ให้คะแนนกลอน

๏ ๏ ๏ เรื่องไม่เป็นเรื่อง ๏ ๏ ๏

ศาลาไทย


แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง
คิดแค้นเคืองจนใจขุ่น
เช้าเย็นเห็นหน้าคุณ
ยิ่งอึดอัดดูขัดตา
แค่คำไม่กี่คำ
เก็บมาย้ำอยากจะบ้า
เคยยินจนชินชา
พาลขัดหูไม่สู้ดี
แค่คนเพียงหนึ่งคน
ไยวกวนจนบ้าจี้
ชั่ววูบเว้นนาที
คอยก่อกวนประสาทกิน
แค่คำไม่กี่คำ
เหมือนฟังซ้ำไม่สุดสิ้น
อุดหูยังแว่วยิน
ยิ้มเยาะตัวไม่เจียมตน
แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง
เคยคุยเขื่องความดื้อด้น
พ่ายคำแพ้ทางคน
น้ำอุ่นอุ่นค่อยเอ่อตา... 

. . . ข อ ม อ บ ใ ห้ เ ธ อ . . นะ ค น ดี . . .

เบนนี่

เ มื่ อ วั น นี้ ฉั น มี เ ธ อ . . .
ฉั น ไม่ ต้ อ ง พ บ เ จ อ ค วา ม ว่ า ง เ ป ล่ า
มี เ ธ อ เ คี ย ง ข้ า ง เ ห มื อ น ดั ง เ ง า 
ค ว า ม เ ห ง า ที่ เ ค ย มี ล บ เ ลื อ น ไ ป
     
     เ ธ อ อ า จ ไ ม่ ใ ช่ ค น แ ร ก ที่ เ ข้ า ม า ผู ก พั น
แ ต่ เ ธ อ ทำ ใ ห้ ใ น ทุ ก ๆ วั น   เ ป็ น วั น ที่ ส ด ใ ส
เ มื่ อ ฉั น มี เ ธ อ ร่ ว ม ท า ง   ก็ ไ ม่ เ ค ย เ ป ลี่ ย น ใ จ
เ พ ร า ะ เ ธ อ คื อ ค น ที่ ใ ช่   ค น  ที่ ใ ฝ่ ห า ม า น า น
     ข อ บ คุ ณ เ ว ล า ที่ นำ พ า เ ร า ส อ ง ม า พ บ กั น
ฉั น จ ะ มี ลื ม คื น แ ล ะ วั น ที่ ล่ ว ง เ ล ย ผ่ า น
จ ะ ก อ บ เ ก็ บ ค ว า ม ผู ก พั น   ใ ห้ ยั่ ง ยื น น า น
แ ล ะ จ ะ ลื ม วั น ว า น   ไ  ม่ ห ว น คื น
     เ ธ อ คื อ แ ส ง ส ว่ า ง   คื อด ว ง อ า ทิต ย์
ช่ ว ย ป ลุ ก ฉั น จ า ก ค ว า ม ห ล ง ผิ ด   ใ ห้ ลื ม ต า ตื่ น
สั ญ ญ า จ ะ รั  ก เ ธ อ ด้ ว ย  ชี วิ ต   ไ ม่ คิ ด เ ป็  น อื่ น
ต ร า บ ใ ด ที่ ใ น ฝั น ข อ ง  เ ธ อ ทุ ก ค่ำ คื น   ยั ง มี กั น
     ร อ ย อ ดี ต . . ฉั น จ ะ ฝั ง ล ง บ น ผื น ดิ น
ก ล บ ใ ห้ สิ้ น   ซ า ก รั ก  

ฝาก...ดวงใจให้เธอเยียวยา...คำโคลง

tiki

ฝาก...ดวงใจให้เธอเยียวยา...
            กายเจ็บเพียงเจ็บเนื้อ...........พอทน
      ใจเจ็บมันทุรน...........................หวั่นเรื้อ
      มีดกรีดกรีดกายตน...................เย็บอยู่....ดีเฮย
      จิตผ่าจิตยากเชื้อ.......................เชื่อมช้อยดังเดิม
            รำพึงถึงหนึ่งนั้น....................คนไกล
      เคยส่งคำหวานใคร....................แต่เช้า
      สายเที่ยงบ่ายตามไป..................กวนป่วน...ใดฤา
      ตระบัดปลายลิ้นเร้า.....................รุ่มร้อนฤทธี
            สิบกว่าวันว่าน้อย..................มากฤา
       จำหลักเดือนเต็มสือ.................สั่งถ้อย
       ลายลักษณ์ท่านปรนปรือ...........ใจหยั่ง....ตามนอ
       คิดแต่คิดคำร้อย.......................ชีพนี้อาวรณ์
           ซบกายแนบแผ่นผ้า..............ตารอ
      ฤาโหดเหี้ยมจริงหนอ..................ท่าวไท้
      กำดวงจิตละออ.........................วานส่ง...หัตถ์แฮ
      แตกเสี่ยงสะกัดให้.....................ห่อโพ้นผจง
          ยินเสียงกระซิบซ้ำ..................ตามเธอ
       เนาถิ่นไหนละเมอ.....................ส่

อยากบอกคนทั้งโลก

ฟ้าคู่จันทร์


                                 อยากบอกคนทั้งโลกให้รับรู้
                          ว่าฉันสู้เพื่อตัวเธอ
                             ยังรักหมั่นอยู่เสมอ
                                แม้จะเจอสิ่ง ล่อใจ
        
                                 อยากบอกว่ามีใคร
                           ที่ห่วงใยเธอรู้หรือเปล่า
                               ว่าคิดถึงแทบทุกคราว
                                   ดูปวดร้าวเมื่อคิดถึงเธอ
                                  เธอเป็นไง อยู่ไหนกับใครเอ่ย
                            คนที่เคยอยู่ใกล้เขาคิดถึง
                               ฝากผ่านบทกลอนให้คำนึง
                                 อาจจะไม่ลึกซึ้งมากมายนัก
                                  แต่ออกจากใจคนรู้จัก
                            ยังยืนยันคำรักตลอดเวลา..............
                            

เพื่อเพื่อน

ชายน้อย

อยากจะเป็นอะไร
ขอให้ได้เป็นอย่างนั้น
อะไรที่เธอใฝ่ฝัน
ขอให้สิ่งนั้นเป็นจริง
ฉันเชื่อว่าเธอทำได้
ฝันอะไรไว้มากมายหลายสิ่ง
ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอจริง ๆ
มั่นใจในทุกสิ่งที่เป็นเธอ
ถ้าโลกนี้เป็นสีชมพู
ลองคิดดูว่าจะน่าอยู่สักแค่ไหน
แต่ช่างเถอะไม่ว่าโลกนี้สีอะไร
ขอแค่มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆก็เพียงพอ...
เธอถามฉัน
ถึงของขวัญที่ปรารถนา
จะบอกได้อย่างไรว่า
ของขวัญที่มีค่า
คือ..อยากมีเธอยืนอยู่ข้างหน้าตรงนี้ไง
ดีใจได้พบเพื่อน แม้ลางเลือนเรื่องครั้งก่อน
ความรักความอาทร ยังแน่นอนและแน่ใจ
ห่างหายกันหลายปี เจอกันทีก็ดีใจ
เจอแล้วก็จากไป แต่อย่างไร..เราเพื่อนกัน
พบเจอทางที่ค้น แต่ละคนแต่ละฝัน
หลายทางหนึ่งสัมพันธ์ คือนิรันดร์..คือย้ำเตือน
เคยเล่นเคยหยอกล้อ เคยงอนง้อ..เคยเป็นเพื่อน
กี่วันกี่ปีเดือน ยังคงเหมือนเคยอยู่ดี
อยากพบอยากทายทัก อยากหยุดพัก ณ ยามนี้
กาลหมุนทุกนาที ทางที่มี..เริ่มห่างกัน
นานแล้วกว่าได้พบ ไม่อยากจบ..ด้วยหมางเมิน
รู้ไหมนานเหลือเกิน กว่าทางเดินเชื่อมถึงกัน
ขอคุยขออีกนิด เพื่อนสนิท..อย่าลืมฉัน
สัญญา..ขอยืนยัน จะคงมั่น..ฉันเพื่อนเธอ

เธอ...ฉัน...กับ...สัญญา

วงเวียน

อย่ามาสัญยิง  สัญญาอะไรให้มันเปลืองน้ำลาย
เอาร่างกายที่ไม่มีหัวใจของเธอไปให้ไกล ๆ ฉันดีกว่า
ไม่อยากฟังอะไร  ฉันไม่เชื่อน้ำยา
ไม่อยากต้องการความหวัง  ที่แค่พูดมาบังหน้าแก้ตัวไป
ก็รู้  ๆ กันอยู่เธอไม่มีหรอกความสำนึก
ไม่มีกระทั่งความรู้สึกอยากจะรักใครคนไหน
ไม่มีความพอดีไม่มีพื้นที่  ที่เรียกว่าหัวใจ
มีแต่สมองที่สั่งให้เอาเปรียบใคร ๆ ที่มีหัวใจต่างกับเธอ
แค่อ้าปากก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าจะมาไม้ไหน
สันดานไม่เคยจริงใจ  มันฟ้องว่าไม่รู้ตัวเลยเหรอ
กับคนไม่เคยจริงใจ  กับคนไร้ยางอายอย่างเธอ
นึกอะไรอยากจะมาพร่ำเพ้อ  ว่าเธอจะรักกัน  
สัญยิง  สัญญา  สาบาน  สารภาพบาป  อะไร  ฉันไม่สน
แค่รู้ว่าออกมาจากปากคนอย่างเธอ  ก็รู้แล้วว่าฝัน
อย่าเอาอะไรที่ไม่จริงใจมาพูดเรย  ฉันเบื่อที่จะฟังมัน
เอาเป็นว่าสัญญามาดีกว่าว่าเธอจะเลิกกับฉัน  แล้วเราจะไม่มีวันกลับไปรักกันก็พอ
เธอ...ฉัน...กับ...สัญญา

บนทางเดิน

ขนมผิง

หนทางที่ก้าวเดินในแต่ละวัน
บางครั้งแม้มันจะสั้น แต่ก็มีความหมาย
หากมีบ้าง ที่มันเหนื่อยกาย
แต่ก็พร้อมก้าวเดินไป.........ในทุกวัน

สุขสันต์วันเกิดค่ะ.....คุณนกตะวัน

...ทอฝัน...

แสงสีทองของรวีเริ่มคลี่แล้ว
วะวับแววหยาดใสบนใบหญ้า
สรรพสิ่งเบิกบานตระการตา
สกุณา *นกตะวัน* พลันโผผิน
อิสระฐานันดรแห่งน้องพี่
มอบภักดีธรรมชาติสะอาดสินธุ์
มีชีวิตดุจนกผกโผบิน
พรั่งพร้อมจินตนาการงานนกไพร
ยี่สิบแปด พฤศจิ ศิริครบ
เวียนบรรจบรอบเกิดพริ้งเพริศใส
กราบวิงวอนไหว้ลงองค์รัตน์ตรัย
อำนวยชัยพรพิสุทธิ์พุทธิคุณ
อันการงานก้าวไกลไปข้างหน้า
กายเริงร่า  ไกลห่างทางว้าวุ่น
หวังสิ่งใดได้ดั่งฝันอันละมุน
เทพการุณประสาทสุขทุกวันวาร  

วาดนางในใจ

kOrOkOsO

เขียนภาพตะวันคล้อยเคลื่อนเลื่อนลับฟ้า 
ฉายฉาบแสงอ่อนล้าลาผาราม
จันทร์ขึ้นครึ่งเสี้ยวเรียวโค้งงาม
ทะเลครามปลาว่ายแหวกพัลวัน
ครีบแสงเกล็ดเงินแวววับระยับยล
เอกพิมลงามดั่งหงส์เผ่าพงศ์พันธ์
เธอยืนสง่าท่าสะโอดองค์อนันต์
เป็นคนฉันท์ร่ายมนต์กลอนผ่อนอุรา.           

มากกว่าทุกคน

อาบูไซยาบ

   เธอตัวเล็กนิดเดียว ใครก็ว่า
เธอหน้าตาธรรมดา ไม่น่าสน
เธอใส่แว่นก็คล้ายๆใคร อีกหลายคน
เธอซุกซนจนบางที น่าเหนื่อยใจ
   เธอพูดเก่งพูดมากช่างฉอเราะ
เธอพูดเพราะน่าฟัง ขี้สงสัย
ที่เธอมีก็เหมือนๆ ใครต่อใคร
แต่ที่ฉันให้ไม่มีใคร ได้เหมือนเธอ

+ : เมื่อได้สบตา...ตะวัน : +

กิตติกานต์


เช้านี้ตื่นก่อนตะวัน................โลกช่างเงียบงัน
สดับเสียงแห่งอรุณ
สกุณาเสียงหวานละมุน.........เหมือนเอ่ยคำคุ้น
อรุณสวัสดิ์กิตติกานต์  *_*
กระจิบกระจาบขับขาน............ส่งเสียงกังวาน
ก้องผ่านในสายลมหนาว
แมงมุมผูกสายโยงยาว............ตาข่ายขึงดาว
บางเบาลวดลายแปลกตา
แสงทองฉายส่องโลกา.............ประทับขอบฟ้า
ฉันได้สบตาตะวัน  *_*
ยามเช้าโลกงามเฉิดฉัน...........ยลแสงสุริยัน
ยิ้มให้กับวันงดงาม
น้ำค้างประกายแวววาม............เปลือยเท้าเดินตาม
สัมผัสแห่งดวงชีวิน
สูดลมหายใจได้กลิ่น................หอมธุลีดิน
ไร้ซึ่งมนุษย์เสกสรร
ปลื้มใจจนสุดจำนรรจ์...............เป็นภาพผูกพัน
ของขวัญแด่โลกภายใน.
......................................................................
..........................................กิตติกานต์  *_*

.

ทะเลขวัญ


คนดีที่คิดถึง.......
.

ขอยืมรถถัง

ส่องหล้า

ชาวนาไถ่นาอย่างอ่อนแรง
วัวควายไส้แห้งไม่มีหญ้า
ควายเหล็กจอดรถหมดปัญญา
น้ำมันราคามันแพง…
วิทยุประกาศเล่าข่าว
งามสพรั่งกว่าดาวที่กร้าวแกร่ง
ทหารรุ่นใหญ่ยังไฟแรง
มีตำแหน่งใหญ่โตมหึมา
คลื่นติดติดขัดขัดเพราะผ่านทุ่ง
ติดกอผักบุ้งติดกอหญ้า
กองทัพเป็นของปวงประชา
มีเพื่อไพร่ฟ้าประชาไทย….
ควายทุยหมดแรงต้องแกงเนื้อ
ดื้อดึงมันเบื่อไม่อยากไถ
รถถังเองว่างหรืออย่างไร
ขอยืมได้หรือไม่มาไถนา
เองเกณฑ์ลูกหลานข้าไป
เดิมมันจับหางไถ่อยู่บ้านข้า
เอาไปเฝ้าถนนที่เมืองฟ้า
เสียดายเวลาหากิน
ข้าหมดแรงแล้วทหารเอ๋ย
ขืนมั่วอยู่เฉยข้าคงสิ้น
นาก็ร้างควายก็ร้างทั้งแผ่นดิน
ข้าจะขอทำกินแต่พอเพียง
ข้าขอเช่ารถถังก่อนก็ได้
เดี๋ยวจะยอมคืนให้ไม่หลีกเลี่ยง
แค่ฝนเดียวอย่าทำเป็นลำเอียง
ข้าก็เป็นหนึ่งเสียงของประชา ฯ

คิด พูด ทำ

กุ้งก้ามกราม

คนจะดีนั้นดีที่ความคิด
รู้ถูก-ผิด รู้ดี-ชั่ว รู้หัว-หาง
รู้สูง-ต่ำ รู้ตื้น-ลึก รู้หนา-บาง
รู้สะสางรู้สร้างเสริมเพิ่มค่าคน
คนจะดีนั้นดีที่คำพูด
รู้ปิด-ปูด รู้รุก-ถอย รู้เหตุ-ผล
รู้หวาน-ขม รู้หนัก-เบา รู้เขา-ตน
รู้ผ่อนปรนรู้ยึดมั่นคำพูดจา
คนจะดีนั้นดีที่ทำหนุน
รู้บาป-บุญ รู้คุณ-โทษ รู้ทิ้ง-หา
รู้รับ-ให้ รู้หุบ-บาน รู้เร่ง-รา
รู้กลัว-กล้า รู้จำ-ลืม รู้ปลื้ม-ปลง
รู้จักคิดรู้จักพูดรู้จักทำ
รู้จักกรรมรู้จักการู้จักหงส์
รู้จักโลกรู้จักขึ้นรู้จักลง
ความสุขย่อมดำรงในชีวิต

..ยอยศพระลอ..

อัลมิตรา


๏ รูปลักษณ์ดั่งท่านท้าว................มฆวาน 
ทรงผ่านภพอวตาร......................เยี่ยมหล้า 
เลิศโฉมอีกเหิมหาญ....................เกริกเกียรติ 
รบ  รัก  ทรงฉกาจกล้า.................กว่าทั้งไตรภูมิ ๚ 
๏ ยามพระ ฯ ทรงช้างช่าง.............อาจอง-  ยิ่งแฮ 
ปานสหัสเนตรองค์.......................เดื่องด้าว  
สมขัตติยราชวงศ์........................เรืองศักดิ์ 
สามภพภูมิเทิดท้าว ฯ....................สยบเบื้องฉลองพระ-  บาทเอย ๚ะ๛ 

วังวน4 สาว

มณีจันทร์


จิตรำพัน
แม้เวลาพาผ่านนานเนิ่นแล้ว
ยังไม่แคล้วแนวใจใฝ่ฝันหา
เสียงเอ่ยพร่ำรำพันจากเธอมา
ยังเหมือนว่าฟ้านำเธออยู่เคียง
บ่อยครั้งใจได้ยินชินเธออยู่
คอยแลดูดูแลแว่วยินเสียง
ใจยังเผลอพร่ำเพ้อละเมอเมียง
ยังร้อยเรียงเสียงหวานต้านใจตรม
แต่ความจริงรู้ว่าพาไกลห่าง
ไม่มีทางหวนกลับจับขื่นขม
สุดปลายฟ้าหาคืนชื่นภิรมย์
ไม่อาจชมเชยชิดติดใจคืน
อยากทำตัวหัวใจให้แข็งแกร่ง
มีเรี่ยวแรงดังเดิมเติมใจฝืน
เหมือนก่อนรับประดับเธอแล้วพังครืน
ขอหยัดยืนฟื้นใจใส่กำลัง
จะหมุนวนคนเวียนเลียนภาพเก่า
ให้รุมเร้าเผาใจไร้ความหวั ง
นานเท่าไรใจคืนชื่นชีวัง
เรื่องช้ำรั้งขังมืดจางหายไป
เหมือนติดในวังวนวนความคิด
ขังดวงจิตติดบ่วงห้วงหวั่นไหว
ไร้ทางออกสู่แสงแห่งตาใน
เพราะหัวใจจมปักรักคำเดียว
 มณีจันทร์
ตาหลับลงแต่ใจไม่เคยหลับ
มันหวนกลับคะนึงถึงวันหวาน
ยังได้ยินเสียงเธอเหมือนวันวาน
ยังขับขานพูดพร่ำร่ำเรื่อยมา
แม้รู้ว่าเธอไปไม่หวนกลับ
จากลาลับแสนไกลสุดไขว่หา
เธอไปลิบอยู่เหนือกาลเวลา
อยากเอื้อมมาคว้าลมสุดข่มใจ
อยากหลุดพ้นวังวนจนทางออก
สุดช้ำชอกบอกใจไม่หวั่นไหว 
แต่ติดอยู่วกวนทนปวดใจ
ข้างหน้าไซร้ไร้ทางเหมือนอย่างเคย
เพราะว่ารักคำเดีย

สำหรับคนที่แอบรักเพื่อน

อิจิโกะ

เป็นเพื่อนกันมานานนัก
ไม่เคยคิดว่าจะรักเป็นอย่างอื่น
แต่พอเริ่มเหงา ๆ ในบางคืน
ความรู้สึกอย่างอื่นก็เข้ามา
แทรกในความรู้สึกลึกๆ
เปลี่ยนความรักอย่างเดิมเป็นคนึงหา
เริ่มมีความหมายในสายตา
ซึ่งถ่ายทอดออกมาจากหัวใจ
จะต้องทำอบ่างไรยังไม่รู้
ต้องฝืนอยู่อีกนานสักแค่ไหน
ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งคิดมากลำบากใจ
แอบรักเพื่อนมันปวดใจมันทรมาน

ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ

ผู้หญิงไร้เงา

คนชิดใกล้  ในวันนี้  มีเพียงฉัน
แต่เธอฝัน  ถึงเขา  เฝ้าห่วงหา
ไม่ยอมบอก  กลับกลอก  หลอกวาจา
ว่ายังรัก  เสมอมา  พาสุขใจ
ทั้งที่ความ  เป็นจริง  ที่หญิงคิด
เธอตามติด  คอยห่วงหา  พาหวั่นไหว
ในแววตา  ที่เผย  เคยคุ้นใจ
เธอมีเขา  นั่นไง   ในความจริง
ส่วนตัวฉัน  อยู่ใกล้  แค่ปลายตา
แต่ไม่เคย  เห็นค่า  มาสุงสิง
เธอรักเขา  เราจึงเหงา  เศร้าใจจริง
เมื่อทุกสิ่ง  ในความจริง  ยิ่งช้ำตรม
ไปจากฉัน  เลยดีกว่า  เธอว่าไหม
อย่ามาทำ  ให้ใจ  ต้องขื่นขม
หากหมดรัก  ไม่เห็นค่า  น่าภิรมย์
ก็อย่าชม  เชยชิด  คิดรักกัน

ฝนหลงฤดู

)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

หลังสายฝนบ่นพรำดังร่ำให้
แดดสดใสไหวสาดพาดพื้นดิน
อุ่นไอหอมดอมดมคราชมถิ่น
กลุ่นไอดินกลิ่นระเหยเหมือนเคยผ่าน
เจ้าจักจั่นเรไรไม่ฟังเสียง
ร่วมพร้อมเพรียงเสียงใสแว่วไหวหวาน
ยอดหญ้าเรียวเขียวชุ่มชอุ่มซ่าน
เสียงเพรียกผ่านแผดเผาเอาเงาดิน
เพียงชั่ววันผันผ่านดังสานคืน
เหมือมสะอื้นร่ำหายดังสายบิน
ความชะอุ่มชุ่มชื่นระรื่นสิ้น
ความเคยชินกลับคืนสะอื้นหา
เพียงทักทายทายทักแล้วหักหาย
ต้องแพ้พ่ายแล้งรอนย้อนทาบทา
จากรอนแรมรอคอยเฝ้าคอยหา
เหล่านกกาพาร่อนจากดอนดิน
เฝ้ารอคอยเยี่ยมเยือนมาแยบยล
เจ้าสายฝนหลงฤดูไม่คู่ถิ่น
โบกโบยบินสบัดไหวมาลายสิ้น
ถูกกลืนกินสิ้นหายเสียดายพลัน
กระเซ็นกระสาดรดชุ่มชื้นหมื่นเห็น
ต้องเจ็บจำสะอื้นร่ำให้
ดังสายฝนรินรื่นโรยรา
กระเซ็นกระสาดใสเสือกสนยลเย็น
    
สายฝนที่ร่วงพรูหลงฤดูแทบจะไม่มีความหมายอันใดเลย ได้เพียงไม่นาแสงแดด ความร้อน ค่อยค่อยเริ่มส่องแสงแผดเผาจนแห้งเหือด
6 เมษายน 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
       

Leaving

ฺBlue mind

Depart from...
the land...
the sea...
the sky...
the sun...
the moon...
All stars..,
are twinkling,
up high...
down low...
far...far away
somebodys
whispering
that I will...
always love u
replying...
I  ll miss ya too
wind blow...
sea breeze...
voices of crying...,
ones whos
going back...
to the heaven...
...gone forever...
!!!passed away!!!