17 กุมภาพันธ์ 2554 07:31 น.

กฎหมายท่วมหัว ..เอาตัวรอด

ศรีสมภพ

กฎหมายท่วมหัว เอาตัวรอด !     

   แม่บท..แห่งกฎหมาย  
รัฐธรรมนูญไทยได้ปรากฏ
  กฎหมายลูก ถูกกำหนด    
อ้างอิงบท กฎแม่ไว้
   กฎหมายมีหลายบท    
จำไม่หมดกำหนดใช้
    สังคมสุขสมได้       
ถ้าหลากหลาย..เข้าใจมัน !
    กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์      
คนคอยคิดจะผิดผัน
    บังคับปรับไม่ทัน      
 ตีความกั้น.. กันตัวเอง
    กฎหมายใช่กฎหมู่     
หวังเรียนรู้ ขู่ข่มเหง
    กฎหมู่ สู้ไม่เกรง     
เหมือนร้องเพลง ให้ควายฟัง !
    กฎหมายออกหลายล้น     
ไหลท่วมท้น จนเกินยั้ง
    มาตราประดาประดัง   
 มันไม่ขลัง..ทำอย่างไร ?
    กฎหมายใช่กฎกู !      
ใช้กฎหมู่..ตู่แก้ไข
    แก้มั่วกลัวไม่ได้     
ลาภหลั่งไหล..ให้ตัวเอง
    อยู่หอคอย จะงอยช้าง   
ทำตัวกร่าง อ้างตัวเก่ง
    ไอ้บ้านนอก ! คอกนักเลง   
 มาอวดเบ่งเก่งกฎกัน
     แค้นเคือง เรื่องทะเลาะ   
เผลอโดนเจาะเยาะเย้ยหยัน
    ร่างกฎ มากดดัน    
มากล้นลั่น..จนโลกลือ !
    ฟ้องความ ตามแก้กัน   
ท่วมศาลชั้น..ลั่นป้องชื่อ
    ตัดสิน หมิ่นเชื่อถือ     
ถกเถียงอื้อ..เชื่อถือไม่ !
    ปัญญาน้อย คอยสร้างกฎ   
แล้วรอดลด หดตัวหาย
    พร้อมพวกสะดวกสบาย   
ทิ้งกฎหมาย..ไว้ก่ายกอง
    จะร่างสร้างทำไม ?  
แล้วแก้ใหม่..ให้พวกพ้อง
    อีกพวก คอยจวกจ้อง    
รวมกันฟ้อง..ร้องประท้วง !
    กฎดี..มีศีลพุทธ     
บริสุทธิ์.. สุดโชติช่วง
    กฎธรรม นำพ้นบ่วง   
กฎหมายลวง..พวกถ่วงเมือง !				
17 กุมภาพันธ์ 2554 07:19 น.

อาลัยโดม..อาลัยบุษยา

ศรีสมภพ

อาลัยโดม ..อาลัยบุษยา       


โดมในดวงใจ สั่งไทร อาลัยร่มพฤกษ์
ร่ายระทึกนึกถึงเพลงบรรเลงแล่น
ขับสำเนียงเสียงเศร้าหวานใครปานแทน
ช่างไพเราะเสนาะแสนถึงแก่นใจ

กระซิบสวาท..บาดบั่นขั้นจะขาด
โสตประสาทชัดสะอื้นจะฝืนได้
ลึกและเร้าเคล้าสวาทเกินปัดไป
กล่อมทรวงในใสเสนาะเพราะเสียงเธอ

รังสีทอง ส่องพิสุทธิ์  บุษยารังสี 
เปล่งประกายในฤดีนี้เสมอ
พรแสวงแห่งสวรรค์นั้นเลิศเลอ
แก้วเสียงเธอ ปานระฆังกังสดาล

ขอฝากหมอน..นอนหนุนไว้อิงไออุ่น
ฝากกลิ่นกรุ่นละมุนละไมได้ขับขาน
เป็นปรากฏบทเพลงแห่งวันวาน
สอดประสานสนั่นเสนาะ เพราะจับใจ

น้ำตาดาว..พราวพร่างเหมือนสั่งฟ้า
แดนนภา ลาภูพิงค์ ยิ่งจะใช่
ลอยทะเลเห่ให้ฟัง ฝั่งหัวใจ
เพียงสิ้นกายใช่สิ้นสุด..บุษยา !


ร่วมรำลึก และอาลัย..บุษยา รังสี  ๑ ปีที่จากไป

                                      
                                    ๑๕ ก.พ.๕๔				
17 กุมภาพันธ์ 2554 07:09 น.

โลกอมนุษย์

ศรีสมภพ

โลกอมนุษย์

..โลกแกว่ง  แรงโลภ  โอบไล่  
ผลักไส  ใฝ่ต่ำ  ถลำถลา
แก่งแย่ง  แข่งขัน  เข่นฆ่า   
ไขว่คว้า  หาทาง  สร้างตน

..ไร้ศีล  ไร้ธรรม  ต่ำชั่ว  
ไม่กลัว  กรรมหนอ   ฉ้อฉล
โกรธา  อารมณ์  ข่มคน      
เหยียบพ้น  บนบ่า  ข้าพอ

อวิชชา  หารู้  สู่แจ้ง      
มัวแก่ง    แย่งกิน    กามก่อ
หลงใหล  โลกีย์  นี้หนอ      
เริงล่อ  โลมเลีย  เนียนัว

สุดท้าย  ตายดับ  ลับร่าง   
ไม่วาง  เว้นขาด  ชาติชั่ว
   ใช้กรรม  ทำมา  น่ากลัว     
หดหัว  ตัวตก ..นรกรอ

สายสิ้น ดินกลบ กลับเกิด 
นรกเปิด เตลิดว่าย กายก่อ
  ทุกข์ทน วนเวียน เอียนท้อ   
เกิดต่อ  ก่อดับ  นับนาน

..โลกแกว่ง แรงล้า ช้าลง      
เกวียนกง กรรมกรีด ขีดคั่น        
ตายนับ ดับขั้ว ชั่วกัลป์     
สวรรค์กั้น อมนุษย์..สุดทาง

มนุษย์คือ ผู้มีจิตใจสูง				
16 กุมภาพันธ์ 2554 01:19 น.

เอชไอวี ที่โลกลืม

ศรีสมภพ

สังคม..โสมมจากสมสู่
หลงใคร่ในคู่ ไม่รู้รักษ์
มั่วกาม โรคลามตัวมัวเมาหนัก
เกินห้ามหัก จักผ่อนย้อนเวลา

สาสม ก้มหน้าตาว่าตนผิด  
เปลี่ยนชีวิตหม่นหมองมองไร้ค่า
  นับคืน ฝืนวันมรณา             
อนิจจา ! ถูกสังคมถ่มถุยทิ้ง

อับอายขายหน้า ว่ามักมาก      
ลำบากกายใจ ไม่สุงสิง
 ตายดาบหน้าอำลาหมู่ รู้ความจริง   
ยิ่งวิ่งยิ่งหนีหาย ไม่มีพ้น

 เอชไอวี..ไวรัสฉกาจกล้า  
ผลาญชีวา ฆ่ามนุษย์สุดมากล้น
  โรคเอดส์..กิเลสเหตุแห่งตน  
หลงว่ายวนระคนใคร่ไม่ประวิง

 ภิกษุหนึ่ง ผู้ซึ่งปลง   อลงกต 
อาสาปลด ชี้นำ ด้วยธรรมยิ่ง
ปลุกเสกผี ที่คนขนมาทิ้ง
ให้พึ่งพิง จริงจังฝากฝังกาย

สังคมเมิน เพลินสมสู่อยู่กันต่อ  
ที่ไม่พอ รอทับถมถ่มความใคร่ 
กองพะเนินเพลินกามจนย่ามใจ  
ทิ้งงานใหญ่ให้วัด จัดพักพิง

   คนใกล้ตาย ต่อเวลา อาการหนัก    
มูลนิธิธรรมรักษ์..จักไม่ทิ้ง
  บ่อขยะถูกละเลยเผยความจริง 
 ต่างปัดนิ่งทิ้งภาระ พระจัดการ !

  เป็นหลักแหล่ง แห่งสุดท้ายในชีวิต 
รอม่านปิดฉากลง ปลงสังขาร
   รู้ตัวตน จนสุดท้ายจะวายปราณ  
ก่อนพระนั้นสวดส่ง ปลงอนิจจัง

สังคม..ยังโสมมสมสู่ต่อ
ซากเกินพอบ่อขยะจะกลบฝัง
เมรุพระบาทน้ำพุ..ผุจวนพัง
 รอความหวัง..สังคมจะก้มมอง !				
12 กุมภาพันธ์ 2554 10:24 น.

คือ..ฝั่งฝัน

ศรีสมภพ

.. คือฝั่งฝัน    

ฝั่งฝัน..จินตนาการจะสรรค์สร้าง
เพื่อวาดหวังสร้างสรรค์ในบ้านเก่า
ต่อเติมนิด ติดนั่นนี่ไม่มีเป้า
เรื่อยๆ เบาๆ ไม่เร้าเร่งไม่เกรงใคร

อาจดูรกรุงรัง ไม่ได้ดังคิด
แต่ลิขิตจากใจจริง ที่ยิ่งใหญ่
พอดีพอเพียง ไม่เกี่ยงอะไร
แค่พอใจให้ถึงฝัน..แค่นั้นเอง !

เก็บของเก่า เต้าแต่งแบ่งเป็นฉาก
ปลุกฟื้นซากถากเหลา ให้เงาเช้ง
ต่อติดปะคละผสม ชมตัวเอง
ใช่ช่างเก่ง เล็งปะแล้วละเลย

ทุกสิ่งสรรพ นับค่าเมื่อตาเห็น
ตรงประเด็นเป็นเฉพาะเหมาะเฉลย
จะเก่าใหม่ไร้ค่าก็น่าเชย
มันก่ายเกยเผยพร้อมน้อมติชม

ห้องรวมกิจ ชีวิตฉันความฝันพร้อม
สิ่งรายล้อมน้อมเอาเข้าผสม
แสงแดดส่อง ต้องกลิ่นอายของสายลม
ทั้งหวานขมกลมกลืน ไม่ฝืนใจ

โลกส่วนตัว ไม่กลัวเกรงไม่เร่งร้อน
ทั้งพักผ่อนนอนดื่ม ปลื้มไฉน
ย่อโลกกว้างวางตรงหน้าตาเห็นได้
เป็นโลกใหญ่ ในห้องนิดชีวิตจริง

ฝั่งฝัน..จินตนาการสานฟากฝั่ง
สร้างพลังหวังคาด ไม่ขาดทิ้ง
ร้อยโลกฝัน พันโลกนี้ ที่โลกจริง
  คือทุกสิ่ง..คือฝั่งฝันของฉันเอง !  

                                           บทกวีศรีสมภพ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรีสมภพ