กลอนห่วงใย

จุดหมายใหม่ยังไม่มีถ้าคนดีไม่เปลี่ยนใจ

ลูกหว้า


ถามว่าเคยบ้างไหมไขว่คว้าฝัน
เคยสิเคยทุกวันไม่เป็นผล
ดูมืดมิดคิดย้ำกล้ำกลืนทน
ยอมจำนนชะตาถ้าหมดทางกับคำถามเหมือนแคลงระแวงจิต
หรือว่าเธอหยุดคิดปิดฝันสร้าง
จึงเอ่ยความถามไถ่ให้ระคาง
กำลังใจให้บ้างไหมคนดีลำพังฉันดั้นด้นก็หม่นหมอง
จะให้ต้องทำไงถูกใจพี่
ต้องบันทึกข้อความถามตอบมี
จึงเป็นที่พอใจหรือไรกันกลีบกุหลาบมิได้มีใครยื่น
จะได้รื่นราบเรียบเทียบสวรรค์
หนทางรกชัฏเดินก็เกินวัน
จะให้สั้นย่อลงคงเกินทำยังคงฝันต่อไปไม่หยุดฝัน
แม้ว่ามันจะยากบากบั่นย่ำ
ขอสุดท้ายปลายทางวางแสงนำ
ไม่เอ่ยคำตัดพ้อให้ท้อใจรอเฝ้ารอวันคืนยืนเคียงคู่
ร่วมบ้านอยู่ด้วยกันวันสดใส
จุดหมายเดิมยังคงมุ่งตรงไป
จุดหมายใหม่ไม่มี..นะที่รัก

ตำตนเดิม

คนกรุงศรี


คำสัญญา แม่นมั่น ในวันก่อน
เธออาทร กลัวจบ พบวันหน่าย
เกรงถ้อยคำ วาจา มาเสื่อมคลาย
หมดความหมาย วาจา พาเสื่อมลง
จะเนิ่นนาน ปาดใด ไม่ลืมคิด
เคยตั้งจิต บอกว่า อย่าลืมหลง
เฝ้าปกปักษ์ รักษ์ไว้ ให้มั่นคง
ขอเธอจง เชื่อฉัน เถอะมั่นใจ
หากชาตินี้ จะไม่ ได้พบเห็น
ก็คงเป็น ชาคิหน้า มาพบใหม่
ถึงอยู่ห่าง ต่างแคว้น ถิ่นแดนไกล
ก็มิใช่ ต้องพราก จากแดนทอง
วาดภาพฝัน  กันไว้ ในคืนก่อน
อาจสั่นคลอน ประสพ พบคืนหมอง
แม้ทุกข์ตรม ขมขื่น ฝืนลำพอง
ใจจึงต้อง เก็บงำ ตาลำพัง
ในความฝัน ฉันคู่  อยู่เคียงข้าง
ความอ้างว้าง ทิ้งไว้ ให้อยู่หลัง
อนาคต ที่ปอง ต้องจริงจัง
ถึงบางครั้ง หงอยเหงา เศร้าจริงเจียว
เมื่อมีทุกข์ ช่วยแก้ เฝ้าแลหา
ตรมวิญญา ท้อแท้ คอยแลเหลียว
ความห่วงใย มอบเสมอ เธอคนเดียว
หากเปล่าเปลี่ยว จงจำ คำตนเดิม

เหน็บหนาว

Prayad


เหมันต์หวนครวญหาคนน่ารัก
ได้รู้จักแล้วจากเพียงฝากฝัน
ลมหนาวโหมโถมมายิ่งจาบัลย์
ความโศกศัลย์ระคนปนหนาวใจ
เก็บเอาความอาภัพไว้คับอก
ถึงเข็นครกขึ้นเขาเรายังไหว
สุดยากเย็นเข็นรักหนักทรวงใน
เข็นเท่าไหร่ไม่พ้นวังวนลวง
เสียดายความรู้สึกที่นึกรัก
เสียดายที่สมัครปักใจหวง
สงสารความจริงแท้ในแดดวง
ที่เซ่นสรวงให้แด่ความแปรปรวน
พบกับความผิดหวังครั้งที่ร้อย
คิดแล้วน้อยใจช้ำสุดกำสรวล
เหมันตกาลผ่านผันยิ่งรัญจวน
ได้แต่ครวญเพลงเศร้าเคล้าสายลม
นี่ก็อีกราตรีที่หนาวเหน็บ
ทนปวดเจ็บอีกคราให้สาสม
เป็นทาสรักปักจิตคิดระทม
ร้าวระบมไร้คู่อดสูใจ
เหมันต์หวนครวญหาสุดว้าวุ่น
ได้พบคุณเพียงฝันยิ่งหวั่นไหว
หนาวลมโชยโหยหาห่วงอาลัย
ป่านนี้ใครเค้าหนอเคลียคลอคุณ
(เหมันตฤดู ๒๕๓๕)

ห่วงใย

ผ.อ.สมพิศ


เดือนสิบเอ็ด ย่างกราย ปลายหน้าฝน
สายลมวน พัดล่อง ลงต้องผิว
มองข้าวกอ ช่อไสว เอนใบปลิว
แลลิบลิ่ว เขียวขจี ที่ปลายนา
หนาวลมเหนือ เมื่อก่อน ตอนปีเก่า
เคยนั่งเศร้า สิ้นสุข ทุกข์นักหนา
ทั้งหนาวนอก เหน็บใน ใจวิญญา
วันนี้มา  บรรจบ พบอีกคราว
คนมีคู่ เคียงกัน มิหวั่นไหว
แต่ฉันไร้ เราจึง ถึงทนหนาว
อยู่คนเดียว อ้างว้าง อย่างยืนยาว
เจ็บปวดร้าว กมล จนชาชิน
พอหนาวกาย คลายด้วย ผ้าผวยห่ม
เมื่อหนาวลม ฝากั้น มันก็สิ้น
แต่หนาวใจ รักเลาะ มาเกาะกิน
จะหันหิน หน้าไป พึ่งใครเอย
จะแก้หนาว ให้อุ่น ต้องหนุนแขน
มีสาวแทน ต่างหมอน นอนเขนย
แอบอกอุ่น เนื้ออ่อน นอนเสบย
ก็มิเคย คิดไว้ เมื่อไรกัน
นั่งเขียนกลอน ตอนดึก รู้สึกเหงา
คิดถึงเขา อยากรู้จัก เพื่อนนักฝัน
หนาวจะเยือน เดือนนี้ ไม่กี่วัน
สาวคนนั้น ฉันห่วงใย รู้ไหมเธอ
ผอ. สมพิศ
พระนครศรีอยุธยา

แด่เธอ 2

Hide


"ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไป ความห่างไกลระหว่างเรามากขึ้นทุกที แต่ความรักความห่วงใยที่เคยมี ถึงวันนี้ทุกอย่างคงเหมือนเดิม"

หากเธอรู้จักฉันดี

duck


หากเธอรู้จักฉันดี
เธอต้องรู้ดีว่าฉันไม่มีปัญหา
ที่วันนี้เธอกำลังจะมาบอกลา
เพราะฉันรู้ดีว่า การจากลานั้นต้องมาถึงซึ่งสักวัน
แล้ววันนั้นก็มาถึงวันนี้
ฉันคนที่คอยห่วงใยและคิดถึง
จะยังคงรักและคอยเฝ้าลำพึง
บอกเธอว่าถึงอย่างไรฉันก็ไม่หยุดรักเธอ
แม้เธอจะหมดแล้วซึ่งความรัก
แต่ความรักของฉันนั้นยังมีให้
และจะรัก ๆ เธอตลอดไป
ไม่มีสิ่งใดทำให้ฉันไม่รักเธอ

ห่างเหิน

jew


โอ้อนิจาชีวิตนี้ชั่งร้ายนัก
อาจจมีห่วงใยบ้างในบางครา
แต่ทำไมวันนี้ดูห่างเหินนัก
โกรธอะไรใยไม่บอกกล่าว
วันนี้อาจจะมองหาดาวสักดวงไม่มี
แต่มีฝนที่ตกโปรยปราย
แต่ก็ทำให้สดชื่นและสดใส
อาจจะมีทำให้ใจดวงนี้เศร้าบ้าง
แต่ยังไงเป็นหัวใจที่ชินชา
อาจมีน้อยใจบ้างแต่อย่าใส่ใจ
คนนี้อาจไม่มีค่าในสายตาคุณ
ขอแค่ได้ห่วงใยทุกเวลา

ส่งใจไปชายแดน

หญิงบ้า


แอบส่งความห่วงใยไปที่หนึ่ง
ส่งไปถึงผู้คนไม่รู้จัก
ณ มุมนี้มีหนึ่งคนหม่นใจนัก
รุนแรงหนักไม่สงบอบอุ่นใจ
อยู่ทางนี้มีแต่รับข่าวสาร
สิ่งที่อ่านที่เห็นเท็จจริงไหม
เมื่อรับรู้เหตุการณ์ความเป็นไป
ทำได้เพียงทำใจและไตร่ตรอง
แต่ละวันปั่นป่วนล้วนสลด
ช่างรันทดหมดกันพลันเศร้าหมอง
อยากให้หยุดให้จบทบทวนมอง
นั่นพวกพ้องมิใช่หรือที่สิ้นใจ
มิอาจหรอกบอกกล่าวใครเศร้ากว่า
หยดน้ำตาฉันเธอล้วนเอ่อไหล
เธอฆ่าฉันฉันฆ่าเธอเสมอไป
คนข้างหลังขาดใจไปตามกัน
.:T____T:.

อวยพรให้ไปดี

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


หัวใจไม่ยั้งฝังในหัว
สุดขั้วมอบรักภักดิ์ที่สุด
คุดงอท่อตันพลันรักคุด
พลีหลุดสุดถนอมต้องยอมพลี
บางใครก้าวมาเราหน้าบาง
หนีห่างรีบหลบจบด้วยหนี
ทีเขาเราเร้นเป็นถ้อยที
ทุกข์เศร้าเหงาลี้เพราะมีทุกข์
ช้ำนักรักขมตรมเจ็บช้ำ
สุขปองร้องร่ำเคยนำสุข
ยุคเปลี่ยนเวียนวนคนละยุค
เพลินเพลิดเกิดทุกข์เพราะสุขเพลิน
กล่าวลาอาวรณ์มาอ้อนกล่าว
เขินหนักรักร้าวก้าวขัดเขิน
เดินห่างร้างเร้นเส้นทางเดิน
ใจเจ็บเหน็บเกินจะห้ามใจ
พรใดประเสริฐเลิศคำพร
ให้ย้อนประสบครบพรให้
ใครหวังดั่งเป็นเช่นบางใคร
เคียงใกล้สุขสันติ์สวรรค์เคียง..

รักเธอ...แต่ไม่กล้า

วายุ ชลธี


เมื่อเห็นเธอ      เดินมา        แขนขาสั่น
ใจก็หวั่น           เธอจะรู้        สักนิดไหม
ว่ามีคน              หนึ่งคนนี้    ที่ห่วงใย
ที่ได้หมอบ         หัวใจ          ไปทั้งดวง
ก็เพราะว่า         รักคำนี้        ที่มีอยู่
ได้หมอบให้       โฉมตรู        ไม่เคยหวง
คำว่ารัก             คำนี้            ไม่หรอกลวง
จะขอควง           แขนเธอ       เพียงผู้เดียว....

คนสำคัญในหัวใจยังเป็นเธอ

ลูกหว้า


ลองถามตัวเองสักกี่ครั้ง
ใจก็ยังตอบว่ารักอยู่เสมอ
เเละไม่สามารถเอาใครมาแทนเธอ
ยังรักอยู่เสมอไม่เปลี่ยนไป
ยังรักยังห่วงใยอยู่เสมอ
ถึงแม้ไม่ได้เจอก็ไม่หวั่นไหว
แม้ชีวิตมากมายด้วยใคร-ใคร
แต่คนสำคัญในหัวใจยังเป็นเธอ

ฝันหวานซึ้งๆ

jew


ขอฝากรักไว้ในวันนี้
ฝากรอยรักสมานใจ
ไว้ในอ้อมกอดอันอบอุ่น
ยามนอนหลับฝัน
ขอให้หวานหวาบหวิว
ใจคนึงแด่เธอนะคนดี
เผ้าคิดถึงตรึงไว้ในดวงจิต
เฝ้าถวิลหาในอ้อมแขน
ที่แสนหวานขอให้ฉันนะคนดี
แม้จะห่างกายแต่เรา
คงไม่ห่างใจกันในยาม
หลับไหลขอให้ฝันถึง
ฉันในยามหลับหรือยามตื่น
รักนนะคนดีรู้มั้ย
อยากบอกให้รู้ว่า
รักและห่วงใยที่มีให้
เก็บไว้ในอ้อมใจนะคนดี

หาบน้ำ - ตามฝัน (กาพย์สาวหาบน้ำ ๑๓)

สุริยันต์ จันทราทิตย์


๏ หาบน้ำ         จนคานแอ่น
ทั้งไหล่และแขน     เกร็งขึ้นเป็นสัน
๏ ย่างเหยาะ      เลาะคันนา
จากบ้านเฮือนมา    ตักน้ำท่ากัน
๏ หนองน้ำ        คือจุดหมาย
สาวเจ้าทั้งหลาย      พบปะสังสรรค์
๏ เว้าจา            ประสาสาว
เป็นเรื่องเป็นราว    บอกเล่าความฝัน
๏ แลกเปลี่ยน    ทุกข์และสุข
ที่เร้ารานรุก           อยู่ทุกคืนวัน
๏ ปลอบโยน      ยื่นน้ำใจ
พี่น้องมีให้              ห่วงใยแบ่งปัน
๏ รอยยิ้ม         พริ้มใบหน้า
ไมตรีเมตตา           ห่วงหาต่อกัน
๏ ภาระ          เต็ม ๒ ไหล่
เหนื่อยหนักแค่ไหน     บ่ย่านบ่ยั่น
๏ หาบน้ำ          เหยาะเยื้องย่าง
หัวใจอี่นาง            บ่ร้าง...ความฝัน๚๛

....แด่ คนไกล....

cicada


เหนื่อยมากไหมที่รักโปรดพักบ้าง
ส่งใจมาอยู่เคียงข้างเธอทราบไหม
ยามฟ้ามืด ทางนี้เหงาเฝ้าอาลัย
ถึงคนไกลด้วยห่วงหา อย่าร้างเลือน
อ้อมแขนอุ่น ยังว่างบ้างหรือเปล่า
คนที่เหงา อยู่แสนไกลคงไม่เหมือน
ดังดอกแก้วหอมบางอยู่ข้างเรือน
ถึงแชเชือนไปนิด ยังชิดใจ
คิดถึงกัน หรือเปล่า เช้าที่นั่น
ที่นี่นั้น ดึกเหงาเข้าวันใหม่
เกินข่มตา สุดหวง และห่วงใย
คนอยู่ไกลอ้อนออดขอกอดเธอ
และยามนี้แสงทองของวันรุ่ง
แดดทอรุ้งฉ่ำหวานจนมานเผลอ
ฝากจุมพิตผ่านลมพรมละเมอ
ขอให้เธอหลับฝันดี...นะที่รัก..

ความทรงจำ

แย้ม ไกลวันเกิน


ผลสุดท้ายคล้ายว่าเป็นยาพิษ
ขอรับผิดรับผลฉันคนเขียน
จักเผาไหม้ตัวเองเปล่งแสงเทียน
ส่องบทเรียน สู่ตระหนัก เพื่อนนักกลอน
เจตนาหรือไม่ ใช่ข้ออ้าง
เป็นผู้สร้าง ขอรับผิด รับพิษก่อน
นับแต่นี้ต่อไปไม่เขียนกลอน
จะจากจร เจ็บกลืน กลับคืนรัง
(เพลงเริ่มต้น-"เธออยู่ไหน")
เธออยู่ไหน,ใครคนนั้น,ฉันอยู่นี่
เป็นวลี ที่รำพัน กันลับหลัง
เนิ่นนานปี ไม่มีใคร เคยได้ฟัง
เพียงลำพัง รับรู้กัน กับจันทรา
ฝากบอกใครคนนั้นนะจันทร์ไสว
เธออยู่ไหนใช่ถามเพื่อตามหา
ฉันอยู่นี่ก็ใช่อยากให้มา
คล้ายเป็นคำอำลาด้วยอาวรณ์
คงจะไม่มีวันพบกันแล้ว
ขอบคุณแวว ความห่วงใย ในวันก่อน
เธออยู่ไหนไม่สำคัญนิรันดร
เพราะทับซ้อนฉันอยู่นี่อยู่ที่เดิม
เพลง "เธออยู่ไหน" ต้นฉบับ

คือสายน้ำที่หวังดี...

นิติ


แค่เพียงเพื่อนคิดถึงคนึงหา
บางเวลาไม่มีใครใจสับสน
เพื่อนจะรู้มีเพื่อนใจคลายกังวล
ดั่งสายชลคือสานน้ำที่ห่วงใย

เกินบรรยาย

นิติ


มากมายในสิ่งที่อยากบอก
นอกเหนือความจริงที่เคยฝัน
เริ่มเข้าใจความห่วงใยเวลาใกล้กัน
ความผูกผันเริ่มคลืบคลานเข้าสู่หัวใจ