กลอนอกหัก

เสียงพิณ

Prayad


เสียงพิณแผ่วแว่วผ่านกังวานล้ำ
คลอหมอลำพร่ำมาอุราหวิว
ว่าโอ้หนอคืนนี้ฤดีปลิว
ใจลอยลิ่วล่องหนถึงคนดี
ดอกอะไรไหนเรียมเทียมดอกรัก
ขอสมัครร่วมตายอย่าหน่ายหนี
อ้ายบ้านไกลใฝ่หายอดนารี
ฝ่าราตรีถึงบ้านจงขานคำ
พิณก็เร่งเปล่งคำลำต่อว่า
แม่น้องหล่าเอวกลมเจ้าคมขำ
อ้ายขี้เหล่เป๋ขาซ้ำหน้าดำ
บ่เว้านำเลยหนออ้ายขอลา
เสียงพิณผ่านหวานแว่วแผ่วๆลับ
น้ำหมอกซับพรมดินถวิลหา
พิณสายสองหมองหม่นปนน้ำตา
คลอช้าๆครวญคร่ำลำโศกตรม
โอ้ หนอกรรมค่ำคืนสะอื้นไห้
ถึงรักใคร่คงเพียงชู้มิคู่สม
ช่างอาภัพอับชาติจึงชวดชม
ลำฝากลมอ่อนๆค่อนราตรี
ถึงเถียงนากลางทุ่งมุงหญ้าแพรก
ดอกตะแบกร่วงคลุมมุมม่วงสี
นั่งเหม่อมองข้างซุ้มกลุ้มฤดี
ดีดอีกทีพิณพาทย์...ให้ขาดใจ
(พฤศจิกายน ๒๕๒๘)
Pin Tone;
A sweet sound
of Pin was slightly heard;
Mor Lum was also excitedly humming.
“Oh…tonight is so romantic, and my mind is now flown to meet her.
What kind of flower on earth is equal to Dok Rak, the love flower;
So I would like to be yours until my death, don’t be afraid.
Though my home is far away, but my mind is trying to find and reach you tonight. 
Please reply. 
Rousing Pin tone and singing of Mor Lum were performed with scorning;
You are so a beautiful girl with a slender contour.
But, my face is ugly dark, and my legs are disabling. You have no a

อกหัก......

นิติ


คงเพราะพื้นฐานเราไม่ใช่เพื่อนหรือน้อง
คิดแต่จะครองไม่ที่รากฐาน
ว่าเคยพูดเคยคุยลุยงาน
จึงไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน  .......   หัวใจเธอ

ผลตอบแทนความไว้ใจคือ...โดนหักหลัง

ผู้หญิงสีน้ำตาล


ก็ไม่รู้ว่าผิดตรงไหน
เธอจึงทิ้งไปอย่างไร้เหตุผล
ความผูกพันเธอลืมง่ายดายฃะจน
ไม่คิดว่าเป็นคนเคยรักกัน
หรือเพราะความห่างไกลของเรา
จึงทำให้เกิดเงาของเขาแทนฉัน
ไม่คิดว่าความไว้ใจจะทำลายความผูกพัน
ไม่คิดว่าเธอนั้นจะหักหลังกันเอง

อย่างนี้เค้าเรียกว่ารักป่าว

vee...กีต้าไร้สาย


คืออะไร  คือใคร  ก็ไม่รู้
แล้วจู่จู่  แฝงเข้ามา  ไม่ทันเห็น
ปรากฎตัว  ในหัวใจ  อย่างที่เป็น
จนโดดเด่น  ออกมา  ว่าความรัก
อยากร้องถาม  กลับนิ่งเงียบ  เรียบสนิท
ไม่อยากคิด  กลับคิด  จิตสุดหัก
เพิ่งรู้ตัว  หัวใจเรา  เฝ้าแฝงรัก
กลัวอกหัก  จึงเก็บไว้ในใจเรา

อ้อนรัก

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เธอมองผ่านข้ามฉันทุกวันคืน
ฉันขมขื่นซึมเศร้าเหงานานช้า
เธอวางปึ่งขึ้งขัดชัดเย็นชา
ฉันเหว่ว้าไร้สุขเหมือนถูกดอง
ในสายตาเธอนั้นมีฉันไหม
ในหัวใจคำนึงถึงสมอง
ในดวงจิตรู้ไหมฉันใฝ่ปอง
ในครรลองความรักมักเล่นกล
เธอเย้าหยอกหลอกล้อตัดพ้อฉัน
เธอตัดรอนความฝันมาหลายหน
เธอมองฉันเหมือนเช่นเป็นเดนคน
เธอไม่สนถึงหัวใจใฝ่รักเธอ
ฉันเป็นฉันเช่นนี้หลายปีผ่าน
ฉันอยากสานความรักถักเสนอ
ฉันเพียบพร้อมหัวใจไว้บำเรอ
ฉันรักเธอคนเดียวอยากเกี่ยวใจ
เพียงพลิ้ว
เธอเป็นเธอ....ฉันเป็นฉัน...ทุกวันต่าง
เธอควรวางหัวใจกับใครอื่น
เธอเสนอรักสลักคำย้ำจุดยืน
เธอคงชื่นสมหวังดั่งต้องการ
ไม่เป็นไรรักของฉันค่านั้นศูนย์
ไม่ควรจูนคลานคืบให้สืบสาน
ไม่เป็นไรคงทนไหวเจ็บไม่นาน
ไม่ร้าวรานเท่าไรใจแสนกล
ฉันเป็นฉันเช่นนี้ที่เธอเห็น
ฉันยังเป็นคนนี้ที่สับสน
ฉันไม่เห็นเธอเป็นเช่นเดนคน
ฉันเห็นผลแห่งรักร้ายไม่หมายครอง
ฤกษ์  ชัยพฤกษ์
เห็นว่ารักฉันร้ายไม่หมายครอง
ขอให้ลองคิดใหม่ใจแน่วนิ่ง
มองทะลุภายในได้ความจริง
ว่าทุกสิ่งที่เห็นเป็นภาพลวง
ความรักฉันเหมือนเป็นเช่นไม้ใหญ่
แผ่กิ่งก้านร่มใบออกใหญ่หลวง
กิ่งใหม่งอกกิ่งเก่าใช่หลุดล่วง
ยังงอกงามพุ่มพวงตระหง่านไกล
รุ่งจำเริญพร้อมกันต่างหรรษา
เหล่าวิหคนกกาได้อาศัย
หากวิเคราะห์มองซึ้งถึงความนัย
คงไม่ตัดเยื่อใยให้เศร้าตรม
มาเถิดหนาคนดีมีรักรอ
มาร่วมกันถักทอให้รักสม
มาลงเรือลำเดียวเกี่ยวรักบ่ม

บทกวี..แห่งความชอกช้ำ..

รุ้งสวรรค์


กว่าจะรู้จักกว่าจะรักมากเท่านี้
ใช้เวลากี่ปีกี่วันให้ผันผ่าน
สิ่งต่างที่เกิดขึ้นเหลือเพียงวันวาน
เหลือเพียงสายลมผ่านในวันเหงา
วันนี้คงยังจะมีอะไรเหลือ
คงต้องหวนเผื่อถึงวันเก่า
วันที่ความรักของสองเรา
ยังคงไม่อับเฉาเหมือนวันนี้
รู้ไหมฉันรักเธอมากแค่ไหน
บัดนี้ต่อไปคงต้องอยู่กับที่
ที่ซึ่งฉันคุ้นกับมันดี
ที่ซึ่งมีฉันอยู่เพียงเดียวดาย
หนึ่งบทกวี..กับความชอกช้ำ
กับหนึ่งคำ..ที่ทำให้ใจสลาย
เพียงเพราะเธอไม่รักฉันมากมาย..
เหมือนกับรักที่เธอมอบให้กับเขา
วันนี้ฉันต้องขอลา..
ขอลาไปพักใจให้หายเจ็บ
ขอลาไปดูแลหัวใจที่ชอกช้ำ
เพียงเพื่อเปิดรับความรักครั้งใหม่..ที่จะมาเยือน

รักนี้...

แมงกุ๊ดจี่


ทนเคว้งคว้างเดียวดายสุดปลายฝัน
เกินจักกลั้นคล้อยใจมิให้หมอง
ขาดลงแล้วรอยเกลียวเคยเกี่ยวครอง
ทุกข์สนองด้วยฤทธิ์ความผิดหวัง...
หยาดน้ำตาไหลนองเปื้อมสองแก้ม
ไม่อาจแย้มยอมรับกับความหลัง
มอบความภักดิ์เพ้อเคียงเพียงลำพัง
ร้าวประดังพร่าผลาญแหลกรานใจ...
ในเพรงกาลผันเปลี่ยนยังเวียนลอบ
รักยังมอบคงมั่นมิหวั่นไหว
ปรารถนาคือเธอเสมอไป
ถึงอย่างไรอยากเคียงแต่เพียงพี่...
แต่เพราะรักหักราญเกินสานต่อ
พร่ำวอนขอพรฟ้าเมตตาที
ให้ลบเลือนรอยรักรอยภักดี
นับแต่นี้...ลืมเลือนอย่าเตือนจำ...

คิดฮอดกันอยู๋บ่คะ ^_^

แก้วประภัสสร


เก็บดวงใจดวงนี้อย่าทำร้า้ย
ให้เหมือนตายทั้งเป็นเช่นอสูรย์
อย่าให้เจ็บเป็นรอยพลอยอาดูรย์
โปรดเกื้อกูลความรักอย่าหักกัน
เก็บรอยยิ้มฉันไว้ยามไกลห่าง
ก่อนละวางทุกสิ่งอิงตามฝัน
อย่าให้เหือดแห้งไปยามไกลกัน
เหมือนตะวันชิงพลบต้องจบลา
เก็บหัวใจดวงน้อยอย่าปล่อยล่วง
ให้มันคว้างเคว้งไปไกลเลยหนา
ความคิดถึงอยู่ไหมใคร่ถามมา
ก่อนจากลาโปรดตอบ..ขอขอบคุณ

แด่คนเคยรัก

ยาแก้ปวด


แด่คนที่ฉันเคยรัก....
คนที่ฉันจมปลักไม่ไปไหน
คนที่ฉันทุ่มเทจนหมดใจ
คนที่ฉันมอบให้หัวใจเดียว
แด่คนที่ฉันเคยรัก...
คนที่ทำอกหักไม่แลเหลียว
คนที่ลืมห้องหอเคยกลมเกลียว
คนที่ปล่อยฉันโดดเดี่ยวเพียงลำพัง
แด่คนที่ฉันเคยรัก...
ทำใจฉันเจ็บหนักกับความหลัง
ทำทั้งสุขทั้งทุกข์มาประดัง
แม้แต่ชื่อเธอยังสะกิดใจ
แด่คนที่ฉันเคยรัก...
พอแล้วเถอะขอพักเลิกหวั่นไหว
หยุดเสียทีเถิดนะ"เจ้าหัวใจ"
คนสุดท้ายที่หัวใจ..ยอมให้ทำ
MV โดนๆ
http://www.youtube.com/watch?v=Wj4SwRdef5o

..คนที่รักคือ.คนที่ร้าย...

พิมญดา


จากวันแรกแบกใจมาให้รัก
แต่วันนี้แบกกลับเพราะไม่ไหว
เธอไม่เคยหมั่นคอยดูแลใจ
ปล่อยทิ้งไว้จนหมอง..นองน้ำตา
เคยสัญญาว่าจะเก็บไว้ในอก
จะไม่ทำหล่นตกให้เสาะหา
พอนานวันผ่านห้วงกาลเวลา
สเน่หาเลือนลาง..ทางรักเรา
เคยพูดจาหวานหูไม่รู้หาย
แล้วกลับกลายเงียบงันฝันเลยเศร้า
หลบสายตาตอบมาก็บางเบา
เหมือนมีเงาซ่อนแอบแนบ..อีกคน
คนไม่รักทำอะไร..ใช่คนผิด
ปล่อยให้ติดวังวนจนสันสน
นี่แระหนอรักแท้แค่เล่ห์กล
ยากหยั่งถึงใจคนแม้คุ้นเคย
คนที่ร้ายไม่ไกลจากใจนี้
แล้วคนดีอยู่ไหนไม่เห็นเผย
วาสนาของคนถูกละเลย
ได้กอดเกยความช้ำ..ทุกค่ำคืน

ผู้ชายใจร้าย

ทิพย์โนราห์ พันดาว


ทำไมหนอผู้ชายใจร้ายนัก
ยามหมดรักเรรวนก็ด่วนหนี
เหลือเพียงความช้ำใจให้นารี
ล้านวจีด่ำดื่มกลับลืมคำ
ดั่งนิทานโบราณมีนารีเอ๋ย
พระอภัยเอยหลอกนางยักษ์ปักถลำ
เพียงไม่งามรูปชั่วตัวด่างดำ
ไม่นึกนำเคยอยู่ร่วมคู่เคียง
เคยครองคู่ร่วมใจที่ในถ้ำ
คืนเดือนร่ำดาวระยิบกระซิบเสียง
เคยโอบกอดประคององค์ลงนอนเคียง
ชื่นสำเนียงเรไรร่ำฉ่ำฤดี
ใยพิฆาตยักษีด้วยปี่แก้ว
ซึ้งทรวงแล้วพระอภัยฤทัยพี่
หรือนางยักษ์ไม่งามเด่นเช่นนารี
คุณความดีมีให้...ไฉนลืม

อยากแต่งกลอน..

จะไม่เด็ด.


อยากแต่งกลอนแนวปรัชญาสักคราครั้ง
เผื่อโด่งดังให้คนลือยึดถือบ้าง
เพียรประพันธ์จนอ่อนล้าตาฝ้าฟาง
ไม่ได้วางพอสองบทเริ่มหมดใจ
หากว่าเป็นกลอนรักอกหักเศร้า
ผสมเข้ากับอารมณ์ที่อ่อนไหว
บรรยากาศสะเทิ้นเพลิดเพลินใจ
คงสาธยายดุจน้ำไหลก็ไม่ปาน
อยากแต่งกลอนแนวตลกพกความสุข
ก็ขาดมุขมาเล่นเป็นแก่นสาร
กลัวไม่ขำแต่งไปให้แต่ทรมาน
อาจจะพาลเป็นกลอนเศร้าเข้ามาแทน
ที่แต่งได้คงเป็นกลอนแนวธรรมชาติ
น้ำสะอาดใสเย็นเห็นสุขแสน
ทอดอารมณ์สุนทรีย์ที่ขาดแคลน
เป็นบทกลอนอ้อนแฟนก็สุขดี
ไม่ได้เหมาะกับกลอนแนวการเมือง
เพราะบางเรื่องไม่ถนัดถนี่
จะบ่งชัดลงไปกลัวอีกฝ่ายมองไม่ดี
จึงได้แต่แต่งกลอนที่...ไม่ข้างใคร
....อิอิ..แบบว่า

สูญเปล่า

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


เปิดหัวใจใสซื่อถือความสัตย์
ในบทกลอนสารพัดจะวอนเว้า
ทั้งมั่นรักห่วงหวงไม่บรรเทา
ยังถือเอาความรักสลักแกน
 
เหมือนเป่าลมขึ้นไปบนอากาศ
อ่านแล้วคงขยาดว่าเป็นแผน
บอกว่าได้ไอเดียมาโต้แทน
เค้นคิดคำแสบแสนมาหมิ่นใจ
 
เฝ้าพากเพียรเขียนกลอนอ้อนรักเขา
ได้แต่ความสูญเปล่าถูกผลักไส
ไม่เคยเห็นความรักสลักใน
ไม่มีหญิงคนใดนอกจากเธอ
 
นั่งเหม่อมองสายน้ำเจ้าพระยา
บนคอนโดเหว่ว้ายามไผลเผลอ
ชีวิตนี้มีกรรมซ้ำมาเจอ
 
เรามันเซ่อโง่งมสมน้ำหน้า..เอง

อาวรณ์รัก

แก้วประเสริฐ


           อาวรณ์รัก
   หนึ่งนางเดียวเกี่ยวก้อยร้อยสู่ฝัน
หนึ่งเธอนั้นพันผูกปลูกสดใส
หนึ่งหมายปองครองไว้ในห้วงใจ
แสนวาบไหวคลั่งไคล้ให้ลืมตัว
   จันทร์เอ๋ยเจ้าแสงนวลชวนสวาท
งามพิลาสหายไปในแสงสลัว
ใยบอบบางเหลือเกินเพลินลืมกลัว
ตราบมืดมัวแฝงซ่อนยอกย้อนฤดี
   ปากกับใจมิตรงส่งมธุรส
แล้วแสร้งปดหลอกไว้ให้หมองศรี
นี่แหละหนอรักแรกเหมือนแฝกตี
ผ่านนวลฉวีชอกช้ำระกำใจ
   จะรักใครสักคนจนต้องคิด
เหมือนหนามปลิดเลือดไว้ไร้สดใส
น้ำจากตาหลั่งรินสิ้นห้วงใย
เธอฝากไว้เหมือนลมบ่มกายา
   มองบุปผาเบ่งบานผ่านเศร้าหมอง
หยาดละอองสายฝนปนเสน่หา
อันความหวานฝากไว้ในรจนา
ยากนำพาบั่นทอนห่อนเปรมปรีดิ์
   หอมระรวยชวยชื่นคืนแสงสกาว
อบอวลพราวระรินจินต์เกษมศรี
สู้หมายปองครองไว้ในห้วงชีวี
ป่านฉะนี้ความหวังสร้างลางเลือน
   เปรียบบุปผาแปรเปลี่ยนเยียนนิเวศน์
สู่อาณาเขตแสงสีพลีถูกเฉือน
เปลี่ยนเป็นช้ำระกำคล้ำมาเยือน
แสนสะเทือนหัวใจใยหวนคืน
   ผ่านแสงทองผ่องอำไพมลายแล้ว
ก่อนเสียงแจ้วหวามเก่าเฝ้าสุดฝืน
ฟ้าเปลี่ยนสีพราวไสวคล้ายยั่งยืน
เสียงสะอื้นจากห้วงดวงแหลกราญ
   คราแสงนวลจันทร์ผ่องละอองไสว
เหมือนภายในแตกช้ำระกำผ่าน
เคยแลปองนวลเจ้าเฝ้านงคราญ
สู่ร้าวฉานแยกทรวงห้วงระบม
   หวนเฝ้ามองรัญจวนคร่ำครวญรัก
ดุจหนามปักเลือดหลั่งหลังขื่นขม
ปลอบขวัญเจ้าอย่าไหวในสิ่งปม
ทิ้งตรอมตรมผ่านไปสร้างใหม่มา
   ดุจจันทร์เจ้าหายลับยังกลับใหม่
ผ่องอำไพ

อาภัพรัก

แป้งฝุ่น


เธอไม่รัก             ปักจิต               ไม่คิดโกรธ
ฉันขอโทษ               ตัวเธอ               ทนเศร้าฝืน
แม้จะเจ็บ                เท่าไหร่            ทั้งเฝ้ายืน
ยังทนฝืน                 ยิ้มให้เธอ          เจอทุกวัน
แม้เธอจะ                ไม่รัก                 สักเท่าไหร่
ขอเพียงให้              ได้พบ                มิหลบหนี
ว่าฉันนี้                   ยังรักเธอ           เสมอมา
(    ^ _ ^   )

อยู่ไป-ไม่มีเธอ

สองตุลา


เมื่อก่อนเคยคิดสงสัย
ถ้าเธอเคยเป็นกำลังใจให้เสมอ
ฉันจะอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีเธอ
แต่ทุกวันที่เจอ ไม่ใช่เธออย่างที่เคยมี
เก็บมานั่งคิดนอนคิดอยู่ทั้งคืน
ฉันก็ยังคงยืนอยู่ตรงนี้
ยิ่งเข้าใกล้ก็เหมือนไกลขึ้นทุกที
ถึงไม่มีเธอคนดี แต่ฉันคนนี้ยังหายใจ

:::.ก่อนวันแห่งความรัก .:::

มุตา


ได้ยินเสียงหัวใจอาลัยร้าว
เมื่อถึงคราวจำพรากจากเธอฉัน
ทั้งที่อยากจะอยู่คู่เคียงกัน
ตราบนิรันดร์แต่ฝันพลันมลาย
เป็นเพราะฉันหันหลังรั้งแรมรา
หยาดน้ำตาพร่างพรูมิรู้หาย
ใจมันล้ามันเหน็บเจ็บจะตาย
แทบสลายร่างแหลกเมื่อแยกทาง
ไม่อยากยื้ออยากแย่งแข่งกับใคร
ไม่อยากให้ฝืนทนจนเมินหมาง
ไม่อยากจบก่อนรักจักเจือจาง
ไม่อยากร้างตรงเราเฝ้าเกลียดกัน
ที่น้ำตาพาไหลเมื่อไกลห่าง
ใจเคว้งคว้างทางนี้มีเพียงฉัน
หากล้มมาคราใดไม่มีวัน
ที่ใครนั้นโอบเอื้อเพื่อดูแล
เราเลิกกันก่อนวันวาเลนไทน์
ยิ้มเข้าไว้เหมือนใจไม่แยแส
สิ้นรักไปไร้กุหลาบตราบคนแคร์
โอ้รักแท้ อยู่ที่ไหน ใครสักคน
...........................................
...........................................
...........................................
หากไม่เคยอยู่จุดต่ำสุด...ก็จะไม่รู้จัก จุดสูงสุด
หากไม่เคยล้มเหลว........ก็จะไม่รู้จัก ความสำเร็จ
หากไม่เคยอกหัก............ก็จะไม่รู้จัก คุณค่าของคำว่า “รัก”