23 มิถุนายน 2546 22:18 น.

เธอ..เปลี่ยน

แก้ว กรุงเก่า

....เธอเป็นสาว ขาวสวย เดินนวยนาถ
ช่างงามบาด ตาชาย ที่หมายจ้อง
พี่เป็นหนุ่ม แปลกหน้า ไม่กล้ามอง
คงได้ปอง เพียงแต่เงา เศร้าฤดี
....เธอเกลือกกลั้ว บนกองทอง หน้าผ่องใส
พี่ยากไร้ เงินทอง มัวหมองศรี
เธอสมบูรณ์ พูนสุข ทุกนาที
ตัวพี่มี เพียงตัว กับหัวใจ
....ได้แต่คิด แต่ว่า ไม่กล้าเอ่ย
จำนิ่งเฉย ทุกข์ทน จนหวั่นไหว
ต้องฝืนยิ้ม สู้ชะตา ก้มหน้าไป
หวังเพียงให้ โชคหนุน บุญนำพา
....จนหลายวัน ผ่านไป จึงได้เห็น
แม่เนื้อเย็น ของพี่ ที่พร่ำหา
พ้นดักแด้ มีปีก งอกออกมา
ใช้ขาหน้า ถูกัน เหมือนฉันเลย
....เธอสวมหมวก หัวเขียว สายเดี่ยวด้วย
เธอช่างสวย บาดใจ ใคร่เฉลย
ตอนเป็นหนอน ไงเล่า ขาวจริงเอย
ตอนนี้เลย เปลี่ยนแปลง เป็น...แมลงวัน...				
23 มิถุนายน 2546 18:09 น.

แด่...ครูกวีผู้ปรีชา (กาพย์เห่)

แก้ว กรุงเก่า

สิบนิ้วประณตน้อม       บูชา
ต่างธูปเทียนมาลา            กราบก้ม
แด่...ครูกวีผู้ปรีชา            สุนทรภู่
เรียงถ้อยร้อยรจน์สม        สืบสาน กานท์กลอน

     สิบนิ้วต่างธูปเทียน                  ตั้งจิตเพียรบูชาครู
ก้มกราบ..สุนทรภู่                       ครูกวีสี่แผ่นดิน
    ขอจรดร้อยรจน์กาพย์             จารึกภาพที่จับจินต์
หลายหนเคยยลยิน                      ซึมซับสิ้นมิรู้คลาย
กลอนพระอภัยมณี                      นิราศมีอีกมากมาย
ภาษิตสอนหญิงชาย                     เพลงยาวร่ายหลายบทตอน
คำคมสมสัมผัส                           ประจักษ์ชัดตัวอักษร
ซึ้งค่ายามว่ากลอน                       คมคำสอนคมสำนวน
จดจำเป็นคำครู                           ระลึกรู้ตามที่ควร
ใส่ใจไม่เรรวน                            ไพเราะล้วนเพราะผลบุญ
     ร้อยคำนำมารจน์                    เสนาะพจน์สนองคุณ
สืบสานกลอนกานท์สุนทร์      คารวะจอมกวี				
22 มิถุนายน 2546 13:16 น.

โลกรับรู้ศักดิ์ศรีกวีไทย

แก้ว กรุงเก่า

.....ยี่สิบหก มิถุนา เวียนมาครบ
ขอนอบนพ น้อมนำ ทำกุศล
พระไตรรัตน์ เทพไท้ ในเบื้องบน
บันดาลดล สดุดี ศรีสุนทร

ผู้สร้างสรรค์ วรรณศิลป์ ปิ่นกนก
เป็นมรดก ค่าล้ำ คำสั่งสอน
ทั้งเสภา สุภาษิต บทละคร
เพลงยาวกลอน นิราศ คู่ชาติไทย

.....ท่านเกิดที่เมืองแกลงแขวงระยอง
ได้ยกย่องเป็นกวี สี่สมัย
เรียนที่วัดชีปะขาวในเยาว์วัย
เริ่มงานในกรมพระคลังก่อตั้งกาย

ครั้ง ร.๒ ครองราชโปรดปราชญ์ภู่
ให้เป็นครู ฟ้าอาภรณ์* แต่งกลอนถวาย
สวัสดิรักษาคำกลอนสอนเจ้านาย
ความดีได้ให้คุณ ขุนสุนทร**

.....ต้องตกอับลาออกใน ร.๓
สู่อารามพึ่งพระธรรมคำสั่งสอน
ต้องอยู่เรือแรมราในป่าดอน
เขียนบทกลอนเพลงยาวแลกข้าวกิน

ช่วงลำบากท่านมักมีกวีบท
เห็นภาพพจน์จับใจใคร่ถวิล
นิราศทั้งเก้าเรื่องใครหากได้ยิน
ซึ้งจับจินต์สุขล้นต้องมนต์ตรา

นิราศภูเขาทองของขวัญมิ่ง
เป็นยอดยิ่งนิราศคำล้ำคุณค่า
อีกนิทานคำกลอนสอนกัลยา
ใครนำพาเป็นยอดหญิงมิ่งขวัญใจ

.....ได้พระคุณหนุนรับ เทพอัปสร***
ท่านครูกลอนเหมือนฟ้ามาโปรดใหม่
ได้ลืมตาอ้าปากไม่ยากใจ
ต่อมาใน ร.๔ ท่านปรีดา

โปรดให้รับราชการกรมอาลักษณ์
ได้ยศศักดิ์พร้อมพรั่งที่วังหน้า
"พระสุนทรโวหาร" มีบัญชา
เป็นบรรดาศักดิ์สุดท้ายท่านได้มี

.....ผลงานท่านมากมายมีหลายเรื่อง
เพื่อประเทืองปัญญาบุญราศี
เช่นบทกลอนเรื่องพระอภัยมณี
เห่กากีเห่จับระบำท่านชำนาญ

เรื่องโคบุตร ลักษณวงษ์คงจำได้
นิราศหลายเรื่องราวที่เล่าขาน
นิราศเรื่องเมืองแกลงแต่งมานาน
ตั้งแต่กาลเมื่อครั้งยังหนุ่มเยาว์

เป็นนิราศเรื่องแรกที่แตกต่าง
แต่งระหว่างเดินป่าภูผาเขา
ด้วยคิดถึงบิดาท่านไม่บรรเทา
ที่แก่เฒ่าอยู่ป่าดงคงขาดแคลน

อีกสุภาษิตสวัสดิรักษา
ทั้งเสภาเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน
ตอนกำเนิดพลายงาม เล่าความแทน
จงหวงแหนและรักษาปัญญาไทย

.....ขอก้มกราบครูกลอนสุนทรภู่
เป็นยอดครูแห่งกวีที่ยิ่งใหญ่
โลกรับรู้ศักดิ์ศรีกวีไทย
ยกย่องให้เกียรติ์ล้นบุคคลสำคัญ****....

*สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๒
**ขุนสุนทรโวหาร กรมอาลักษณ์ รัชกาลที่ ๒
***กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๓
****ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม เมื่อ พ.ศ. 2529

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%88				
17 มิถุนายน 2546 21:08 น.

ขออนุญาตแนะนำตัวครับ

แก้ว กรุงเก่า

ชื่อ  แก้ว กรุงเก่า เราชื่น
ชอบรสกวีรื่น
ซาบซึ้งกล่อมโลกหลับใหล

แต่งกาพย์แต่งกลอนเรื่อยไป
กลั่นกรองจากใจ
หวังให้ทุกท่านเพลิดเพลิน

พลาดพลั้งผิดพลัดขัดเขิน
จาบจ้วงล่วงเกิน
ขอจงโปรดให้อภัย

หากมีความดีใดใด...................
สาธุยกให้
แด่คุณครูบาอาจารย์

แต่นี้ต่อไปไม่นาน.....................
บทกลอนหวานหวาน
หรือกาพย์ซาบซึ้งที่มี

อาจโคลงหรือฉันท์บางที
ใคร่ครวญถ่วนถี่
จะฝากมาให้ได้ชม

ยินดีที่ท่านนิยม
ชอบคำขำคม
ติชมมาให้ได้ยิน

อยากมีเพื่อนในไกลถิ่น
ซึมซับจับจินต์
รื่นรมย์ในรจน์บทกวี

คุยกันฉันท์มิตรไมตรี
ฝากกลอนดีดี
ถึงกันและกันมั่นคง

ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆท่านครับ				
6 มิถุนายน 2546 00:03 น.

รักเหลือทน

แก้ว กรุงเก่า

.....ใครหนอเปรียบ ความรัก ดังผักต้ม
แม้รสขม ยังกลับชม ว่าหวานเหลือ
พอนานหน่อย ถอยรส กว่าซดเกลือ
พอเริ่มเบื่อ ชิมน้ำตาล รสหวานคลาย

.....เหมือนสาวหนุ่ม กรุ่มกริ่ม ลิ้มรสรัก
ไม่นานนัก รสสวาท ก็ขาดหาย
จึงกลุ่มใจ พร้อมรับ ความอับอาย
ชายที่หมาย ไม่ได้เหมือน รักเลื่อนลอย

.....กินน้ำตา ต่างข้าว วัยสาวหมด
แสนรันทด อกร้าว ใจเหงาหงอย
ท้องก็โย้ ขึ้นมา ตั้งตาคอย
จนเดือนคล้อย ไม่เห็นหน้า เจ้าสามี

.....หลงระเริง คารมชาย จนได้เรื่อง
คิดขุ่นเคือง แค้นใจ จนได้ที่
หยิบอีโต้ รอรับผัว พ่อตัวดี
สิ้นคืนนี้ แม่จะเถือ ไม่เหลือตอฯ.....				
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้ว กรุงเก่า