะมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
6 เมษายน 2552 19:35 น.
ทรายกะทะเล
ในทุกๆ วันที่ 6 เมษายน ของทุกปีนั้นถือเป็นสำคัญอีกวันหนึ่งของไทย นั่นคือ วันจักรี ซึ่งเป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำประวัติและความสำคัญของวันนี้มาฝากกันค่ะ
ประวัติการตั้งชื่อวันจักรี นั้นเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 6 เมษายน ปี พ.ศ. 2325 นั้นเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และยังทรงสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของไทยอีกด้วย และยังเป็นวันครบรอบการก่อตั้งราชวงศ์จักรีซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ครองราชย์อยู่ในปัจจุบัน
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปของพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 4 พระองค์ ซึ่งก็คือรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 4 เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อมาและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงข้าราชการและประชาชน ได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละครั้ง
โดยได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และได้มีการย้ายที่อีกหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นพระพี่นั่งพุทไธสวรรย์ปราสาทหรือพระที่นั่งศิวาลัยปราสาท ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้ย้ายพระบรมรูปของทั้ง 4 พระองค์ มาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5
ซึ่งการซ่อมแซม ก่อสร้าง และประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง 5 รัชกาล มาแล้วเสร็จในเดือนเมษายน พ.ศ. 2461 จึงได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ 6 เมษายน ในปีนั้น และได้โปรดเกล้าฯ ให้เรียกว่า "วันจักรี"
และทั้งหมดก็คือความเป็นมาของวันจักรี ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่วันหยุดราชการธรรมดาๆ แต่เป็นวันที่ประชาชนทุกคนควรระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ของไทยทุกพระองค์
หน้าส่วนตัว
763
Calendar
Lovers
0 คน เลิฟทรายกะทะเล
