กลอนข้อคิด

จิตอธิษฐาน...

แมงกุ๊ดจี่


พนมกรกราบลงหน้าองค์พระ
ตั้งสัจจะ...น้อมจิตอธิษฐาน
พร้อมธูปเทียนดอกไม้นำใส่พาน
ขอนมัสการพระธรรมชี้นำดล...
หมอบลงกราบจิตมั่นในวันนี้
กุศลกรรมที่กระทำจงนำผล
พบหนทางสว่างใสในกมล
ได้หลุดพ้นบ่วงกรรมเคยทำมา...
นับจากนี้อาราธนารักษาศีล
พาชีวินน้อมธรรมช่วยรักษา
ตัดกิเลสเหตุแห่งกรรมที่นำพา
เกิดชาติหน้าหลุดบ่วงเขาลวงใจ...
ลูกขอน้อมพระธรรมเป็นที่พึ่ง
ช่วยฉุดดึง...จากนรกที่หมกไหม้
มีปัญญามองเห็นความเป็นไป
เพื่อเข้าใจสัจจธรรมธรรมดา....

..พรุ่งนี้..ก็เช้าแล้ว..

มวลภมร


อุปสรรค.ที่มี.ยังไม่พ้น
อุปสรรค.มากจน.มองไม่เห็น
อุปสรรค.ปิดทาง.ช่างลำเค็ญ
อุปสรรค.ยากเย็น.จะผ่านไป
...
อุปสรรค.ขวางหน้า.ไม่หมดสิ้น
ยังไม่ชิน.แค่ดิ้น.แทบไม่ไหว
แขนขาหมด.แรงสิ้น.กำลังใจ
ยืนไม่ไหว.กายล้า.พาหมดแรง
..
แต่ยังยิน.เสียงแผ่ว.ในสมอง
บอกว่าต้อง.อย่าท้อ.ต้องเข้มแข็ง
อยากเดินหน้า.ต้องฝ่า.ข้ามกำแพง
สู้ด้วยแรง.ที่มี.ให้หมดใจ
..
อุปสรรค.ไม่ได้มี.ให้หนีหน้า
อย่ากังขา.ตัวเรา.ต้องเอาไหว
ทางลำบาก.ต้องลำบาก.หากอยากไป
เกรงทำไม.หากจุดหมาย.มีอยู่จริง
..
ถึงหกล้ม.เลือดอาบ.ฉาบแดงฉาน
เวลาผ่าน.ผันไป.ไม่หยุดวิ่ง
สะดุดบ้าง.ล้มบ้าง.ช่างเจ็บจริง
ใช้สลิง.สตั้นแมน.แทนได้งัย
....
ก็เมื่อวาน.ยังผ่าน.มาวันนี้
เดี๋ยววันนี้.ก็ผ่าน.ไปจนได้
มีพรุ่งนี้.รออยู่.หากสู้ไป
เช้าวันใหม่.มีแสง.ตะวันรอ
...23.สิงหาคม.2555..15:30

ความสุขและความรัก 5

จัสมินฆ์


ความสุขของความรัก คือ การได้เห็นคนที่เรารัก มีความสุขทั้งกายและใจ เมื่อเขาได้อยู่กับคนที่เขารัก  แต่จะมีสักกี่คนที่คิดได้แบบนี้
ความสุขของความรัก คือ การทุ่มเททุกอย่างให้กับความรัก และคนที่เรารัก แต่เวลาเสียใจจะมีไหมคนที่เรารักมาร่วมเสียใจกะเราไหม  ...  ถึงจะมีบ้างมันก็ไม่เสมอไป  และไม่ใช่ทุก ๆ เรื่องด้วย
ความสุขของความรัก คือ การได้รัก และการเผื่อใจใว้รักตัวเองด้วย....คิดอย่างคนฉลาด(คนที่เคยรัก....และคนที่เคยถูกทิ้ง)
ความสุขของความรัก คือ การได้เสียใจกับความรัก และน้ำตาจากความรัก
..... ใช่ความสุขสำหรับบางคนที่แอบชอบของคนอื่น
..... แต่ก็ไม่ใช่ความสุขของทุกคนที่เคยมีความรัก
รัก...รัก...รัก...  คำ  ๆ เดียวที่ให้เราได้ทุก ๆ อย่าง ดีใจ  เสียใจ  สุข ทุกข์  น้ำตา และความพลัดพราก
......แต่เราก็ควรจะดีใจที่ครั้งหนึ่งเกิดมาได้รู้จักความรัก อย่างแท้จริง ...  มิใช่หรือ

ล้มแล้วลุก

อ.วรศิลป์


ล้มแล้วลุก....ปลุกตนพ้นตมปลัก
ล้มแล้วลุก....ตั้งหลักให้มั่นหนา
ล้มแล้วลุก....ก้าวต่อไปในมรรคา
ล้มแล้วลุก....จนกว่าจะถึงชัย
ล้มแล้วลุก....หยัดยืนขึ้นทายท้า
ล้มแล้วลุก....หันหน้าสู่ฟ้าใหม่
ล้มแล้วลุก....อย่าหวั่นจงมั่นใจ
ล้มแล้วลุก....สู้ต่อไปไม่ต้องกลัว
แม้นวันนี้เหนื่อยนักไม่อยากลุก
หรือวันนี้แสนทุกข์ดังฟ้าสลัว
เหมือนชีวิตสิ้นทางออกเยี่ยงหมอกมัว
ขออย่ากลัว....จงเร่งสร้างกำลังใจ
ถึงจะล้มอีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง
อย่าสิ้นหวังสิ้นศรัทธาอย่าสงสัย
จงเร่งเพิ่มเติมหวังพลังใจ
แล้วก้าวไปสู่จุดฝัน...อันหมายปอง
** ด้วยรักและปรารถนาดี แด่ทุกดวงใจที่อ่อนล้า **

สิ่งดีที่ถูกลืม

[SPIDER-POTTER]


วาเลนไทน์ความรักบานมีความสุข              วันสนุกต้องคริสมาสต์เลี้ยงสังสรรค์
ขึ้นปีใหม่กินเหล้าเมายากัน                         วันเกิดมันส์เป่าเค้กเลี้ยงกันดี
เหลียวมองหน่อยประเพณีที่เก่าแก่              มีมาแต่ยังไม่เกิดคุณรู้นี่
แต่ทำไมไม่สนใจไม่ใยดี                             สิ่งที่มีอาจสูญหายถ้าเฉยชา

กลอนคำคม 2 ความรู้เหมือนชุดชั้นใน

พจนา


๐ อันความรู้ เปรียบเหมือน ชุดชั้นใน
ควรสวมใส่ แต่ว่า อย่าอวดเขา
อาจจะถูก ครหา ว่าโง่เง่า
ถ้าเจอะเข้า กับคน ที่รู้มากกว่า
เหมือนใส่ชั้นในโชว์ แล้วเจอคนหุ่นดีกว่า
คำคม : ความรู้เหมือนชุดชั้นใน
ควรสวมใส่แต่ไม่ควรโอ้อวด (ควรถ่อมตน)

คนขายเกลือ

บุญพร้อม


เป็นพ่อค้า ขายเกลือ  ไปเหนือใด้
ให้คนใช้ เพิ่มรสชาติ ไม่ขาดสาร
รสของเกลือ ย่อมต่าง จากน้ำตาล
อันหนึ่งหวาน อันหนึ่งเค็ม ถ้าเล็มลอง
ขาดอย่างหนึ่ง อย่างใด ย่อมไร้รส
ขายไม่หมด ทิ้งไป  เสียดายของ
สู้อุตส่าห์    หาบมา   เพื่อให้ลอง
วานอย่าจ้อง จับผิด  คิดจนไกล
คนขายเกลือ ใช่เค็ม เหมือนรสเกลือ
ขอ อย่าเชื่อ  รูปลักษณ์  จากเงื่อนใข
ดูแต่เรื่อง  สังข์ทอง   นั่นเป็นไร
ถอดเงาะได้  ยังเห็นเป็นรูปทอง
=============================
คำนินทา กาเล เหมือนเทน้ำ
ไม่ชอกช้ำ เหมือนเอามีด มากรีดหิน
แม้องค์พระ  ปฏิมา  ยังราคิน
คนเตินดิน  หรือจะพ้น คนนินทา
ยังใช้ได้มาจนทุกวันนี้

ขอแค่ยังไม่ตาย

เชษฐภัทร วิสัยจร


ความล้มเหลวคิดให้ดีมีแต่ได้
เหมือนเถลไถลหลงทางอยู่กลางป่า
ยิ่งเจ็บใจยิ่งจดจำเป็นธรรมดา
ยิ่งรู้ค่าทางที่หลงเคยงงกัน
ให้เปรียบเทียบทางที่ถูกผูกความคิด
ให้ตั้งจิตปรับมุมมองต้องมุ่งมั่น
สิ่งที่ฆ่าเราไม่ตายจงใช้มัน
มาสร้างสรรค์ชีวิตไว้ให้เติบโต
ผิดร้อยครั้งพันครั้งยิ่งสั่งสม
ยิ่งถูกข่มถูกด่า ถูกฮาโห่
ยิ่งกลบความไม่ดีขี้คุยโว
ความยโสไม่รุกล้ำมากล้ำกราย
ที่เราถูกเพราะเคยผิดคิดเสียก่อน
คำนวณย้อนประสบการณ์การแพ้พ่าย
เอาตัวรอดเอาไว้แค่ไม่ตาย
ยังไม่สายโอกาสหน้าฟ้าใหม่มี

คารวะคุณูปการ...คนโง่โง่

แทนคุณแทนไท


“คนฉลาด” คิดแต่กลัวเอาตัวรอด
คุณจึงอยู่เยี่ยมยอดปลอดภัยผอง
คุณซ่อนซุกสุขกระไรในกระดอง
คุณเมียงมองจ้องกำไรไว้ทุกครา
ยามภัยมาคุณซุกร่างแอบข้างหลัง
หวาดระวังมิให้ออกมานอกหน้า
สยบพร้อมยอมแพ้แก่ชะตา
เพราะรู้ว่าจะมีคนดิ้นรนแทน
เขาเป็น “คนโง่โง่” ไร้แง่เงื่อน
เขาเห็นทุกข์ของเพื่อนนับเรือนแสน
เขามีใจรับรู้ไม่ดูแคลน
เขายอมแอ่นอกรับกับพิษภัย
“คนฉลาด” ฉลาดรู้ดูทางลม
ถ้าเขาล้มก็เหยียบย่ำซ้ำเติมใส่
ถ้าเขาชนะก็ดี๋ด๋ามาร่วมใจ
ร่วมประโยชน์ฉลองชัยไม่เคยอาย
เขาโง่เง่าในสายตาคนฉลาด
แต่องอาจในวิถีมีความหมาย
เขารู้เท่ารู้ทันว่าอันตราย
แต่เสี่ยงตายด้วยสำนึกระลึกรู้
บ้านเมืองไม่อับจนเพราะ “คนโง่โง่”
ที่กล้าขืนยืนโต้ออกต่อสู้
“คนโง่โง่” ต้องเจ็บตัวเต็มประตู
“คนฉลาด” จึงได้อยู่อย่างร่มเย็น!
ในสถานการณ์คับขันหรือเกิดปัญหาขึ้นในสังคม เรามักจะพบคนสองกลุ่มใหญ่ๆเสมอ
กลุ่มหนึ่งโถมตัวอุทิศตนเข้ามารับผิดชอบแก้ไขปัญหา
ขณะอีกกลุ่มหนึ่งนั่งดูอยู่ห่างๆเพื่อรอเวลารับผลประโยชน์

นิทานเซ็น ตอน เศรษฐีกับคนตกปลา

กระบี่ใบไม้


เศรษฐีคนหนึ่งถามคนตกปลา
“ทำไมท่านไม่หาเรือมาช่วย
ถ้าคิดอยากจะเป็นคนร่ำรวย
ท่านต้องหาเรือสวยสวยช่วยผ่อนแรง”
คนตกปลา ถาม“ได้เรือมาแล้วเป็นไง”
เศรษฐีตอบ “ออกเรือไปเผื่อขันแข่ง
สู่ทะเลลึกเพื่อหาปลาแพงแพง”
คนตกปลา แย้ง“ถ้าได้ปลาแล้วจะทำไม”
“ท่านก็ต้องเอาปลานั้นไปหาขาย
พอได้เงินมากมายก็เก็บไว้”
“พอท่านร่ำรวยขึ้นแล้วจะทำอะไร”
“ก็มานั่งตกปลาไง...ไร้กังวล...”
คนตกปลา “ขอโทษทีเถอะนะท่าน
สาธยายเสียร้อยพันแบ่งโภคผล
กะแค่เพิ่ม...คนตกปลา...อีกหนึ่งคน
ข้าไม่เห็นต้องดิ้นรน...ก็ตกเป็น”

" ผ่านเส้นชัย....อย่างทรนง "

อ.วรศิลป์


เส้นทางชีวิตที่ทอดยาว
ผ่านเรื่องผ่านราวมามากมาย
ความสุขความทุกข์อันหลากหลาย
สุดท้ายก็ล่วงผ่านพ้นไป
เส้นทางชีวิตที่ทอดยาว
ยังมีเรื่องราวของวันใหม่
ตราบที่ยังมีลมหายใจ
เรื่องราวใหม่ใหม่ยังมีมา
เส้นทางชีวิตที่ทอดยาว
สองเท้าย่างก้าวมุ่งเดินหน้า
บทเรียนวันเก่าคือตำรา
เตือนก้าวเดินหน้าอย่างระวัง
ระวังการย่ำซ้ำรอยเดิม
อย่าฮึกเหิมเกริมอย่าคลุ้มคลั่ง
รู้ใช้สติคุมกำลัง
กันการพลาดพลั้งอย่างตั้งใจ
สุดท้ายจุดหมายเมื่อไปถึง
ได้เป็นที่หนึ่งอย่างผ่องใส
เชิดหน้าชูคอด้วยพอใจ
ก้าวผ่านเส้นชัยอย่างทรนง

" ใครลิขิต....ควรแทนคุณ "

อ.วรศิลป์


ฝักน้อย เคยฟูมฟัก
ด้วยความรัก และห่วงใย
คืนวัน ที่ผ่านไป
เกิดเยื่อใย ให้เมล็ด
ฝักน้อย แก่ชรา
ที่ทำมา บัดนี้เสร็จ
เปิดอ้า ให้เมล็ด
สายลมเด็ด ล่องลอยบิน
สัญชาตญาณ ของชีวิต
ที่ลิขิต มิรู้สิ้น
งอกเงย จากพื้นดิน
หวนคืนถิ่น ดินดังเดิม
เมล็ดพันธุ์ เจ้าลอยไกล
เจ้าอย่าได้ คิดฮึกเหิม
บรรพบุรุษ ณ จุดเริ่ม
คือผู้เติม ให้ชีวิต
คิดบ้าง อย่างผู้ฉลาด
คิดเยี่ยงปราชญ์ รู้ถูกผิด
ที่มา ของชีวิต
ใครลิขิต...ควรแทนคุณ

ถิ่นกาขาว

สีเมจิก


อีกาดำ ธรรมดา ตามองเห็น
สิ่งนั้นเป็น ปกติ มิผิดเพี้ยน
กาลสมัย บรรจบ ครบรอบเวียน
สมเด็จฯ เขียน จารึกร้อย ฝากถ้อยความ
ช่วงเวลา ถิ่นกาขาว ในราวนี้
ผู้คนมี ความเห็นผิด น่าคิดถาม
มองอีกา ตัวมืดคล้ำ ดำวับวาม
พิศว่างาม ขาวดังหงส์ น่าปลงใจ
เห็นสีดำ เป็นขาว ราวสวรรค์
หมื่นร้อยพัน อวิชชา มาครอบไว้
กระเบื้องแผ่น ฟูฟ่อง ล่องลอยไป
น้ำเต้าไหล ถอยจมลง ในคงคา
ผีโขมด จากป่าวิ่ง สิงสู่เมือง
คนเล็กเขื่อง ทำโตใหญ่ ได้พรรษา
ปราชญ์บัณฑิต เดินถอยร้าง ห่างเมืองมา
มุ่งเข้าป่า หาธรรมะ ประดับตน

สงสาร

นักสืบไร้ชื่อ


สงสาร
รักจะหวัง            ก็จงหวัง                  เพื่อตั้งหมั่น
คิดจะฝัน              ก็จงฝัน                      อย่าหวั่นไหว
แล้วเอาน้ำ           จากตา                      ชะล้างใจ
ตาจะใส                เหมือนดังแก้ว          แสงแวววาว
เสียงสะท้าน         บ่งบอก                     ว่าชอกช้ำ
ถูกเน้นย้ำ           ความเจ็บ                  จนเหน็บหนาว
กึ่งตัดพ้อ                ต่อเนื้อ                   เป้นเรื่องราว
หรือน้องสาว          ของเรา                   ถูกเขาลวง
ไม่ใช้น้อง              ก้เหมือนน้อง           ของถิ่นนี้
ไม่ใช้พี่                  ก้เหมือนพี่              ที่คอยห่วง
อยุ่ร่วมถิ่น              แผ่นดินไทย           ซึ่งในทรวง
จะเกี่ยวรวง           ศรัทธา                     มหาชน
คนแอบดู              อยู่ห่างๆ                    ยังสงสาร

นับใจ

ลักษมณ์


กี่ไฟประลัยกัลป์ล้างโลก
จึงจะเผาไหม้ความทุกข์ใจของเราที่มี ให้ดับสิ้นลงไป
.
กี่อสงไขยความสุข
จึงจะเท่ากับหนึ่งความทุกข์ใจ
.
นับใจ
25/12/55

ต่อให้

คาปูชิโน่


     ต่อให้ความโศกเศร้าผ่านเข้ามาจะหนักหนาเพียงไรยังสู้ไหว
ต่อให้ความเงียบเหงามากเท่าไหร่
อยู่คนเดียวทนไปไม่อ่อนแอ
    ต่อให้ความท้อแท้มาเคียงข้าง
คงไม่คิดถอยห่างที่จะแพ้
ต่อให้ความเจ็บช้ำนั้นรังแก
ก็ไม่แคร์ขนาดต้องทุกข์ตรม
   ต่อให้ความรักแท้แตกสลาย
หากคงไม่ถึงตายนอนซานซม
ต่อให้ดวงใจพบความขื่นขม
ป่าวทุกข์ระทมให้เสียเวลา
   ต่อให้ชีวิตจะหมดสิ้นหวัง
ไม่มีทางเสียพลังสร้างสิ่งมีค่า
กับเรื่องราวเล็กใหญ่โหมเข้ามา
ต้องแกร่งกล้าเพื่อวันหน้าจักก้าวไป
   

ช่างเถอะ

เปลวเพลิง


ตอนมอปลายเรียนสายวิทย์-คณิต
แต่แหม! ดันเลือกผิดไปนิดหน่อย
คำนวณเลขเราก็หลงเข้าดงดอย
เหมือนยิ่งถอยหลังลงคลองน้ำครำฟิสิกส์ก็ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่
ไม่รู้เรื่อง-เรียนอะไรวันยังค่ำ
สูตรหลากหลายอยากเก่งต้องเร่งจำ
เราแสนช้ำ-จำอะไรไม่ได้เลยเคมีมีสมการเบิกบานจ้า
แทบน้ำตาไหลพราก-ไม่อยากเอ่ย
ผสมสาร ตวง ชั่ง ยังไม่เคย
ยามเกรดเผยนี่ละ-จะเป็นลมโอ้ชีววิทยานั้นขั้นดีหน่อย
ดลให้ค่อยเริงร่าสง่าสม
ระบบนิเวศ เขตป่า สัตว์ น่าชม
พอภิรมย์ได้บ้างไม่ห่างไกลภาษาอังกฤษหรือก็พอไถถู
การเรียนอยู่ในขั้นออกงานได้
สังคมโลก ศาสนา น่าพอใจ
เราสอบไม่เคยตกสักยกเดียวภาษาไทยเรานั้นเข้าขั้นรัก
ยิ่งเรียนจักยิ่งโอภาสฉลาดเฉลียว
คำประพันธ์ชอบเขียนเพียรเป็นเกลียว
คาดว่าเดี๋ยวมหา’ลัย-ไปทางนี้แต่จับพลัดจับผลูไม่รู้ได้
เลือกสอบไล่นิติศาสตร์ปราชญ์วิถี
ผ่านตลอดปลอดโปร่งโล่งฤดี
ทั้งทั้งที่ไม่คิดฝันจะผันตนหวังเรียนครูภาษาไทย-ไม่ได้แล้ว
จะนั่งแกร่วก็เห็นไม่เป็นผล
ทั้งอยากเป็นนักเขียนเพียรผจญ
ดูเหมือนยลดาวพรายปลายนภา
เอาเถอะน่าช่างมัน-เมื่อวันนี้
มีหน้าที่นับร้อยรอคอยท่า
ปัจจุบันทำให้เข้มเต็มอัตรา
วันข้างหน้าเป็นอย่างไร-ไว้คอยดู