28 กันยายน 2545 10:20 น.

รักร้าว

พนาไพร

มิอาจเอื้อนโอษฐ์เอ่ยเฉลยความ
เกรงจะลามลุกใหญ่ดังไฟสุม
ต้องเก็บรักหักเลี้ยวเที่ยวกลัดกลุ้ม
ระอุรุมสุมใสหทัยตน

   ความจะบอกยอกย้อนดั่งซ่อนเล่ห์
พิษเสน่ห์คนเห็นเหมือนเล่นกล
รักระทมตรมตริมิรู้ทน
เพราะจิตตนยากยั้งจะรั้งใจ

   ไปแนบชิดติดรักมิหักจิต
ปล่อยจริตผิดผันต้องหวั่นไหว
เพราะความจริงสิ่งผองมิต้องใช่
ด้วยเหตุในสาวเจ้ามิเอาตัว

   เพราะคำเตือนเพื่อนผองมิลองรัก
ดันบ่หักห่อนไปมิไหวกลัว
จึงต้องกรำซ้ำร้ายให้หมายมัว
ระทมทั่วหัวใจให้ร้าวราน

   อันรักร้าวเล้ารุมอุทุมพร
จำตัดรอนกร่อนต้น ณ หนการณ์
ด้วยเหตุคนตนเราทำร้าวฉาน
จำจากกานต์ลับลาหลบหน้าไป				
27 กันยายน 2545 20:14 น.

คนที่เรารัก กับคนที่รักเรา

พนาไพร

หนึ่งคำถามไม่มีผิดคิดเอาได้
ตามแต่ใจใฝ่ชอบตอบตนมา
คนรักเราหรือเรารักประจักษ์ตา
เสน่หาคนใดใคร่บอกที

   คนเรารักสุขนักเมื่อรักเรา
แต่ต้องเฝ้าห่วงใยให้เห็นดี
คอยแนบชิดตามไปในทุกที่
ร่วมยินดีร่วมสุขร่วมทุกข์กัน

   กับอีกคนรักเราเขาคอยแคร์
มาดูแลแนบชิดสนิทสัณห์
คอยเอาอกเอาใจให้สุขสันต์
ทุกทุกวันเพื่อเราเขาทำได้

   แต่ตนนี้ตอบรับกับคำถาม
จากข้อความข้างบนมิสนใคร
เลือกคนหนึ่งซึ่งเรารักจักสุขใจ
บอกออกไปใจตอบชอบแต่เขา

   หากไม่มีสักคนคนเรารัก
ก็จงรักคนนี้ที่รักเรา
จงยินยอมพร้อมใจอย่าได้เศร้า
และรับเอาเขารักรักตอบไป				
25 กันยายน 2545 17:02 น.

รับน้อง

พนาไพร

ปัญญาชนคนดีมีความคิด
ใยหลงผิดใช้คำด่าน่าฉงน
มาเล่าเรียนศืกษาสู่ค่าคน
กลับอับจนเพราะหาใช่ใช้ปัญญา

แหล่งศืกษาเล่าเรียนเพียรความรู้
แต่กลับขู่น้องใหม่ใช้คำด่า
น้องย่อมกลัวอาวุโสเพราะโตกว่า
ยอมถูกว่าด่าทอเพราะเกรงกลัว

แต่กลับโตโตแต่ตัวหัวไม่คิด
ลองใช้จิตใช้ใจและใช้หัว
ปัญญาชนคนดีที่ทำตัว
ใช่ให้กลัวบังคับกันมันไม่เกรง

คำพูดดีมีความคิดจิตผ่องใส
ด้วยน้องใหม่ใหม่ทีนี้ไม่เก่ง
พี่ก็ควรดูแลแต่อย่าเบ่ง
น้องจึงเล็งเห็นดีที่พี่ทำ

น้องจะรักสนิทใจในรุ่นพี่
เพราะความดีทำไว้ให้น้องจำ
น้องจะเห็นเอาอย่างพี่ที่ดีล้ำ
น่าจดจำเป็นแบบอย่างช่างยินดี				
25 กันยายน 2545 16:39 น.

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ปาก

พนาไพร

คนคิดดีพูดดีศรีแก่ปาก
คนพูดมากระวังปากจะมีสี
ปากพูดน้อยค่อยพูดจึงจะดี
อีกปากนี้ปีจอขอหลบไกล

ปากพล่อยพล่อยปล่อยไว้อย่าไปสน
สัปดนปากหมาอย่าเข้าใกล้
ปากนินทาว่าเขาทั่วต้องกลัวภัย
ปากจัญไรรีบหนีและลี้ไป

ปากยุยงส่งเสริมให้ทะเลาะ
ปากไพเราะเพราะเสียงสำเนียงใส
ปากประจบเจอบ่อยคอยเอาใจ
พูดมากไปโดนด่าปากหมาพลัน

ปากตำหนิติฉินชอบนินทา
ปากชอบด่าว่ากล่าวเขาทั้งนั้น
ปากรับคำทำไม่เป็นเรียกปากมัน
พูดทั้งวันคันปากพูดมากจัง

ปากน่าเบื่อขี้บ่นคนรำคาญ
ปากหวานหวานพูดดีมีคนฟัง
ปากเบาหน่อยถูกด่าว่าเสียงดัง
เอาแต่สั่งปากไปไม่ยอมทำ

ปากดีดีกำลังใจให้คนดี
ปากกวีศรีปราชฉลาดล้ำ
ปากคุณค่านักบุญคุณธรรม
ตรองทุกคำปากปรัชญาน่าเอาตาม				
18 กันยายน 2545 21:46 น.

