18 มกราคม 2554 02:12 น.

กล้วยไม้

สำโรงไทย ศรีสันทัด

พุ่มดอกไม้ไม่ทันโรยวันโปรยเถ้า
เหยียบขยี้ด้วยเท้าเดียรถี
กล้วยไม้ลีบกลีบจะร่วงไปกี่ที
ก็ยังมีที่จบงบประมาณ

ไม่ต้องถามต้องทายตายกี่ศพ
ดินยังมีให้กลบเกินครบด้าน
ซ่อนกลิ่นหอมก็ยังหอมไปอีกนาน
มาลาลาดไม่ขาดลาน มาหลายปี

ระยิบไฟใล่ใส่ไฟกระพริบ
แต่ไฟทนเถื่อนดิบ กลับริบหรี่
ป่วยการบ่นพ่นคำพร่ำความดี
น้ำตาเหือดเลือดปรี่ให้ผีฟัง

ริดกล้วยไม้ให้ลดจนหมดป่า
แลกกับความไร้ค่าของบ้าคลั่ง
แสนยาพลบนเลือดมีพลัง
สันติภาพผูกรั้งด้วยลูกปืน				
2 มกราคม 2554 22:52 น.

คำปลอบของแม่

สำโรงไทย ศรีสันทัด

คนดี
จงหยุดมองท้องนทีที่ปลายสาย
ทั้งขุ่นข้นโคลนคละสวะทราย
แลกยิ่งใหญ่เยียบเย็นด้วยเลนตม

ไม่มีสุขสูตรใดได้มาเปล่า
ต้องฝ่าเศร้าฟันโศกโลกทับถม
ต้องกัดข่มอมเจ็บกลืนเก็บตรม
ต้องผ่านล้มหล่มทุกข์ก่อนลุกยืน

จากหยาดใสไล่สีทีละหยด
ค่อยค่อยปลดลดค่าจากฟ้าผืน
เป็นธารน้อยอ่อยรินเกลือกดินกลืน
ก่อนหยัดยืนเหยียดหล้ามหานที

ลูกเอ๋ย
ความสำเร็จไม่เคยเปิดเผยสี
ต้องผ่านเขลาเคล้าทรามเพิ่มความดี
อย่ามองที่แซ่ซร้องแค่ปล้องปลาย

ที่บาดเจ็บเหน็บใจในวันนี้
ไม่ถึงปีที่ห่างก็จางหาย
เก็บแผลเหลือเพื่อเพิ่มพลังกาย
บทสุดท้ายจะเป็นจริงอันยิ่งยง
				
1 มกราคม 2554 03:25 น.

ปีแห่งความหวัง

สำโรงไทย ศรีสันทัด

ดอกไม้ไฟไล่แสงขึ้นแข่งพลุ
แตกช่อปรุประปังสังวาลย์สาย
สะเก็ดดวงร่วงลู่อยู่พรูพราย
สว่างวับสลับลาย สลายดาว

เป็นสัญญาณผ่านรุ้งอันรุ่งโรจน์
ดั่งเทพโปรดเปิดม่านรับวันหนาว
เหมือนโปรยเกร็ดเพชรมุกสุกสกาว
ให้พร่างพราวพร่าพรมลงห่มดิน

เป็นวันเริ่มเติมหวังพลังใหม่
วันที่ใจใสแน่นดังแผ่นหิน
เยียบเย็นปานธารใหญ่ที่ไหลริน
วันที่สิ้นเสียงสั่งจากกังวล

อรุณเริ่มเรืองเรื่อเจือแผ่นฟ้า
แสงทองทาอาบทับขับสีหม่น
ไม่มีแสงแฝงเงาเข้ามาปน
ไทยคงพ้นเทวศวัน นิรันดร์กาล

................................
				
24 ธันวาคม 2553 00:11 น.

ปลอบ

สำโรงไทย ศรีสันทัด



	ที่แอบไว้ใช่ข่มเพื่อถมขื่น
ล้ออยู่ริมยิ้มรื่นหลังกลืนขม
เป็นกอดเจ็บเก็บใจกลบไหม้ตรม
หรือเพราะจมหล่มดานจนด้านชา

	จะทนเหน็บเจ็บหนาวอีกคราวหรือ
ยอมแลกซื่อซื้อไห้โดยไม่หา
ยอมกัดกล้ำกินกลืนรื้นน้ำตา
แลกร่วงลาใจรินกับลิ้นคน

	ถ้าทุกข์ทับรับไถ่กันได้เท่า
ช่วยแบ่งเศร้าเบาสร้อยได้ร้อยหน
จะยอมช้ำย้ำชินไม่ดิ้นรน
ขอเห็นมนต์ยิ้มนั้นสักวันเดียว
 
	เสียดายฟ้าเวิ้งว้างอยู่ห่างลิบ
เกินกระซิบฝากหล้าฝ่าเขาเขียว
ถึงลมพ้ดพร่างพรูอยู่กรูเกรียว
คงลดเลี้ยวลอดไพรไม่ถึงนาง

	เคยโอบไหล่ไหวสั่นวันที่เศร้า
เคยหยอกเย้ายิ้มยั่ววันมัวหมาง
แม้เป็นเพียงภาพเก่าเงาจางจาง
ก็อยากวางเก็บไว้ให้ใจเติม

	หากราตรีคลี่หม่นบนความหมอง
ยังมีสองดาวอยู่คู่เดือนเสริม
ลองวางทาบมือทับกับดาวเดิม
จะตระหนักรักที่เพิ่มเติมผ่านเดือน
				
14 ธันวาคม 2553 12:37 น.

ปีไหม่เศร้าคลาย ปีกลายเศร้ากว่า

สำโรงไทย ศรีสันทัด

 ปีเก่าเศร้าขมอมขื่น	 กร่อนสิ้นกินสูญ
อาดูรด่าวดิ้นสิ้นแรง
	โหมพัดกลัดพิษพลิกแพลง	 จนเหือดกำแหง
เกินแจงก้ำจรดหมดความ
	ยังจ้องจองขวากฝากหนาม	 ย้ำติดยึดตาม
ย่างข้ามยากล้นพ้นลาง
	ปีใหม่ไป่มีที่วาง	         ทุกข์ทนหม่นหมาง
อ้างว้างเดียวอยู่คู่ดาย
	เทวาฟ้าหลบลืมหาย	     สาปด้วยบาปใด
จึงไม่ไถ่พ้นหม่นตรอม
	หวังเพียงว่ายพ้นวนล้อม	 เพียงแรงที่ออม
ละม่อมยอมก้มรับกรรม
	เหลือบุญเพียงน้อยไม่หนำ	 ลืมจดหลุดจำ
สุดนำมาไล่ใช้เวร
	ขอส่งให้ผู้ทุกข์เข็ญ	     สมทบบำเพ็ญ
ได้เร้นลุล่วงบ่วงมาร
	จะซ้ำจะย่ำสงสาร	     จะทรมาณ
ขอพานพบอยู่ผู้เดียว

          ................................................				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสำโรงไทย ศรีสันทัด
Lovings  สำโรงไทย ศรีสันทัด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสำโรงไทย ศรีสันทัด
Lovings  สำโรงไทย ศรีสันทัด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสำโรงไทย ศรีสันทัด
Lovings  สำโรงไทย ศรีสันทัด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสำโรงไทย ศรีสันทัด