จำได้ไหม ? ..ทำร้ายใจ ใครกี่ครั้ง จำได้ไหม ?.. เผลอพลั้งไป กับใครกี่หน จำได้ไหม ?..เคยขอโอกาส กับใครหนึ่งคน จำได้ไหม ?..สักกี่หน คนนั้นอภัย จะร่วมเรียง เคียงข้าง ทุกย่างก้าว เจ็บปวดร้าว ทุกข์ทน แห่งหนไหน จะเคียงคู่ สู้ฝ่าฟัน ไม่หวั่นสิ่งใด จะไม่ไหว โอนเอน เช่นผ่านมา จะสัตย์ซื่่อ ถือมั่น ตั้งคำสัตย์ จะคุ้มครอง ป้องปัด พิทักษา จะถนอมน้ำใจ ให้สัญญา ตราบชั่วสิ้น..ดินฟ้า.. จำ.ได้ไหม?
คอเดียวกันคุยกันนั้นสนุก ต่างเสริมมุขกันไปได้สรวลเส เรื่องจิ้งจกตุ๊กแกก็ฮาเฮ คลายว้าเหว่ ชื่นชมนิยมกัน เรื่องจริงจังไม่เอาเขากลัวคุก ไม่สนุกควรวางไม่สร้างสรร ใครจะเป็นจะตายช่างหัวมัน คนหัวรั้นไม่พุทโธว่าโง่เอง คนละคอคนละอย่างต่างความคิด จะถูกผิดครวญใคร่ให้เหมาะสม อย่าเพิ่งด่วนว่าความตามนิยม จะเป็นปม คอยรั้ง ครั้งต่อไป
สร้างความดีผูกมิตรเชื่อมจิตไว้ โชคชะตาพาไปในบางหน หากแต่ความสำเร็จเสร็จโดยตน ต้องอดทนซื่อสัตย์ประหยัดกัน ไม่ต้องรอโอกาสวาสนา กรวดหินทรายมีค่าถ้าสร้างสรรค์ สวมขึ้นคอก็สวยรวยเหมือนกัน อย่ารอเพชรเม็ดใหญ่นั้นมันนานเกิน **แก้วประภัสสร **ราตรีสวัสดิ์ค่ะ สั้นๆ ..แบบนี้แหละ ( ไม่ได้เขียนหลายวันนึกคำไม่ออกค่่ะพี่น้อง อิอิ ) ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ลนะคะ
* วาบหวามใจ * ๐ ตอนแรกรักฝากไว้ฤทัยมั่น แสนผูกพันซาบซึ้งรำพึงฝัน ยามมาร้างหลีกไปมิคล้ายกัน มากผูกพันเศร้าจิตหากคิดไป ๐ โอ้นี่หรือความรักมักเที่ยวหา ม่านบังตาแปรผันจนฝันใฝ่ หากคะนองระเริงบันเทิงใจ มีหวังได้สู่ห้วงล่วงลับพลัน ๐ ปีเดือนวันเกิดปัญหาจนล้าจิต ผวนชีวิตจึงเพลียแทบเสียขวัญ หลายเหตุผลสร้างลงมิตรงกัน ทุกคืนนั้นผันเปลี่ยนสู่เวียนวน ๐ อันความรักกับใคร่ควรใฝ่คิด บ่วงชีวิตปะปนเปลี่ยนวนข้น ซึ่งรูปลักษณ์กับใจดูคล้ายปน จึงมากล้นล้วนแปรผ่านแย่กัน ๐ พอเริ่มแรกหัวใจคล้ายยึดมั่น เขาพูดกันลืมทุกข์ด้วยสุขสันต์ กลิ่นหอมอวลซาบซึ้งมาขึงพัน พอผ่านวันนานเข้าเฝ้าแยกทาง ๐ ก่อนจะคิดดำเนินอย่าเพลินไว้ จงตรึกให้แน่นอนจึงผ่อนสร้าง หญิงกับชายคล้ายไฟที่ไหม้ฟาง ย่อมจืดจางปวดร้าวเฝ้าเรืองรอง ๐ ควรรู้จักเลือกใช้ในหลายอย่าง จงหวนสร้างใฝ่คิดให้ติดสมอง หมั่นตั้งสติตรวจตราที่คราปอง อย่าหม่นหมองต่อตนจนละอาย ๐ คิดหากรักมากน้อยค่อยตรวจซึ้ง ควรคำนึงต่อกันยากพลันสลาย แม้นรู้จักคิดสร้างระหว่างกราย ย่อมสู่สายทางราบวาบหวามใจ. * แก้วประเสริฐ. *
ดอกไม้จะบานวันพรุ่ง ยามรุ่งจะเกิดเเสงฉาน พรุ่งนี้จะมีตะวัน เเลฉันก็จะกลับไป รอฉันรอก่อนนะเเม่ อีกเเค่วันเดียวรอได้ รออีกสักครึ่งอึดใจ เเล้วจะคลาไคลกลับเรือน ยังก่อนคืนนี้เหน็บหนาว ขืนคาวกระหน่ำเชือดเฉือน ย่ำรุ่งจะมุ่งสู่เรือน ดูเดือนต่างพักตร์ก่อนนา ........................................................................................................... ดอกไม้บานเเล้ววันนี้ ฟ้ามีตะวันส่องฉาน ยังเเต่ยายเเก่ดักดาน เหมือนไร้วิญญาณเหม่อมอง น้ำตาอาบนองเนืองหน้า อุรารานร้าวเศร้าหมอง วาดฝันละเมอเหม่อมอง กวาดตามองสองข้างทาง กี่ปีเเม่นี้รอได้ หากยังมิตายเสียก่อน จากเช้ากลายสายบ่ายคลอน จนตะวันรอนลับไป...........
เพราะจิตดวงใสใจเสรี อัญมณีไพรดวงนี้เฝ้าค้นหา เปิดใจกว้างเรียนรู้โลกโศกมายา นานาหลุมพรางต่างอ้างกัน เหลืองแสนดีพลีชีพเฝ้าจงรัก แดงป้องปักกษัตราพาเสกสรร แดงเสียใจถูกใส่ร้ายใช่เช่นนั้น ต่างห้ำหั่นผองข้ารากหญ้าชน เพียงสงบค้นให้พบหลุมลวงพราง ที่กล่าวอ้างชาติวิบัติทุกข์สับสน ใช้ปัญญามาไตร่ตรองไร้ตัวตน ลึกซึ้งจนต้องรินน้ำตาแด่ฟ้าไทย ลูกรักชาติรักศาสน์กษัตรา รักชาวนาชาวไร่ใต้ฟ้าใส รักยุติธรรมนำโลกประชาธิปไตย รักน้ำใจยิ้มสยามนิยามไท หากลึกลับซับซ้อนขั้นตอนรู้ ใช่เพียงดูฉากหน้าเรื่องราวไหน ศึกษาด้วยปัญญาจักเข้าใจ ว่าเหตุใดชาติแบ่งแยกแตกสามัคคี เพื่อบางคนกระนั้นใช่ละหรือ โหมคำลือสื่อสิ้นไร้ซึ่งศักดิ์ศรี แท้ความจริงไม่เคยตายในปฐพี ใครจะดีจะร้ายใช่ช้านาน เล่นกันในระบอบชอบด้วยกฏกติกา ศรัทธาประชาธิปไตยคอยสร้างสาน รัฐธรรมนูญวางไว้ด้วยหลักการ รัฐประหารกี่คราพาล่มจม ลึกลึกมิอาจกล่าวหนาววิปโยค ค้นพบโศกจากอำนาจที่ห้อมห่ม ก่อกรรมเวรมากมายชนระทม น่าขื่นขมกับเรื่องราวหนาวดวงใจ กราบมิ่งมหากษัตราศรัทธายิ่ง เหนือทุกสิ่งน้ำพระทัยดั่งเพชรใส หวังแผ่นดินใต้ร่มฉัตรรัตนตรัย ธำรงไทด้วยทรงทศพิธราชธรรม....! รัตนโกสินทร์เรืองรองดั่งทองทา..! รัตนโกสินทร์ยังสงบงามนิยามค่า มายาลมหายใจได้ฝากฝัน ทำความดีพลีเมตตาให้แบ่งปัน เธอและฉันหลอมรวมใจสะสมบุญ รักษางามทั้งนอกในใจพิสุทธิ์ โลกสมมุติยังคงเฝ้าเวียนหมุน โอบเอื้อรักจากใจละไ
ผู้จารจดเปรอะเปื้อน เป็นวิสัยหญิงชายพูดพล่ามเผลอ ภพรู้ อีกพร่องความเที่ยงใจ เจือโหด ก่อพิพาทให้ผู้ อื่นหมอง ละรักโกรธสลัดทิ้ง เสียเทอญ คลายวิโยคาดูร ผ่อนพ้น ไยเอาแต่จะเมิน มองผ่าน บาปจะนำแต่แพ้ ไป่นาน จำเดิมคราก่อนครั้ง ยังเยาว์ พงศ์เผ่าสนิทดัง พี่น้อง มาบัดเดี๋ยวโงกเหงา บ่มองกันแล ต่างคนต่างคอยจ้อง แบ่งแยก แดง เหลือง
จงสูจำ เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน อ่านคำทุกคราวคำ จงสูจำซึ่งความจน- ผองทาสผู้ทุกข์ทน โศกขื่นถมสังคมไทย จิตร ภูมิศักดิ์ พ่อ เจตน์จดจ่อจากจริงใจ เกียรติเชิดหวังเกิดชัย มวลชนชัดจำรัสฉาน คำคิดท่านขีดเขียน คือคำเธียรคงทนทาน เตือนนามเป็นตำนาน อันแตกหน่อในธรณิน ฟ้าลวกด้วยเปลวเลือด ระอุเดือดทั้งแดนดิน วอดวายทุกชีวิน แต่คนยังจะหยัดยืน ปวงคนย่อมเปี่ยมค่า ใช่สัตว์ป่าสังเวยปืน เปลวไฟจากปวงฟืน จักฟูมฟ้าเจิดเฟื่องฟู แล้วคนก็ลุกขึ้น ตระหนักตื่นขึ้นพันตู ผองพาลอันพล่านภูว์ ต้องพ่ายแพ้ประชาพล อ่านคำทุกคราวคำ จงสูทำอย่างสู้ทน เจนนำ อย่าจำนน ต่อหนามไหน่ในธานี ฟ้ามืดเมื่อมีได้ ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี คำ จิตร พิจิตรพจี ตรูตราจิต ตรึงติดใจ แก้กฎที่เดือดดุ ที่พังผุเป็นพิษภัย ท่าวรื้อด้วยมือไทย และสร้างกฎขึ้นทดแทน กฎใหม่อำไพผ่อง จะทาบทองแก่ด้าวแดน สังคมที่คลอนแคลน จะมั่นคงไร้วงทราม แก้ชีพใช่ที่โชค หากแก้โลกให้งดงาม สังคมที่คุกคาม ต้องมือคนสิกู้คืน สังคมนี้กินคน อย่าหลงกลให้กินกลืน กำหมัดหยัดกายยืน ยืนหยัดสู้...กู้โลกา (ร่างเดิม พ.ศ. ๒๕๔๘ เสริมแต่ง พ.ศ. ๒๕๕๒) หมายเหตุ ๑.กาพย์ยานีในเครื่องหมายอัญประกาศนั้น ผมคัดตัดตอนบางช่วงจากบทกวีของ ท่านจิตร ภูมิศักดิ์ มา ดังมีรายนามผลงานต่อไปนี้ครับ ก.วิญญาณหนังสือพิมพ์ (คำเตือนจากเพื่อนเก่าอีกหน) ข.โคลงสรรเสริญเกียรติก
อันคำว่า กวนกวน ชวนให้คิด เราจึงติด ตามไป ด้วยใจสน ของที่กวน มากมาย หลายอย่างปน จะมัวคน ไม่ไหว ต้องใช้กวน กระยาสาด กาละแม แบบนถาด ถ้ามันขาด งาไป ไม่ถูกส่วน จะยิ่งดู ประหลาด ถ้าขาดกวน เหล่านี้ล้วน หมดท่า ไม่น่ากิน กวนกวนกวน กันไป ให้ได้ที่ ขนมดี ย่อมขาย ไปได้สิ้น ไม่มีเหลือ บูดเน่า เอาทิ้งดิน คนที่กิน ย่อมเรียกร้อง ตามต้องการ กวนอีกอย่าง เขาว่า ไม่น่าคบ คนเขาหลบ หนีไป จนไกลร้าน จะค้าขาย มัวพล่าม เขารำคาญ ของเหลือบาน เลยละท่าน น่านแหละกวน
หยาดน้ำค้าง รุ่งทิวาฟ้าสางสร้างสิ่งเหงา หยาดน้ำเฝ้าแระเล็มเต็มใบหญ้า แสงสีสรรกระจ่างสว่างนัยน์ตา เหมือนบอกว่าใกล้แล้วแนวหนทาง มองตะวันกลมแดงแฝงใสสว่าง งามกระจ่างแต่ใจใยหม่นหมาง อกเอ๋ยอกประดุจหยุดต้องวาง สิ่งที่สร้างใกล้แล้วแผ่วหัวใจ โอ้หยาดน้ำค้างล่วงลับกับใบไม้ แสงสีไล้แวววาวพราวสดใส หลากความงามต้องหายให้หวั่นไป หวานสดใสเคยกระจ่างสว่างอารมณ์ น้ำเจ้าเอยเหมือนใจในห้วงอก หวั่นวิตกมากมายใยมาประสม ทั้งนอกในไหวหวั่นพรั่นภิรมย์ กลับตรอมตรมเสียแล้วแผ่วดวงจินต์ แสงแดดเริ่มร้อนรุ่มเหมือนสุมข้า บอกเวลาใกล้แล้วแนวทั้งสิ้น ฝากแต่ใจมอบไว้ในทางดิน ดุจดั่งกวินเวียนวนปะปนครอง ยืนซึมเศร้าเฝ้าปลงตรงร่างน้อย ที่จะลอยละล่องท้องฟ้าสนอง แสงสว่างเรืองรองหมองสิ่งปอง ดุจละอองหยาดน้ำเลิศล้ำกราย อันชีวิตของคนปนเปนัก วุ่นวายจักยึดมั่นนั้นก็สาย ผ่านกาลห้วงล่วงย้ำเหมือนน้ำพราย ต้องละลายยามอาทิตย์ทรวงจิตใน หยาดน้ำค้างแสนสวยช่วยสร้างโลก ให้บริโภคความสุขปลุกสิ่งใส แต่ใยข้าละเหี่ยเพลียหัวใจ ต้องลอยไปไกลเพื่อนหยาดเปื้อนตรม. แก้วประเสริฐ.
โอกาศสูงยิ่งล้ำ เกินใคร รองบาทฝ่ายนอกใน จ่ายเบี้ย เกิดเรื่องดุจสุมไฟ คุกรุ่น ทำตนต่ำตกเตี้ย รุ่มร้อนสถาบัน ยึดครองตัดป่าไม้ ยอดเขา ความแตกกลัวอับเฉา รีบรื้อ ทนด้านเกินคาดเดา ทำเก่ง วางท่าเหมือนคนบื้อ ต่อหน้าหมดอาย ครองยศสูงเยี่ยมฟ้า คนชม โลภมากผลักตกตม แอ่งน้ำ เลอะเทอะไม่เหมาะสม ควรอยู่ ต่อเฮย มุดซ่อนไปรีบจ้ำ เพื่อล้างเลวทราม ยศศักดิ์ครองอยู่แล้ว สูงสุด เป็นคนที่บริสุทธิ์ จึ่งได้ ความชั่วถูกเขาขุด ตีแผ่ ควรอยู่หรือกราบไท้ ล่วงแล้วลาไกล ควรอายใจหนึ่งบ้าง เพียงนิด ออกงานมุ่งแนบชิด ไพร่ฟ้า ประชาไม่ยอมสนิท คนต่ำ จิตเฮย เห็นตัวสั่นปากอ้า เอ่ยไหว้ฝืนใจ
เป็นธรรมดาสามัญทั้งนั้นหนอ มีเกิดก่อตั้งอยู่เพียงครู่หนึ่ง ประเดี๋ยวผ่านผันไปให้รำพึง ก็คงถึงคราวดับลับลาไป ไม่มีใครหลีกพ้นวังวนชีวิต กรรมลิขิตขีดค่าอายุขัย สุดแต่กรรมกำหนดกฎเกณฑ์วัย แค่เพียงลมหายใจไยหวั่นกลัว ทำวันนี้ให้ดีที่สุดคือจุดเปลี่ยน จุดแสงเทียนนำใจไร้สลัว เตรียมเสบียงสร้างบุญหนุนนำตัว ละความชั่วน้อมนำธรรมใส่ตน ใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อคนอื่น จงรู้ตื่นรู้เบิกบานสานกุศล ความเกิดแก่เจ็บตายว่ายเวียนวน ยากหลุดพ้นทุกชีวิตอนิจจัง ความไม่เที่ยงเป็นเช่นนี้นี่แหละหนอ ดุจวงล้อเวียนวนแต่หนหลัง ผลัดกันเล่นละครก่อนเอวัง บนโลกฝังความหมายหลายชีวี อย่าร้องไห้เสียใจเมื่อใครจาก เมื่อมีพบย่อมมีพรากยากหลีกหนี ทำใจพร้อมยอมรับโดยดุษฎี อีกวิธีเผชิญหน้าความอาลัย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หลังจากไปทำบุญมาฟังพระท่านเทศน์เรื่อง..เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป
เพราะว่าฉันเป็นฉันทุกวันนี้ อีกกี่ปียังหลงงงหัวหมุน ทำสิ่งใดมีแต่โทษไม่มีคุณ จะพึ่งบุญไม่ได้ทำจำใจตรม ฉันเป็นฉันผันยากหากข้องแวะ จะช่วยแนะเกรงใจจะไม่สม เพราะตัวเองลอยไปเหมือนสายลม ใครจะมานิยมสดับฟัง ไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวทั้งใจกาย หากจะตายไม่รู้ใครจะฝัง มองทางไหนเห็นมีแต่คนชัง อยู่ประทังชีวิตรอดก็ยอดแล้ว เห็นคนทุกข์ใจก็ทุกข์ตามไปด้วย อยากจะช่วยประคองหนุนน้องแก้ว ให้หลุดพ้นกงกรรมเข้าตามแนว น่าเสียดายใจแป้ว"เพราะเธอชัง"
เพียงคำเดียว ....... เมื่อทำการสิ่งใดลงไปแล้ว ย่อมไม่แคล้วส่งผลที่ตนก่อ จะดีร้ายอย่างไรในต้นตอ เหตุย่อมส่งผลต่อที่ก่อนั้น ...... เมื่อทำการสิ่งใดแล้วได้ผล ที่ผู้คนได้คุณประโยชน์นั่น ความดีย่อมส่งผลต่อตนพลัน เขาพากันสรรเสริญเจริญคุณ ....... เมื่อทำการสิ่งใดแล้วไร้ผล เสียงผู้คนวอนหยุดไม่อุดหนุน ความชั่วย่อมปรากฏหมดใบบุญ ว่าโง่เง่าเต่าตุ่นเขาด่าทอ .......จะทำการสิ่งใดทำไปเถิด ขอเพียงเกิดผลดีที่ตนก่อ ถ้าเกิดผลเสียหายร้ายแรงพอ เพียงแต่ขอหยุดทำกรรมไม่ดี ....... เพียงเอ่ยคำคำหนึ่งซึ่งปรากฏ ได้ประโยชน์มากมายหลายวิถี ผมขอโทษ ที่ทำไปไร้ปรานี เผื่อบางทีเขาอาจให้อภัยคุณ....
เมื่อเธอกินน้ำตาต่างอาหาร จึงร้าวรานซานซมถึงขมขื่น ความเจ็บปวดตอกย้ำเหลือกล้ำกลืน น้ำใสรื้นจึงมีสีเลือดปน เธอเป็นนกปีกหักเพราะรักห่าง ถึงเคว้งคว้างอย่างไรเธอไม่สน ถูกหยามเหยียดสิ้นค่าราคาคน จึงอับจนซมเซากับเงารัก เพราะดวงตาเธอหลับไม่รับรู้ อีกสองหูระบมตรมทุกข์หนัก ไม่ยอมแม้หลับนอนเพื่อผ่อนพัก ติดกับดักปลักหลุมที่สุมใจ ที่เคยเกี่ยวเหนี่ยวไว้ด้วยใจห่วง ที่เคยท้วงเธอนั้นฟังหน่อยไหม รักอาจมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด แต่มิใช่ใครที่มีรักลวง ดูดวงดาวพราวฟ้าคราลาลับ ยังหวนมาประดับกับแดนสรวง แต่นี่เธอถูกเหน็บถึงเจ็บทรวง ยังถามทวงถึงเขาฉันเศร้าใจ เธอมัวแต่รอคอยรักลอยเลื่อน วันคล้อยเคลื่อนเดือนผ่านกาลสมัย จวบจบดินสิ้นฟ้าสุราลัย จะรู้ไหมใครที่มีรักจริง?