27 ธันวาคม 2548 17:50 น.

หมดแรงจะแข่งใคร

เจลใส


ทุกทุกครั้งยังจดจำความช้ำเศร้า
คราบเขม่าหัวใจไฟไหม้แผล
รอยบาดลึกสึกกร่อนจนอ่อนแอ
ยอมพ่ายแพ้แลมองนองน้ำตา

หลายหลายคราวหนาวเหน็บจนเจ็บปวด
รักขมวดอวดปมแน่นแสนผวา
เป็นอดีตขีดเส้นใต้ในคำลา
หมดคุณค่าล้าแรงจะแข่งใคร

ต่อต่อไปคงไม่หวังถึงฝั่งฝัน
เพราะหวาดหวั่นอนาคตไม่สดใส
ลุกขึ้นสู้สู้เพื่อแพ้รู้แก่ใจ
สู้แล้วได้เพียงเหรียญทองของคนตรม
				
28 พฤศจิกายน 2548 16:20 น.

แด่ ...เจ้าเจ๊าะแจ๊ะ

เจลใส

กลอนบทนี้...
        แต่งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์
            แด่....สุนัขแสนซื่อสัตย์
      

เจ้าเจ๊าะแจ๊ะ...

แววตาเศร้าเจ้าหมาน้อยลูกคอยอ้อน
เฝ้าวิงวอนนอนหนุนตักลูกรักเอ๋ย
กระดิกหางพรางอิดออดให้กอดเกย
แหงนหน้าเงยดั่งเอ่ยปากด้วยอยากตาม

เห่าเสียงดังฟังชัดถนัดหู
ให้ศัตรูดูว่าน่าเกรงขาม
องครักษ์พิทักษ์บ้านขนานนาม
มิผลีผลามครั่นคร้ามทำกล้ามโต

บ๊อก บ๊อก บ๊อกกรอกเสียงแทรกเพื่อแลกข้าว
ตาวับวาวคราวถูกด่ามาให้โอ๋
บ๊อก บ๊อก บ๊อกเสียงตัวยุ่งไอ้พุงโร
แม่ปล่อยโฮโผกอดเจ้าคราวสิ้นใจ.....				
26 พฤศจิกายน 2548 13:02 น.

สัญญาประกันใจ

เจลใส


เคยเห็นหน้าเคยพะนอเคยคลอเคล้า
เคยพะเน้าเฝ้าเอาใจมิห่างหาย
เคยอิงแอบแนบชิดสนิทกาย
มิแหนงหน่ายสองใจอยู่ใกล้กัน

เคยได้ยินท่วงทำนองของซุ่มเสียง
แม้ร่วมเรียงเคียงหมอนยังนอนฝัน
ฉันมีสุขยืนอยู่ได้ในคืนวัน
แสนหวาดหวั่นเพราะฉันนั้นมีเธอ

แทบขาดใจด้วยพิษของคิดถึง
หากวันหนึ่งเราห่างไกลไม่ไผลเผลอ
มีสัญญาประกันไว้ก่อนได้เจอ
ว่าจะหลงพร่ำเพ้อเธอผู้เดียว
				
26 พฤศจิกายน 2548 12:48 น.

ชนชาติไทย

เจลใส

(๑.)
สละเลือดสละเนื้อก็เพื่อชาติ
เพื่ออำนาจอธิปไตยตามกฎหมาย
เพื่อลูกหลานจะปกป้องแม้ต้องตาย
มิยอมพ่ายเพื่อเป็นไทจึงวายปราณ

ทั้งกรุงศรีฯธนบุรีที่ปรากฏ
เพราะไม่หมดอดทนของคนหาญ
ได้จารึกให้นึกถึงซึ่งตำนาน
ชนกล่าวขานชื่นชูอยู่คู่เมือง

สองมือถือดาบแกว่งเอาแรงต้าน
ไทยคือบ้านธำรงไว้ให้กระเดื่อง
แม้นสิ้นชีพแล้วแผ่นดินกลับรุ่งเรือง
นับว่าเปลื้องปลดแอกที่แบกมา

(๒.)
ก้าวผ่านช่วงล่วงสมัยไปหลายก้าว
เกิดเรื่องราวนักต่อสู้และผู้กล้า
แม้ต่างเพศต่างวาระต่างเวลา
แต่มิต่างศรัทธาประชาธิปไตย

ไทยจึงมีองค์กษัตริย์เป็นฉัตรหล้า
ไทยจึงมีศาสนายึดเหนี่ยวได้
ไทยจึงมีเอกราชคือชาติไทย
ไทยจึงมีสุขใจในธานี

เรายังคงอาศัยใต้ร่มสยาม
ประกาศนามภาคภูมิไว้ในศักดิ์ศรี
บรรพบุรุษรักมั่นสามัคคี
เราจึงยังคงมีที่คุ้มภัย

(๓.)
แต่วันนี้เริ่มมีใครได้กลืนชาติ
หลงอำนาจขาดความคิดวินิจฉัย
บริหารงานประเทศมีเลศนัย
เข้าสมัยนำพาประชานิยม

ปันน้ำใจเล็กน้อยพลอยให้ปลื้ม
รับมาลืมความยากแค้นแสนขื่นขม
เงินหว่านโรยโปรยยาหอมจึงตรอมตรม
หลงคารมคมฝีปากลำบากกาย

หวังจะซื้อความเพลิดเพลินจากเงินกู้
เชิดคอชูหน้าตั้งหลังผึ่งผาย
ยามใช้หนี้ทำงานหนักจมปลักควาย
สนตะพายสายร้อยคอยลากไป

(๔.) 
เป็นชาวนาดำกล้าหวังได้ข้าว
ปลูกมะพร้าวชาวสวนหวังสิ่งไหน
นักการเมืองลงเลือกตั้งหวังอะไร
ถ้ามิใช่หวังในสิ่งตอบแทน

เป็นคนจนอยู่อย่างประสายาก
มั่งมีมากขึ้นอยู่สองขาแขน
ขยันทำหมั่นสร้างมิขาดแคลน
เดินตามแผนชีวีที่เพียงพอ

หากคนไทยตกเป็นทาสชาติคงล่ม
หลงนิยมยึดถือแบมือขอ
หลงน้ำคำพร่ำโกหกเขายกยอ
คงเหลือซากแค่ตอต่อวิญญาณ.......				
14 พฤศจิกายน 2548 14:43 น.

เบื้องหลังมนุษย์

เจลใส

เคยบวชเรียนเขียนอ่านผ่านธรรมะ
ยังมิละซึ่งกิเลสเพศตัณหา
กลับลุ่มหลงลงลึกศึกกามา
แล้วแสร้งว่าตัวข้านั่นหนาปลง

ธรรมฉาบหน้าวาจาช่างน่าคบ
ผู้ใดพบนบน้อมจิตพิศวง
แต่พอเห็นเป็นหญิงมิ่งอนงค์
กลับองค์ลงหวังสมสู่ชื่นชู้เชย

ทำขันติมิรู้ใคร่ในสังวาส
กายสะอาดภาพเลิศล้ำทำวางเฉย
คุณสมบัติสัตบุรุษสุดเปรียบเปรย
มิอาจเอ่ยเผยธาตุอันหยาบทราม

ณ เบื้องลึกก้นบึ้งใจรอให้ค้น
เบื้องหลังคนที่ว่าเก่งน่าเกรงขาม
สร้างฉากสวยด้วยพูดดีดั่งชีพราหมณ์
กลับเกลือกกามกลั้วกิเลสดั่งเศษคน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจลใส
Lovings  เจลใส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจลใส
Lovings  เจลใส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจลใส
Lovings  เจลใส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเจลใส