3 ธันวาคม 2544 11:45 น.

ตัวเราเอง

เด็กเมืองยศ

กระจกส่องใสสวยเด่นจะเห็นหน้า 

ปัญหามาปัญญาส่องมองแจ่มใส

ทำดีชั่วตัวรู้อยู่แก่ใจ

หมอดูไดไม่สู้ดูตัวเอง				
2 ธันวาคม 2544 14:09 น.

พ่อ

เด็กเมืองยศ

พ่อตื่นก่อนไก่ขันประชันเสียง   ก่อนนกบินเรื่อยเรียงเป็นทิวแถว
พ่อตื่นก่อนอาทิตย์เคลื่อนพ้นแนว  พ้นทิวแถวต้นไม้ไล่มืดมน
ฉันเดินตามรอยเท้าพ่อเมื่อตอนสาย  เพื่อจะไปยังทุ่งมุ่งฝึกฝน
ทำไร่นาตามประสาผู้ทุกข์ทน  กรำแดดฝนเหนื่อยยากลำบากกาย
พ่อจ๋า ..ลูกไส้กิ่วหิวข้าว     เลือดไหลยาวเป็นทางเจ็บเหลือหลาย
โดนหญ้าบาดปานจะขาดใจตาย  กลัวเหลือหลาย งูเงี้ยวเขี้ยวขบเอา
ลูกเอ๋ย..ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนดอก  พ่อจะบอกความสบายให้กับเจ้า
ความรื่นรมย์สุดสวยสำหรับเรา   มิได้เอาดอกไม้มาปูทาง
แม้ว่ามันบีบคั้นหัวใจเจ้า    หนามทิ่มเอาที่เท้าต้องถากถาง
เลือดของเจ้าที่ไหลมาเป็นทาง  เปรียบเป็นดั่งทับทิมบนหญ้างาม
น้ำตาเจ้าที่ไหลลงใบไม้   เปรียบได้ดั่งหยาดเพชรน่าเกรงขาม
เพื่อมนุษยชาติจงเด่นงาม  อย่าละความกล้าหาญและอดทน
เมื่อจะต้องเผชิญกับความทุกข์  จงสุขในอุดมอารณ์ที่ฝึกฝน
จะไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นคน   ขอจงเดินดั้นด้นตาม..พ่อ..มา

                                   ......เด็กเมืองยศ....				
2 ธันวาคม 2544 13:12 น.

คนเอ๋ยคน

เด็กเมืองยศ

พลาดหวังไม่สมใจแห่งตน
เศร้าสุดทนคนหรือจะทานได้
แต่พอสมรักก็เบิกบานหัวใจ
คนอะไรหัวใจช่างเปลี่ยนแปร
      บังเกิดลาภ มั่งมีศรีสุข
      แสนสนุกจับจ่ายไม่แยแส
      คนตกทุกข์ได้ยากฉันไม่แคร์
      ขอเพียงแต่สุขเกษมเปรมฤดี
คราโกรธเกลียดเคียดแค้นแสนดุร้าย
คราสมใจเรื่องตายเล็กทันที
คราชอบใจหัวใจก็ช่างดี
เลิศล้ำปราณีล้วนเกิดที่หัวใจ
       เสื่อมยศหมดอำนาจวาสนา
       ลูกน้องต่างห่างหน้าไม่มาใกล้
       หมดยศหมดอำนาจลงเมื่อใด
       เก็บเอาความช้ำไปให้ทรมาน
คำสรรเสริญเยินยอมาก่อปั้น
หัวใจมันฟูฟ่องหลงคำหวาน
พอติฉินนินทาพาเดือดดาล
จะชื่นบาน เคียดแค้น เป็นที่ใจ
         โลกธรรมเป็นธรรมดาโลก
         อย่าทุกข์โศกโยกตามกระแสไหล
         จิตตั้งตรงคงมั่นอย่าหวั่นไป
         เกิดที่ใจใยไม่ดับลงกับใจ

                                  .....เด็กเมืองยศ......				
2 ธันวาคม 2544 11:45 น.

รักแรกพบ

เด็กเมืองยศ

แรกพบเจอหน้าเธอในคืนวันหนึ่ง
ดูสวยซึ้งใสซื่อไร้เดียงสา
ฟังน้ำคำพร่ำกล่าวจำนรรจา
ยังตรึงตราติดอยู่มิรู้คลาย
       ถึงแม้เจอหน้าเธอเป็นครั้งแรก
       แต่ก็แปลกครุ่นคิดอยู่มิรู้หาย
       จำฝังจิตพะวงเพ้อไม่วางวาย
       นี่หรือใจที่เขาเรียกรักแรกเจอ
ถ้าหากแม้นแดนดินถิ่นศักดิ์สิทธิ์
อำนวยฤทธิ์ทรงอานุภาพเสมอ
โปรดดลรักปักจิตฉันและเธอ
หากแม้นเจอครั้งใหม่สมใจปอง
                                  .....เด็กเมืองยศ........

                             อยากให้ความรัก

               อยากให้ความรัก  เพื่อคนทั้งโลก
               อยากจะให้โชค  เพื่อคนทั้งหล้า
               อยากให้รอยยิ้มลบคราบน้ำตา
               อยากให้ชีวาแก่คนทั้งปวง
อยากให้คนทุกข์  พ้นทุกข์ลำเค็ญ
ความเคืองเข็ญ  แค้นยากลำบากใหญ่หลวง                                
ให้หมดทุกข์  สร้างสุขในใจทุกดวง
อยากให้ปวง  คนทุกข์  เป็นสุขสันต์
               จะอุทิศ  ชีวิต ทั้งหมดนี้
               เพื่อสร้างความดีไม่เคยหวั่น
                จะเร่งสร้างทั้งคืนและทั้งว้น
               เพื่อชีวิตอันสั้นนั้นมีราคา

                 .......ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง......				
1 ธันวาคม 2544 12:14 น.

รถไฟสายมรณะ

เด็กเมืองยศ

ไม้หมอนที่รองราง    ต่างชีวิตที่เรียงนอน
ไร้สิทธิ์จะอ้อนวอน   เป็นชเลยที่ทุกข์ทน
อาหารวันละมื้อ        เนื้อ นม ถือว่าขัดสน
ข้าวต้มสมผักปน      ต่อชีพคงลมหายใจ
เสื้อผ้าอาภรณ์ห่ม     กันแดดลมก็ไม่ได้
มีเพียงกางเกงใน    พอหุ้มห่อไม่อับอาย
แร้นแค้นแสนขัดสน  ใช้งานจนต้องป่วยไข้
ไม่มีผัดผ่อนใคร       ต้องทำงานจึ่งมีกิน
ชีวิตที่ปลิดหล่น         ปนน้ำตาเป็นอาจิณ
เหงื่อหยาดไหลหลั่งริน  เกิดเป็นสายแม่น้ำแคว
ไหลฟ้องความเหี้ยมโหด  โฉดมนุษย์ผู้อ่อนแอ
ทำเหมือนไร้ดวงแด    เพื่อสำเร็จความโลภหลาย
รถไฟสายมรณัง          ฟังขมขื่นมิรู้คลาย
หลับเถิดให้สบาย         สู่สุคตินิรันดร์
หยุดความกระหายอยาก  มากเมตตามีต่อกัน
สงครามที่โศกศัลย์        จะเกิดได้อย่างไรกัน
อดีตเตือนให้คิด            ชีวิตเกิดเพื่ออะไรนั่น
จงสร้างดีทั้งคืนวัน          เพื่อชีวิตสั้น ..นั้นมีราคา
        
                 ....................เด็กเมืองยศ.......				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเด็กเมืองยศ
Lovings  เด็กเมืองยศ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเด็กเมืองยศ
Lovings  เด็กเมืองยศ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเด็กเมืองยศ
Lovings  เด็กเมืองยศ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเด็กเมืองยศ