คำถามที่ไม่มีคำตอบ

อิงฟ้า

วันนั้น เป็นวันที่เราได้ไปเข้าค่ายด้วยกัน เป็นค่ายของชมรมหนึ่ง ที่รวบรวมนักศึกษาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์แห่งนักอนุรักษ์มาเข้าค่ายด้วยกัน วันนั้นทีไปก็มีคนที่รู้จักบ้างไม่รู้จักก็มาก และผมก็ได้พบกับคนๆหนึ่ง ที่ดูแล้วก็ไม่มีอะไรที่พิเศษไปกว่าคนอื่นๆ แต่ว่ายังไงไม่รู้ผมพยายามที่จะจับตามองเธอทุกฝีก้าว เธอไม่ใช่คนสวยอะไร หน้าตาดูไปก็ธรรมดา แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับผมที่ปรกติผมจะมองแต่คนสวยๆ ตามธรรมชาติของผู้ชาย แต่สิ่งที่ทำให้ผมพยายามมองเธอมาตลอดก็คือความรู้สึกอะไรบางอย่างเหมือนมีคำถามให้ต้องพยายามที่จะต้องหาคำตอบออกมาให้ได้เหมือนกันว่าเธอเป็นคนที่ผมคุ้นเคยมากแต่คิดไม่ออกสักที
          คืนนั้นเป็นคืนแรกบนดอย ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ เราทุกคนต่างก็มานั่งหลบไอหนาวมาพึ่งไออุ่นจากกองไฟกองเล็กๆที่ให้แสงสลัวๆแต่ว่าก็สามารถให้ความอบอุ่นกับเราได้ ถึงแม้จะไม่อุ่นมากก็ตาม แต่ก็มันทำได้ดีที่สุดแล้วล่ะ สำหรับกองไฟกองนี้  ที่คนได้มานั่งหลบไอหนาวกันทีนี่และตอนนั้นเป็นตอนที่ผมได้อยู่ไกล้ชิดกับเธอมากที่สุด เรานั่งผิงไฟอยู่ตรงกับข้ามกัน และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่ผมจะได้เห็นหน้าของเธออย่างชัดๆสักที ผมจึงพยายามมองหน้าของเธอตลอดที่นั่งผิงไฟอยู่ ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังมาก้องหูว่า    นี่นายน่ะ มองอยู่ได้เห็นมองอยู่ตั้งนานแล้วนะ แอบชอบเขาล่ะสิ   จากคำพูดคำนี้ทำให้ผมแน่นิ่งพูดทำอะไรไม่ถูก เพราะรู้สึกอายที่ถูกถามตรงๆแบบนี้ ผมเกือบจะตอบคำถามนั้นออกไปแล้ว แต่ก็มีเสียงเดิมพูดต่อมาอีกว่า เพื่อนของเราน่ารักใช่ไหมล่ะ ถ้าสนใจเราติดต่อให้ได้นะ ฟังจากน้ำเสียงของเธอแล้วช่างเป็นน้ำเสียงที่ดูไร้เดียงสา ซึ่งดูแล้วเธอไม่รู้สึกเลยว่าคนที่ผมจ้องมองใช่ใช่เพื่อนของเธอแต่ว่าเป็นเธอนั่นเอง
         แต่จากคำพูดคำแรกของเธอกลับทำให้ผมยิ่งชอบ และรู้สึกสนิทสนมกับเธอมาทันที คืนนั้นผมกลับไปนอนพร้อมกับคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบว่าทำไมถึงได้รู้สึกกับเธอขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งได้พบกันแท้ๆ
         โป้งๆๆๆ ตื่นได้แล้วครับ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน เรามาเข้าค่ายกันนะครับ ไม่ใช่กำลังนอนอยู่หอ ตื่นครับ ตื่นๆ เสียงดังของไม้ที่กระทบกับปี๊บ บวกกับเสียงของรุ่นพี่ บังคับให้เราต้องตื่นมาตั้งแต่เช้า ทุกคนตื่นมาด้วยอาการเซื่องๆซึมๆ บางคนก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ตื่น เพราะคิดว่านี่คงจะเป็นการตื่นเช้าที่สุดในรอบหลายเดือนของทุกคน ส่วนตัวผมนั้นก็เช่นเดียวกันตื่นมาด้วยอาการสลึมสลือ แต่กลับตาสว่างขึ้นมาทันที เมื่อได้พบกับรอยยิ้มหวานๆจากใบหน้าของเธอคนนั้นที่ยิ้มมาให้กับผม อื้อ วันนี้ช่างเป็นวันที่สดใสเสียจริง ผมบอกกับตัวเองไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันรึเปล่า
         เราสองคนเริ่มที่จะสนิทกันเรื่อยๆ เพราะว่าได้ทำกิจกรรมหลายอย่างร่วมกันเริ่มที่จะพูดคุยกันแต่ส่วนใหญ่ก็มักจะกัดกันซะมากกว่า เพราะว่าเธอเป็นคนที่ช่างพูด หรืออาจจะเรียกว่าพูดมากได้เลยล่ะ เธอจะคอยแซวผมอยู่เรื่อยเวลาที่เจอกัน จะคอยถามผมว่าเพื่อนของเธอเป็นยังไงบ้าง ไม่สนใจบ้างเหรอ อะไรทำนองนี้ แต่กลับไม่รู้เลยว่าการเป็นแม่สื่อแม่ชักให้คนอื่น กลับเป็นการชักนำให้คนอย่างผมให้ชอบเธอขึ้นไปเรื่อยๆ
          ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าผมชอบเธอตอนไหน แต่ที่รู้คือตอนนี้ผมได้ชอบเธอเข้าแล้ว ผมพยายามคิดเข้าข้างตัวเองนะว่าเธอก็คงจะชอบผมบ้างเหมือนกันเพราะว่าเธอมักจะยิ้มให้กับผมอยู่เสมอเวลาที่เจอหน้ากัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้กับคนอื่นบ้างรึเปล่า แต่ว่ามีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเธอชอบผมก็คือผมเคยหยิบก้อนหินก้อนเล็กๆมาสองก้อน เป็นก้อนหินก้อนกลมๆธรรมดาๆ ผมได้ให้เธอเก็บใว้ก้อนหนึ่งซึ่งเอก็ได้รับใว้แล้วก็เก็บใว้ตลอดเวลา ผมแอบสังเกตดูเธอ เห็นตอนที่เธอทำอะไรต่อมิอะไร แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเธอปล่อยให้ก้อนหินก้อนนี้ออกจากมือของเธอเลย ถึงแม้ว่าจะดูเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการทำงานของเธอ ราวกับว่าก้อนหินก้อนนี้มีความหมายกับเธอยิ่งนักแต่บางทีผมก็อาจจะคิดไปเองก็ได้แต่เมื่อ ผมเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกดีใจถึงแม้เธออาจจะไม่ชอบผมแต่เธอก็ไม่ได้ทิ้งขว้างของที่ผมได้ให้ใว้กับเธอถึงแม้มันจะไม่มีค่าอะไรเลยก็ตาม
          ถึงวันที่จะต้องกลับ ในใจหนึ่งผมก็รู้สึกดีใจที่ได้พบกับเธอ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียใจที่จะต้องจากเธอไปแม้ว่าจะแค่ไม่ได้เจอกันบนค่ายแต่เราก็ยังมีโอกาสเจอกันได้อีกที่มหาวิทยาลัย
           แล้วผมก็แน่ใจว่าผมได้เจอคนที่ตามหามานานแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะเป็นคนที่เธอกำลังตามหาอยู่หรือเปล่า    แต่ว่าผมขอเชื่อในโชคชะตาสักครั้งและหวังว่าด้ายแดงของเราทั้งสองคงจะเชื่อมติดกัน
          เรื่องราวต่อจากนี้ผมไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร ไม่รู้ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับผมหรือไม่ ผมไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้ คนที่จะสามารถให้คำตอบได้ก็คงจะมีเพียงกาลเวลากับโชคชะตาของเราเท่านั้น				
comments powered by Disqus
  • เมลโล่

    11 กันยายน 2546 20:49 น. - comment id 69569

    อ่า แบบนี้ดีจังเลยนะ 
    อยากเจอความรักแบบนี้บ้างจัง ^-^
  • ตะวันทอแสง(vou_cher@hotmail.com)

    23 กันยายน 2546 10:28 น. - comment id 69635

    ความรู้สึกแบบนี้เป็นจุดเริ่มต้น่ของความว่ารักกระมัง หรือไม่แน่อาจจะเป็นความหลงก็ได้ คุณเคยนอนแล้วคิดถึงจนนอนไม่หลับบางไหมละ รู้สึกว่าอย่างจะพบเธอ  อย่างจะพูดกับเธอ หรือแค่เจอหน้าก็ยังดี  นี่แหละจุดเริ่มต้นของคำว่าหลงรักเธอเข้าแล้ว  อาจจะเป็นความรักที่ล่องลอยไปตามสายลม
  • OH

    13 ตุลาคม 2546 14:52 น. - comment id 69812

    เราว่ารัก รักไม่ใช่หลง รักที่ดีมาก ๆ ซะด้วย
    น่ารักจัง นายเป็นผู้ชายที่น่าประทับใจดี
  • ฟ้าใส

    30 มิถุนายน 2547 18:22 น. - comment id 75033

    ก็ดีนะ  เจอรักกันในค่าย
    คงเจอบ่อยล่ะสิ
    ก็น่ารักดีนะ  
    แต่เราว่า..นั่นมันไม่ใช่ความรักหรอก
    เป็นความรู้สึกดีๆมากกว่านะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน