ให้คะแนนกลอน

ความทรงจำที่อ่อนหวาน

น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม

ความทรงจำที่อ่อนหวาน
กลับมาสร้างความร้าวฉานในชีวิต
พลาดมาหนึ่งครั้งเพราะรักเธอ เผลอเดินทางผิด
ชีวิตทั้งชีวิตจึงเสียใจ
พอแล้วกับความหวานครั้งก่อน
ทุกครั้งที่หลับตานอน ภาพเก่ามาหลอนให้หวั่นไหว
เป็นอย่างนี้อยู่ทุกครา ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เธอจากไป
อีกนานไหมกว่าจะหลับได้โดยไม่คิดถึงเธอ

คู่สร้าง คู่สม

ลิลิต


  ก่อนแต่งงาน หวานแหวว ชนแก้วกรึ๊บ
ติดกันหนึบ ตั้งนานเน ตังเมเหนียว
จะไปไหน ไปด้วย ช่วยกันเกรียว
เพื่อนผมเขี้ยว ทำงานเข้ม...เคลมประกัน
  เป็นนักดื่ม ตัวยง มันก๊งหนัก
สุราร่ำ สำราญรัก นักสร้างสรรค์
เธอเรียนจบ ไม่พบงาน มานานวัน
เป็นมือชง เหล้าชั้น  ปัญญาชน
  หลังวิวาห์ เธอมาเพี้ยน เปลี่ยนทุกสิ่ง
รู้นรก ว่ามีจริง ยิ่งสับสน
ตั้งกำหนด กฎเกณฑ์ เหมือนเล่นกล
คอยพูดพ่น ห้ามกินเหล้า จงเข้าใจ
  เขาเจรจา ต่อรอง ถูกน้องด่า
ปีสามร้อย หกสิบห้า ขวด...ว่าไหม ?
เธอไม่พร้อม บอกยอมยาก มันมากไป
พี่จะเลิก หรือไม่...ได้ฤกษ์ลา
  เขาอ้อนวอน ร้อนรุ่ม อย่าบุ่มบ่าม
เดือนละสาม สิบกลม เหมาะสมหนา
เธอตวาด ดังแว่ว เสียงแจ้วมา
พี่จะบ้า หรือไร มิไตร่ตรอง
  เขาตามเคลม เคลียคลอ ขอสักนิด
หนึ่งอาทิตย์ แค่เจ็ดขวด ไม่ปวดหมอง
ลดซักหน่อย มิร่อยหรอ พี่ต่อรอง
เธอขัดข้อง จ้องหาเรื่อง บอกเปลืองตังค์
  เขาขอร้อง น้องนุช ครั้งสุดท้าย
วันหนึ่งได้ ให้หนึ่งกลม สุขสมหวัง
แม่เนื้อเย็น เห็นจิ๊บจ๊อย บอกน้อยจัง
เหมาะสมสั่ง อนุมัติ... ไปจัดการ
  ชีวิตคู่ ของนักเคลม ถึงเปรมสุข
เป็นคู่ทุกข์ คู่ยาก อยากกล่าวขาน
ใครจะลอก เลียนแบบ ไปแนบนาน
หาแม่บ

**ดาว...ในใจ**

คนกุลา

 
.
บอกบางใครไม่รู้เธออยู่ไหน
บอกบางใจใครเอ่ยไม่เคยถาม
บอกนิยายหมายจันทร์ที่ฝันงาม
ฤๅหากห้ามนิยามใจในเทือกดาว
เมื่อเพ็ญพร่างสร้างแสงตบแต่งฟ้า
ยามนภาปร่าเงียบเยียบฟ้าหนาว
เจ้าคือวาดสาดแสงแข่งแพรวพราว
กล่อมคืนร้าวหนาวฤดีที่ล้าแรง
หอบรอยยิ้มนกไฟในฟากฟ้า
มาเยือนดวงดาราคราใจแล้ง
กลางสายฝนหม่นใจคล้ายคลางแคลง
มาปลอบแสงดาวฝันวันฟ้าเทา
ในทางดาวราวฝันวันฟ้ามืด
สายลมชืดกระชากจากใจเหงา
ใครจะรู้ดาวไหนในใจเรา
มุ่งหมายเอาเป็นขวัญนิรันดร์มา
คือดาวพร่างกลางฝันนิรันดร์รัก
คือดาวถักทอแสงมิแรงกล้า
คือดาวพรายคล้ายพรากยามจากลา
เพื่อคืนมาพบขวัญทุกวันคืน
.............. 
 
คนกุลา
ในวสันต์
 
 

ไอ้กะล่อน

ประชด

เกิดมาสันดานชั่ว
ใจและตัวมั่วผู้หญิง
ไม่เคยพูดความจริง
ทุกสิ่งที่ทำคือหลอกลวง
          นิสัยกะล่อนเจ้าชู้
เฒ่าหัวงูเสือผู้หญิง
บอกว่ารักฟันแล้วทิ้ง
แต่ที่จริง     "  สันดาน เลว "

ขอบคุณ

เอ๋

ขอบคุณที่แกล้งทำว่ารักฉัน
ขอบคุณที่แกล้งทำห่วงหวง
ขอบคุณที่ทุกคำล้วนคำลวง
ขอบคุณที่ตักตวงอย่างมากมาย
ขอบคุณที่เห็นฉันไม่มีค่า
ขอบคุณที่ผ่านมาไร้ความหมาย
ขอบคุณที่ทำให้เจ็บเจียนตาย
และขอบคุณความเดียวดายไม่รู้ลืม

เพลงเศร้า

เถ้าธุลี

เพลง เพลงหนึ่งเคยฟังในวันเก่า 
เพลง ที่เราเคยซาบซึ้งเคยหลงใหล 
เพลง เพลงหนึ่งเธอมอบให้ด้วยหัวใจ 
เพลง เพลงนั้นทำใจฉันหลอมละลาย 
เพลง เพลงนั้นเมื่อได้มาฟังอีกหน 
เพลง เพลงนั้นกลับดลให้น้ำตาไหล 
เพลง เพลงนั้นยังไพเราะไม่เปลี่ยนไป 
แต่ สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปคือใจเธอ 

ยอมรับความจริงซะที

เงาของคนเหงา


ยอมรับความจริงซะที
ว่าเป็นได้แค่พี่อยากเค้าบอก
ฝื้นไปมันก้อมีแต่ช้ำชอก
หยุดหลอกตัวเองซะที
ยอมรับความจริงดีกว่า
ให้เวลารักษาแผล
เราเป็นยังงัยเค้าไม่เคยแล
มีแต่เราแคร์เค้าข้างเดียว
ยอมรับความจริงวันนี้
คงมีวิธีรักษา
ก่อนจะเจ็บเกินเยี่ยวยา
ก่อนน้ำตาจะหลั่งริน
ยอมรับความจริงเถอะนะ
ยอมรับซะว่าเค้าไม่หลอก
ยอมรับว่าเค้าคิดอย่างที่บอก
ยอมรับว่าต้องออกไปซะที
ความรับความจริงว่าแค่พี่
ยอมรับซะทีได้ไหม
ยอมรับเถอะนะหัวใจ
ยอมรับว่าเราคิดไปเอง

๏ อากาศร้อน...

เมจิคเชี่ยน

อันตัวผม มันหล่อ นั้นขอบอก
ไม่ได้หลอก เรื่องจริง ผู้หญิงรู้
พอเห็นผม ก็กรี๊ดกร๊าด มาดน่าดู
น่าอดสู กลุ้มใจจัง ดังเหลือเกิน
มีคนรัก มากมาย แทบไม่ไหว
ขุนแผนไทย ยกนิ้วให้ เกินเอื้อยเอิ่น
ชอลิ้วเฮียง เมืองอาตี๋ ที่รักเพลิน
ยังเชื้อเชิญ คารวะ ว่าขอยอม 
จะไปไหน ต้องปิดบัง ทั้งซ่อนเร้น
ดาราเด่น งี้แหละหนอ ก็ต้องพร้อม
เบื่อตัวเอง เซ็งมาก อยากใจตรอม
แต่สาวสาว เค้าไม่ยอม เลยต้องทน
ชาติที่แล้ว คงมีบุญ การุณหนุน
อันวาสนา ค้ำจุน เป็นทุนศล
ถึงได้หล่อ หล่อเหลา เข้ากมล
ขอทุกคน อย่าอิจฉา ตาร้อนเลย
ได้ยินเสียง เรียกร้อง ก้องในหู
จิตไม่รู้ ลอยเหม่อ เพ้อเฉยเฉย
เขาสะกิด ตัวเรา เศร้าไปเลย
เห้ย เห้ย เฮ้ย ~จงตื่นนอน อย่าอ้อนตีน ... อิอิ
..... อ้าว อากาศร้อนจัดนี่เองขอรับ
..... กะพ๊มฝันไปนี่เอง ... เวรกามมมม 555

ไปบ้านยาย (1)

กุ้งหนามแดง


ในวัยเยาว์จำได้ไปบ้านนอก
ยินแม่บอกเยี่ยมยายคลายถวิล
จัดกระเป๋าสัมภาระกะของกิน
น้ำท่ารินใส่ขวดมีลวดลาย
นอนไม่หลับกลางคืนมันตื่นเต้น
เดินทางเป็นครั้งแรกแปลกที่หมาย
แม่ห่มผ้าให้หน่อยค่อยสบาย
จึงผ่อนคลายกังวลจนหลับไป
ตื่น ตื่น ตื่น เช้าแน่แค่ตีห้า
ไม่รอช้าปลุกอาบน้ำฟอกซ้ำได้
แล้วแต่งตัวปะแป้งแจ้งผ้าใบ
ใส่หมวกให้ดูเท่เก๋ไม่เบา
แล้วพาขึ้นรถเมล์วิ่งเป๋ปัด
แทบจะพลัดตกม้าคว้าเอาเสา
ถึงซะทีหัวลำโพงนั่งโยงเรา
แม่ไปเข้าคิวซื้อถือตั๋วมา
เห็นผู้คนมากมายทั้งชายหญิง
อยากรู้จริงเขาจะไปไหนกันหนา
จะเหมือนเราหรือเปล่าไปเฝ้าตา
หรือแวะมาดูรถไฟใช่ไหมเอย
บ้างหิ้วลังแม่โขงนุ่งโจงรั้ง
หกล้มพลั้งวิ่งยืนสะอื้นเฉย
บ้างร้องขายเปาหมึกพิมพ์เรายิ้มเลย
เพราะไม่เคยฟังย่อหัวร่อดัง
แม่พาเดินชานชาลามารอรถ
แล้วก็ปลดข้าวของกองข้างหลัง
ขบวนรถที่หมายคล้ายว่ายัง
ไม่ถึงดังกำหนดที่กฎเกณฑ์
ระหว่างรอนั่งมองทั้งสองด้าน
ไม่เหมือนบ้านเราเลยที่เคยเห็น
ดูหลังคาโปร่งโล่งส่วนโค้งเป็น
โครงเหล็กเน้นสังกะสีทาสีเงิน
ปู๊น ปู๊น ปู๊น แล่นมาเข้าท่าแล้ว
วิ่งเป็นแนวตรงมาเหมือนว่าเหิน
จอดสนิทเทียบตรงคนลงเดิน
เพียงมองเพลินแม่เร่งคนเก่งเร็ว..
(ยังมีต

สเปนเก่ง?

บุษย์น้ำทอง

สเปนเก่ง?หรือเยอรมันฝีมือตก
     คนเราถ้าประมาทมักพลาดได้
แชมป์หลายสมัยแต่เล่นไม่สวย
คนดูบอลเขารู้หมูในอวย
หลายคนรวยมีทุนถอนเพราะเชียร์สเปน
     บางคนแย่เพราะถูกจับพนันบอล
แต่หลายคนไม่แย่เพราะ  ไม่ได้เล่น
จะเชียร์เยอรมันหรือสเปน
คนที่เล่นพนันบอล คือหมูในอวย(รอวันเชือด)
   

ขอบจัย

mild

ขอบใจกับทุกสิ่งที่ผ่านมา
ขอบคุณวันเวลาที่มีให้
อย่างน้อยก็ไม่เจ็บมากเท่าไหร่
จะเก็บวันเวลาที่ดีไว้...นานเท่านาน
ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่ยิ่งใหญ่
ขอบใจที่เป็นผู้ให้เกือบทุกสิ่ง
ต่อไปคนคนนี้ไม่ต้องการแล้วจริงๆ
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกสิ่งที่เธอมี

...ห่างไกล...

แทนคุณแทนไท

....๑...
ปลายขอบฟ้าสิ้นสุดลงที่ตรงไหน
เราก็ยังคงใกล้ อยู่เสมอ
ฟ้ากว้างใหญ่ หัวใจยังได้เจอ
อย่ามัวทุกข์ละเมอ ไปวันวัน
เก็บทุกส่วนสวยงามยามได้คิด
มาสร้างสิทธิ์ งดงามไว้ยามฝัน
เอาความปรารถนา มาใกล้กัน
แม้สัมพันธ์ ดูแล้วช่างแผ่วบาง
“ใครมีใคร”  หรือ “ใครไม่มีใคร”
ก็อย่าให้ ใจเราสองต้องไกลห่าง
ถึงเห็นเพียงเยื่อไย ที่เลือนลาง
ก็ขอไว้ เติมสร้าง กำลังใจ
เราต่างมี สุขทุกข์ปน ระคนโศก
บ้างอยากยุด หยุดโลกเข้ามาใกล้
สูดกลิ่นหอมของปรารถนาใจ
สัมผัสกันใกล้ใกล้ เมื่ออ่อนแอ
ใครว่าเป็น เช่นหวังที่ฝังฝัน
ในโลกอันเงียบงันของผู้แพ้
ระริกไหว เต้นซ่านทั้งดานแด
ใช่มีแต่ ความหวัง อันมิดมน
ตาคู่ช้ำ ซ้ำแววแล้ง ที่แห้งผาก
การจากพราก อาจยากฝืนไม่ขื่นขม
แต่เรายังใกล้กันในอารมณ์
ที่จะคอยซับระทม ให้แก่กัน
….๒....
ถ้าขอบฟ้าสิ้นสุดลงที่ตรงนี้
ขอซับซบคนดี ที่เคยฝัน
แม้นิดน้อย เนิ่นนานการจากกัน
และเป็นเพียงภาพฝัน อันเบาบาง
แทนคุณแทนไท / พระอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยาย์  ๕๒

ต่างคนต่างใจ

มือเขียนกลอน

ต่างคนก็ต่างใจ
ผิดไหมที่ฉันเป็นแบบนี้
เกเร โมโห งี่เง่า เซ้าซี้
ก็เป็นแบบนี้มาตั้งนาน

ภูบดินทร์ คือ ปิ่นเกล้า ....สิริกิตติ์ คือ ปิ่นไผท

ยุทธภูมิ สุวรรณเวช

          กษัตริย์เก้าก่อเกื้อ                 เกียรติกูล   ฃาติเฮย
แจ่มเจิดจำรัสจรูญ                           เจิดจ้า
เพริศแพร้วพิพัฒน์พูน                    ภัยพ่าย   แพ้แฮ
โสมส่องสาดสู่ฟ้า                               ส่องฟ้าสยามมินทร์
          
          ภูบดินทร์  คือ  ปิ่นเกล้า          เกรียงไกร
สิริกิตติ์  คือ  ปิ่นไผท                        ปกข้าฯ
ร่มโพธิ์ร่มไทรไทย                           ทั่วถิ่น
ก้องกึกเกียรติแกร่งกล้า                   แกล้วกล้าเกริกไกร

จากคนที่ใจร้าย คล้ายไม่รัก

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน

อ่านกลอนตัดพ้อต่อว่าคนใจร้าย เลยลองสวมบทคนใจร้ายดู 
อ่านเล่นเป็นนิยายประโลมโลกย์ นะครับ
  จากคนที่ใจร้าย คล้ายไม่รัก
ทำเหมือนผลักใสห่างต่างวิถี
เหมือนว่าใจ ไม่รัก แม้รักมี
ห่วงคนดีจึงขอห่างแยกทางกัน
  คนใจร้ายคล้ายสับสนปนโศกเศร้า
เมื่อเห็นเธอ ต้องจมเหงาเศร้าโศกศัลย์
และอาจต้องเศร้ามากหลายอีกหลายวัน
เศร้าเธอนั้นไม่ต่างมีดกรีดที่ใจ
  แต่คำรักคำเดียวให้ คงไม่พอ
ฉันทดท้อเมื่อเธอยากลำบากไร้
อยู่กับคนจนเช่นนี้ดีอย่างไร
อนาคตอยู่ที่ไหนไม่เห็นเลย
  คนใจร้ายคล้ายจะไล่เธอไปพ้น
หากน้ำตาบ่าไหลหล่นลงเฉยๆ
ร้องน้ำตาท่วมใจอย่างไม่เคย
ดวงใจเอ๋ย เจ็บกว่าไฟเผาไหม้ทรวง
  ไล่เธอไกลแม้ว่าใจ รักกว่ารัก
ไม่ทายทักถึงแม้ว่า ห่วงกว่าห่วง
เพื่อให้เธอลืมเรื่องหลังหมดทั้งปวง
เวลาล่วงผ่านลง เธอคงคลาย
  วันหน้านั้น เธอจะมีชีวิตใหม่
เรื่องปวดร้าวในใจบางจางหาย
เวลาที่เธอสิ้นเหงาความเศร้าวาย
คนใจร้ายยังใจหมองสองเท่าเธอ..

พูดกับดาว

คนบนเกาะ

ดาวดวงเด่น  จรัสฟ้า  ครามืดแสง
ความร้อนแรง  ทิวาวัน  ก็ผันเปลี่ยน
ราตรีเยือน  เย็นคืนย่ำ  ซ้ำวนเวียน
เลยนั่งเขียน  ระบายทุกข์  ให้สุขใจ
ดาวดวงเด่น  เช่นตัวน้อง  พี่จ้องเจ้า
แสงนวลขาว  ดูกระจ่าง  สว่างใส
ยามคิดถึง  คราคะนึง  ถึงทรามวัย
ทุกคราไป  พี่จะจ้อง  มองดวงดาว
ราตรีนี้   จะอยู่นี่  มิไปไหน
จะส่งใจ  ไปสู่ฟ้า  เวหาหาว
ภาษารัก  จะพรอดพร่ำ  ย้ำเรื่องราว
ไปถึงดาว  ตัวแทนน้อง  พี่ปองนวล
เจ้ารู้ไหม  ว่าคืนนี้  พี่เงียบเหงา
อยากจะเล่า  ความชอกช้ำ  ระกำสรวญ
ยามคิดว่า  ตัวพี่นี้  มิคู่ควร
จิตอักอ่วน  น้ำตาปริ่ม  ปิ่มขาดใจ
ส่งสายตา  ส่งมาจ้อง  บ้างน้องรัก
ส่งมาทัก  ส่งมาทาย  ให้ผ่องใส
นอกจากน้อง  แล้วตัวพี่  ไม่มีใคร
พี่สุขใจ  หากพี่ไซร้  ใกล้คนดี

ข้าพเจ้าสนทนากับยมทูต

ขอนลอย

เย็นนี้อย่าลืมดูข่าวภาคค่ำ
เรือตังเกเทลำพบยมทูต
กลางทะเลทรายมีควายกับอูฐ
ลำตัวสูงชะลูดเท่ายีราฟ
ควายถามอูฐจะไปไหน
แบกเกลือไปให้ทะเลสาป
หรือแบกแป้งแคร์ใคร่อยากทราบ
จะไปอาบน้ำนมหรือลมหวน
อูฐตอบว่าไปพบโดเรม่อน
ฉันแบกชะลอมพร้อมเต้าส่วน
จะไปเมืองอาเพศจุดชนวน
เพื่อดูคนหางด้วนเขาตีกัน
ตรงฟุตบาธถนนเดือนมีนา
ดอกแคร์บานช้าจนข้าหวั่น
ฝนตกขี้หมูไหลคนอะไรตามไม่ทัน
ฝูงนกจึงห้ำหั่นประจัญเมือง
ยีราฟเงยหน้าน้ำตาตก
แท้มันคือวณิพกนามเสือเหลือง
ฤดูฝนสดใสมลายเลือง
เพราะมันเลี้ยงไม่เชื่องคนเลื่องลือ
ข้าจะไปฟ้องยมบาล
ว่าข้าเจอคนพิการไม่ขานชื่อ
ทำทีหลอกล่อมาขอซื้อ
รถไถพร้อมกระบือสิบเอ็ดตัว
มีอูฐลึกลับอยู่หนึ่งตน
ทำควายสับสนจึงเย้ายั่ว
เขารู้จักไจแอ้นท์ตีท้ายครัว
เสียงกลองสั่นรัวเพราะควายตี
อาวุธข้าถูกทำลาย
คือเขาของควายไม่มีสี
ตึกเมืองสูงใหญ่ไม่สู้ดี
ชื้อกระบือกลับได้ชะนีมะนิลา
แถมไม้ถูพื้นให้สี่อัน
11 ตนรวมกันคิดพันหน้า
ชะนีตีฉิ่งจ๊ะทิงจา
ขอช้างขอม้าข้าขอเอง

** สิ้นสุดสุดสิ้น **

แก้วประเสริฐ


      **  สิ้นสุดสุดสิ้น  **
     รักมีมากเพียงใดฤทัยป่วน
สิ่งรัญจวนเคยปองมิสนองฝัน
แม้นเปลี่ยนวนระคนสุดทนกัน
พลิกยามผันเมื่อคนึงเคยซึ้งวอน
     น้ำใจหนออิงไว้ดุจคล้ายน้ำ
ช่างเหลือล้ำฝากไว้ดังใคร่หลอน
เปลี่ยนวกอิงสิ่งไปช่างได้คลอน
เซาะซอกซอนฝังไว้สุดให้รวน
     นี่นะหรือหญิงเราเคยเฝ้ารัก
ตามใจนักห่วงใยจึงได้ฉนวน
ก่อสิ่งเกิดเปี่ยมไว้แสนไร้นวล
พลิกสิ่งล้วนคำไว้ดุจคล้ายเงา
     วิเวกแว่วสำเนียงเคยเสียงแจ้ว
สิ้นสุดแล้วเหลือไว้ดูกรายเขลา
มุ่งมั่นสร้างสถานอิงเพื่อสิ่งเรา
เหลือเพียงเฝ้าสิ่งพรากที่จากไป
     โถหัวใจคนเราแสนเคล้ายาก
แม้นจะฝากสิ่งหวังแต่ยังสลาย
ถึงแม้เงาเพียงคนึงช่างซึ้งหทัย
ความวิไลใฝ่ถวิลน้ำจินต์ครวญ
     ลาแล้วหนอเรือนรักที่พรักพร้อม
ก่อนห้อมล้อมพฤกษาผกาสวน
ส่งกลิ่นโชยใฝ่ย้อมมาหอมชวน
แสนรัญจวนเด็ดดมเฝ้าชมนาง
     เมื่อสิ้นสุดสุดสิ้นถิ่นประจักษ์
สิ่งพำนักลาก่อนเพื่อผ่อนสล้าง
เจ้าคอยก่อนเพื่อรอไม่ขอวาง
จะไม่ร้างหอสร้างระหว่างใจ
     พบรักแท้ข้างหน้าหวนหาเจ้า
เฝ้าโลมเล้าสาวสงวนที่ล้วนไสว
สวนผกาพฤกษ์บ้านสำราญหทัย
มิห่างไกลจากเจ้าเพื่อเฝ้าสำราญ.
    ***   แก้วประเสริฐ.   ***

ส่งความสุข 2555

ภัคพล

"ไก่แก้ว..ขันเสียงเคียงบ้านทุ่ง
อรุณรุ่งสุริยารับฟ้าใหม่
หมอกฝ้า..เคลื่อนคล้ายลับหายไป
ฉายวิไลแสงทองส่องธานี
สัพพะเคราะห์ให้สิ้นไปในปีเก่า
ความโศกเศร้าทุกข์ภัยให้ลับหนี
เก็บความดีต่อทุนรับอีกปี
ร้อยความดีร้อยความรักมอบสู่ชน
ศุภฤกษ์รับขวัญวันปีใหม่
ส่งความสุขมอบคุณค่าสถาผล
ขอพรชัยทั่วหล้าบันดาลดล
ให้สมหวังดังกมลทุกประการ
ส.ค.ส.แทนใจไมตรีจิต
ส.ค.ส.แทนมิตรร่วมสืบสาน
ส.ค.ส.แทนความรักที่แบ่งบาน
ส.ค.ส.มอบทุกท่านสำราญเทอญ"

..๏ อีกกี่ครั้ง..อีกกี่หน

บินเดี่ยวหมื่นลี้

๏ ยังจำได้ก่อนหน้านี้ที่สีชัง
เจ้าเปลื้องปลดความหลังด้วยใจหาญ
ปล่อยรักที่หลงรอลงบ่อธาร
กลบตำนานมิให้เหลือเมื่อกลับมา
แต่วันนี้ที่เห็นเจ้าเป็นอยู่
ยังหดหู่จาบัลย์ขวัญผวา
ยังจ่อมจมหล่มทุกข์รุกอุรา
ธารน้ำตาท่วมท้นล้นทรวงใน
ฤๅมิอาจตัดได้สายสวาท
แม้นบากบาดความรักสักเพียงไหน
ยังอาลัยอาวรณ์ทุกตอนไป
จะหักใจกลัวเจ็บซ้ำจึ่งจำทน
จะล่องลอยเจ็บนี้อีกกี่ครั้ง
จะเปลื้องปลดความหลังอีกกี่หน
เจ้าจักหลุดจากอดีตกรีดกมล
ใครบางคนที่คอยเริ่มน้อยใจ๚ะ๛