ใครคนหนึ่ง ซึ่งคอย จนหงอยเหงา แอบนั่งเศร้า เฝ้ามอง คอยจ้องหา มีเพียงหวัง ยังจำ คำวาจา คงย้อนมา สักวัน ดั่งฉันคอย คำสั้นสั้น วันนี้ ที่ได้รับ เหมือนว่าซับ น้ำตา คราเหงาหงอย ก็บ่อยครั้ง นั่งคิด จิตเหม่อลอย จนค่อยค่อย เจียมใจ ไม่ลืมตน อยากจะหัก ห้ามใจ มิให้คิด รู้ไร้สิทธิ์ แต่ใน ใจสับสน ใต้สำนึก ของฉัน นั้นกังวล คิดถึงปน ห่วงใย ให้อาทร
ฝากคำถ้อย ลอยฟ้า ไปหาเจ้า อยู่ดีเล่า หรือทุกข์ใจ เพราะไกลห่าง บนทางเดิน แห่งเรียวรุ้ง ที่รุ่งลาง ฝันอำพราง สว่างใส ในความจริง เห็นไหมนั่น ริมรอบ ตรงขอบฟ้า ต้นดารา ดอกพราว ทุกราวกิ่ง เพียงเพื่อเจ้า หมายหวัง ตั้งใจจริง จงโน้มกิ่ง เกี่ยวคว้า ดาราชม แม้เส้นทาง ขวากหนาม จะลามกั้น เจ้าอย่าหวั่น เร่งฟันฝ่า มาให้สม แม้นางไพร ล่อบ่วง ลวงให้ชม อย่านิยม หวั่นไหว ใฝ่ว่างาม ฝากคำถ้อย ลอยฟ้า ไปหาเจ้า ห่วงใยเล่า กับหัวใจ คนไถ่ถาม ใจดวงนี้ เปี่ยมคิดถึง ซึ้งทุกยาม มองฟ้าคราม แสนห่วงใย คนไกลกีน ทิพย์โนราห์ พันดาว
หัวใจไม่ยั้งฝังในหัว สุดขั้วมอบรักภักดิ์ที่สุด คุดงอท่อตันพลันรักคุด พลีหลุดสุดถนอมต้องยอมพลี บางใครก้าวมาเราหน้าบาง หนีห่างรีบหลบจบด้วยหนี ทีเขาเราเร้นเป็นถ้อยที ทุกข์เศร้าเหงาลี้เพราะมีทุกข์ ช้ำนักรักขมตรมเจ็บช้ำ สุขปองร้องร่ำเคยนำสุข ยุคเปลี่ยนเวียนวนคนละยุค เพลินเพลิดเกิดทุกข์เพราะสุขเพลิน กล่าวลาอาวรณ์มาอ้อนกล่าว เขินหนักรักร้าวก้าวขัดเขิน เดินห่างร้างเร้นเส้นทางเดิน ใจเจ็บเหน็บเกินจะห้ามใจ พรใดประเสริฐเลิศคำพร ให้ย้อนประสบครบพรให้ ใครหวังดั่งเป็นเช่นบางใคร เคียงใกล้สุขสันติ์สวรรค์เคียง..
อ่านจดหมายของนากที่ฝากถึง ช่างซาบซึ้งยิ่งนักที่รักเอ๋ย หวนนึกถึงวันเก่าสองเราเคย ยั่วยิ้มเย้ยหยอกเย้ากระเซ้ากัน เป็นผัวเมียเคลียคลอถักทอรัก เฝ้าฟูมฟักเรือยไปไม่แปรผัน คล้ายเวรซ้ำกรรมซัดพลัดพรากพลัน นากตั้งครรภ์ทว่าพี่ปรี่ชายแดน ท่ามสงครามยามนี้มีแต่ทุกข์ พี่ต้องขลุกอยู่อีกฟากลำบากแสน ทั้งหยูกยาสารพันมันขาดแคลน ทั่วขาแขนร่างกายมากมายพรุน กลิ่นลำดวนยวนใจให้ครุ่นคิด เคยจุมพิตบอกรักนอนตักหนุน ซอกแก้มดอกพยอมหอมละมุน ยังหอมกรุ่นเสมอมาแม้นคราใด ที่ห่างหายไปนานใช่ห่างเหิน ลำบากเกินตามประชิดติดต่อไหน มีแต่ศพทหารกองคราวมองไป แสนปวดใจคิดถึงนากมากเหลือเกิน ไม่รู้ว่าป่านฉะนี้อยู่ดีไหม เจ็บป่วยไข้หรือเปล่าใคร่กล่าวเกริ่น อีกเจ้าแดงลูกพ่อรอหัดเดิน คงเพลิดเพลินดื่มดมนมแม่มัน เขียนจดหมายถึงนากฝากส่งถึง บวกอีกหนึ่งลูกน้อยกลอยใจฉัน เสร็จสงครามเมื่อไหร่ได้พบกัน ส่วนนมนั้นบอกเจ้าแดง "ขอแย่งคืน"
อยากให้รู้ว่าเธอยังมี........... ฉันคนนี้จะคอยห่วงใย........ จะขอเป็นกำลังใจ................ ก้าวไปด้วยกัน.................... หากสักวันเธอล้มลง............. เธอคงมั่นใจในความฝัน..... หากเธอก้าวไปไม่ไหวหวั่น.. สักวันฝันจะเป็นจริง............ ขอให้พบแต่สิ่งดี.................. ให้พรุ่งนี้เป็นวันสดใส.......... ให้ทุกๆ สิ่งได้เป็นไป............ อย่างที่ใจเธอต้องการ............
เหมันต์หวนครวญหาคนน่ารัก ได้รู้จักแล้วจากเพียงฝากฝัน ลมหนาวโหมโถมมายิ่งจาบัลย์ ความโศกศัลย์ระคนปนหนาวใจ เก็บเอาความอาภัพไว้คับอก ถึงเข็นครกขึ้นเขาเรายังไหว สุดยากเย็นเข็นรักหนักทรวงใน เข็นเท่าไหร่ไม่พ้นวังวนลวง เสียดายความรู้สึกที่นึกรัก เสียดายที่สมัครปักใจหวง สงสารความจริงแท้ในแดดวง ที่เซ่นสรวงให้แด่ความแปรปรวน พบกับความผิดหวังครั้งที่ร้อย คิดแล้วน้อยใจช้ำสุดกำสรวล เหมันตกาลผ่านผันยิ่งรัญจวน ได้แต่ครวญเพลงเศร้าเคล้าสายลม นี่ก็อีกราตรีที่หนาวเหน็บ ทนปวดเจ็บอีกคราให้สาสม เป็นทาสรักปักจิตคิดระทม ร้าวระบมไร้คู่อดสูใจ เหมันต์หวนครวญหาสุดว้าวุ่น ได้พบคุณเพียงฝันยิ่งหวั่นไหว หนาวลมโชยโหยหาห่วงอาลัย ป่านนี้ใครเค้าหนอเคลียคลอคุณ (เหมันตฤดู ๒๕๓๕)
คงได้ยินเรื่องราวเธอที่รัก ยังชื่นสุขทุกข์หนักรับรู้เสมอ กับรักใหม่ไม่นานที่พบพบเจอ เฝ้ายินดีกับเธอทุกคืนวัน เมื่อได้พานได้พบคนที่ใช่ เขาที่มอบสิ่งใดได้ดั่งฝัน ชายคนนี้มีเพียงรักให้กัน เพราะรักนั้นใช่ทุกสิ่งฉันเข้าใจ ที่รัก อย่าคิดหนักเรื่องเราดีกว่าไหม พบเจอกันทักทายบ้างเป็นไร สองเรานั้นห่างไกลเพียงสัมพันธ์ ส่วนตัวฉันตอนนี้ดีเหมือนเดิม อาจมีเพิ่มความเหงาเข้าข่มขวัญ กว่าผ่านพ้นคืนว้างอย่างบางวัน ดุจดังฉันดั่งดาวหนาวค่ำคืน ขอยอมรับตามตรงว่าคิดถึง ความคำนึงมีให้ไม่อาจฝืน มอบยิ้มให้แต่ใจน้ำตารื้น บ่อน้ำตาตันตื้นแต้มทรวงใน เพราะเธอคือคนที่ใช่สำหรับฉัน เพราะเธอคือคนปลอบขวัญวันอ่อนไหว เพราะเธอคือความคิดถึงยามห่างไกล เพราะเธอคือความห่วงใยในทุกยาม แล้วคำเธอที่บอกล้วนเป็นจริง รักไม่ใช่ทุกสิ่งที่ไถ่ถาม ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ฉัน ทุกผู้นาม รักไม่ใช่ทุกความนามารมณ์ รักของฉัน ของเธอ ไม่เหมือนกัน เราต่างคนต่างปั้นตามใจสม สร้างสรรค์รักสวยงามแล้วชื่นชม แต่งเติมตามความนิยมในยามนั้น จนถึงวันที่เธอจากฉันไป น้ำตานองร้องไห้หัวใจสั่น ด้วยยอมรับและเข้าใจไม่โกรธกัน รักไม่ใช่ เธอ-ฉัน ไม่ยั่งยืน ยังรับรู้เรื่องราวข่าวของเธอ สุขและทุกข์ที่เจอปลุกเราตื่น รักไม่ใช่ความฝันยามค่ำคืน รักอาจเป็นเพียงฟืนช่วยเติมใจ
ณ ซอกตึกแห่งนี้มีที่ว่าง สำหรับวางหัวใจอันไร้ค่า คนมอซอรอเศษความเมตตา นั่งก้มหน้าคอตกอกขอทาน ความเจ็บปวดรวดร้าวคราวแรกรัก สะท้อนทรวงฮักฮักคอยหักหาญ ดวงฤทัยรักแรกเหลวแหลกลาญ จนพิการเช่นนี้ฤดีตรม จึงกลายเป็นยาจกที่อกหัก ขอเศษรักคนอื่นอย่างขื่นขม พิการใจไร้หญิงอิงแอบชม นั่งซานซมหน้าด้านขอทานรัก ไม่เกินวันพรุ่งนี้หรอกชีวิต คงปลดปลิดลงด้วยใจป่วยหนัก ดุจไร้ญาติขาดหญิงไว้พิงพัก โถ...ใครจักต่อชีพจงรีบไว โปรดให้ทานรักล้นแด่คนยาก ผู้ฝันฝากใฝ่รักเจียนตักษัย มิเคยเกี่ยงเลี่ยงเว้นว่าเป็นใคร ขอเพียงใจมีรักจักสมปอง มัวชักช้าร่ำไรอาจใจร้าว หากได้ข่าวยาจกอกกลัดหนอง สิ้นชีวาตม์ขาดคนมาสนมอง เมื่อนั้นน้องอาจช้ำนอนคร่ำครวญ (ธันวาคม ๒๕๒๘)
แม้ว่าคำปลอบใดไม่อาจช่วย แต่อย่าม้วยมอดดับกับรักขม ในนิรันดร์...หนาวเหน็บ...เจ็บระบม มันซ่อนคมพิศวาทมิคลาดคลาย ยังหวงห่วงอาลัยแม้ไกลห่าง จวบเดือนจางลางลับกับฟ้าสาย หากหนาวเหน็บเจ็บปวดรวดร้าวกาย แม้ความตายมิอาจพรากเราจากกัน ให้นิรันดร์ยาวนานที่พานพบ จงเลือนลบปวดเจ็บที่เหน็บขวัญ ณ จุดที่...คำปลอบใด...ไม่สำคัญ แต่มันกลั่นจากห้วงดวงหทัย ยังคงหวงห่วงแท้แม้อยู่ห่าง จะอ้างว้างร้าวรานสักปานไหน แผ่วระรวยโรยรินเหมือนสิ้นใจ แต่คิดถึงห่วงใยไม่เคยจาง
ปีใหม่ หัวใจเก่าไม่เศร้าหมอง หัวใจนี้ยังครองรักคงมั่น เป็นหัวใจใสสะอาดวาดสัมพันธ์ หวังเพียงฉันกับเธอรักกันนาน หัวใจนี้ยังมีเธอเสมอใจ และจะไม่มีนาทีที่เลยผ่าน เก็บความรักทุกห้วงของดวงมาลย์ จะประสานความผูกพันให้มั่นคง ปีใหม่ หัวใจเก่า ยังเล่าขาน เป็นนิทานความห่วงใยไม่ลืมหลง ถึงปีใหม่ ผ่านไปใจบรรจง เขียนบันทึกความรักลง ณ ห้วงใจ. แดดเช้า: ๑ มกราคม ๒๕๕๕
หากวันใดที่ฉันนั้นไม่อยู่ โปรดจงรู้ว่าฉันยังห่วงและคิดถึง ที่หายไปมิใช่ไม่คนึง ฉันคิดถึงเธออยู่ทุกลมหายใจ ฉันมิอยากให้วันนั้นเข้ามาถึง แต่วันหนึ่งมันต้องถึงเธอรู้ใช่ไหม ฉันมิอาจทนอยู่อยางนี้ตลอดไป เธอรู้ใช่ไหมว่าใจฉันข้างในนั้นห่วงใยเธอ อยากให้เวลาเดินไปอย่างช้า ๆ เพราะวันข้างหน้ากำลังจะมาถึง ฉันอยากมีช่วงเวลาดี ๆ นี้ไว้ให้คนึง คอยคิดถึงเธอเมื่อยามอยู่ไกล ยังเป็นห่วงเธออยู่รู้ไช่ไหม ความห่วงใยฉันมีให้เธอเสมอ ถึงอยู่ไกลใจใกล้กับใจเธอ ฉันรักเธอเสมอไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...
