9 สิงหาคม 2555 11:02 น.

Mother of mine

ศรีสมภพ

เธอคือใคร ? ...

คือผู้ให้ไม่เคยรับ..สำหรับฉัน
คืออ้อมอกสวรรค์อันอบอุ่น
คือฟองรักที่มากมายละไมละมุน
คือหมอนหนุนอันนวลนิ่มยามอิ่มนอน

เธอคือใคร ? ...
คือเจ้าของหัวใจไม่ผัดผ่อน
คือผู้เลี้ยงเคียงกายให้อาทร
คือผู้ป้อนอาหารจนฉันโต

เธอคือใคร ? ...
คือผู้ไกวเปลน้อยคอยโอ้โอ๋
คือผู้ร้องเพลงกล่อมพร้อมจะโชว์
คือผู้ยอมผอมโซ ..ให้ฉันอิ่ม

เธอคือใคร ? ...
คือผู้ไล่ยุงไรไม่ให้ลิ้ม
คือผู้ปัดป้องภัยใจเต็มปริ่ม
คือผู้อดแต่ยังยิ้มให้อิ่มก่อน

เธอคือใคร ? ...
คือผู้พร้อมจะอภัยไม่ยอกย้อน
คือผู้รับแต่ผิดไม่คิดค่อน
คือผู้มาถึงก่อน ภัยจะมา

เธอคือใคร ? ...
คือผู้ให้ที่เกินคาดปรารถนา
คือคนดีที่ฉันจะกตัญญุตา
คือมารดาคือแม่ฉัน.. คนนั้นเอง !


ลองฟังเพลง Mother of mine
แม่คือผู้ให้ที่ไม่ขอรับ..สำหรับฉัน

 http://www.youtube.com/watch?v=C_tOFsFpxXk&feature=player_embedded#!				
8 สิงหาคม 2555 12:09 น.

สิ้นพระสหายแห่งสายบุรี

ศรีสมภพ

ครั้งหนึ่ง ทรงเสด็จ.. ปัตตานี
สายบุรี เพื่อสร้างฝายให้หมู่บ้าน
เป็นหนึ่งในที่พระองค์ได้ทรงงาน
ชลประทานผสานสู่ อยู่กินดี

วาเด็ง ปูเต๊ะ.. ไล่ต้อนวัวเสียงรัวก้อง
เยี่ยมๆมอง ผู้มาใหม่ในถิ่นที่
เปิดยิ้มกว้างบ่งข้างในอยากไมตรี
ฉงนใจใครกันนี่ ที่ทักทาย  !

คนแปลกหน้าท่าดีมียศศักดิ์
มาถามทัก ถิ่นนี้มีมาแต่ไหน ?
แห้งแล้งซ้ำน้ำท่วมล้น ผลอย่างไร ?
แถลงไขให้แจ้งชัด เพื่อจัดการ

เป๊าะเด็งตอบ ชอบใจไมตรีจิต
ทำครุ่นคิดจำติดใจ ใครกันนั่น !
ควักธนบัตร ดูรูปองค์เห็นตรงกัน
ใช่แล้วท่าน ! ทั้งพระองค์ อยู่ตรงหน้า

นุ่งโสร่งแล้วโค้งกาย อธิบายชี้
ถวายที่ ให้โครงการสานคุณค่า
ขุดคลองส่งชลประทานผ่านไร่นา
ทรงตรัสว่า..เป็นสหายแห่งสายบุรี

นับแต่นั้น.. สิบกว่าปี มีน้ำใจ
เก็บผลไม้ถวายองค์ผู้ทรงศรี
มอบใจภักดิ์ รักในองค์ทรงปรานี
ดูทีวี มีข่าวท่าน ตื้นตันใจ

ข่าวสหาย ได้จากจอพอรู้แจ้ง
รวมเรี่ยวแรง เงินตรามาเยี่ยมไข้
สวดดูอาร์ หน้าตึกองค์ ทรงหายเร็วไว
จากหัวใจ.. สหายแกร่งแห่งสายบุรี !

ข่าวพระสหายสายบุรี คนดีสิ้น
ชั่วชีวินเคยห่วงหาสหายศรี
จำต้องพรากจากไป..ในวันนี้
จักจดจำในความดี ที่ท่านทำ..


ขอร่วมไว้อาลัย ..
การจากไปของพระสหายแห่สายบุรี


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ประวัติ วาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งสายบุรี

เป็นชาวบ้านหมู่ 5 บ้านทุ่งเค็จ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี สำหรับ วาเด็ง 
ปูเต๊ะ กับเรื่องราวการเป็นพระสหายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีจุดเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2535 ในครั้งนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปโครงการพัฒนาพรุแฆแฆ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และมีรับสั่งต้องการพบตัว วาเด็ง ปูเต๊ะ เพื่อสอบถามเรื่องการสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี
ในขณะนั้น วาเด็ง ปูเต๊ะ ผู้ซึ่งเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่ง เขาสวมโสร่ง และไม่ได้ใส่เสื้อ แต่เดินทางไปเข้าเฝ้าฯ เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ที่มาตามเขาถึงสองครั้งสองคราอาจจะโกหก เพราะเขาไม่เชื่อว่า ในหลวง จะเสด็จมาในป่าเขาจริง ๆ จนกระทั่งได้พบพระองค์แล้ว แต่ วาเด็ง ปูเต๊ะ ก็ยังไม่แน่ใจ ต้องหยิบธนบัตรขึ้นมาดูจึงจะเชื่อว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน

หลังจากนั้น ในหลวง ก็ตรัสกับ วาเด็ง ปูเต๊ะ เป็นภาษามลายูว่าจะสร้างคลองชลประทานให้ เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร พระองค์ทรงสอบถามเส้นทางการขุดคลองสายทุ่งเค็จว่ามีเขตติดต่อที่ไหนบ้าง ซึ่ง วาเด็ง ปูเต๊ะ สามารถตอบได้ทุกคำถาม ถูกต้องตามแผนที่ที่พระองค์ทรงมีอยู่ จึงตรัสชมว่า วาเด็ง ปูเต๊ะ เป็นคนรู้จริงรู้จักพื้นที่ เพราะในการจะไปช่วยใครที่ไหน จำเป็นต้องถามเจ้าของพื้นที่ก่อน เพราะชาวบ้านจะรู้จริงกว่าคนอื่น วันรุ่งขึ้นในหลวงก็ตรัสให้ วาเด็ง ปูเต๊ะ เป็นคนพายเรือให้พระองค์นั่งสำรวจคลองสายทุ่งเค็จ โดยตรัสให้ทำตัวตามสบาย และเล่าถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ในหลวง ยังทรงลองใจ วาเด็ง ปูเต๊ะ ด้วยการตรัสขอที่ดินทำโครงการพระราชดำริ ซึ่ง วาเด็ง ปูเต๊ะ ก็ออกปากยกที่ดินถวายให้กับพระองค์ในทันที ด้วยความเป็นคนซื่อตรง ในหลวง จึงมีพระราชดำรัสให้เป็น พระสหายแห่งสายบุรี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา				
7 สิงหาคม 2555 11:47 น.

ผู้สร้างและทำลาย

ศรีสมภพ

เปรียบมนุษย์ สุดประเสริฐเลิศกว่าสัตว์
ชาญฉลาดกว่าใดๆในโลกนี้
เป็นผู้สร้างสรรพวิชาประดามี
ก้าวหน้าไปในวิถีไม่มีหยุด

ไอน์สไตน์..ได้ค้นพบพลังงาน
สูตรสมการนิวเคลียร์ ที่สุดๆ
เริ่มศักราชมัจจุราชฆาตมนุษย์
สงครามโลกทำโศกทรุดสุดลำเค็ญ

เจ้าเด็กน้อย " ลิตเติลบอย " ถูกปล่อยปลด
ราพณาสูร มอดม้วยหมดปรากฏเห็น
สรรพสิ่ง สรรพสัตว์ซัดกระเซ็น
ถูกเจ้าเข่น โดนเจ้าข่มถล่มทลาย

๖ สิงหา ฮิโรชิมา ในครานั้น
ดูเหมือนฝัน แต่มันจริงทุกสิ่งร้าย
ซากเมืองพัง ฝังซากคนป่นวอดวาย
มหันตภัย ปรมาณู ผู้ก่อการ !

ปล่อย แฟตแมน ชายอ้วน มาป่วนอีก
ถล่มซีก นางาซากิ บิแตกสนั่น
ทั้งสองลูกถูกปล่อยห่างว่างสามวัน
ศึกจบเห่ อเมริกัน.. ฟันซามูไร

สี่แสนชีพ..ถูกถีบส่งลงนรก
เซ่นความงก อำนาจความบาตรใหญ่
สงครามโลกครั้งที่สอง ต้องจำไว้
โลกเสียหายอย่างใหญ่หลวงเกินทวงคืน

๖๗ ปี.. ที่น่าเศร้า เหล่ามวลมนุษย์
ปรมาณู จำต้องหยุดอย่าฉุดฟื้น
อุทาหรณ์ สอนไว้ให้ต้องตื่น
หยุดหยิบยื่นความตาย..ใช้นิวเคลียร์ !

ใช่มนุษย์ สุดประเสริฐเลิศกว่าสัตว์
โลกวิบัติ หวังแค่ชัยใครได้เสีย
เป็นผู้สร้างแล้วทำลายใช้นิวเคลียร์
สมองเปลี้ยแล้วหรือไร ?.. อายสัตว์จัง !


๖ และ๙ ส.ค. ๕๕  ร่วมรำลึก ๖๗ ปี มหันตภัยนิวเคลียร์ 
เมืองฮิโรชิมา และนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น

@@@@@@@@@@@@@@@@@@

   การโจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่น ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายสงคราม
โลกครั้งที่สอง ได้ทิ้ง "ระเบิดปรมาณู" หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า
ระเบิดนิวเคลียร์ที่มีชื่อเล่นเรียกว่า "เด็กน้อย หรือ "ลิตเติลบอย" 
ใส่เมืองฮิโรชิมาในวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488  ตามด้วย
"ชายอ้วน" หรือ "แฟตแมน" ลูกที่สองใส่เมืองนะงะซะกิโดยให้
จุดระเบิดที่ระดับสูงเหนือเมืองเล็กน้อย   นับเป็นระเบิดนิวเคลียร์
เพียง 2 ลูกเท่านั้นที่นำมาใช้ในประวัติศาสตร์การทำสงคราม 
มีผู้เสียชีวิตจากทั้งสองเมืองของญี่ปุ่น ที่ถูกจารึกไว้ประมาณ 
243,692 คน และในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน มีผู้เสียชีวิต
ที่ถูกจารึกไว้เพิ่มขึ้นมากกว่า 400,000 คน โดยแบ่งออกเป็น 
เมืองฮิโรชิมา 258,310 คน และเมืองนางาซากิ 145,984 คน				
4 สิงหาคม 2555 08:23 น.

ทางสู่ดวงดาวของสาวน้อย..

ศรีสมภพ

โอ..สาวน้อยร้อยเต็มเลือดเข้มนัก
ถูกฟูมฟักแต่เด็กเพื่อเสกสรร
อีกใจเจ้ายังกล้าแกร่งขืนแข็งมั่น
ยิ่งนับวันก็ยิ่งแรงฉายแสงงาม

บ้านทองหยอด.. บ้านนี้ที่อบอุ่น
เจ้าบ้านหนุนทุนให้ได้ไต่ข้าม
บนเส้นทางที่หนาหนักด้วยขวากหนาม
ความพยายามเท่านั้น ฝันจะจริง

เพราะเจ้าดีมีนอบน้อมพร้อมจะไหว้
จึงได้ใจหลายๆคน อยากยลยิ่ง
ทุกๆครั้ง ที่แข่งขันเจ้ามั่นจริง
จึงช่วงชิงชัยชนะอย่างจะแจ้ง

โอลิมปิก.. สนามโลกโชคของเจ้า
เปิดให้เข้า ไม่กริ่งเกรงพร้อมเปล่งแสง
เจอมือหนึ่งถึงจะหนัก ไม่พักแรง
เจ้ายื้อแย่งสำแดงฤทธิ์ พิชิตชัย

โลกได้รู้ดูไว้..ไร้กังขา
ว่าสาวน้อยไม่ถอยท่ากล้าสู้ใหญ่
เชาวน์ฉลาดใครเหนือชั้นนั้นเอาไป
ชนะใจคนไทยสุขสนุกจริงๆ

ครั้งสุดท้ายพ่ายไปให้มือสอง
ยังประคองแม้ต้องเจ็บเก็บใจนิ่ง
เจ้ามาไกลเกินฝันนั่นแน่จริง
สุดยอดยิ่ง แบดฯหญิงไทยไม่มีท้อ

โอ..สาวน้อย อย่างอแงที่แพ้พ่าย
อย่าเสียใจอย่าถดถอยปล่อยปลงหนอ
ฟ้ายังกว้างทางแห่งดาวจงก้าวต่อ
ทุกอย่างรอเธอคนเก่ง เปล่งประกาย..


ขอเป็นกำลังใจให้กับน้องเมย์  ..รัชนก  อินทนนท์ 
ก้าวไปสู่ดวงดาวเถิดสาวน้อย...

.......................................................................................................

   
        วันนี้ ไม่มีใครในเมืองไทยไม่รู้จักน้องเมย์
        "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักตบสาวไทยวัย 17 ปี ที่ได้สร้างชื่อให้คนทั้งโลกรู้จักเมืองไทย หลังจากคว้าแชมป์แบดมินตันหญิงเดี่ยวเยาวชนโลก 3 ปีซ้อน
        รัชนกเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิคครั้งนี้เป็นครั้งแรก
         แม้จะแพ้ในเกม...แต่น้องเมย์ก็ชนะใจคนไทยทั้งชาติ 
 
        วันนี้...มี"ข่าวดี"ของน้องเมย์
        เพราะล่าสุด ได้รับคำยืนยันแล้วว่า "สโมสรชิงเต่า" ทีมในซุปเปอร์ลีกแบดมินตันของประเทศจีน ได้เซ็นสัญญาซื้อตัว"น้องเมย์"จากสโมสรบ้านทองหยอดเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัว
        ตามโปรแกรม น้องเมย์จะต้องเดินทางไปร่วมทีมต้นสังกัดใหม่ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ 
        อย่างไรก็ตาม น้องเมย์ก็จะยังกลับมารับใช้ทีมชาติไทย โดยในเดือนกันยายน มีโปแกรมทีมชาติไทย 2 รายการคือเจแปนโอเพ่น และ ไชน่า มาสเตอร์
        การไปจีนของน้องเมย์ครั้งนี้ถือเป็น"ข่าวดีของไทย"ครับ เพราะการไปร่วมสโมสรซิงเต่าในจีน ทำให้น้องเมย์ได้รับการพัฒนาอีกขั้นตอน ตั้งแต่ระบบการฝึกซ้อมไปจนถึงเกมการแข่งขันที่จะต้องพบกับนักแบดมินตันฝีมือระดับโลกหลายๆคน
        กาชื่อไว้เลย โอลิมปิค 2016 ที่บราซิล น้องเมย์ได้เหรียญแน่นอน				
1 สิงหาคม 2555 07:53 น.

อาสาฬหบูชาพรรษาศีล

ศรีสมภพ

ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน...
เกิดเหตุการณ์สำคัญนานมาแล้ว
องค์แห่งพุทธบริสุทธิ์ดุจดวงแก้ว
แสดงแนว นำทางมั่น ปัญจวัคคีย์

 ..ทรมานกั้นกายก็ผ่ายผอม
หรือสมยอมความอยากก็ยากหนี
ทำย่อหย่อนผ่อนต่ำความพอดี
อีกตึงตังตั้งตรงชี้ไม่ดีเลย

มัชฌิมาปฏิปทา กล้าประกาศ
คิดฉลาดตัดขาดทุกข์สุขวิถี
เรารู้แจ้งแห่งธรรมความพอดี
เดินสายกลาง..ทางนี้ที่พ้นทุกข์

อริยสัจ.. ชัดชอบมีขอบเขต
ธรรมวิเศษเทศนานำมาปลุก
การยึดมั่นตัวตน ใช่พ้นทุกข์
การหลงสุข คลุกกิเลสเหตุแห่งปลาย

การเกิดดับสรรพสิ่งเป็นนิ่งแน่
ความเจ็บนำความแก่แท้ไฉน
ต่อจากนั้นพลันก็สิ้นดับดิ้นไป
วกเวียนว่ายไหลวนไม่พ้นกรรม..  

อัญญาโกณฑัญญะ  ละได้ก่อน
ทุกข์ถ่ายถอนผ่อนคลายใจดื่มด่ำ
ได้ดวงตาโสดาบัน ขั้นแห่งธรรม
บวชเป็นสงฆ์ องค์สาม ตามรัตนตรัย

เพ็ญอาสาฬหะ พระธรรมนำพระสงฆ์
ปฐมเทศน์ พุทธองค์ ทรงแสดงให้
สองพันกว่าปี มีปรากฏ กำหนดไว้
อดีตกาลยาวนานไกล คล้ายวันนี้ !

รุ่งวันถัดต่อกัน..สำคัญหมาย
เข้าพรรษาก็ย่างกรายในวิถี
ครั้งโบราณนานเนากล่าวขานมี
ให้ทำดีมีศีลสัตย์เคร่งครัดยิ่ง

วสันต์ฤดู..พรูพรั่งหลั่งฝนฟ้า
ปลุกชีวากล้าพันธุ์แตกก้านกิ่ง
วัฏจักรประจักษ์แจ้งแห่งความจริง
ว่าสรรพสิ่งวนเวียนและเปลี่ยนไป

อดีตกาลผ่านพ้นต้นบัญญัติ
เหล่าสาวกเลาะลัดตัดทุ่งใหญ่
เหยียบข้าวกล้าฝ่าฟันด้วยกันไป
หวังเพียงได้เผยแผ่ธรรมนำแนวทาง

พุทธองค์..ทรงบัญญัติอย่างชัดแจ้ง
ทั่วหนแห่งห้ามสงฆ์ลงเหยียบย่าง
อยู่รวมกันจำพรรษาหาที่ทาง
รอฝนจาง..สามเดือนครบจบเวลา

วิถีทางสั่งสอนธรรมแสนลำบาก
ฝนพรำหนักพักแผ่ธรรมจำพรรษา
สวดปาติโมกข์ร่วมถกกันคั่นเวลา
ออกพรรษาจึงคลาไคลไปเผยธรรม

เข้าพรรษาอาสาฬหะ..ละชั่วบาป
มาสารภาพนับเริ่มใหม่ไม่ถลำ
ลดละเลิก เบิกบานใจในรสพระธรรม
ให้งดงาม..เหมือนข้าวกล้าคราฝนเยือน

........................................................................................................................

ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี จะตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกหนึ่งวัน นั่นคือ "วันอาสาฬหบูชา" ซึ่งในปี พ.ศ.2555 นี้ วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันที่ 2 สิงหาคม และวันเข้าพรรษา ตรงกับวันที่ 3 สิงหาคม
   วันอาสาฬหบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน   โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานาม และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จน พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี

   วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น   "เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำแม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรีสมภพ