ให้คะแนนกลอน

สี่สิบปี...วันเลี่ยมทองของวัย

กุมภ์

กี่สิบฝนกี่สิบปีกี่สิบหนาว
หลากเรื่องราวคราวสี่สิบไม่คิดฝัน
คนหนุ่มสาวราวยี่สิบเขาคิดกัน
ยกให้ฉันเป็น"รุ่นใหญ่" ใจดี๊ดี
สี่สิบปีชีวิตนี้เพิ่งจะเริ่ม
ใจดวงเดิมหากฝันหนักรักศักดิ์ศรี
เคยใจร้อนกลับผ่อนถอยถ้อยวาที
รักชีวีรักคนที่อยู่รอบตัว
สี่สิบปีความคิดดีมีความคิด
แยกถูกผิดพินิจได้ไม่เจ็บหัว
แจกไมตรีมีรักให้ต่อครอบครัว
แต่แสนกลัวเรื่องความเหงาเคล้าน้ำตา
สี่สิบปีมากไมตรีชีวีมั่น
เหมือนครบครันทุกสิ่งงามตามปรารถนา
แต่แปลกจริงยิ่งแก่ยิ่งเหงาอุรา
ล่วงเวลามาสู่วันวัยเลี่ยมทอง
สี่สิบปีดั่งวารีไม่ไหลย้อน
แอบสะท้อนบางเวลาคราหม่นหมอง
ใช่แข็งแกร่งทุกเวลาอย่าทดลอง
หากมัวหมองเพราะความซนคงช้ำใน
สี่สิบปีเวลามีเหลือไม่มาก
ความแก่พรากความเยาว์วัยไปไว้ไหน?
สี่สิบปีคือความแก่ของเยาว์วัย
ห้าสิบในวันหน้า"หนุ่ม" ชื่นชุ่มเอย

รอเธอหันมา

krajokngao

จากวันนั้นวันวานที่ได้พบ
และได้สบสายตาเวลาหนึ่ง
ภาพเล่านั้นยังคงอยู่และตราตรึง
ให้คิดถึงเธออยู่มิสร่างซา
แล้วจากลาวันนั้นถึงวันนี้
เธอคนดีเธออยู่ไหนใจห่วงหา
เฝ้ารอคอยได้พบเธออีกครา
เพื่อลดความเหว่ว้าในหัวใจ
แอบรักเธอตั้งแต่วันแรกพบ
ได้ประสบพบหน้าตาใสใส
เธอโดดเด่นดูดีกว่าใครใคร
เป็นผู้ชายในฝันที่อยากเจอ
เฝ้ารอคอยจนวันแล้ววันเล่า
ก็เหลือเพียงความว่างเปล่าเฝ้าพร่ำเพ้อ
อยู่แห่งไหน ณ ที่ใด กันเล่าเธอ
ความคิดถึงล้นเอ่อเต็มหัวใจ
อยากจะเอ่ยความในให้ได้รู้
ช่างอดสูไม่รู้เธออยู่ไหน
นับจากวันที่เธอจากลาไป
ไกลแสนไกลไม่กลับมาพบกัน
ได้แต่เก็บกักไว้ความคิดถึง
รอวันหนึ่งได้พบดังใจฝัน
แม้เอ่ยไปอาจทำลายความความผูกพัน
ที่เธอฉันเป็นเพื่อนกันตลอดมา
ไม่เป็นไรถ้าหากได้เอ่ยบอก
ถึงช้ำชอกมันคงไม่หนักหนา
แค่เป็นเพื่อนก็ได้ไว้พึ่งพา
เพียงแค่เธอหันมาฟังความใน

ดีจัยม๊ากมาก

น่ารักที่ซู้ดดดด

ดีใจม๊ากมาก ที่มีเพื่อนอย่างเธอ
ที่รับได้เสมอในความเป็นฉัน
และถึงเธอจะบ้าจะบอ ก็ยังพอรับได้เหมือนกัน
เวลาผ่านไปนานวัน สายใยสัมพันธ์มันก็มากมี
ยังคงดีใจม๊ากมาก ที่มีเพื่อนอย่างเธอ
เพื่อนที่เคียงข้างและให้ความสำคัญเสมอ อย่างงี้
ถึงใกล้จะจวนเจียนต้องเอ่ยคำลาเต็มที
ฉันก็ยังภูมิใจ และ happy ที่มี friend ดีดี ... อย่างเธอ

จับมือเดินทางร่วมกันไป

--มนต์มีนา--

ท่ามกลางผู้คนมากมาย
ฉันนั่งเดียวดาย อ้างว้าง ข้างถนน
พร้อม-พร้อมกับบอกตัวเองให้อดทน
กับความใจร้ายของคนบางคนที่จากไป
มองดูผู้คนที่เดินผ่าน
มีคนน่าสงสารเหมือนฉันไหม
มาเถอะ..จับมือเดินทางร่วมกันไป
ต่อสู้กับวันใหม่พร้อมกับหัวใจที่แข็งแรง

`•๛ กลอนฮัก

idaho

เคยอยากเขียนกลอนฮักบทซาบซึ้ง
ให้ติดตรึงใจนางน้องถึงในฝัน
ให้ได้ยินให้ได้ยลกันและกัน
ให้ในฝันอุ่นกายหายหนาวหน่วง
อยากจะเว้าฟังเด้อเจ้าแสนฮักแพง
บ่ ได้แกล้งปดเท็จเกี้ยวกิดทวง
ปรารถนาเถิงถีบมิเคยลวง
จะขอควงดารากลอยใจจง
ไผผู่บุญควรได้ตัวเจ้านั้น
อกอ้ายช้ำลงลับโลกที่ดับลง
ค้อมลาไกล บ่ หวังแล้วใจขอปลง
คึดฮอดหลงเรื่องหลังคำปากแควน
มื้อนี้เฮาคง บ่ ซ้ำคูน
จึงสิ้นสูญ บ่ ได้ดอมอย่างแน่นแฟ้น
บัดนี้จักขอกล่าว บ่ ห่วงแหน
เคิกเวลาขอเก็บแขวนเพิ่นแจกยาย
คำพยามแปล
ฮักแพง =รักอย่งสนิทสนม
เกี้ยวกิดทวง = ขัดเคือง ??
เถิงถีบ = รีบเร่ง
คำปากแควน = ลำบากตรากตรำ ??
ซ้ำคูน = ช่วยเหลือ ,อุปการะ ??
เคิกเวลา = เสียเวลา
เพิ่นแจกยาย = แยกย้ายจากกัน

เธอคือทุกสิ่ง

หมีขาว

เธอคือที่สุดของฉันในตอนนี้
เธอมีค่าทุกนาทีในใจฉัน
เธอคือที่สุดทั้งรักและผูกพัน
จะคิดถึงเธอทุกคืนวัน
และใจฉันจะมีแต่เธอ

ความทุกข์ในคืนเหงา

Salukphin

 ในคืนเหงาเศร้าไหมใจของฟ้า

คนเหว่ว้าอาดูรคูณแพ้พ่าย
กอบระทมตรมเหน็บเจ็บมิวาย

ใจสลายและเว้าวิ่นบิ่นมีรอย
ทุกคุ้งโค้งขอบฟ้าพบว้าเหว่

ใจร่อนเร่เรี่ยวแรงลดล้าถดถอย
ฝ่าม่านเมฆหมอกราตรีที่เลื่อนลอย

ขวัญเคลื่อนคล้อยปล่อยคว้างหว่างอารมณ์
แสงริบหรี่จากดาวพราวระยิบ

ยากยกหยิบโยงสายใยไล้ผสม
นวลจันทร์เจ้าเว้าวาดแสงแต่งชื่นชม

ใช่ห่อห่มหัวใจให้เหงาคลาย
ลมกราวกรูพรูพร่างกลางคืนเหงา

ดุจเยี่ยมเย้ายั่วใจไฟรักหน่าย
น้ำค้างพรมห่มใจซับไอกาย

ล้างฝันร้ายร้างไกลได้ครึ่งคืน.
 

ฉันเชื่อ ในสิ่งที่ฉันทำ

สายน้ำสีเงิน

     หากจะนับ   จับเวลา   ณ วันนี้
หากจะมี   กี่ทรงจำ   ที่ขำไข
หากจะพบ   สบโอกาส   พลาดเท่าใด
หากจะได้   กลายเป็นทุกข์   สุขก็ทน
     จากอดีต   ที่ผิดพลาด   ขาดที่พึ่ง
จากคำนึง   ถึงคนไกล   ไร้เหตุผล
จากเรื่องเก่า   เล่าตำนาน   ผ่านเกมกล
จากกมล   ดลดวงจิต   ติดอำไพ
     กับการกรรม ธรรมฤทธิ์ ศิษย์พระพุทธ
กับประยุทธ   สุดอำนาจ   พลาดพลั้งไห้
กับดีชั่ว   ระรัวกลอง   ก้องกันไกล
กับอำนาจ   สาดจิตใจ   ให้มืดมน
     พบเสาหลัก   ปักชีวิต   ติดเรือนร่าง
พบแนวทาง   วางว่างเว้น   เป็นผ่านผล
พบอุปสรรค   กักกางกั้น   ปั่นทางคน
พบตัวตน   ปนปรับเปลี่ยน  เวียนวนไป
     แม้การงาน   ฐานชีวิต   ติดอำนาจ
แม้สิ่งคาด   พลาดจุดหมาย   วายสิ้นไส้
แม้ชีพจร   กร่อนกำลัง   พังจิตใจ
แม้ตัวไป   ใจยึดติด   ผิดวิมาณ
     แต่ฉันเชื่อ   ในสิ่ง   ที่ฉันทำ
ว่าจะนำ   สู่จุดหมาย   มหาศาล
ว่าจะพา   ตัวของข้า   จะทัดทาน
จะผันผ่าน   ทานทุกข์   สุขนิรันดร์

เลยเหว..ความเลวคน

มืดมิด..จนชิดเช้า

อายความชั่ว มั่วสุม รุมเร้าจิต
จิตติดชิด ใจดำ คล้ำเน่าเหม็น
เหม็นกลิ่นเลือด เชือดฆ่า ล่าคนเป็น
เป็นความเย็น จากใจ ไร้ปรานี
ล้วนรสรัก มักปน ด้วยรสแค้น
แค้นห่วงแหน ติดใจ ไม่ง่ายหนี
หนีความจริง ได้ใกล ไม่ได้ดี
นี่คือสี แห่งรัก หักด้วยไฟ
ไม่รู้สึก รู้สา ราคะจับ
จับจิตจับ ใจคน จนหลงใหล
ไหลเรื่อยเรื่อย เอื่อยช้า แต่คร่าใจ
ใจแสนใจ คราบเกรอะ เลอะราคี
วังวนนี้ วังวน ถนนชีวิต
ชีวิตติด ความชั่ว มั่วเกินหนี
นี่คือสาบ กลิ่นคน ถนนชีวี
วีรกรรม ดีดี ไม่มีเลย
มีหัวใจ ไร้ซึ่ง การรู้รัก
รักหรือลัก รู้สึก เป็นเฉยเฉย
เฉยกับชั่ว มั่วคน จนคุ้นเคย
ยังนอนเกย เลยเหว ความเลวคน
**ขอบคุณมากเลยนะคะที่แวะเข้ามาอ่าน

2554 อันธพาลครองเมือง

ใจปลายทาง


                             ไม่เคยพ่ายเคยแพ้ครั้งไหนไหน
                  จะเสียอกเสียใจได้ปานนี้
                  คนทำงานอย่างอดทนเป็นคนดี
                 จะพ่ายแพ้แก่อัปรีย์ที่เผาไทย
                  เคยเลวทรามมากมาในวันเก่า
                  ที่เอ็งเผาย่อยยับจำได้ไหม
                  ระดมคนมาเผาเมืองเรื่องจัญไร
                 ประเทศชาติบรรลัยใครสั่งการ
    พรรคไหนซื้อเสียงบ้าง     เงิน 500 หล่นใส่มือใครบ้างเอ่ย
                 
                                   .
      .
                   ๑. ทำเขื่อนกั้นน้ำทะเล ไม่ให้ท่วมกรุงเทพฯ แถวๆ สมุทรสาครและสมุทรปราการ ไม่ต้องกู้
๒. ดึงน้ำจากเขื่อน จากประเทศเพื่อนบ้าน ลาว พม่า เขมร และเชื่อมแม่น้ำด้วยลำคลองใหม่ 
๓. รถไฟฟ้าให้ครบทั้ง ๑๐ สาย แต่ละสายเก็บ ๒๐ บาท
๔. ทุกสถานีรถไฟฟ้า จะสร้างคอนโดราคาประหยัด ให้เช่า
๕. ทำรถไฟรางคู่เชื่อมต่อบริเวณชานเมืองกรุงเทพ
๖. ทำรถไฟความเร็วสูงไปโคราช ไประยอง จันทบุรี
๗. ขยายแอร์พอร์ตลิงส์ ไปพัทยา
๘. ภาคใต้ทำแลนด์บริดจ์
๙. ปราบยาเสพติดให้หมดไปภายใน ๑๒ เดือน
๑๐. ความยากจนต้องหมดไปภายใน ๔ ปี
๑๑. กองทุนหม

ขอพรฟ้า

กวีบ้านไร่

ถึงเธอผู้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ที่ลิขิตแห่งฟ้ามาพบเห็น
เธอเปรียบได้ดั่งสายน้ำอันฉ่ำเย็น
เธอนั้นเป็นแรงใจยามอ่อนแอ
ถึงถนนหนทางแห่งชีวิต
จะลิขิตกีดกั้นใจให้ยอมแพ้
แต่ฉันมีใจกล้าแกร่งใช่อ่อนแอ
ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคมา
ขอกราบกรานฟ้าดินอย่าสิ้นรัก
อย่าได้หักอกร้าว โปรดรักษา
ขอให้รักสองเราที่นำพา
อย่าได้มาแตกพังจากใจครอง
ขอพรฟ้าเบื้องบนจงช่วยเถิด
อย่าให้เกิดเภทภัยให้ใจหมอง
อย่าให้ใครแย่งรักนี้มาครอบครอง
ขอให้น้องของข้าฯจงหายกลัว

ภาพเก่า...ในวัยเด็ก

ดิออร่า

มองย้อนกาล นานแล้ว สามสิบปี
ขณะที่ เจ็ดขวบ สุดสดใส
ครูวาดเขียน บอกเราวาด รูปจากใจ
นึกกันใหญ่ อ้อวาดรูป นี้แล้วกัน
โรงเรียนเก่า เราติด ลำน้ำโขง
เย็นสามโมง วิวสวย ติดเขื่อนขัณฑ์
ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ รวยพืชพันธุ์
หลากสีสัน ได้รูป วิวสดใส
ภาพเด็กน้อย ล้อมวง บรรจงวาด
ดั่งนักปราชญ์ นั่งมอง ภาพเคลื่อนไหว
เห็นภูเขา ตะวันตก นกบินไป
ลับทิวไม้ แม่น้ำ กระท่อมเดิม
วาดทุกครั้ง ก็มี บ้านหลังนั้น
ให้สีสัน ต้นไม้ เพื่อจะเสริม
ภาพนั้นให้  ออกมา ดูเคลิบเคลิ้ม
เป็นจุดเริ่ม เติมฝัน วันผ่านมา...

แค่ไหนกันนะ ถึงเรียกว่าห่างไกล

ธารินทร์


แค่ไหนนะถึงเรียกว่าห่างไกล
หนึ่งเมตร สองไมล์ หรือสิบหลา
แค่ปลายมือหรือสุดปลายฟ้า
แค่ไหนเขาถึงว่าห่างไกลกัน
         ระยะเป็นเพียงสิ่งสมมติ
          ไม่อาจหยุดหัวใจให้คิดฝัน
          จะอยู่ไกล้หรือห่างไกลกัน
          เราก็ยังผูกพันกันเหมือนเดิม
...

ระยะทางพิสูจน์ม้า...กาลเวลาพิสูจน์คน... 2

รัตนินยา


หนทางอันยาวไกล...ม้าวิ่งไปใจมุ่งมั่น
ทนกับกลุ่มหมอกควัน...มุ่งฝ่าฟันสู่ปลายทาง
ฝนตกหรือแดดออก...ใจมันบอกอย่ามาขวาง
มุ่งหน้าสู่ปลายทาง...อันเลือนลางด้วยใจทนง
หนทางยังยาวไกล...แต่ดวงใจไม่กลัวหลง
พลาดพลั้งหากล้มลง...ไม่ละทิ้งวิ่งต่อไป
แม้ข้าจะขาเจ็บ...จะหนาวเหน็บสักเพียงไหน
คงมั่นไม่หวั่นใจ...สมเป็นชายชาติอาชา
หนทางยังอีกครึ่ง...ต้องเป็นหนึ่งผู้นำหน้า
สู้สุดใจลูกอาชา...เหล่าผองม้าจงภูมิใจ
ระยะทางเพียงแค่นี้...หรือที่จะล้มข้าได้
ม้าอย่างข้าอาชาไนย...พิสูจน์ใจด้วยระยะทาง
กาลเวลาที่หมุนไป...ทำให้ใจคนจืดจาง
ความดีที่สรรสร้าง...ประพฤติมาย่อมเปลี่ยนแปลง
น้ำเซาะหินยังกร่อน...ใจอ่อนอ่อนยากจะแข็ง
เวลาช่วยแจกแจง...การเปลี่ยนแปลงของใจคน
กาลเวลาที่หมุนไป...หากมีใครใจคงทน
ไม่พลายคลายสับสน...แม้เนิ่นนานผ่านคืนวัน  
หากจะพิสูจน์ใจ...คนนั้นไซร้พึงสำคัญ
ดีกลายเป็นร้ายพลัน...เราวัดกันด้วยกาลเวลา
 
จะม้าหรือจะคน...คลายสับสนความเป็นมา
ระยะทางพิสูจน์ม้า...ให้ปัญญาช่วยจดจำ
ส่วนคนหากดูหน้า...ยากเกินกว่าบอกพฤติกรรม
เวลาพิสูจน์การกระทำ...จงจดจำให้ดีเอย 
ขอขอบคุณ พี่ บ้านรอจันทร์ ^_^  ด้วยนะคะ
ที่ช่วยแนะนำให้เห็น

..ขอรับ ...ขอรัก

dokfha


หากฉันเอ่ย แค่ขอบคุณ คงน้อยไป
กับหัวใจ ที่มอบกัน ณ วันนี้
ยื่นโอกาส ร่วมสร้าง ทางอีกที
เอาความดี ลบจุดด้อย เป็นรอยจาง
ไม่สัญญา จะรักกัน ถึงวันไหน
เพียงหัวใจ เราร่วมเรียง คอยเคียงข้าง
เป็นแรงหนุน ถึงจุดหมาย ยังปลายทาง
ไม่อ้างว้าง เดียวดาย แม้กายไกล
ความซื่อสัตย์ คุณมอบไว้ ด้วยใจภักดิ์
เพียงความรัก หนึ่งนั้น มิหวั่นไหว
จะขอรับ จะขอรัก จากหัวใจ
มิแบ่งใส่ หารห้อง สร้างกล่องกล
ต่อไปนี้ จะมีเพียง คุณเท่านั้น
ไม่ขอฝัน ถึงใครใคร ให้หมองหม่น
อดีตผ่าน แค่ความหลัง ฝังกมล
หวังของคน อยู่ข้างหน้า คว้ามาครอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
                                                                                  ค้างคาว
ถ้าฉันเอ่ย ขอบคุณ คงน้อยนัก
กับใจรัก ที่ให้ ในวันนี้
กับโอกาส ร่วมทาง กันอีกที
ใช้ความดี ลบจุดด้อย เป็นรอยจาง
ไม่สัญญา ว่ารัก จักนานไหม
เพียงหัวใจ ร่วมเรียง คอยเคียงข้าง
เป็นแรงหนุน ถึงฝั่ง ยังปลายทาง
ไม่อ้างว้าง เดียวดาย แม้ไกลกัน
ความซื่อสัตย์ มอบไว้ ด้วยใจภักดิ์
กับความรัก หนึ่งใน หัวใจฉัน
จะขอรับ ขอรัก จากชีวัน
ไม่แบ่งปัน ใจไป เผื่อใค

** รักชั่วนิรันดร์ **

แก้วประเสริฐ


                         ** รักชั่วนิรันดร์ **
     เป็นเรื่องจริงที่ผมเองได้รับทางเมล์อ่านแล้วน้ำตาตกใน  จึงอยากใคร่ให้
เพื่อนๆในไทยกลอนนี้ได้อ่านบ้าง ผมจะแต่งเป็นกลอนก็จะไม่ดีเท่านี้จึงมิกล้า
เกรงจะเป็นการทำให้เสียบรรยากาศไป ใคร่ขอความเมตตาไว้ด้วยครับ ผมจะ
นำไปลงในเรื่องสั้นด้วย ขอความเมตตาจากท่านด้วยครับ  ขอบคุณ
                          ***   แก้วประเสริฐ.  ***
           นับถอยหลังไปอีกเพียงไม่กี่วัน ก็จะถึงวันวาเลนไทน์ 
วันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงความรัก 
ที่ใครหลายคนให้ความสำคัญกับวันนี้ ไม่ว่าใครจะนิยามความรักว่าเป็นของคู่กัน 
ความเหมือน ความพอดี ความลงตัว หากแต่นิยามความรักของตาลอบ ที่มีต่อยายทองนั้น 
กลับมองว่าวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึงนั้น ไม่เคยมีความหมายต่อตาและยายเลย 
เพราะชีวิตรักที่ตาและยายได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากว่า 50 ปี 
นั้นไม่เคยมีวันไหนที่ความรักของตาที่มีต่อยาย 
และยายมีต่อตานั้นลดน้อยลงไปตามกาลเวลาเลย 
หากแต่ความรักของทั้งคู่กลับเพิ่มพูนขึ้น สวนทางกับสังขารที่เริ่มจะโรยรา 
“สำหรับตาวันนี้มันก็เป็นแค่วันธรรมดาๆ วันหนึ่ง ไม่มีความหมายอะไรเลย 
ดอกกุหลาบมันจะ

เธอ

windsaint

เพราะหัวใจของฉันที่ไม่กล้า
เพราะหัวใจอ่อนล้าและหวั่นไหว
เพราะหัวใจดวงนี้ที่เป็นไป
เพราะหัวใจที่มีใจไว้ให้เธอ
รักที่ฉันมอบให้ไปทั้งใจนี้
รักที่ฉันยังมีให้เสมอ
รักที่ฉันยังคงหลงละเมอ
รักที่ฉันพร่ำเพ้อบอกเธอไป
จะบอกเธอฉันยังไม่กล้าบอก
จะบอกเธอฉันยังหลอกตัวเองไว้
จะบอกเธอบอกเธอว่ายังไง
จะบอกเธอว่าทั้งใจนี้ให้เธอ

อวยพรงานแต่ง

ภันเต

ขออวยพรบ่าวสาวด้วยพรชัย       
พระรัตนตรัยน้อมนำประสบผล
ครองหลักรักแน่นหนักปักใจตน    
อยู่คงทนถาวรณ์ไม้เท้าทอง
วิวาหวานได้นานเพราะเติมหวาน     
นานเท่านานอย่าให้หวานต้องบกพร่อง
ด้วยหัวใจสองใจประคับประครอง     
 ร่วมปกป้องความรักนิรันดร์เอย

๏ ภมร - ผกา ๏

อัลมิตรา


๏ ครากอดกุมนุ่มเนื้อ..............เนียนนวล 
เพียงแผ่วผึ่งผายจวน...............ซ่านซ้อน 
อุทรเคลื่อนหวิวรวน.................รัวร่อน 
อกคั่งละหลั่งร้อน.....................เร่าเร้าถวิลหา ๚ 
๏ บุปผายามดอกแย้ม.............สีสัน 
บานแอร่มเผยอวดพรรณ.........หยาดเยิ้ม 
หอมจรุงกรุ่นกลิ่นอัน..............ยวนยั่ว 
ภมรย่อมไหวเคลิบเคลิ้ม..........ซ่านซ้องรสหวาน ๚ 
๏ คืบคลานเล็มคลุกเคล้า........เสาวรส 
เกลือกร่างคละคลึงบด.............กลีบง้ำ 
เบียดแทรกสอดกายลด...........เลี้ยวแหวก 
ดูดดื่มกำซาบน้ำ....................หลั่งเลี้ยงเผดียงไหว ๚ 
๏ หทัยดุจละลิ่วห้วง................สูงโพยม 
หวิววาบปลาบถาโถม...............ร่วงคว้าง 
โลกยามซ่านลามโลม..............ลนร่าง 
คำย่อมยากเคียงค้าง................คู่คล้อยจินตนา ๚ะ๛ 

สมปรารถนา

ฉันทะโส

ผู้มีทุกข์  จงพ้น  จากความทุกข์
ผู้มีสุข  จงมีสุข  ตลอดไป
ผู้เศร้าโศก  จงหายโศก  รีบสดใส
ผู้มีภัย  จงพ้นภัย  ในทันที
      ผู้หลุดพ้น  ให้หลุดพ้น  จนนิพพาน
ให้สำเร็จ   อรหัน   ณ บัดนี้
ผู้ที่สวย  ขอให้สวย  ปานเทวี
ให้สวยนี้   จงอยู่อย่าง  ยั่งยืนยง
      ผู้มีรัก   ขอให้รัก   จงสมหวัง
อย่ารักร้าง   จงรักรื่น   สมประสงค์
ผู้อยากรวย   ขอให้รวย   ตามจำนง
ทรัพย์เสริมส่ง   เป็นเศรษฐี   มีมากมาย
       ผู้เป็นหนุ่ม   ขอให้เป็น   หนุ่มรูปหล่อ
สาวตามขอ   ง้อให้รัก   อย่างมากหลาย
ส่วนตัวผม   คงเป็นหนุ่ม  ไปจนตาย
สาวมากหลาย   ตามหลอกล่อ  เราท้อใจ
            **************