...ส่งใจสู่ด้ามขวาน... เสียงกระสุนสาดระห่ำกระหน่ำคลั่ง หาหยุดยั้งถาโถมเข้าโหมล่า กลางใจเมืองระอุไอในปัตตา ท่ามประชาแผ่วเสียงเพียงบางเบา ...มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น หวนละมุนไอท้องนาแลป่าเขา เพลงพิญแคนโหวยแว่วดังแผ่วเบา รวยรินเล่า..ลมหายใจในกายา ..หลับเถิดหนาทหารข้า..ผู้กล้าแกร่ง อย่างระแวงสิ่งใดในปราถนา เจ้าพลีชีพเพื่อชาติกษัตรา ท่าม..นคราที่รุ่มร้อนด้วยฟ่อนไฟ อย่าห่วงเลยคนอยู่หลังจะฝังจิต แม้ชีวิตพลีพร้อมจะยอมให้ เพื่อสยามอาณาเขตประเทศไทย มิหวังใดกว่าจงรัก..และภักดิ มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น ไอละมุนจากห่วงใยไทยที่นี่ ส่งข้ามโขดหินผาฝ่านที ถึงชาตรีชายชาญทหารไทย ......เหล่าทหารกรำกล้าฝ่าหาญหัก ......ไทยตระหนักคำนึงซึ้งบ้างไหม ......ทุกวันนี้ไทยผองเป็นสองไทย ......หากร่ำไรเพลงชาติ....ขาดคนฟัง ถูกใจ · · แชร์
เดือนสิบเอ็ด ย่างกราย ปลายหน้าฝน สายลมวน พัดล่อง ลงต้องผิว มองข้าวกอ ช่อไสว เอนใบปลิว แลลิบลิ่ว เขียวขจี ที่ปลายนา หนาวลมเหนือ เมื่อก่อน ตอนปีเก่า เคยนั่งเศร้า สิ้นสุข ทุกข์นักหนา ทั้งหนาวนอก เหน็บใน ใจวิญญา วันนี้มา บรรจบ พบอีกคราว คนมีคู่ เคียงกัน มิหวั่นไหว แต่ฉันไร้ เราจึง ถึงทนหนาว อยู่คนเดียว อ้างว้าง อย่างยืนยาว เจ็บปวดร้าว กมล จนชาชิน พอหนาวกาย คลายด้วย ผ้าผวยห่ม เมื่อหนาวลม ฝากั้น มันก็สิ้น แต่หนาวใจ รักเลาะ มาเกาะกิน จะหันหิน หน้าไป พึ่งใครเอย จะแก้หนาว ให้อุ่น ต้องหนุนแขน มีสาวแทน ต่างหมอน นอนเขนย แอบอกอุ่น เนื้ออ่อน นอนเสบย ก็มิเคย คิดไว้ เมื่อไรกัน นั่งเขียนกลอน ตอนดึก รู้สึกเหงา คิดถึงเขา อยากรู้จัก เพื่อนนักฝัน หนาวจะเยือน เดือนนี้ ไม่กี่วัน สาวคนนั้น ฉันห่วงใย รู้ไหมเธอ ผอ. สมพิศ พระนครศรีอยุธยา
ฝากดอกไม้จากเหนือเมื่อหนาวผ่าน ฝากความหวานเจือจาน..อย่าเงียบหาย ฝากกลิ่นหอมพฤกษาพรรณราย ฝากจดหมายแนบดอกบอก"รักเธอ" หอมเอ๋ยหอมลอยลมพรมใจพี่ ขอวจีเคยพร่ำย้ำเสมอ ว่าจะรักหนักแน่น..ไม่เผลอเรอ เพียงมีเธอ..นวลนางมิร้างไกล จะรอรักคนดีที่ปลายฟ้า เหมือนดาราคู่จันทร์..มิหวั่นไหว แม้จะหนาวแสนหนาว.สักเพียงใด แต่หัวใจ..อบอุ่นหนุนรักนอน อ่านกลอนน้องหอมหวานอย่าพาลเบื่อ ความคิดถึงเหลือเฟือ ..เลยถ่ายถอน กลั่นจากจิตคิดจากใจ..ในบทกลอน ฝากหนุนนอนก่อนหลับ..จับฤดี ความเหนื่อยหน่ายหายไปในวันรุ่ง ขอพี่มุ่งทำงาน..อย่าคิดหนี เก็บเงินทองขอน้องแต่งสักที วาเลนไทน์ปีนี้..มีหวังเอย