กลอนอกหัก

..คนไม่มี "เขา"..

มวลภมร


คิดถึงคราว.สองคน.เคยเคียงใกล้
สองหัวใจ.เคยเรียง.ร่วมเคียงฝัน
เคยออดอ้อน.พรอดพร่ำ.คำจำนรร
กระซิบบอก.รักกัน.ก่อนหลับตา
..
มาบัดนี้.คนดี.ไม่มีแล้ว
รักหมดแวว.เธอหาย.ไกลหนักหนา
ทิ้งพี่อยู่.คนเดียว.เปลี่ยวเอกา
ร้องเรียกหา.ไม่เห็นใคร.ไร้สำเนียง
.
อยู่คนเดียว.แม้เปลี่ยว.ดังใครว่า
เหมือนโลกา.ไร้แม้.ใครส่งเสียง
ไม่ได้ยิน.คนในใจ.ส่งสำเนียง
ไร้คนเคียง.หาใช่.ไร้ทางไป
.
ก่อนมีเขา.มีเรา.อยู่โดดเดี่ยว
อยู่คนเดียว.มานาน.ไม่หวั่นไหว
พอมีเขา.เข้ามา.อยู่ในใจ
แล้วทำไม.เมื่อเขาไป.ใยทุกข์ทน
.
ก่อนมีเขา.เราเคย.อยู่มาได้
ไม่มีเขา.คงสบาย.อย่าได้บ่น
ก่อนมีเขา.เรายังสุข.ไร้ทุกข์ทน
อยู่แบบคน.ไม่มีเขา.เราสบาย
..09/09/55..  23:59

มันเป็นความฝัน

EiNoo Beam


ค่ำคืนนี้ฉันฝันถึงที่รัก     แต่อกหักเพราะที่รักที่รักฉันถ้าเธอมีคนอื่นอยู่ใกล้กัน     ถึงตัวฉันจะไม่สวยก็รักเธอ

กอดฉันเถิด

รงค


หากเราสองต้องพรากกันไกลห่าง
มีบางอย่างอยากขอจะได้ไหม
เพื่อระลึกนึกถึงเมื่อครั้งใด
ซาบซึ้งใจอย่างนั้นตลอดกาล
เป็นคำขอสุดท้ายที่อยากขอ
หวังเพียงต่อเวลามาสมาน
บาดแผลลึกเจ็บนั้นทรมาน
เพียงต้องการยืดระยะให้ออกไป
กอดฉันเถิดคนดีอย่าหนีก่อน
จะไม่ย้อนคำถามยังรับไหว
เพียงต้องการสิ่งนั้นชโลมใจ
กอดเอาไว้นานนานอย่าค้านเลย
แม้ทั้งรู้ว่ารักต้องขาดลอย
เกินเอื้อมสอยคืนมาอย่างเปิดเผย
อยากจะเก็บรู้สึกที่เคยเคย
ไว้เขนยกอดนอนทุกวันคืน
ก่อนอำลากันไปนานแสนนาน
กอดประสานไออุ่นไร้ขัดขืน
คงจะช่วยให้ฉันได้หยัดยืน
หลังจากตื่นไร้เงาที่แล้วมา
การร่ำลากันไว้ในคืนนี้
คงจะดีช่วยกอดเช่นปรารถนา
ลดความแรงเสียใจก่อนร้างลา
ที่แล้วมาด้วยผิดฉันเสียใจ
กอดฉันเถิดที่รักโปรดปราณี
ก่อนจะหนีกันห่างหายไปไหน
หวังใช้กอดยอดรักดวงฤทัย
เก็บไว้ในรู้สึกตลอดกาล
31 มกราคม 2556

น้ำคำดุจน้ำค้าง

สุนทรวิทย์


น้ำค้าง  เกาะกอด  ตามยอดไม้
แดดไล้  ลมปะ  ก็ระเหย
บัวบาน  กลิ่นกล่อม  หอมรำเพย
ล่วงเลย  ทิวา  กลับราโรยดุจน้ำ  ใจคน  พิกลนัก
บอกรัก  พักเดียว  เดี๋ยวแห้งโหย
คำหวาน  หว่านฟุ้ง  กระบุงโกย
จบโดย  พลัดพราก  นั้นมากมีฉันเชื่อ  น้ำคำ  เธอพร่ำพลอด
อ้อนออด  มอบกาย  มิหน่ายหนี
ฉันหลง  ชมชัว  แม่ตัวดี
ทั้งที่  คำหวาน  ล้วนมารยารู้ตัว  อีกที  หัวมีเขา
นงเยาว์  ลบหลู่  เปลี่ยนคู่ขา
ควรแขน  เยี่ยมกราย  ถึงชายคา
ฉีกหน้า  พลิกลิ้น  สิ้นไมตรีผิดหวัง  ครั้งนี้  หนที่ร้อย
ละห้อย  ระกำ  ช้ำป่นปี้
หดหู่  วู่วาม  สามนาที
แล้วรี่  เดินหน้า  หาใหม่พลัน

รัก...เท่านั้นเอง

ต้น


ยังไม่เข็ดหรอกนะกับความรัก
ก็แค่คนอกหัก..แต่ไม่นานก็หาย
เก็บไว้เป็นบทเรียน..จะได้จำไว้จนตาย
ว่าที่เคยเจ็บแบบที่เรียกว่าใจสลาย..สุดท้ายก็อยู่ได้ด้วยตัวเอง
ก็ยังคงมองหาใหม่กับความรัก
ยังอยากรู้จักมากขึ้นอีกกว่านี้
ยังหวังที่จะมีคนรักที่ดีดี
สุดท้ายนี้....ขออวยพรทุกคนที่มีรักดีในใจ

ก็แค่ความบังเอิญ

yayee


ทบทวนดีแล้วนะ….
ที่เลือกจะ…ไปกับใครคนนั้น
สิ่งดีๆ ที่สองเราเคยร่วมฝัน
ขาดสะบั้น…อย่างหมดเยื่อขาดใย
ก็ตั้งตัวไม่ติด…
ไม่เคยคิดว่าเธอจะทำกันได้
กับทุกสิ่งที่เธอได้ทำลงไป
ฉันเจ็บร้าวที่ใจ…มากมายเหลือเกิน
ใจเธอทำด้วยอะไร…
รู้ร้อนหนาวบ้างไหม…ที่ใจฉันต้องยับเยิน
สุดท้าย….จบตรงแยกทางกันเดิน
จะคิดเสียว่าบังเอิญ...ผ่านมาพบกัน...

...คนนิสัยเสีย...

พิมญดา


ส่องกระจกคราใดให้นึกโกรธ
อยากมีบทลงโทษ..คนตรงหน้า
บอกไม่เคยจะจำเลยสักครา
เป็นคนเจ้าน้ำตา..มาจนชิน
เวลาทุ่มรักใครไม่เคยเผื่อ
แม้ถูกเถือเลือดเนื้อแทบแดดิ้น
ชอบลงทุนพนันรักอาจิณ
น้ำตารินหมดใจไม่รู้ฟัง
คนนิสัยไม่ดีไม่เคยห่วง
ใครจะลวงมาแอบแนบความหวัง
ไม่ระแวงแสดงหรือชิงชัง
สิ่งที่ยัง คือ รักและภักดี
ผลตอบแทนที่รับนับแต่แผล
หวังรักแท้เท่าไหร่ใยหลีกหนี
บอกให้รักตัวเองนั้นทุกที
แต่ไม่มีค่าควร..ชวนเจ็บใจ
หรือจะเรียก"สันดาน"จนเข้าเส้น
ต่อให้เร้นหลีกลี้หนีไปไหน
ค่าของคน.ผลรับหนักเพียงใด
ก็เปลี่ยนแปลง"นิสัย"ไม่ได้เลย

ทะเลใจ

din


เธอเป็นซากซากหนึ่งซึ่งเดินได้
มีหัวใจจมปลักกับรักขม
ยอมให้ความหม่นหมองครองอารมณ์
อยู่กับปมชีวิตที่บิดเบือน
จะรักเก่ารักใหม่เธอไม่รู้
เพราะจมอยู่กับฝันอันลอยเลื่อน
คืนวันผันผ่านคล้อยเป็นร้อยเดือน
ยังขาดเพื่อนขาดมิตรคู่ชิดใจ
หากทะเลน้ำตามันว้าเหว่
จะร่อนเร่ชีวิตทิศทางไหน
ยอมให้รักร้าวรานประจานใจ
ซมอยู่ในช่องว่างที่กว้างเกิน
เห็นเธอหม่นก่นเศร้าฉันเฝ้าคิด
ดวงชีวิต...เวียนวก...ระหกระเหิน
ฉันอยากฉุดเธอลากกระชากเดิน
เธอกลับเมินเหินห่างก่อนร้างไป
เพราะช่องว่างกว้างไกลไร้ขอบเขต
คือมูลเหตุทุกข์ตรมระทมไหม้
ช่องที่ว่าง...กั้นกลาง...หว่างสองใจ
แยกเราให้เหินห่างอย่างที่เป็น
เมื่อทะเลน้ำตามากางกั้น
หวิวหวาดหวั่นร้างราอย่างที่เห็น
ทั้งหนาวเหน็บเจ็บแปลบแสบลำเค็ญ
ไร้ประเด็นเว้นว่างเหมือนอย่างเคย
หากรักกันไม่ได้ไม่ต้องรัก
จำต้องหักใจเดินเหมือนเมินเฉย
เสียเวลาปลอบร่ำพร่ำภิเปรย
แล้วก็เลยจากกันนิรันดร์กาล

ผู้ชายใจร้าย

ทิพย์โนราห์ พันดาว


ทำไมหนอผู้ชายใจร้ายนัก
ยามหมดรักเรรวนก็ด่วนหนี
เหลือเพียงความช้ำใจให้นารี
ล้านวจีด่ำดื่มกลับลืมคำ
ดั่งนิทานโบราณมีนารีเอ๋ย
พระอภัยเอยหลอกนางยักษ์ปักถลำ
เพียงไม่งามรูปชั่วตัวด่างดำ
ไม่นึกนำเคยอยู่ร่วมคู่เคียง
เคยครองคู่ร่วมใจที่ในถ้ำ
คืนเดือนร่ำดาวระยิบกระซิบเสียง
เคยโอบกอดประคององค์ลงนอนเคียง
ชื่นสำเนียงเรไรร่ำฉ่ำฤดี
ใยพิฆาตยักษีด้วยปี่แก้ว
ซึ้งทรวงแล้วพระอภัยฤทัยพี่
หรือนางยักษ์ไม่งามเด่นเช่นนารี
คุณความดีมีให้...ไฉนลืม

“ตะวันลับฟ้า”

สุนันยา.


“ตะวันลับฟ้า”
*****
สุรีย์ใกล้ ลับลง ตรงขอบ(ภู)เขา
วิหคเฝ้า โบยบิน คืนถิ่นฐาน
ไผ่เสียดก่อ พลิ้วไหว อยู่ใกล้ธาร
เย็นลมผ่าน รวยรื่น ฉ่ำชื่นจินต์
*****
เสียงหรีดหริ่ง เรไร ทักทายทั่ว
ยามฟ้าหลัว ตะวันคล้อย ลอยลับถิ่น
ดั่งบทเพลง กล่อมสรวง ห้วงเมฆินทร์
เคล้าเสียงริน หลั่งไหล สายธารา
*****
เมื่อแสงสูรย์ ลับลา จากฟ้ากว้าง
ดาวระยิบ พราวพร่าง กลางเวหา
ดาระดาษ สาดส่อง ท้องนภา
แทนแสงจันทร์ ที่ลา คราข้างแรม
*****
ได้แต่คิด ครวญคำ ลำนำเศร้า
ความเงียบเหงา ทับถม ระทมแต้ม
ถึงคู่เย้า เคยหยอก บอกรักแซม
ประคองแก้ม เชยชิด จูมพิศปราง
*****
สัญญาใจ ฝากฝัน จะมั่นรัก
ไม่เหหัก ห่างหาย ให้หม่นหมาง
แต่..บัดนี้ ไฉน ไกลเลือนราง
ลืมรักที่ เคยสร้าง เส้นทางใจ
*****
โอ้..รักเอย เปลี่ยนผัน ไม่หันกลับ
ตะวันลับ ยังคืนมา ชื่นฟ้าใส
คนเคยรัก ปักทรวง ห้วงหทัย
กลับไม่เหลือ เยื่อใย มอบให้กัน....
*****
“สุนันยา”

ผลตอบแทนความไว้ใจคือ...โดนหักหลัง

ผู้หญิงสีน้ำตาล


ก็ไม่รู้ว่าผิดตรงไหน
เธอจึงทิ้งไปอย่างไร้เหตุผล
ความผูกพันเธอลืมง่ายดายฃะจน
ไม่คิดว่าเป็นคนเคยรักกัน
หรือเพราะความห่างไกลของเรา
จึงทำให้เกิดเงาของเขาแทนฉัน
ไม่คิดว่าความไว้ใจจะทำลายความผูกพัน
ไม่คิดว่าเธอนั้นจะหักหลังกันเอง

เขาและฉัน

อัลมิตรา


1.
ถอดหัวใจใส่กลอนอักษรสื่อ
ขอเลื่องลืออีกหนกลอักษร
ด้วยซาบซึ้งหนึ่งชายใจอาวรณ์
อยากสะท้อนความรู้สึกลึกภายใน
2.
เขาชื่อเรียงเสียงใดฉันไม่รู้
อีกที่อยู่หลักแหล่งแห่งหนไหน
เป็นผู้ดีหรือตกยากลำบากใด
เคยสงสัยเหมือนกันในวันวาน
3.
ด้วยเนิ่นนานการสนิทดุจมิตรแท้
ฉันก็แค่เลิกสงสัยไม่ฟุ้งซ่าน
ไม่คิดสืบเสาะหาสถานการณ์
หลายปีผ่านวางใจในไมตรี
4.
เคยมีบ้างปวดร้าวคราวห่างเหิน
ถ้อยดำเนินเป็นกลอนย้อนสักขี
แอบเหงาหงอยน้อยใจในบางที
ไดอารี่ลายพร้อยรอยน้ำตา
5.
ในตอนนั้นฉันเศร้าคล้ายเขาทิ้ง
ซ้ำโลกจริงโรคร้ายลอบกรายหา
ที่เจ็บป่วยเจียนตายวายชีวา
เจ็บน้อยกว่าตรงนี้ที่หัวใจ
6.
ผ่านเหตุการณ์วันนั้นฉันฉุกคิด
ฤๅ คนผิดเป็นฉันที่หวั่นไหว
มิตรภาพตราบสิ้นฟ้าแม้นคราใด
สำนึกได้แต่บางครั้งจิตลังเล
7.
ตนเองที่พลาดพลั้งมิยั้งคิด
กลับโยนผิดโทษเขาว่าเจ้าเล่ห์
แถมกริ้วโกรธก่อกวนป่วนเกเร
แสนสนเท่ห์แปลกใจไยฉันทำ
8.
คิดเป็นเพื่อนผู้เดียวที่เกี่ยวข้อง
โลกทั้งผองเทียบค่ากะลาคว่ำ
ถ้อยที่เขาเรียงร้อยเป็นรอยคำ
แอบเพ้อพร่ำซาบซึ้งตรึงอุรา
9.
แต่โลกใช่เทียบค่ากะลาคว่ำ
วรรณกรรมสูงเกินประเมินค่า
เขาเชี่ยวชาญสุนทรีเลิศลีลา
เทียบศักดากวีเอกเสกสุนทร
10.
ยามเขาจรดบทกานท์ ณ ลานกวี
ช่างมากมีมิตรสหายสายสมร
ซึ่งบางคนสนใจกว่านัยกลอน
เฉกละครฉันเห็นความเป็นไป
11.
เขายังคงเป็นเขาเทียบเท่าเดิม
ฉันกลับเพิ่มความรู้สึกนึกคิดใหม่
หากยึดมั่นฉันท์เพื่อน

น้ำตาแกล้มเหล้า

ขุนพ่ายสุรา


ยิ้มรับโสด กับน้ำตา ผสมเหล้า
มันช่างเข้า กลมกล่อม หอมหวาน
รินใส่ปาก ฝากน้ำใจ ให้วันวาน
ที่เนิ่นนาน ต้องล้ม เพราะลมคน
ฉลองความโสด อย่างชื่นสม
นั่งภิรมย์กับรสเหล้า อย่างสับสน
เพราะภาพเก่ามันเศร้า เข้าเยือนยล
จนตาจน โทรมร่าง ทรมาร
ฝืนหัวเราะ ยิ้มเย้ย เลย ร้องไห้
ถามหัวใจ ไยเศร้า ไม่อาจหาญ
ทั้งที่รู้ ว่ารักนี้ ที่ทรมาร
ยังอาจหาญ ไปเลยเส้น เป็นรักกัน
รักด้านมืด ในมุมอับ จับต้องยาก
เพียงรักฝาก เพียงลม มาห่มฝัน
เพียงชั่วครู่ ชั่วครั้ง ที่รักกัน
ไม่มีวัน จะชื่น ได้รื่นรมย์
นำน้ำเหล้า เคล้าน้ำตา มาไล่รัก
ที่โซมนัก เพราะไข้ใจ ให้ขื่นขม
รักเอ่ย  จงถอนพิษเจ้าไปให้นานนม
ฝากรักขม กับน้ำเหล้า เคล้าน้ำใจ
ฯขุนพ่ายสุรา

ดาวก็หม่น คนก็เมา ..เหล้าเกือบหมด

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


.. ดาวหม่น คนเริ่มเมา เหล้ายังมี
ณ คืนนี้ถ้าไม่เมาเราไม่หยุด
เหตุด้วยเรื่องเปลืองใจคิด ..จิตมนุษย์
ที่มันสุดลึกล้ำเหลือรำพัน
เธอรักเขา เขาไม่รักหนักอกเธอ
เมื่อรักเก้อเพ้อพกตกสวรรค์
เศร้าแสนเศร้าเพียงแค่ไหน รู้ใจกัน
เธอกับฉันมันเพื่อนเก่า ฉันเข้าใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าเกือบหมด
รินเหล้ารดราดดวงแดแก้หมองไหม้
..จะคอยรับซับน้ำตาทุกคราไป
แม้ที่เธออยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่ฉัน
คำเตือน : สุราไม่ใช่ยาแก้อกหัก เด็กและเยาวชน ควรพิจารณาในการอ่านกลอนขี้เมาแต่ง.. หุ หุ

เสียงพิณ

Prayad


เสียงพิณแผ่วแว่วผ่านกังวานล้ำ
คลอหมอลำพร่ำมาอุราหวิว
ว่าโอ้หนอคืนนี้ฤดีปลิว
ใจลอยลิ่วล่องหนถึงคนดี
ดอกอะไรไหนเรียมเทียมดอกรัก
ขอสมัครร่วมตายอย่าหน่ายหนี
อ้ายบ้านไกลใฝ่หายอดนารี
ฝ่าราตรีถึงบ้านจงขานคำ
พิณก็เร่งเปล่งคำลำต่อว่า
แม่น้องหล่าเอวกลมเจ้าคมขำ
อ้ายขี้เหล่เป๋ขาซ้ำหน้าดำ
บ่เว้านำเลยหนออ้ายขอลา
เสียงพิณผ่านหวานแว่วแผ่วๆลับ
น้ำหมอกซับพรมดินถวิลหา
พิณสายสองหมองหม่นปนน้ำตา
คลอช้าๆครวญคร่ำลำโศกตรม
โอ้ หนอกรรมค่ำคืนสะอื้นไห้
ถึงรักใคร่คงเพียงชู้มิคู่สม
ช่างอาภัพอับชาติจึงชวดชม
ลำฝากลมอ่อนๆค่อนราตรี
ถึงเถียงนากลางทุ่งมุงหญ้าแพรก
ดอกตะแบกร่วงคลุมมุมม่วงสี
นั่งเหม่อมองข้างซุ้มกลุ้มฤดี
ดีดอีกทีพิณพาทย์...ให้ขาดใจ
(พฤศจิกายน ๒๕๒๘)
Pin Tone;
A sweet sound
of Pin was slightly heard;
Mor Lum was also excitedly humming.
“Oh…tonight is so romantic, and my mind is now flown to meet her.
What kind of flower on earth is equal to Dok Rak, the love flower;
So I would like to be yours until my death, don’t be afraid.
Though my home is far away, but my mind is trying to find and reach you tonight. 
Please reply. 
Rousing Pin tone and singing of Mor Lum were performed with scorning;
You are so a beautiful girl with a slender contour.
But, my face is ugly dark, and my legs are disabling. You have no a

อาภัพรัก

แป้งฝุ่น


เธอไม่รัก             ปักจิต               ไม่คิดโกรธ
ฉันขอโทษ               ตัวเธอ               ทนเศร้าฝืน
แม้จะเจ็บ                เท่าไหร่            ทั้งเฝ้ายืน
ยังทนฝืน                 ยิ้มให้เธอ          เจอทุกวัน
แม้เธอจะ                ไม่รัก                 สักเท่าไหร่
ขอเพียงให้              ได้พบ                มิหลบหนี
ว่าฉันนี้                   ยังรักเธอ           เสมอมา
(    ^ _ ^   )

ลึกๆ ยังรอเธออยู่

ต้น


...แล้ววันหนึ่งเธอก็ทิ้งกันไป
ปล่อยให้อยู่เดียวดายอย่างทุกวันนี้
ไม่เคยสงสารกันบ้างเลยคนที่เคยดี
จนป่านนี้ยังไม่เคยคิดห่วงใย..
...ไม่มีแม้คำร่ำลา
นับแต่วันที่เธอเดินห่างหาย
ไม่มีแม้ความเอื้ออาทรในหัวใจ
ทั้งๆที่เคยบอกกันว่าห่วงใยแล้วทำไมไม่เคยคิดจะกลับมา
..(คืนดีกัน)..