วรรคทาง

กะเรกะร่อน

เพราะเหนื่อยล้าจึงทอดกายลงนอนพัก
ปลดภาระอันหน่วงหนักวางไว้ก่อน
วรรคสายตาใต้ตะวันอันเรื่อยรอน
รำลึกถึงลมร้อนเมื่อหลายแล้ง
กลางหุบเขาฝนโปรยโดยยางสูง
ผีเสื้อเมืองเที่ยวทุ่งจนลืมแหล่ง
โบยบินอย่างเยาว์ใสใต้ฟ้าแดง
มาหลงแสงสีป่าบ้านนาไกล
หอมแกงส้มปักษ์ใต้ใส่ขมิ้น
ร้อนร้อนราดลวกลิ้นน้ำตาไหล
เคยชักน้ำบาดาลอาบสำราญใจ
ยังคลุ้งกลิ่นคราบไคลคนป่าดง
ยังซังข้าวกลางนาที่ย่าเกี่ยว
เราเข็นเกวียนเล่นเลี้ยวจนล้าหลง
นอนสูดกลิ่นขี้วัวคืนฝนลง
ดูแมงเม่าลงสรงกลางเปลวฟอน
มหรสพชีวิตขึ้นโลดเล่น
วาดเงาฉายฉากเด่นแห่งคืนก่อน
ต้องเดินฝ่ากี่ลมหนาวและร้าวรอน
จึงจะพบขุนขอนเขนงพิง
หนังตะลุงฉากสุดท้ายดับไฟแล้ว
ยังคล้ายแว่วเพลงพากย์อันรักยิ่ง
ค่อยตื่นตาขยับเท้าขึ้นก้าวชิง
คว้าภาระหนักนิ่งขึ้นเทียมตัว
มีวาระวุ่นวายอีกหลายหลาก
ที่โถมถากรุกไล่ให้เวียนหัว
สลัดทิ้งซึ่งไหวหวั่นและพรั่นกลัว
แบกหน้าที่ขึ้นโถมตัวออกเดินทาง.				
comments powered by Disqus
  • แมงกุ๊ดจี่

    21 มีนาคม 2549 09:53 น. - comment id 567587

    สวัสดีค่ะ 
    
    ขอพักด้วยคนนะค่ะ
    เพราะความอดทนมันจางหาย
    หากหายอ่อนล้าโรยแรง  จะก้าวต่อ
    เพียงแต่ขอ   นั่งพักสักนิดหนึ่ง...
    
    36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน