10 มีนาคม 2552 10:49 น.

ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า สำนวนที่แม่บ้านควรจำและปฏิบัติตาม

เทพธิดาอเวจี

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปความคิดอ่านของคนเราก็มักจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัยด้วย
อะไรที่เป็นคำสอนของคนโบราณสมัยก่อน คนยุคใหม่บางคนก็จะไม่เชื่อถือเสีย
แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องล้าสมัย แต่ใครจะรู้บ้างว่าคำสอนของคนโบราณบาง
อย่างก็สามารถใช้ได้กับคนทุกยุคทุกสมัย

ขอยกตัวอย่างคำสอนของคนโบราณมาหนื่งประโยค ก็คือ ไฟในอย่านำออก 
ไฟนอกอย่านำเข้า  บางคนอาจจะสงสัยว่าอะไร ไฟใน ไฟนอก เข้าออก อะไร ไม่
เข้าใจ  แต่ความเป็นจริงแล้วคนโบราณต้องการจะสอนเราให้รู้ว่า เราไม่ควรที่
จะนำปัญหาภายในบ้าน ไปพูดให้คนนอกบ้านฟังและรับรู้ เพราะมันเป็นเรื่อง
ภายในบ้าน ภายในครอบครัว มันไม่เหมาะสมที่คนนอกบ้านจะมารับรู้เรื่องภาย
ในบ้านของเรา  และเราก็ไม่ควรนำปัญหาข้างนอกบ้านเข้ามาในบ้าน เพราะว่า
จะทำให้ครอบครัวไม่มีความสุข ลำพังปัญหาภายในบ้านก็มีอยู่แล้ว ถ้ามีปัญหา
นอกบ้านเข้ามาสมทบอีก บ้านคงร้อนเป็นไฟ ถึงแม้ว่าในบ้านไม่มีปัญหาอะไร
เราก็ไม่ควรนำปัญหานอกบ้านเข้ามาอยู่ดี เพราะ ครอบครัวสงบสุขดีแล้วจะหา
เรื่องไม่สะบายใจเข้ามาในบ้านทำไม ปัญหาอยู่นอกบ้านก็ต้องแก้ไขให้ผ่าน
พ้นไปตรงนอกบ้านนั้นแหละดีที่สุด

ถ้าคุณแม่บ้าน และทุกคนสามารถทำได้ตามคำสอนของคนโบราณเช่นนี้แล้ว
ครอบครับของทุกคนก็จะมีความสุขสงบ				
4 มีนาคม 2552 15:57 น.

วิธีให้กำลังใจตัวเองเวลาเห็นภาพบาดตาบาดใจ

เทพธิดาอเวจี

ถ้าแฟนเก่าของเราพาแฟนใหม่มาเย้ยหยันเรา เราจะทำอย่างไร เตรียมจดใส่
กระดาษแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเลยนะค่ะ เวลาเห็นภาพบาดตาบาดใจก็หยิบ
ขึ้นมาอ่านได้

1. คนใหม่เนี่ย ดูสวย ดูหล่อ ดีนะ แต่ก็งั้น ๆ แหละ ดูบ่อย ๆ เดี๋ยวก็เบื่อ
สู้ตัวฉันก็ไม่ได้ ถึงไม่สวย  (ไม่หล่อ) ก็ น่ารัก มีเสน่ห์ จิตใจดี

2. เขามีตาหามีแววไม่ ที่ทิ้งแม่พระ (พ่อพระ) อย่างฉันไป ถือซะว่า เขาโชคร้าย
ที่ทิ้งฉันไปละกัน

3. ฉันรู้ตัวดี ว่าฉันมีดีอะไรบ้าง ถึงใครจะไม่เห็นแต่ฉันก็เห็นความดีของตัวเอง

4.  ผู้ชายดี ๆ ไม่ได้มีคนเดียวในโลก  ลองเปิดโอกาศให้ตัวเองบ้างคงจะดี

5.  อย่าทำตัวให้โทรม ในขณะที่ฉันโทรม เขากลับสวย (หล่อ) ขึ้นทุกวัน เปลี่ยน
คู่ควงไม่ซ้ำหน้า ฉันต้องดูดีบ้าง เพื่อตัวเอง แล้วสิ่งดี ๆ ก็จะเข้ามาในชีวิตฉันเอง

6.  รักที่จริงใจสามารถสร้างใหม่ได้เสมอ ขอให้มีความจริงใจต่อกัน แฟนคนเก่า
ก็ปล่อยเขาไป เขาลืมเราแล้ว เขาเลือกคนอื่น เขาโง่ที่ไม่เห็นความงามในจิตใจเรา
ก็ปล่อยเขาไปเถอะ

7.  ความรักมักจะแพ้ระยะทาง และความใกล้ชิดเสมอ

8. อย่าร้องไห้ถ้าเห็นเขาอยู่กับใคร และกำลังมีความสุขอยู่กับคนนั้น เราต้องเข้ม
แข็งเดินเชิดหน้า และคิดว่า เขาไม่เห็นเศร้า รู้สึกอาลัยอาวรเหมือนเราเลย
ฉะนั้นเราก็ต้องไม่เศร้า เราจะต้องมีความสุขให้มากกว่าเขาอีก 

9. เป็นคนดีเพื่อตัวเอง ฉันเชื่อว่าสิ่งดี ๆ ก็จะเข้ามาในชีวิต

ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน แล้วใจของคนเราจะแน่นอนได้อย่างไร
รักตัวเอง เชิดชูความดีของตัวเอง ใครจะว่าเราหลงตัวเองก็ช่างเขา เพราะเรารู้
ตัวดีว่าเราแค่อยากให้กำลังใจตัวเองเท่านั้น ชีวิตคนเราต้องเดินต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ				
26 กุมภาพันธ์ 2552 15:17 น.

เป็นคนดี อย่าดีเกินไป

เทพธิดาอเวจี

ในโลกนี้มีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกัน คนเลวก็มีเลวน้อยที่สุดถึงเลวมากที่สุด
คนดีก็มีดีน้อยทีสุดถึงดีมากที่สุด หลากหลายกลุ่มคนปะปนกัน ปฏิบัติตัวไปตาม
วิถึทางของแต่ละคน เพราะโลกนี้มีความหลากหลายเราจึงเป็นคนดีอย่างเดียว
ไม่ได้นั้นเอง

มึหลายคนที่เป็นคนดีมาก ๆ แต่มักจะถูกคนเอาเปรียบอยู่เสมอ ถูกหลอกใช้
จากความจิตใจดี เพื่อแก้ปัญหาความเป็นคนดีเกินไป ก็จะต้องแก้ดังนี้

1 ถ้าถูกเอาเปรียบต้องหัดเถียงบ้างวยึดความถูกต้องเป็นหลัก
2 อย่าใจอ่อนกับความมารยาของคนบางประเภท ที่ชอบเสแสร้งมารยาให้ต้องใจ
อ่อน ต้องสังเกตุพฤติกรรมของคนนั้นว่าเขาจริงใจหรือกำลังเสแสร้งอยู่
3 อย่าเชื่อใครง่าย ต้องใช้วิจารณญานให้มาก พิจราณาด้วยเหตุผล หลักความเป็นจริง
4 อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ เพราะใจคนเรายากแท้หยั่งถึง คนที่ไว้ใจได้ก็คือตัวเราเอง

นี้คือ 4 ข้อง่าย ๆ ที่จะทำให้คนดีเกินไปอย่างคุณ เป็นคนดีที่แข็งแกร่งในสังคม
ได้แล้ว

การเกิดเป็นคนต้องมีดีและเลวในตัว แต่เราเลือกได้ว่าจะเป็นคนดีแบบใหน
และเลวแบบใหน เราควรที่จะดีกับใคร และเราควรจะเลวกับใคร
เราควรดีกับคนที่ดีกับเรา เราจะเลวก็ต่อเมื่อมีคนมาทำเลวกับเราก่อน และที่
เราทำเลวกลับก็เพื่อให้เขารู้ว่า เขาไม่ควรจะเอาเปรียบคนอื่น ก็เท่านั้นเอง
ตำรวจยิงผู้ร้ายตาย ตำรวจก็เป็นคนดีที่จับผู้ร้ายได้ และกำจัดผู้ร้ายให้กับประชา
ชน แต่ตำรวจก็ต้องฆ่าผู้ร้ายตาย ซึ่งการฆ่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะเป็นบาป แต่
ตำรวจต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน ถ้าตำรวจไม่ฆ่าผู้ร้ายปล่อยผู้ร้ายไป ประชา
ชนอีกกี่คนต้องสังเวยชีวิตให้กับผู้ร้ายคนนี้  เพราะฉะนั้นตำรวจจึงเหมือน
ดาบสองคบนั้นเอง				
24 กุมภาพันธ์ 2552 11:00 น.

ครั้งหนึ่งฉันคือ มือที่สาม

เทพธิดาอเวจี

ในความคิดของทุกคน ย่อมคิดว่า มือที่สาม คือบุคคลที่น่ารังเกียจ ทำผิดศิลธรรม
หากผู้หญิงคนใหนก็ตามได้ถูกตราหน้าว่าเป็นมือที่สามแล้ว ย่อมถูกสังคม
ประนามหยามเหยียดกันทุกคน ถูกว่า ว่า เป็นนางวันทองบ้าง นางกากีบ้าง
บางครั้งก็ถูกว่า ระวังจะตกนรกไปปีนต้นงิ้วบ้าง  สรุปแล้วมือที่สามก็เปรียบ
เสมือนนางมารร้ายในละครที่คอยจ้องจะจับพระเอก และคอยหาเรื่องนางเอก
ตลอดเวลา

แต่ในชีวิตจริง จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า มือที่สามบางคนก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับใน
ละคร หรือเลวร้ายอย่างที่ใคร ๆ คิดกัน  ตรงกันข้าม มือที่สามกลับเป็นคนที่
เจ็บช้ำที่สุด ครั้งหนึ่งฉันเคยเป็นมือที่สามแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะคนที่เข้ามา
ขอฉันเป็นแฟน เขาบอกว่าเขายังไม่มีแฟน ฉันจึงคิดว่าฉันคือที่หนึ่งของเขา
แต่พอเวลาผ่านไป อยู่ดี ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งแสดงตัวขึ้นมาว่า คบกับแฟนฉัน
มา 3 ปีแล้ว ทำให้ฉันเสียใจ และเจ็บใจมาก จากที่คิดว่าเป็นหนึ่งกลับกลายเป็น
มือที่สามโดยไม่รู้ตัว ฉันอยากจะตัดใจแต่ทำไม่ได้ เพราะรักเขาจนถอนตัวไม่
ขึ้นเสียแล้ว ฉันจึงแอบติดต่อทางโทรศัพท์กับเขาอย่างลับ ๆ ฉันกับเขาไม่เคยมี
อะไรกัน.ฉันรักเขาด้วยใจ ส่วนใหญ่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ เพราะว่าเราอยู่ห่าง
กันมาก 

ย้อนอดีตไปฉันยังจำวันแรกที่เจอกับเขาได้ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เราเจอกัน
แต่ด้วยอุปสรรคมากมายทำให้ฉันทะเลาะกับเขา จนเลิกติดต่อกันไป 1 อาทิตย์
ฉันเป็นฝ่ายโทรกลับไปหาเขาใหม่อีกครั้ง เขาโกรธฉันและเคืองฉันไม่หาย
ฉันพยายามขอโทษเขาและรู้สึกผิดต่อเขามากที่เข้าใจ เขาผิดไป ท่าทีของเขาเริ่ม
เปลี่ยนไป เพราะเขามีอีกตนอยู่ข้างเขา คนที่เขาคบมา 3 ปี โดยที่ตอนนั้นฉันยัง
ไม่รู้แล้วก็มารู้ที่หลังจนต้องเจ็บใจแบบนี้แหละ เขาบอกว่าคู่หมั้นเขาเป็นคนที่พ่อ
แม่หาให้เขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น

ต่อมาถึงฉันจะรู้ว่าเขามีคู่หมั้นแล้วแต่ฉันก็ยังแอบคบกับเขาอยู่ เพราะฉันรักเขา
แบบถอนตัวไม่ขึ้น เวลาก็ผ่านมาพักหลัง ๆ เขาเคยพูดจาทำร้ายน้ำใจของฉันครั้ง
หนึ่ง จึงทำให้ฉันคิดว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว ใจของเขาคงเปลืยนไปรักคู่หมั้นของ
เขาแล้ว เพราะในขณะที่ฉันโทรศัพท์ติดต่อกับเขา เขาก็อยู่กับคู่หมั้นเขาแล้ว
ฉันติดต่อกับเขาโดยไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรใด ๆ ทั้งสิ้นกับคู่หมั้นของเขา ฉันถือว่าฉัน
เป็นคนมาที่หลังฉันไม่มีสิทธิ์ แต่สุดท้ายกลับเป็นฉันที่ถูกผู้หญิงคนนั้นละลาน
ผู้หญิงคนนั้นส่งข้อความมาโดยใช้โทรศัพท์มือถือของเขาคนที่ฉันรัก มาหาเรื่อง
กับฉัน ฉันเองเป็นคนไม่ชอบถูกใครรังแกอยู่ฝ่ายเดียวฉันจึงส่งกลับไป เขาก็
โง่ไม่รู้เรื่องว่าคู่หมั้นตัวเองแอบเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาหาเรื่องคนอื่น
แต่ก็นั้นแหละ เวลาเปลืยนใจคนก็เปลี่ยน ความรักมันก็ต้องแพ้ความใกล้ชืด
อยู่วันยังค่ำ เขากลับเข้าข้างคู่หมั้นของเขา ทั้ง ๆ ที่ฉันพูดความจริงกับเขาทุกอย่าง
ฉันมันโง่จริง ๆ ที่รักเขาอยู่ได้ แต่ฉันก็ยังยอมเป็นคนโง่ต่อไป

ทุกวันนี้ฉันไม่ได้ติดต่อกับเขาแล้ว เพราะว่าเขาปิดเบอร์ไปแล้ว ตอนนี้ถึงฉันจะ
เสียใจบ้างแต่ก็ไม่มากมายอะไร ถ้าถามว่ายังรักเขาอยู่มั้ย ฉันก็จะตอบว่ายังรัก
เขาอยู่ถึงแม้ว่าเขาไม่รักฉันแล้วก็ตาม ฉันหลอกตัวเองไม่ได้ว่าไม่ได้รัก เพราะ
ฉันรู้ใจตัวเองดีที่สุด ฉันเชื่อว่ารักทำให้คนตาบอดได้ 

ความรักสำหรับฉันแล้ว ฉันมีรักแท้ได้แค่ครั้งเดียว ฉันคงรักใครมากไปกว่า
เขาไม่ได้อีกแล้ว สุขมากเมื่อได้รักเขา ทุกข์มากเมื่อได้รักเขา แต่เมื่อขาดเขาฉัน
ก็ไร้ความรู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์อะไรเลย หัวใจที่เคยผองโตมันก็แฟบเหมือนเดิม

ฉันคงจะมีเวรมีกรรมเยอะจึงต้องพรากจากคนรัก ฉันใช้กรรมในชาตินี้เพื่อชาติ
หน้าฉันจะได้สมหวัง ทุกวันนี้ฉันหันหน้าเข้าหาธรรมมะ พยายามสวดมนต์ให้จิต
ใจสงบ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยสะบายเลยไม่ได้สวด ถ้าหายป่วยแล้วก็จะกลับมาสวด
มนต์เหมือนเดิม

ข้อฝากข้อคิดไว้ว่า ลืมอะไรก็ลืมได้ แต่จะลืมใครสักคนต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
ถ้าคุณรักใครจริงจังสักคนสักครั้งในชีวิตคุณจะรู้ว่าความรู้สึกของคนรักเดียว
ใจเดียวนั้นเป็นอย่างไร				
22 กุมภาพันธ์ 2552 18:24 น.

พิธีแต่งงานจำเป็นด้วยหรือ?

เทพธิดาอเวจี

"มีเพียงงานวิวาเดียวดายภายใต้แสงจันทร์ สุขสกาวดวงดาวแพรวพรายนับ
หมื่นร้อยพัน ที่มาเป็นพยานแห่งรัก ที่ไม่มีพิธีใดจะสำคัญเหนือใจ" ถ้าร้องผิด
ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ แต่ที่นำเพลงนี้มาก็เพื่อที่จะบอกว่า การที่คนสองคนรักกัน
และมาอยู่ด้วยกันเป็นคู่สามีภรรยานั้น ไม่จำเป็นหรอกว่าต้องจัดพิธีแต่งงานให้
คนเขารู้ไปทั่ว มันขึ้นอยู่กับใจสมัครของทั้งสองฝ่ายรวมถึงญาติพี่น้องได้รับรู้ว่า
ทั้งคู่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วต่างหาก

ฉันเห็นหลายคู่ที่แต่งงานกัน จัดงานใหญ่โต แต่สุดท้ายก็เลิกกัน แต่ก็มีหลายคู่
ที่อยู่กันยืด แต่อยากจะยกตัวอย่างคู่ที่แต่งงานจัดงานใหญ่โตแล้วก็เลิกกันในที่
สุดมากกว่า ว่าพวกเขาคงคิดว่าถ้ารู้อย่างนี้นะ ไม่จัดก็ดีหรอก เสียดายตัง
ค่าใช้จ่ายเยอะแยะมากมาย แล้วสุดท้ายก็มาเลิกกันแบบนี้ 

เพราะว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่หมายถึงชีวิตคนทั้งชีวิตที่ต้องมาอยู่
ร่วมกันไปตลอดชีวิต

พอแต่งงานกันก็ประกาศไปทั่วว่าแต่งงานกันแล้วนะ ป่าวประกาศให้รู้กันแทบ
จะทั้งตำบล แต่พอเลิกกันไม่เห็นป่าวประกาศบ้างเลยว่า เลิกกันแล้วนะ

พิธีแต่งงาน ชุดเจ้าสาวเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงทุกคน แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่ามัน
ไม่จำเป็นสำหรับฉันเลย ในทัศนคติของคนโสดอย่างฉันคิดว่า ถ้าฉันมีแฟน
ฉันก็จะอยู่กับเขาไปก่อนถ้าเข้ากันได้ค่อยแต่งงานกันที่หลัง หรือบางทีอาจจะไม่
แต่ง อาจจะแค่จดทะเบียนแล้วก็อยู่ด้วยกันไปอย่างนั้น อาจจะมีพิธีนิดหน่อย
ก็คือทำบุญเลี้ยงพระ ถวายสัฆทาน ผูกข้อไม้ข้อมือ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

งานแต่งงานถ้ามีความรักเป็นองค์ประกอบสำคัญ ย่อมเป็นงานที่มีความสุขที่สุด
แต่ถ้าเป็นงานแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักแล้ว งานแต่งงานก็เป็นแค่งาน
เลี้ยงธรรมดาที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำเท่านั้นเอง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพธิดาอเวจี
Lovings  เทพธิดาอเวจี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพธิดาอเวจี
Lovings  เทพธิดาอเวจี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพธิดาอเวจี
Lovings  เทพธิดาอเวจี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเทพธิดาอเวจี