รวงข้าวเรียวเขียวอ่อนซ้อนพวงห้อย ชูช่อย้อยคอยเคียวเกี่ยวสนอง เหลืองขอบฟ้าลับตาพาเรืองรอง ทอทาบทองจรุงใจใต้แสงจันทร์ เสียงแผ่วพลิ้วหวิวไหวไล้ซังข้าว อ่อนโรยร้าวรวงรอทุ่งทอฝัน พร่ำรวงบ่นเหลือทนจนนิรันดร์ ทนฝ่าฟันชาวนาหน้าสู้ดิน แสนเหนื่อยยากตรากตรำกรำงานหนัก ทั้งดำปักหว่านไถใจดั่งหิน หลังสู้ฟ้าหน้าแดดเผาเศร้าชีวิน แต่หนี้สินทวีทบจบไม่ลง ฟังเสียงขลุ่ยซังข้าวแสนเศร้าสร้อย หวลละห้อยน้อยใจใยลวงหลง ข้าวมีค่าชาวนาจนชวนงวยงง รัฐโปรดจงหันดูอุ้มชูชาวนา ................................................ ที่มาของภาพ http ://www.oknation.net/blog
 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 15:48 น. - comment id 875441
ทุกคราวคำที่กำลังจะเปิบข้าว คิดถึงชาวนาไทยใจหมองหมาง มือหยาบหยาบคราบไคลไหลเป็นทาง ผิวกระด้างแดดเผาคราวหว่านดำ กว่าจะได้เป็นรวงข้าวขาวสะอาด บนหยดหยาดเหงื่อย้อยข้อยอิ่มหนำ แสนสงสารชาวนาแสนระกำ จารจดจำสอนสำนึกตรึกตรองคุณ....

 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 15:59 น. - comment id 875589
แด่ คุณครูกระดาษทราย
      ขอบคุณที่แวะทักทายพร้อมบทกลอนสะท้อนใจค่ะ



							
							
 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 16:49 น. - comment id 875596
เป็นชาวนาแสนลำบากนะคะ เห็นแม่บ่น ปุ๋ยแพงค่ะ

 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 17:55 น. - comment id 875620
ขอส่งแรงใจให้ชาวนาครับ ไม่เคยมีนา ไม่เคยมีที่ แต่ยังดี.. ที่วันนี้เรายังมีข้าวกิน ขอบคุณชาวนาอีกทีนึงครับ

 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 18:21 น. - comment id 875634
วัฒนธรรมนา-ข้าวยาวนานเนิ่น ความเจริญทางวัตถุมาทับถม คนเห่อแห่ไปตามความนิยม ลืมเลือดลมสันหลังคลังโภคา

 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 18:50 น. - comment id 875654
เฮ้อหายไปตั้งนานบ่นถึงทุกวันกับจุ๋นจุ่น คิดถึงน้องพี่เหลือเกินอย่าทิ้งบ้านกลอนไปนานนักนะคะ แอบไปซุ่มเขียนกลอนมาซะเพราะพริ้งเลย จุ๋นขึ้นข้างบนแล้วเดี๋ยวจะไปบอกว่าน้าไหมแก้วของเขามาแล้ว เดี๋ยวขอตัวอาบนำเข้าห้องพระก่อนนะคะเดี๋ยวกลับมาใหม่หวัดดีค่ะ

 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 22:36 น. - comment id 875725
ข้าวแต่ละเม็ด ไม่ได้มาง่ายๆ เหลือเพียงรวงร่วงโรยโดยเปลี่ยวเปล่า พร้อมเรื่องเล่าหลากหลายอันกลายผัน จากผืนดินถิ่นนาสารพัน ทิ้งคืนวันเติบใหญ่ให้คร่ำครวญ หล่นเรี่ยราดดาษดินดุจสิ้นค่า ปราศราคาหรือไรใจกำสรวล กว่าออกรวงพวงงามตามสมควร กลับไม่หวนคำนึงถึงลำเค็ญ ครั้งเก็บเกี่ยวเคียวตวัดสะบัดข้อ สองมือก่อเก็บเร้าเท่าที่เห็น ความลำบากยากไร้ให้จำเป็น ไยมองเช่นเมล็ดหนึ่งซึ่งหมดดี มิร่วมด้วยช่วยชาติทิ้งกลาดเกลื่อน จนปนเปื้อนกรวดทรายคลายราศี ดั่งเหล็กตอกยอกใจในทันที ข้าวเม็ดนี้ล้นหลากมากบุญคุณ

 
							
						
						19 กรกฎาคม 2551 23:09 น. - comment id 875757
แวะมาอ่านกลอนค่ะ เพราะจัง แต่คำตอบคงหายากนะคะ ราคาข้าวแพงตอนอยู่ในมือนายทุนแล้ว ชาวนาเย้วๆๆไปก็เปล่าประโยชน์ ได้แต่เห็นใจ เฮ้อ

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 00:20 น. - comment id 875811
มาอ่านด้วยคนค่ะคุณไหมฯ
คืนนี้ฝันดีนะคะ

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 05:33 น. - comment id 875857

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 06:00 น. - comment id 875865
จะกี่ยุครัฐบาลไม่หาญกล้า ยังกดราคาข้าวอยู่ทุกหล ยังทุกทั่วทนทุกข์อยู่ทุกคน จะปลดหนี้คนจนไม่เห็นมี

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 06:06 น. - comment id 875866
กระดูกสันหลังของชาติ... ผู้สามารถเลี้ยงชนจนเติบกล้า ด้วยสองมือพร้อมหัวใจใสศรัทธา หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินในถิ่นตน แม้ยากไร้ต้อยต่ำถูกกำหนด ความทนอดเหลือเอ่ยไม่เคยบ่น แสนภูมิใจในวิถีที่ดิ้นรน ขอเชิดชน ผู้กล้า ชาวนาไทย เพราะเป็นลูกชาวนามาก่อนค่ะ รู้ซึ้งถึงความยากลำบาก

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 08:35 น. - comment id 875943
กระดูกสันหลังของชาติ..ขาดการเหลียวแล.. ..แวะเข้ามาชื่นชมบทกลอนครับ

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 08:35 น. - comment id 875944
วิถีไทย คือวิถีแห่งข้าว เมื่อข้าวขาดหาย ไทยคงลำบาก

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 08:43 น. - comment id 875960
ย้อนวิถีชีวีพอเพียง แล้วทุกเรื่องจะพบทางออกที่ดีครับ

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 09:46 น. - comment id 876013
กระดูกสันหลังของชาติ จะปราศทุกข์พบสุขไหม วอนฟ้าเมตตาให้ ฝั่นหลั่งริน...รดผืนนา ก้มเงย..เคยอย่างนั้น ทุกทุกวันขวัญผวา ฟ้าแล้งรินน้ำตา เพื่อรดนา....มาพ้อครวญ เมื่อไหร่...จะได้พบ ประจบเห็นเป็นนาสวน สวยงามอร่สมนวล ด้วยสีทอง...ผ่องอำไพ.. ชอบเดินไปท้องนาเวลาข้าวตั้งท้อง.. ซึ่งต้องรอค่ะ..เพราะเพิ่งจะดำนาเสร็จ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองคะ

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:22 น. - comment id 876221
แด่ คุณเพียงพลิ้ว
         นอกจากปุ๋ยแพงแล้วน้ำมันยังขึ้นราคามิหยุดหย่อนอีกค่ะ  น่าจะมาช่วยกันแก้ไข
         



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:31 น. - comment id 876222
แด่ คุณรัมณีย์
      ปัญหาของปากท้องของคนส่วนใหญ่ของประเทศ   
      เป็นรากฐานของปัญหาต่างๆตามมา
      ถ้าคนส่วนนี้มีความเป็นอยู่ที่ดี
      เราก็จะมีความสุขด้วยค่ะ
      ไม่เคยทำนาเช่นกันและไม่ได้เป็นนายทุนด้วย   แต่อยากเห็นชาวนามีคุณภาพชีวิต
      ไม่มีหนี้สิน   เพื่อจะได้ไม่ตกอยู่ใน
      วงจรความยากจน
    



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:37 น. - comment id 876225
แด่  คุณวชรกานท์
       บางที่ความเจริญทางวัตถุก็เป็นสิ่ง
       ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันแล้วล่ะ
       เช่น โทรศัพท์มือถือ  
       รถจักรยานยนต์    ยิ่งในชนบท
       ต้องใช้สัญจร  ใช่ไหมอาจารย์
 



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:42 น. - comment id 876226
แด่ พี่ดวง
       ไม่ได้หายไปไหนค่ะ
       แต่ลูกๆจองคอมฯเล่นเกมส์บ้าง
       ดูหนังบ้าง   ทำรายงานบ้าง
      คุณแม่เลยต้องตั้งตารอ รอ   ไม่ได้
      เข้าเว็บบ้านกลอนหลายวัน
      ค่ะ  พี่ดวงคงสบายดีนะคะ
      



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:50 น. - comment id 876231
แด่  คุณอัลมิตรา
       ขอให้กำลังใจในการทำงาน
       เพื่อช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนท่าระพา
       ว่าเป็นผู้เสียสละ  และเหน็ดเหนื่อย
       ในวันนั้นได้ผ่านไปเยี่ยมทักทาย
       ขอชมว่าเป็นนักบริหารจัดการที่เก่งมาก
      ค่ะ  แต่ไม่ได้เข้าเยี่ยมในกลอนเลยเพิ่ง
       ได้โอกาสเครื่องคอมที่บ้านเพิ่งว่าง
       โอกาสหน้า  จะยินดีช่วยให้มากกว่านี้ค่ะ
       คราวนี้รู้สึกช่วยทำบุญน้อยไปหน่อยค่ะ


							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:54 น. - comment id 876233
แด่ คุณแจ้นเอง
      ชื่อแปลกดีจัง
      ดีใจค่ะที่มาทักทาย
      เห็นใจชาวนาเถิด  
      ก่อนที่เราจะไม่มีใครปลูกข้าวให้เรากิน
      ใช่ไหม



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:55 น. - comment id 876235
รวงข้าวเรียวเขียวอ่อนซ้อนพวงห้อย ชูช่อช้อยคอยเคียวเกี่ยวรวงรุ้ง เขียวขอบฟ้าลับตาฉาบทาทุ่ง กลิ่นฟางฟุ้งจรุงใจใต้แสงจันทร์ วรรคที่สองนั้นคำสุดท้ายควรเป็นอักษรสูงนะ แต่ใช้สระเสียง เอก โท นั้นไม่ผิดหรอกแต่ควร ละเว้นเสียเพราะการผสมผสานอักษรจะไม่กินใจ คนอ่านจะออกแนวกระด้างไป วรรคที่สามนั้นเขาห้ามคำสุดท้ายด้วยเสียง ผันด้วยสระ ควรเป็นเสียงสามัญจ๊ะ นอกนั้นใช้ ได้แล้วล่ะ อีกประการหนึ่งควรจะอยู่ในแปดคำ รวมถึงคำกล้ำด้วยนะยกเว้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เท่านั้นแหละจ้า หากลดทอนด้วยกลอนก็จะ กระทัดรัดออกแนวอ่อนไหวไพเราะมากขึ้นจ้า รักศิษย์เสมอ
แก้วประเสริฐ.

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 17:56 น. - comment id 876237
แด่  คุณโอเลี้ยง
       คุณโอเลี้ยงอยู่ไกล
       แต่ยังส่งแรงใจมามอบให้
       ขอให้มีความสุข  ฝันดีเช่นกันค่ะ




							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:00 น. - comment id 876239
วรรคที่สามห้ามสระเสียง เอก โท จ้า
แก้วประเสริฐ.

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:05 น. - comment id 876243
แด่  คุณSilver Snitch 
       Thank you  a lot 


 See  you later ...Bye
  See  you later ...Bye
							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:08 น. - comment id 876246
แด่ น้องจุ๋นจุ่น
       พี่หายเงียบไปหลายวัน
       ก่อนอื่นขอแสดงความยินดี
       ชนะเลิศการแต่งกลอนด้วยค่ะ
      



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:14 น. - comment id 876250
แด่ คุณนิลวรรณ
      นั่นสิคะ  เราต้องมาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวนากันจริงจังเสียที่  
      เพราะ เราเป็นประเทศปลูกข้าวขาย
      อย่าให้ต้องซื้อข้าวนอกกินเลยค่ะ
      
     


							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:18 น. - comment id 876253
แด่ คุณกิ่งโศก
      ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม
      รัฐควรเหลียวแลเสียที จริงจังด้วย
      



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:19 น. - comment id 876256
แด่ คุณตรากลม
      ดีใจค่ะที่แวะมาทักทาย
      ชอบมองท้องทุ่งนาค่ะ



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:21 น. - comment id 876258
แด่ คุณอินสวน
      บางทีแค่พอเพียงยังไม่มีให้เพียงพอเลยค่ะ
      ขอบคุณมากๆค่ะที่มาเยี่ยมบ่อยๆ



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:24 น. - comment id 876260
มาฟังเสียงรวงข้าวรำพันอย่างเศร้าสร้อยค่ะ

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:25 น. - comment id 876262
แด่ คุณครูพิม
      โอ้โฮ...
     คุณครูพิมดำนาเป็น
     หายากมากๆนะคะ
     คงเหนื่อยมากและที่สำคัญแดดแรงเหลือเกิน   ขอยกย่องคนทำนาให้เราๆกินกัน
 



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:33 น. - comment id 876267
แด่  อาจารย์แก้วประเสริฐ
       ขอกราบขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะที่ให้คำแนะนำ
      แต่ลูกศิษย์ก็จนด้วยเกล้าไม่รู้จะใช้คำใดแทนดี  อาจารย์ช่วยคิดให้ด้วยค่ะ
      ไม่ได้ดื้อหรอกค่ะแต่ไม่รู้จะแต่งอย่างไร
      โดยสื่อถึงภาพที่เราเห็นรวงข้าวน่ะค่ะ
      แล้วก็ถ้าระวังหลักการมากๆมันแต่งไม่ออกค่ะ  ไม่ไพเราะก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
     ขอให้ได้จินตนาการและสื่อถึงความปรารถนาดีของคนเขียนกลอนว่า
      เห็นใจชาวนาเท่านั้นน่ะค่ะอาจารย์
       
      


							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 18:37 น. - comment id 876270
แด่  อาจารย์เจี๊ยบ
       นี่แค่รวงข้าวรำพันค่ะ  ยังไม่มีเจ้าทุย
       มาตัดพ้อด้วยนะนี่
      บางทีอาจแต่งให้มีเจ้าทุยด้วยคงจะดีไม่หยอก   ดีใจค่ะมาทักทาย



							
							
 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 20:47 น. - comment id 876333
เอาแค่บทนี้ก็แล้วกันนะจ๊ะ รวงข้าวเรียวเขียวอ่อนซ้อนพวงห้อย ชูช่อช้อยคอยเคียวเกี่ยวรวงรุ้ง เขียวขอบฟ้าลับตาฉาบทาทุ่ง กลิ่นฟางฟุ้งจรุงใจใต้แสงจันทร์ หากเป็นดังนี้ รวงข้าวเรียวเขียวอ่อนซ้อนพวงห้อย ชูช่อย้อยคอยเคียวเกี่ยวสนอง เหลืองขอบฟ้าลับตาพาเรืองรอง ทอทาบทองจรุงใจใต้แสงจันทร์ กลอนจะอ่อนไหวพลิ้วเร้าอารมณ์กว่าจ๊ะ หมายความว่า รวงข้าวเขียวตั้งท้องออกรวงก็จะ เป็นพวงย้อยห้อยเป็นชั้นๆ เพื่อคอยคนมาเก็บ เกี่ยว จนกระทั่งสีเหลืองจรดฟ้ากระจ่างด้วยสี ทองสร้างความหอมจรุงใจภายใต้แสงจันทร์ ตามกลอนของเธอนั้นข้าวยังไม่ได้เกี่ยวนี่นา จะเกิดฟางได้อย่างไรมันขัดๆกันจ้า ลองทบทวนดูนะจ๊ะ รักเสมอ
แก้วประเสริฐ.

 
							
						
						20 กรกฎาคม 2551 23:14 น. - comment id 876388
แด่ อาจารย์แก้วประเสริฐ
      ขอขอบพระคุณอาจารย์ค่ะและได้แก้ไขแล้ว   ไม่เคยทำนาแต่มาแต่งกลอน
      ก็คิดไปเรื่อยไม่ได้ศึกษาข้อมูล
      ต่อไปต้องหาข้อมูลมาให้พร้อมเลย
							
							
 
							
						
						23 กรกฎาคม 2551 21:13 น. - comment id 877587
รวงข้าวเรียวเขียวอ่อนซ้อนพวงห้อย
       ชูช่อย้อยชม้อยชมพรมพริ้วไหว
       รวงข้าวฟ้อนร่อนระบำรำแกว่งไกว
       นุ่มละไมราวไหมวิไลวรรณ
							
							
 
							
						
						28 กรกฎาคม 2551 12:54 น. - comment id 879689
เพราะดีแม่ จอยแวะอ่านที่ร.ร ชอบๆ


