9 ธันวาคม 2548 11:38 น.

คืนหนาว

ปลายภู

ชายคาตาวันคลี่ม่าน
ขานขับกู่ก้องไก่ขัน
หวีดหวิวกาเหว่าคละเคล้ากัน
ปลอบปลุกจากห้วงฝันในภวังค์

หวาดหวั่นอ่อนไหวในหนาว
น้ำค้างพร่างพราวหมอกหนา
ฤดูกาลผ่านผันเวียนมา
ตอกย้ำใจข้า.ฯ คราเดียวดาย
 
ตะเกียกกายผิงไฟให้ไออุ่น
แทนแนบเนื้อละมุนกรุ่นไอหอม
สะทกท้านหวั่นไหวอาวรณ์
ออนซอนหลายแท้..บ้านปลายภู
				
24 พฤศจิกายน 2548 15:07 น.

คืนกลับ

ปลายภู

จากหมู่บ้านปลายภู..
เคียงคู่  นาวา  คืนฟ้าหลัว
เมฆหมอกห่มฟ้าหนาวระริกรัว
เราต่างมอมมัว..ใต้ผืนฟ้า

ซ่อนหลบใต้พลบชายคาเก่า
ใต้ร่มเงาแสงดาวพราวพร่าง
อับแสงลางเงาดูจืดจาง
จะรอเจ้าฉายแสงสว่างมาเยี่ยมเยือน

*********
กาลเวลาที่ผันผ่าน
อาจจะดูนานนัก..กับการรอคอยใครซักคน..มาเยือน
ณ.ที่แห่งนี้มีผองเพื่อน
มีชีวิต
มีจิตวิญญาณ
อันกล้าแกร่ง.
ที่คอยต่อเติมแรงใจ..มิเคยจางหาย
ถนน..ทางเดินสายนี้
คือความเป็นไป  คือสัจธรรมแห่งการดำรงชีวิต
ตอไป..ชั่วนิรันดร์
********				
19 พฤษภาคม 2548 10:15 น.

เหยือกหนึ่ง..น้ำข้น

ปลายภู

ฟ้าเอ๋ย..ฟ้า
จรดคุ้งธารา..ไกลโพ้น
ฟ้า-น้ำขนาบ เชื่อมโยง
สุดขอบคุ้งโค้ง  ยาวไกล

  เฝ้ารำพึง..ครวญใคร่
  ฝันนี้อยู่ไกล..ฟากฟ้า
เพ่งพิศปองหมาย..จันทรา
สุขล้นหนักหนา..คราได้ยล

  เปรอปน..ทุกข์-สุข-เศร้า
  ใดฤาลิขิตเรา..เฉกนั้น
ห่วงโซ่พันธนาการ..ผูกพัน
ขีดเส้นวาดฝัน..ในห้วงกาล
*******
คราคราวโดดเดี่ยว
ณ. อีกมุมหนึ่งของริมบึงอันกว้างไกล
หลายความคิดและความรู้สึก
ก่อเกิดชั่วขณะ.
แต่หลายสิ่งยังคุกกรุ่น อบอวล
อยู่ภายใน.
แม้ตอนนี้จะสติอารมณ์ไม่สมประกอบนัก
เพราะความมึนเมา..เล็กน้อยนิดหน่อย
เท่านั้นเอง




				
24 มีนาคม 2548 14:57 น.

หยัดเย้ย..หยามกาลเวลา

ปลายภู

*********************************************** ปลายภู ****************************************
อรุณรุ่ง..เบิกฟ้า
หวีดแว่วสกุณา ขับขาน
สลับเสียงไก่ขันก้องกังวาน
คือชีวิต..คือตำนาน..บ้านปลายภู

คือวิถีชีวิตเป็นไป เฉกนั้น
สืบสร้างสานฝัน เติมต่อ
อุดมการณ์แนวคิด..ถักทอ
ถึงเหนื่อยท้อปานใด มิไหวเอน

สู่วันใหม่  บาทวิถีที่ก้าวย่างวันแล้ว..วันเล่า
สัจธรรมแห่งชีวิต..คือ..งาน..งานที่เป็นน้ำบ่อใหญ่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต
อย่างไม่มีวันที่จะหดหาย เป้าหมายของการดำรงชีพ..ใครเล่าที่จะ
เลือกสรร..ได้ดั่งใจ
แนวคิด..จินตนาการ
ต่างคน..ต่างถ่ายทอดความรู้สึก
หลาย..หลายอารมณ์ที่กลั่นกรองจากส่วนลึกของห้วงใจ
คือชีวิต..คือจิตวิญญาณ คือความจริงอันยิ่งใหญ่
หากเพียงแต่..ไร้ซึ่งตัวตน
หลายสิ่ง หลายอย่าง ผ่านผันไป
วันแล้ว..วันเล่า ผสมผสานเคล้าคละกัน ผ่านกาลเวลา
ยังคงตราตรึงไว้..ไม่มีวันลืมเลือน

ถึงจะเหงา.ทุกข์เศร้าสักเพียงใด
ขอเพียงใจ..ดวงนี้อย่าไหวหวั่น
ผ่านเดือนข้ามขวบปีกี่วานวัน
 รอยภาพฝัน..ยังคงมั่นตราตรึง
******************************************** บ้านปลายภู *************************


				
15 กุมภาพันธ์ 2548 16:23 น.

ดอกไม้..

ปลายภู

กลิ่นไอ..ของวันแห่งความรัก..
โชยกรุ่นคลี่ม่านอบอวล..อีกครา
ดอกไม้เบ่งบานสพรั่ว..ทั่วป่าคอนกรีต
ครอบงำความรู้สึกนึกคิดจนกลายเป็นเทศกาล..
ผ่านมา..ผ่านไป
ปีแล้ว..ปีเล่า..จนชาชิน
ไฉนเล่า..ถึงเป็นเฉกนั้น..ก็เพราะคุณค่าและความสัมพันธ์
ระหว่างเรา..มันยิ่งใหญ่และสำคัญกว่า..ดอกไม้..
และเกินเลยไปกว่านั้น..เพราะดอกไม้ในใจข้าฯ. 
มันบานเบ่ง..ตลอดเวลา. และตลอดไป
******************************************
แด่..คนรักข้าพเจ้า..ผองเพื่อน
******************************************
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายภู
Lovings  ปลายภู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายภู
Lovings  ปลายภู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายภู
Lovings  ปลายภู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปลายภู