ใครไม่เกี่ยว ขอความกรุณาถอยไปห่างๆ อย่าขัดขวางการทำความเข้าใจของเราสอง ไม่อยากเจ็บตัว ขอบอกตรงๆว่า อย่าลอง เราจะคุยกันในห้อง เพื่อชำระคดีของสองเรา เออ จะจบก็จบ จะเจ็บก็เจ็บ จะไม่หวง ไม่กอด ไม่เก็บ แต่ชู้ห้ามเข้า จะเลิกก็เลิก จะไปก็ไป ยังไงก็เอา แต่ขอฟังชัดๆให้คนโง่เง่าเกิดความเข้าใจ ไม่ต้องชะเง้อชะแง้มองดูเขา อยู่ในห้องจะมีแค่เรา เข้าใจไหม? ฉันไม่ได้แตะต้องข้องเกี่ยว เธอจะเสียวอะไร เราจะเปิดอกพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ แฟร์ๆ ฉันจะไม่อ้างสิทธิ์ใดฉวยฉาบ จาบจ้วง แค่อยากเปิดให้คนหลอกลวงได้เห็นแผล เห็นไหมเธอ นี่แหละคือรอยแผลร้าย ที่เธอไม่แคร์ เธอไม่เคยแลมามองแม้วินาที เลือดของฉันเป็นเครื่องสังเวยความรัก เธอจะเอาอะไรชดใช้อกที่หักและศักดิ์ศรี เธอตายได้ไหม? เพื่อชดใช้ความหวังดี น่าน เห็นไหมล่ะขอแค่นี้ เธอก็กลัว เออน่า ฉันจะปลดปล่อยเธอไปแน่ ไม่มีข้อแม้ผูกมัดให้ปวดหัว อย่าแสร้งร้องฟูมฟาย ก็แค่ช้างตายทั้งตัว เก็บใบบัวเก่าๆไปเผาเธอกับมัน บอกแล้วใช่ไหม ว่าชู้ห้ามเข้า เรื่องของเรา จะเคลียร์เฉพาะเธอกับฉัน พรุ่งนี้ที่รัก เราสองจะตายจากกัน คำสัญญาหมื่นพัน คิดดีๆก่อนพูดพรั่งพรู ไปดีเถิดทั้งสอง สัพเพสัตตา ไ
เจ็บใดไหนจะเจ็บเหมือน เจ็บเท่าเพื่อนแย่งแฟนที่สุดหวง เพื่อนไม่น่าทําเพื่อนให้ชํ้าทรวง เพื่อนก็รู้ว่าเพื่อนหวงดั่งดวงใจ เพื่อน ok เพื่อนยกให้ เพื่อนเอาไป อย่าควงให้เพื่อนเห็น เพื่อนอย่าทํากับเขาอย่างชาเย็น เพื่อนก็เป็นผู้ให้เสมอมา หากวันใดเพื่อนเจ็บให้บอกด้วย เผื่อจะช่วยเป็นยาแก้ปัญหา เผื่อจะซับหัวใจและนํ้าตา เผื่อเป็นยาแก้ชํ้าในให้ลืมเลือน
..แข็งแรง แกร่งเรือนร่าง
ช่างบอบบาง หว่างหัวใจ
เพราะทุกข์ ซุกข้างใน
...ไม่เผยให้ ใครยิน...ยล..
..มากมาย หลายเรื่องราว
วิ่งสาวเท้า ร้าวรานรน
เเรงรัก ปัก..กมล
หล่นปะปน ล้นห้วงใจ ....แผลเจ็บ เก็บกี่ครั้ง ยังมิตั้ง ฝังให้ไกล เขาเมิน เกินห่วงใย ใจหนอใจ ไม่คิด..ลืม ......... ...กาพย์ยานี11... ....... .....กวีชาวบ้าน...
ดาวเอ๋ยเคยบ้างใหม เคยให้ใจใครคนนั้น สำหรับดาวเขาสำคัญ จริงใจนั้นทุ่มสุดตัว ดาวจ๋าถ้าเขาทิ้ง ใจเขานิ่งไม่หวั่นไหว อ้อนวอนจนอ่อนใจ เขาใจร้ายไม่แคร์ดาว ดาวจ๋าถ้าร้องให้ ดาวมีใครคอยปลอบขัวญ ถ้าดาวใจร้าวราน มีใครกันคอยดูแล เพื่อนดาวพราวส่องแสง พร้อมแสดงความรักใคร่ ดาวคงไม่เหงาใจ ไม่มีใครไม่รักดาว หมู่ดาวพราวระยับ แข่งกันรับเพื่อปลอบขัวญ เพราะดาวนั้นสำคัญ ไม่เหมือนฉันไม่มีใคร ดาวจ๋าถ้าสงสาร ฝากความฝันฉันได้ใหม ฝากบอกถึงคนไกล มารับใจไปดูแล บอกเขาเราร้องให้ เฝ้ารอใจใครคนนั้น บอกเขาเราต้องการ ใจเขานั้นกลับคืนมา ........................................................................
ไม้ขีดไฟเล็กๆอย่างฉัน หรือจะสู้แสงตะวันสว่างไสว ดอกทานตะวันอย่างเธอคงเลือกทางไป หันกลีบดอกที่ยิ่งใหญ่สู้แสงตะวัน ไม้ขีดไฟเล็กๆอย่างฉัน แม้แอบรักทานตะวันสักแค่ไหน หนึ่งก้านเล็กๆของฉันจุดส่องไฟ แม้ยอมมอดไหม้... แต่แสงที่ได้คงไม่ยิ่งใหญ่ เท่ากับแสงไฟ "จากตะวัน"
หักซังข้าวทำปี่เป่ากล่อมเจ้ากลอย ปีนี้ไม่เลื่อนลอยดอกปอยฝัน ข้าวขึ้นยุ้งหุงนึ่งพอพึ่งกัน คงพอแบ่งพอปันสืบวันไป ฝนมาเร็วไปเร็วบ่สั่งลา คือเริ่มรินหัวเมษาฟ้ายังใส ตุลายังไม่ปลายกลับวายไว บ่ยินเสียงฟ้าไห้หักไม้วอน แต่ข้าวก็แตกกอกลมได้เกี่ยว มีบ้างที่ตายเหี่ยวทั้งเขียวอ่อน ส่วนใหญ่ยังเป็นข้าวคลายร้าวรอน ก็มีแรงร่ายกลอนกล่อมเวิ้งเวียง ว่าชะเอ่อเอิงเอยข้าบ่เคยคิด ว่าจะมีชีวิตไร้สิทธิ์-เสียง เกิดมาอยู่กับดินกินปลาจ่อม มีสมองก็งอม เดี้ยงซะเกลี้ยง ได้รับการศึกษามาดาดดาด ความรู้ความสามารถแบบอีเอี้ยง ไม่ถนัดจะคิดแม้อยากคิดก็ขัด เชาว์มันอัตคัดเหลือขี้เมี่ยง เป็นพลเมืองโหลโหลเติบโตเต็มวัย เพื่อสร้างชาติก้าวไกลและเกรียงฯ เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร้ง เตรง เตร่ง
เห็นสายเลือดหลั่งเข้า สายยาง น่ากลัว แดงกล่ำนำตามทาง ต่อไว้ หลากหลายท่านใจกว้าง ขวางยิ่ง ใจบุญ คนป่วยรักคนให้ ไม่รู้ตัวตน ตอนโอนเลือดท่านหน้า ซีดเหลือง เป็นลม ใจไม่เคยคิดเคือง แน่แหน้ว จิตงามเด่นรองเรือง ยกย่อง จากใจ นอกนอกเปลี่ยนเลือดแล้ว ดั่งได้ทำบุญ ขอขอบคุณที่ให้ โลหิต เหมือนต่อมอบชีวิต ใหม่ให้ และยังก่อเกิดสิทธิ์ คนอยู่ ดูโลก ควรที่สรรเสรรเสริญไท้ เพื่อนพ้องชมเชย
ขอส่งรักจากใจไปให้ถึง แด่คนซึ่งตัวฉันนั้นห่วงหา ขอส่งรักไปกอดยอดชีวา แทนกายาของฉันนี้ที่ห่างไกล ด้วยรักแท้อุทิศชีวิตนี้ แด่ยอดรักคนดีที่พิสมัย ขอยืนยันด้วยชีวิตจากหัวใจ มอบแด่ยอดดวงใจไม่เปลี่ยนแปลง มอบกายใจให้แล้วนะแก้วตา ไร้มารยากลับกลอกหลอกแอบแฝง รักเพียงเธอเท่านั้นไม่กลั่นแกล้ง รักจริงไม่หน่ายแหนงแสร้งหลอกกัน ขอคนดีเห็นใจในรักแท้ รักของฉันแน่วแน่ไม่แปรผัน ขอพิสูจน์หัวใจด้วยคืนวัน ขอรักเธอนิรันดร์จนวันตาย ฯ
แสงจันทร์วันเพ็ญเดือนสิบสอง แสงนวลผ่องยะยองใยใสสดสี สาดส่องแสงทาทาบอาบปฐพี ทุกถิ่นที่สว่างจ้าบูชาชล จันทร์แจ่มแจ้งแสงสว่างกลางฟ้าใส ดวงเดือนใหญ่คลาไคลแสงทุกแห่งหน เจิดจำรัสฉะเฉิดฉายหงายเหลือทน ทั่วมณฑลสว่างแจ่มแอร่มตา คืนวันเพ็ญเดือนเด่นงามเฉิดฉาย มีความหมายในคืนนี้ดีหนักหนา ชนชาวไทยร่วมใจน้อมบูชา พระคงคาคุณค่าเหลือเหนือสิ่งใด แม่นทีมีคุณค่ามหาศาล ห้วยละหานคูคลองน้ำนองไหล น้ำเจิ่งนองจันทร์ส่องแสงยองใย คลื่นคลาไคลกระทบฝั่งฟังเพลินดี ลอยกระทงตรงวันเพ็ญเดือนเด่นฉาย แจ่มกระจายเฉืดฉายโฉมสมศักดิ์ศรี กระทงน้อยลอยล่องท่องวารี ธูปเทียนสีมาลีหอมพร้อมกลิ่นไอ อธิษฐานรักษ์แม่กระแสสินธุ์ เฝ้าถวิลขอขมาคงคาใส กระทงน้ยลอยบูชาเคลื่อนคลาไคล รักษ์แม่ไว้นานสืบสานงานกระทง นายทองม้วน สิงห์ทองห้าว โรงเรียนบุแกรงวิทยาคม ตำบลบุแกรง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุริทร์ ๓๒๑๘๐
อยากจะไปก็ไปสิ .. น่ารำคาญ คนอย่างเธอฉันจะถือว่าให้ทานไปก็ได้ .. ที่แล้วๆมา .. ฉันจะคิดว่าเป็นคนผิดเอง ..ที่ไปหลงเชื่อใจ จะพูดไปให้มันได้อะไร .. เปลืองน้ำลาย ..!! เชิญ .. เชิญ .. เชิญ .. ประตูอยู่ทางนี้ หยุดเถอะ หยุดพูดสักที .. พูดไปมันก็สาย หยุดก่อนที่ฉันคนนี้จะหัวเราะ .. จนจุกอกตาย เหอะ !! อย่ามาทำเอียงอาย .. .. เพราะฉันไม่ใช่ของตายสำหรับเธอ .. ขอโทษทีนะ .. ที่ฉันไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย เพราะก่อนหน้านี้ฉันก็อยู่อย่างเดียวดายมาเสมอ คงผิดหวัง .. เสียใจมาก .. ใช่มั้ยล่ะเธอ ก็ต้องขอโทษจริงๆนะเออ .. ที่ฉันจะไม่เป็นอย่างที่เธอต้องการ โอ๊ะ ..ๆๆๆ !! หยุด .. ฉันน่ะเอือมระอาสุด - สุด .. กับคำพูดหวานๆ คำพูดที่ผสมยาพิษไปพร้อมๆกับน้ำตาล หยุดที่จะหยิบยกเรื่องราวในวันวาน .. มาให้ฟัง ไม่ต้องบรรยายหรอก .. ว่าฉันเคยรักเธอแค่ไหน เพราะฉันเองก็รู้อยู่แก่ใจ .. เกี่ยวกับเรื่องความหลัง ฉันเบื่อ .. ฉันเบื่อ !! ได้ยินมั้ย .. ไม่อยากเป็นโรคเสียใจเรื้อรัง ใจมันเคยพัง .. แค่ไหน ฉันรู้ดี ช่วยทีเถอะนะ .. ช่วยเดินออกไป ไม่ต้องถามหรอกว่าทำไม .. ก็ฉันอยากให้ทุกอย่างมันจบลงวันนี้ ไม่ต้องมาพูด .. ไม่ต้องมาสง
รองเท้าข้างหนึ่ง.... ที่ไม่เคยรู้ซึ้งถึงคุณค่า... ของการมีรองเท้าอีกข้าง...คอยย่ำตามมา ไม่เคยมีเวลา...ที่แสนดี รองเท้าข้างหนึ่ง... ที่ไม่เคยซาบซึ้ง..ของการมีวันนี้ ที่ไม่เคยรับรู้...ความรู้สึกที่มีคนใยดี ไม่เคยได้มี....จนเธอเข้ามา จึงเริ่มมีคน.....คอยเคียงข้าง.. มีรองเท้าอีกข้างหนึ่งร่วมทาง....เป็นคู่ที่ค้นหา จะสุข....จะทุกข์...ยังคอยย่ำตามมา เริ่มสร้างวันเวลา...ที่ทำให้รู้คุณค่า...ของเวลาที่แสนดี ต่อแต่นี้ไป.... รองเท้าข้างไหนๆ....ก็ไม่มีวันทำให้ผมต้องเดินหนี เพราะผมรับรู้...ว่ารองเท้าข้างที่มีอยู่..ช่างแสนดี.. และจากวันนี้....อยากบอกเธอคนดี...ผมจะรักคุณคนเดียว
. . . ด า ว จ๋ า า . . . ช่ ว ย อ ะ ไ ร ฉั น สั ก อ ย่ า ง จ ะ ไ ด้ ไ ห ม ว า น ด า ว ช่ ว ย พั ด ค ว า ม อ บ อุ่ น จ า ก หั ว ใ จ ฝ า ก ไ ป ใ ห้ ค น ไ ก ล ข อ ง ฉั น ที . . . วั น นี้ . . อ า ก า ศ . . ชั ก เ ริ่ ม ห น า ว ฝ า ก ด ว ง ด า ว . . ห่ ม ผ้ า ใ ห้ . . เ ข า คื น นี้ ช่ ว ย ก ล่ อ ม น อ น . . บ อ ก เ ข า . . ใ ห้ ฝั น ดี ใ ห้ รู้ ไ ว้ . .ฉั น ค น นี้ ยั ง ห่ ว ง ใ ย
รักเธอประเทศไทย ทำไมวุ่นมิวายวาง หลายหลากแลเลือนลาง เร่าร้อนรุ่มระรานราว หรือฝนจะท่วมฟ้า ปูปลาดั่งจะกินดาว ถึงขั้นคงถึงคราว แยกยับย่อยยิ่งยุ่งเหยิง พานพบพาพร้อมพรัก ไสผลักพลันมิเพลินเพลิง ลามรินเริ่มลามเริง บรรเลงลงคงบรรลัย จะมาแม้ไม่มี จะเกิดที่ประเทศไทย หิมะจากแดนไกล จะพราวพร่างบนทางเดิน สอนผิดคิดเป็นถูก บอกลูกหลานด้านดำเนิน เสือสางยกสรรเสริญ คิดชั่วช้าเข้าเชิดชู คุณธรรมจะพ้นทาง เมื่อมารกร่างมาเกรียวกรู ข้าวกล้าแม้หมาหมู จะพาแพงมิพอเพียง ทำดีแค่ได้ดี ทำชั่วมีสิทธิ์มากเสียง เงินทองงานรองเรียง อีกอำนาจอำนวยนำ สละชาติแล้วเพื่อชีพ สิ้นประทีปแสงศีลธรรม นักรบคบครอบงำ เงินมาง้างจึงหมดเงา ครองเมืองทุนสามานย์ รัฐประหารหย่อนยานเยา ซับทรวงซึมซบเซา ดูเถอะเกิดได้ทั่วกัน ผู้นำยังมินึก จดจารึกจำโจษจัน เรียงสานยกรังสรรค์ เตรียมตัวตนตามตรึกตรอง อนาคตประเทศไทย เหมือนรำไรมิเรืองรอง ฝนหนักขี้หมูนอง อะไรนั่นพบกันหนอ๚:๛ .....
บางครั้ง.. บางคราว.. แสงดาวระยิบระยับวับวาว พราวฟ้า สุกสกาวกลางหาว ละลานตา ดังว่าจะเป็นเช่นนั้น ตลอดไป แต่คงจะมี บางเวลา มองฟ้า หาดาว นึกสงสัย เมษหมอก มากมาย กลบแสงสกาวไว้ เพียงวอนให้ สายลม เปิดฟ้า ... ให้ข้าที ------------------------------------------------------------------ ลมหนาว ดวงดาว พราวฟ้า ข้ามี บางสิ่ง สงสัย เหตุใด คนรักข้า จึงจากไป พร้อมหัวใจ ของข้า อีกครึ่งดวง ... สายลม คมปลาบ ปลายผิว โบกพลิ้ว เหมือนใจ ที่ข้าหวง กอปรเข้า ด้วยเพียง แค่คำลวง ทุก ๆ ห้วง ผ่านมา แล้วผ่านไป หมู่บ้านปางตอง อ.ปาย จ.แม่ฮ่อนสอน ป.ล. กลับมาแล้วคับ ^^' ที่นั่นดาวสวยมาก ๆ เลย อยากถ่ายรูปมาให้ทุกคนได้เห็น แต่ ฟิล์มไม่ไวพอ + ฝีมือถ่ายรูปไม่มี เลยได้แค่บอกว่า เห็นทางช้างเผือก กับดาวตกทุกคืนเลย อิอิ
กลางหาดทรายเงียบงันวันเหงาเหงา แสงโสมเศร้าสาดส่องเพียงมองเห็น ระลอกคลื่นแตกละอองฟองกระเซ็น ลมพัดเย็นพาไออาบฉาบผิวกาย กลางหาดทรายเหน็บในสายลมผ่าว ในค่ำคืนที่แสงดาวมีความหมาย เพียงมีเจ้าเคียงคู่อยู่มิคลาย ไม่แหนงหน่ายหักเหแม้เวลา ในอ้อมอกโอบกอดพรอดจุมพิต แนบสนิทดั่งต้องมนต์เสน่หา ในอ้อมแขนเชยชิดแนบนิททรา ใต้ฟากฟ้าพักพิงอิงอุ่นไอ พรจุมพิตจงลืมโลกที่โศกเศร้า ทิ้งความเหงาให้ที่พักรักอาศัย ให้พรนี้เหนือค่ากว่าพรใด พำนักใจมาแอบอิงนั่งผิงดาว
สายฝนหล่นร่วงราวฟ้าแกล้ง แสร้งแสดงแฝงความในให้ครวญหา คิดถึงซึ่งคนควรคู่อยู่ไกลตา น้ำตาฟ้าพาใจให้ระทม ดังเปาะแปะลมพัดอยู่ดังซู่ซู่ ฟ้าเหมือนรู้ร้องระบายมิให้สม แสงส่องฟ้า แปลบ แปลบ แลบระงม ให้โลกจม ระทมอยู่ มิรู้คลาย มิได้หมายให้ฟ้าอย่าพิโรธ อย่าได้โกรธเกรี้ยวกราดอาฆาตหมาย แต่อยากให้ฟ้าหมองเศร้าเจ้ามลาย อยากให้คลายความเศร้าให้เหงาจาง หากว่าฟ้าเห็นใจคนที่ทนเศร้า คนเหงา เหงา ที่เขาขาดคนเคียงข้าง โปรดเห็นใจคนคิดถึงมิรู้จาง ให้ฟ้ากว้างช่วยเช็ดเกร็ดน้ำตา
หัวใจ..ฉัน สี่ห้อง ภายในล้อม ด้วยความพร้อม ที่มอบ...ความหวานให้.. ถึงจะเล็ก มอบให้ได้ .. ไม่ทั่วใจ.. แต่ฉันจะ สะสมไว้ให้เต็ม.....เพื่อมอบแด่เธอ รับไหวไหม ?...ถ้าฉันมอบ ทั้งหมดที่มีอยู่.. อยากให้รู้..ว่าหนึ่งใจ นั่นเฝ้าเพ้อ.. ถึงใจไม่มาก อยากให้รับ..เพราะฉันไว้ใจเธอ.. ที่จะเฝ้ารักษา ไม่ปล่อยให้คอยเก้อ.. สลายดวงใจ อยู่ที่เธอละ...จะรับไหม ดวงใจนี้.. ที่ฉันมี ให้รับ เพื่อเก็บไว้... เผื่อวันหนึ่ง เธอจะคิดถึงกัน เมื่อยามเราห่างไกล... แต่ดวงใจ ที่เต็มในกล่อง..จะไม่หดไป..เพราะคิดถึงกัน