ให้คะแนนกลอน

ป่าเอ๋ย ป่าไม้

ไม้เก็ด

ป่าเอ๋ย  ป่าไม้
เป็นของใครคิดครวญให้ถ้วนถี่
ของข้าราชการ,พ่อค้าบรรดามี
หรือของพี่น้องไทยในแผ่นดิน
เป็นของเราชาวไทยใช่ใครอื่น
ทุกวันคืนควรรักษาอย่าให้สิ้น
เมื่อป่ายังอยู่ยั้งไม่พังภินท์
ผองชีวินก็จะอยู่คู่ป่าเอย.

ป่าต้นน้ำคงไม่เหลือ

ป๋อง สหายปุถุชน

ทนผ่านฝนผ่านแล้งคืนแห้งหนาว
แสงแดดพราวสาดส่องน้ำนองหาย
ใบไม้แห้งไฟป่าเผาวอดวาย
ไม้ยืนตายโคนต้นทนแตกกอ

ป่าต้นน้ำไม้ใหญ่หลายคนโอบ
คนละโมบจ้องทำลายไม่เหลือหรอ
ตัดเตียนโล่งไม่นานเหลือแต่ตอ
ต้นแตกหน่อโผ่พ้นโดนทำลาย

ไม้แดงไม้สักไม้พยุงอันมีค่า
ต่างเสาะหาตัดมาเพื่อซื้อขาย
ได้ราคามีออเดอร์อีกมากมาย
เป็นที่หมายนายทุนสั่งเข้ามา

อีกตะเคียนมะค่าโมงคงไม่เหลือ
กลิ่นสาบเสือสูญสิ้นถิ่นภูผา
ป่าสูญหายสัตว์ล้มตายไร้ชีวา
มนุษย์หนาหาใช่ทำลายตัว

ที่เกิดดินโคลนถล่มกับลมฝน
ไม้ยืนต้นลากใบใช้เป็นรั้ว
เป็นกำแพงพายุแรงไม่น่ากลัว
ฟ้ามืดมัวดินอุ้มน้ำชุ่มฉ่ำใบ

ลากไม้ใหญ่เคยใช้ช่วยอุ่มดิน
ฝนหลั่งรินดินโคลนก็ลื่นไหล
น้ำพาพัดซัดกระหน่ำล่องลอยไป
ถล่มใส่พังสูญหายให้ล่มจม

พัดซุงตอพืชไร่ทำลายบ้าน
ดินโคลนปานน้ำหลากซากทับถม
คนสูญหายบ้างล้มตายเศร้าโศกตรม
ทุกข์ระทมไม่มีป่าให้หากิน

ลมหายใจของแผ่นดิน (Breath of the Land)

ลำน้ำน่าน


ไหวลมใจแผ่นดินภูระโลก
ไกวดอกโศกสู่เหวบาดาลสถาน
งามดอกไม้ปาริชาตช่อตระการ
เบ่งบานประดับภูมิเบื้องบรรพต
แว่วเสียงทองการเวกมาครวญหา
จากป่าหิมพานต์หวานหยาดหยด
โผผกเทียมเวหาสราชรถ
ทศทิศโพยมยานไปลับตา
ไหวลมใจงามแผ่นดินชมพูนที
สายวารีบ่าเซาะเพิงภูผา
งามเงื่อนเงาอรัญเถาวัลย์วนา
ปรารถนาสนองนับชั่วกัปกัลป์
โค้งเคียวทองข้าวรวงรุกขชาติ
บรรเลงพาทย์โรยลมหอมมากล่อมขวัญ
ปวงพฤษภกงเกวียนกล้าสารพัน
อภิวันเทพีข้าวคุ้มดินแดน
ประหนึ่งสายชีวามหาอุปรากร
มหิธรเจ้าของธาตุอากาศแสนย์
ปรุงฟากฟ้าสุธารสมิขาดแคลน
แว่นแคว้นสุวรรณภูมิสุนทรีย์
เสนอสนองวิญญาญสมานสมัย
จักไม่ไปแม้พรหมโลกวิเศษศรี
แตกดับเกิดกลายหลายพันปี
ผลิพลีแด่มนุษย์ทุกยุคไป
โรยละอองสายน้ำค้างกลางหาว
คืออัสสุชลหมู่ดาวยิ่งใหญ่
วิปโยคกระจิดกระจ้อยน้อยใจ
รำไพพรายพระจันทร์วันเพ็ญ
สะอึกสะอื้นยังเหม่อมองโลกธาตุ
ลานสะอาดดอกหญ้าดาราเห็น
หนึ่งแววตาชรายากอยู่ลำเค็ญ
จักฉายแสงพอเป็นทิพย์ส่องทาง
กลั้นลมใจรวดร้าวดาวอมโศก
อับโชคแสงส่องคุ้งเมื่อรุ่งสาง
ปรุงธาตุแผ่นดินเช้าค่ำอำพราง
แล้วปล่อยวางชีพจรสอนวิมุตติ
หมู่ปลากระซิกกระซี้สายน้ำไหล
เสรีภาพอันใดใหญ่เท่ามหาสมุทร
เกลี

นึกถึงเขา

kasin1251

ใครคนนั้นที่ฉันนึกถึงเขา
เขาเคยเอาฉันไปเที่ยวทุกแห่งหน
เขาส่งเสียให้เรียนได้ดีตน
เขาอยู่หนแห่งใดคิดถึงเธอ
เขาดุด่าตีตูดฉันไม่โกรธ
เขายกโทษแม้ผิดอภัยเสมอ
เขาอดทนเหน็ดเหนื่อยไม่เคยเจอ
รักฉันเสมอแม้ฉันเลวอย่างไร
เขาหวังดีหาให้ไม่ทุกอย่าง
เขาปล่อยวางฉันเดินใช่ผลักไส
เขาแก่ตัวอ่อนแอเกินดูแลใคร
แล้วใยฉันกลับไม่มาแล
คนอ่านคงเข้าใจว่าใครหนอ
ผู้มีคุณเกินพออย่างนี้แน่
ยังห่วงหาอาทรสองตาแล
พระดูแลเขาทั้งสองจงแข็งแรง...

สิ้นโศกเศร้า...หนาวในปรารถนา...!

พุด


ดวงดอกไม้ยังร่ายฟ้อนอ้อนอุษา
มวลนกกายังเริงร่าฟ้าแสนหวาน
ปลายังว่ายในทะเลอย่างเบิกบาน
ดั่งตำนานแผ่นดินมิสิ้นวน
หากทุกสรรพสิ่งย่อมพลัดพราก
ดวงดอกไม้ต้องจากต้นปลิดร่วงหล่น
มวลนกกาถึงเวลาทิ้งตัวตน
เสมือนคนเมื่อถึงคราวหนาวอำลา
คืนกลับเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดิน
ทิ้งอาวรณ์ถวิลในปรารถนา
มาลำพังไปลำพังนะดวงชีวา
จิตแจ่มจ้าเท่านั้นอัญมณีงาม
แล้วเหตุใดใจเจ้าต้องร้าวทุกข์
แสวงสุขทางสายธรรมฝ่าขวากหนาม
สะสมเสบียงบุญในทุกยาม
เพียรต่อตามเติมตนพ้นพันธนา..นิรันดร์...!
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song401.html
ฟ้าแดง 
สนธยาฟ้าแดง
สุรีย์ร้อนแรงโรยอ่อนรอนแสงหม่นมัว
สกุณาเรียกหารังตัว
ชะนีเรียกผัว รัวเร้าร่ำกำสรวล
โอ้ชีวิตชีวิตจิตใจ มันหนาวเย็นเป็นไข้
พิไลพิลาศครวญ
สิ้นตะวันสรวลสันต์จาบัลย์รัญจวน
เห็นลางพบพรางร่างนวล
ให้โหยหวนชวนเศร้า
สิ้นแสง สิ้นสีโศลกแดงแฝงแทงใจเรา
สายัณห์เงื้อมเงา
ลบล้างสล้างเสลา จางห้วงหาวพราวใจ
ฟ้าแดง ฟ้าแดงผันแปรเปลี่ยนแปลงแผลงไป
ตราบอาสัญฉันยังฝันใฝ่
จูบแดนฟ้าอาลัย ฝังรอยรักใคร่ฝากเธอ
สิ้นแสง สิ้นสีโศลกแดงแฝงแทงใจเรา
สายัณห์เงื้อมเงา
ลบล้างสล้างเสลา จางห้วงหาวพราวใจ
ฟ้าแดง ฟ้า

ให้เธอจงโชคดี

สายลม..สองเรา

ขอให้โชคดีกับคนที่เธอรัก
ฉันจะหักห้ามใจไม่หวั่นไหว
ถึงเวลาที่ฉันนั้นต้องจากไป
ฉันขอให้เธอจงโชคดี
ต่อไปนี้คงไม่มีคนคอยเป็นห่วง
โอ้พุ่มพวงดูแลตัวเองนะคนดี
สำหรับคนที่ห่วงเธอคนนี้
ขอจากไปด้วยดีตามทางที่ฉันมา

เสียดาย!..โชคดี..แต่..โชคร้าย

ศิลป์กีรติ ว่าโร๊ะ

นานๆครั้งฉันจะได้พบเจอ  กับเธอคนในฝันซึ่งวาดไว้
เป็นความบังเอิญอันโชคดี  ได้พบและชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น
อยากไปทักทายทำความรู้จัก  ชวนเธอพูดคุยไถ่ถาม
ว่าเธอเป็นใครเปิดเผยว่าฉันเป็นใคร เผื่อเราอาจจะเข้าใจจริงใจกัน
ไม่เคยเลยโอกาศจะเปิดออกให้  ไม่เคยเลยสวรรค์จะเป็นใจ
โอกาศไม่เคยเป็นของฉัน  เมื่อโอกาศเปิดออก ฉันก็ได้เห็นเธอ
แต่เป็นความโชคร้ายอยู่ดีเกิดมาขี้อาย  เป็นไอ้บื่อไอ้ใบ้ไม่กล้าจีบเธอ
เพียงแค่ส่งยิ้มแต่เธอคงไม่เห็น  คือความลำเค็ญของคนปอดแหกอย่างฉัน
แล้วสายลมก็พัดพาเธอไป     เมื่อสายฝนสาดมาเธอก็หาย
ต่อหน้าต่อตาโดยไม่อาจทำอะไร    ทำได้อย่างเดียวคือเสียดาย
        มันไม่ง่ายเลยจะเจอใครอย่างเธอผ่านเข้ามาได้พบเห็นในชีวิตจริง

...คำถามที่อยากรู้..

พิมญดา


ไร้เรี่ยวแรงจะกล่าวเรื่องอันใด
มันหวั่นไหวหัวใจจนท้อถอย
มีคำถามมากมายที่เฝ้าคอย
ใยถึงปล่อยเรื่องราวให้เขาลือ
ฟ้าคือฟ้าคนคือคนคือเหตุผล
จะยอมทนแค่คำคนเท่านั้นหรือ
ยอมก้มหน้าลาออกแล้วลบชื่อ
แค่นี้หรือความสัมพันธ์ที่ผ่านมา
เปิดบ้านกลอนอ่านแล้วสะท้อนจิต
ไม่อยากคิดเรื่องอันใดไห้โหยหา
มันสับสนคิดไม่ออกยอกอุรา
กลอนภาษาพาน้ำตาให้ไหลริน
พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าแบบไหน
มึนทั้งใจมึนทั้งกายให้โศกสิน
นั่งอ่านกลอนหมองหม่นใจยุพิน
พี่ชายสิ้นหายไปในบ้านกลอน
หากตัดใจออกบ้านไม่หวนกลับ
ห้ามลาลับกลับมาอย่าถอดถอน
เพื่อนพี่น้องยังรอพี่ที่บ้านกลอน
ขอให้ย้อนกลับมานะพี่ชาย...พี่ฤทธิ์  ศรีดวง

ฝากกระทงลงคงคา..คืนศิวาราตรี

tiki


@ ฝากกระทงลงคงคาในคืนนี้ 
คืนศิวาราตรีนี้แสนสวย 
เพ็ญราตรีสิบห้าค่ำล้ำงงงวย 
กระแสน้ำไหลรื่นรวยปริ่มฝั่งชล 
@ อธิษฐานฝากพระแม่คงคาตามประทีป 
ช่วยส่งกรรมแรงรีบหมดถึงก้น 
ล้างอาถรรพ์ฝากคงคามาตุชล 
ขอเป็นคนสุขคนใหม่ในหล้าเอย 
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 
 
  tiki  

เหตุไฉน...ไม่ลืมสิ้นสวาท

จะไม่เด็ด.


หอมแก้มนวลชวนกลิ่นประทินนาสา
ศาสตร์เสน่หาย้อมจิตคิดหวาดไหว
ประชิดชมแม้เพียงนิดคิดเลยไกล
อยากหยุดใจไว้ตรงนี้..ตรงที่เธอ
ก็หัวใจเจ้าใยไม่เข็ดหลาบ
ทั้งที่ทราบว่าระกำยังย้ำเผลอ
ที่ร่วมเรียงอาจเพียงทาสราษฎร์บำเรอ
เธอเสนอเพียงมายา....มาล่อลวง
ไม่อาจลืมวันคืนชื่นเราสอง
กระทั่งหมองมิยั้งหยุดสุดห่วงหวง
รักยิ่งเย้าย้อยรยางค์ ณ หว่างทรวง
จนสุดสรวงยังบ่ลืมปลื้มภิรมย์
เฝ้าโอดครวญจวนใจจะสลายแหลก
มิอาจแหวกพ้นภวังค์ประดังถม
เปลวสวาทรักสุมฤทัยในอารมณ์
ทอดระทมก็มิคลาดสวาทสิ้นเอย
....

อยากให้เธอรู้.........

zilver

จะเปลี่ยนอะไรก้อเปลียนได้
แต่ใม่อาจเปลียนความรู้สึกในใจ...ไม่ให้คิดถึง
ไม่รักกันไม่เป็นไรขอเพียงใจได้..เพ้อรำพึง
เพียงแค่วินาทีหนึงให้เป็นเสี้ยวนาทีแห่งความคิดถึง
            ..ที่มีให้เธอ.......
ขอเพียงแค่ใจได้มีรัก
ขอเพียงแค่ได้รู้จักทายทักได้อยู่ใกล้ๆเธอเสมอ
นาทีแห่งความรักถึงแม้เป็นชั่วโมงของการอกหักยามพบเจอ
อยากให้เธอรู้เสมอยังงัยคนที่จัยเพ้อ...ยังคงเป็นเธอผู้เดียว

วันพ่อ

คนแคระ

พ่อนั้นสำคัญยิ่งนัก
เราควรรักและห่วงหา
ท่านอุตส่าห์เลี้ยงเรามา
หาข้าวปลามาให้กิน
คอยปกป้องกันภัย
คอยใส่ใจเป็นอาจิณ
ทำงานหาทรัพย์สิน
เฝ้าเลี้ยงดูจนโตมา
เราควรกตัญญู
หมั่นเรียนรู้หมั่นศึกษา
เป็นคนดีทุกเวลา
แค่นี้หนาพ่อสุขใจ

----ทะเลดาว ประดับใจ----

บุษราคัม

---อังโกะ---
ทะเลดาวพร่างพราวกลางฟากฟ้า
ดวงดาราพราวระยับสว่างไสว 
นั่งมองดาวประดับฟ้าประดับใจ
อบอุ่นในอ้อมกอดดวงจันทรา
----ไส้ดินสอ----
นั่งนับดาวบนฟ้าอยู่คนเดียว
มองเห็นเสี้ยวพระจันทร์แล้วอิจฉา
ทุกค่ำคืนมีดาวเป็นแก้วตา
ดวงดาราส่องแสงทอประกาย
----อังโกะ-----
เธอเป็นเช่นดวงดาวในใจฉัน
ไม่มีวันดับแสงดาวหรือห่างหาย 
เพราะท้องฟ้ามีดวงดาวมากมาย 
ร้อยเรียงรายดาราฟ้าอำไพ
----ไส้ดินสอ----
จะเป็นฟ้าโอบกอดดาวเอาไว้
รู้บ้างไหมมีใครคอยห่วงหา
ดั่งแสงจันทร์เรืองรองทุกเวลา 
เหมือนดังมีดาวอยู่ในหัวใจ
-----สองสาว เอ และ บุษ มาชวนเพื่อนๆ ดูดาวค่ะ----

ใจเจ้าเอย

กระต่ายใต้เงาจันทร์


จันทร์เจ้าเอ๋ยจันทร์นวลกระจ่างฟ้า
เหมือนมนตราพราวแสงกระจ่างใส
ความคิดถึงจึงเดินทางตามแสงไป
จันทร์ในใจมีใครเคียงหรือเพียงเงา
เมฆเคลื่อนคล้อยลมขานรับกับกิ่งสน
หวิวไหวจนก้องกังวานผ่านความเหงา
กลิ่นจำปีที่ปลายผมหอมบางเบา
ในวันเหงาเงียบสงบอย่างเดียวดาย
หริ่งเรไรแว่วกังวานหวานอ่อนนุ่ม
เยือกเย็นทุ้มแว่วเสียงสำเนียงสาย
หยดน้ำค้างพรมพร่างทอประกาย
บนดอกไม้ไหวชูช่ออ้อล้อลม
ระริกไหวกระไรหนอใต้คืนค่ำ
ความคิดถึงยิ่งลึกล้ำเกินใจข่ม
ยิ้มหน้าชื่นหน่วยน้ำตาพร่าเกลื่อนพรม
ใจตรอมตรมช่างอ่อนล้าน้ำตาพรู
ฝืนใจคิดแม้อยากถามในความห่วง
ใจทั้งดวงแตกสลายให้อดสู
น้ำตาพรมปนน้ำค้างไหลพร่างพรู
ใครเล่าเอยจะรับรู้ว่าเดียวดาย
กี่วันล่วงกี่คืนลับกับอ้างว้าง
ปนรอยทางซึมแทรกแยกไม่หาย
ใจร้าวรอนปวดแปลบแทบมลาย
เวิ้งว้างเปล่าข้างกายไร้ใครเคียง

:::"ฉันรู้สึกว่าเธออยู่ไกลนัก":::

แทนคุณแทนไท

"ฉันรู้สึกว่าเธออยู่ไกลนัก"
ฉันรู้สึกว่าเธออยู่ไกลนัก
แต่ยากเกินไสผลักหักใจไหว
สัมผัสช่าง เบาบางและว้างใจ
รู้สึกเหมือนฉันไหมเราไกลเกิน
คว้าไม่ถึง
ใช่แค่เพียงคิดคะนึงซึ่งห่างเหิน
ปรารถนาธรรมดาไม่ก้ำเกิน
ยังมิอาจเพลิดเพลินดั่งใจคิด
ซ่อนมิไหว
ทั้งสองตาดวงนัยน์คนไร้สิทธิ์
ปากนิ่ง ก็มิอาจสนิทมิด
กับความคิด ที่มิอาจประกาศใจ
หนอความรัก
คิดถึงแรกรู้จักมักอยากได้
พร้อมจะมอบแก่กันและกันไว้
เป็นสายใยเป็นสัมพันธ์ คือสัญญา
รู้สึก - งดงามทุกยามพบ
เป็นน้อมนบรบเล่ห์สิเน่หา
กลับ "คือ" ความทรงจำ อันทรมาน์
เหลือแต่วันเวลา พะว้าพะวัง
ถึง “คิดถึง”
ก็ไม่ได้ ส่วนหนึ่ง ที่ซึ้งสั่ง
เดี๋ยวอารมณ์ ก็ประเด ประดาดัง
แล้วก็พัง ลงมา น้ำตาคลอ
โถความรัก
ฉันทายทัก รักเธอ เสมอหนอ
ถึงน้ำตา หล่นพราก จนหลากออ
ก็ยังรอ รักที่ลับ หวนกลับมา
มองฝั่งฟ้าอีกคราน้ำตาร่วง
ฟ้าชั่งลวง เล่ห์นักความรักหนา
นี่หรือ รักหนอ ที่รอมา
"คือ" น้ำตา แต่ละหยด ที่รดริน 
ฉันรู้สึกว่าเธออยู่ไกลนัก
แต่ยากเกินไสผลักหักถวิล
สัมผัสช่าง เบาบางระหว่างจินต์
รู้สึกเหมือนสูญสิ้น วิญญาณแล้ว
 
---------------------------------------------------------------------

The one you love

เพียงพลิ้ว

รู้ดีว่าเธอคนดีต้องมีเพื่อน
ไว้คอยเตือนคอยถามไถ่ไว้ปรึกษา
คอยเทคแคร์แชร์ทุกข์สุขทุกเวลา
สิ่งตามมาคือใจสองคล้องเกี่ยวกัน
เขาโทรมาลำบากใจเธอไม่น้อย
บอกค่อยค่อยจะโทรกลับลับหลังฉัน
เธอร้องไห้เพราะเขาเศร้านานวัน
จู่จู่หันบอกรักมากอยากคืนดี
ยังนึกถึงวันเก่ากับเขาอยู่
แต่ต่อสู้กับศึกหนักรักศักดิ์ศรี
เขาคนนั้นทิ้งเธอไปได้หลายปี
ตัดสินทีเลือกใครใยคิดหนัก
เธอจะเลือกอยู่กับฉันที่รักเธอ
หรือเลือกเกลอคนเคยเจอที่เธอรัก
มีคนหนึ่งต้องร้องไห้ใจถูกหัก
คนหนึ่งจักกราบเบื้องบนที่ดลใจ
บอกอย่างไรเมื่อเขาถามตามคำตอบ
เรื่องรักชอบเป็นปัญหาน่าสงสัย
ความผิดหวังลำเค็ญเป็นของใคร
คนที่ให้คำตอบได้ใช่แล้ว “เธอ”
เธอจ๋าเธอตอบมาอย่าลังเล
ว่าเธอเทใจให้ใครเสมอ
อย่าปล่อยให้ใจใครใฝ่ละเมอ
หลงพร่ำเพ้อเธอชอบจริงรักยิ่งนัก
เธอจะเลือกอยู่กับฉันที่รักเธอ
หรือเลือกเกลอคนเคยเจอที่เธอรัก
มีคนหนึ่งต้องร้องไห้ใจถูกหัก
คนหนึ่งจักกราบเบื้องบนที่ดลใจ

ผิวได้เฉลยความ (ครบสามเดือน)

คนเดียวกัน

...เพียงอยากจะเผยมนกะน้อง          
ละก็ต้องกระอ่วนใจ
ควรหรือจะเอ่ยพจนไป                       
สิมิใช่จะควรกาล
เขียนเป็นวสันต์ดลกฉันท์               
มนมั่นณนงคราญ
ควรหรือมิควรฤจะประจาน                
ละก็แล้วก็ตามใจ
แรกพบประสบฤดิสะดุด                    
ดุจหยุดมโนทัย
พร่ำเพ้อละเมอนะสิปะไร                  
อุระไหม้ระทมครวญ
จึ่งอยากจะเผยมนกะเจ้า                      
บ่มิเอามิรบกวน
อย่างน้อยฤดีจะมิกระอ่วน                  
ผิวได้เฉลยความ

จำ

วันใส

ใครบอกว่ารักเมื่อจบแล้วจะผ่านไป
                            
                             ฉันคนหนึ่งแหละที่ไม่เป็นแบบนั้น
                            
                             แม้อาจผ่านกาลเวลาเนิ่นนานวัน
                                            
                                              แต่ใจฉัน...
                                         
                                          คนนี้ไม่ลืมเลือน

ฉัน กับ สัญญา

ทะเล_ชาย+ชาย_ทะเล

ทะเลที่ปลายฟ้า
กับคำสัญญาของเธอกับฉันที่มี
ฉัน..จากมานานหลายปี
แต่ใจดวงนี้ไม่เคยไกลจากเธอ
ถนนที่ทอดยาว
เราเคยจูงมือกันก้าวเดินเสมอ
คิดถึงแล้วทำให้..อยากพบเจอ
อยากรู้ว่าเธอจะเป็นอย่างไร
หาดทรายสีขาวเป็นประกาย
คิดถึงคนมั่นหมายยามหลับใหล
ภาพของเธอยังตราตรึงใจ
แก้มใสๆช่างน่ายล
ริมธารที่เคยนั่ง
ได้ฟังเสียงธรรมชาติช่างสุขสม
ขอฟ้า......ช่วยดาลดล
ให้เธอ..คนทางนั้นเชื่อสัญญา

มีเช้าจึงมีค่ำ

ดินกระดาษ

เอื่อยเอื่อยเรื่อยเรื่อยไหล
                        ธารพริ้วไหวไหลลงต่ำ
                         ตะวันตกในพลบค่ำ
                        คล้ายตอกย้ำวิถีคน
                        
                        มีเช้าจึงมีค่ำ
                        มีตกต่ำ..มีสูงโตง
                        มีละ.....และมีโลภ
                        ความละโมบไม่ปราณี
                        เวลายังคงไหล
                        เหมือนน้ำใส..ไม่ไหลกลับ
                        ยิ่งกระทำ..ยิ่งทมทับ
                        ต้องแบกรับ..กระทำตัว
                        ชั่วดีอยู่ที่ใจ
                        ถ้าละได้ไม่หมองมัว
                        แยกใจจากความชั่ว
                        พ้นหมองมัว..สุ่นิพพาน