ชมนก(โคลงซ่อนกาพย์)

พนาไพร

สกุณากู่ร้อง                            เสียงใสพร้องเสนาะใจ
ขานแข่งแย่งร้องไป                         กึกก้องไกลดั่งเสียงกลอง
ไพเราะเพราะจับใจ                         เหมือนดั่ง   ในเพลงคนร้อง
สั่นสะท้านทั่วท้อง                           ถิ่นฟ้าร้องรำให้ดู

        กาเหว่าร้องเหว่าเหว้า               หาคู่เจ้าที่เคียงคู่
เสียงส่งเรียกกันอยู่                           ที่โน้นรู้รีบเร่งโจน
ขับขานแข่งให้รู้                              ยินทั่วหูทุกไม้โคน
สนั่นลั่นไปโพ้น                              สะท้านโทนเสียงสื่อสาร

        นกเอี้ยงเสียงเพราะพริ้ง            กังวานจริงเช่นทุกวาน
ร้องร่ำคำรับขาน                             บอกรู้การณ์ให้เข้าหู
มิหยุดหย่อนผ่อนการ                      แก่งแย่งขานคำรับรู้
ตอบรับเสียงตัวผู้                             เอ่ยเอี้ยงดูดังทุกวัน

        กระจอกหยอกเล่นเย้า               หมู่มันเจ้าดูสุขสันต์
บินล่องวนผกผัน                             กลุ่มเจ้านั้นมิซบเซา
ส่งเสียงรื่นเริงกัน                              เซ็งแซ่พรันดังสุดเท่า
บ้างก็คลอเคลียเคล้า                         กระเซ้าเย้าแหย่ทุกยาม

        นกยูงแพนอวดอ้าง                  งดงามหางอย่างสมความ
เดินเที่ยวเลี้ยวไปตาม                      ป่าไม้งามดูสุขใจ
ขนเจ้าช่างอร่าม                              สีหลาก   งามยิ่งกว่าใคร
สีเด่นเห็นชัดไว้                               แน่แท้ไป่ลืมเลื่อนลับ

        เขาใหญ่ไพเราะเพี้ยง               แห่ขับเสียงสำเนียงศัพท์
ขันแย่งแก่งกันรับ                            นกร้องสรรพกว่าอื่นปอง
เสียงดังลั่นสดับ                               เจ้านกขับให้ใจต้อง
กรุ๊กรู่กันแซ่ซ้อง                              ส่งให้ก้องไกลทั่วป่า

        อินทรีบินร่อนพริ้ว                   ถลาลิ่วเห็นผ่านตา
ดูก็ช่างสง่า                                     ใหญ่ล้ำกว่านกอื่นทำ
โบยบินถิ่นเวหา                              โผร่อนมาให้จดจำ
สูงศักดิ์เกินเหลือค้ำ                         นกน้อยยำเกรงเดชา

        แว่วแว่วเสียงนกแก้ว                ร้องมาแล้วเจรจา
อยากใคร่เห็นแก่ตา                         นกนั้นหนาอยู่ไหนกัน
คอยอยู่ค่อยมองหา                          เผื่อพบหน้าเจ้านกมัน
แล้วก็ประสบครั้น                            โผ่แล้วทันตาประสงค์

        เค้าแมวพบเมื่อครั้ง                  ค่ำลงบังอาทิตย์ลง
ก็เมื่ออัสดง                                      ย่างใกล้จงตกลงไป
มืดแล้วจึ่งออกตรง                            กินอิ่มองค์ให้สมใจ
ต้องค่ำถึงพบได้                               ไป่ร้างไปนอนหลับกัน

มาตามคำสัญญาแล้วครับ  เหลื่ออีกบทคือ โคลงชมปลา  ไว้จะน้ำมาลงเมื่อแต่งเสร็จนะครับ  ถ้าใครยังไม่ได้อ่านโคลงชมดอกไม้ก็เชิญ clickได้ที่นี่เลยนะครับ           ชมดอกไม้(โคลงซ่อนกาพย์)           แล้วยังไงก็ช่วยๆกันติชมบ้างนะครับ  เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงในโอกาสหน้าต่อไป  ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ  อิอิอิอิ
ถ้าอ่านโคลงจบแล้วลอง click ขวาแล้วกดคำว่า select all นะครับ  แล้วกลับไปอ่านโคลงใหม่อีกรอบ  มีอะไรดีๆอยู่  อิอิ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพนาไพร
Lovings  พนาไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพนาไพร
Lovings  พนาไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพนาไพร
Lovings  พนาไพร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพนาไพร