กลอนเสียดสี

บอกแล้วไง..ไม่เป็นไร..สักหน่อย

มวลภมร


o ไม่เป็นไร สักหน่อย เรื่องแค่นี้
ก็แค่อยู่ ดีดี เธอหนีหาย
ไม่เป็นไร ไม่มี แแผลทางกาย
พักสักหน่อย ค่อยหาย อย่าเอ็นดู
o ไม่เป็นไร สักหน่อย ไม่เป็นไร
เจ็บเจียนตาย ก็ยัง หายใจอยู่
ไม่เป็นไร หรอกนะ จงรับรู้
ก็ยังหาย ใจอยู่ ยังไม่ตาย
o ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร จริงจริงจ๊ะ
ก็เจ็บนะ แต่ว่า ยังทนไหว
คำสามคำ จำไว้ ไม่เป็นไร
ไม่ต้องการ ให้ใคร เวทนา
o ไม่เป็นไร บอกว่าไม่ เป็นไรเล่า
ก็ใจเรา ยังอยู่ กับเราหนา
แค่ใจเจ็บ ช้ำหน่อย ธรรมดา
พลาสเตอร์ยา ปิดไว้ ก็หายเอง
o ไม่เป็นไร จริงจริง เชื่อบ้างสิ
แค่ตำหนิ ในใจ ไงคนเก่ง
ไม่เป็นไร มั่นใจ ใจนักเลง
มันเจ็บเอง ก็หายเอง “ไม่เป็นไร”
.....19/11/12....

โง่เขลา

น้ำแข็งไส


ไม่ได้โกรธที่เธอไม่จริงจัง
แต่โกรธเธอที่คิด..ฉันโง่เขลา
พูดอะไรเชื่อฟัง..ดูงี่เง่า
หูเบาเชื่อคำเธอหลอกลวง
เธอก็โกหกตอแหลไปวันๆ
บอกว่ารักฉันอย่างงั้น อย่างงี้
ดอกทองเกินหน้าเกินตา..พ่อตัวดี
กำลังโกรธแบบนี้..ต้องตบด้วยส้นตรีน!

โอ้แม่เสี้ยวดอกขาว

อาบูไซยาบ


โอ้แม่เสี้ยว ดอกขาว เจ้าพลัดถิ่น
นิวาสยัง แดนดิน ถวิลหา
ผลิดอกขาว พราวเพลิด เพลินพริ้มตา
ยั่วยวนให้ สกุณา ชิดชื่นชม
เจ้ายิ่งชู ดอกเด่น เป็นสง่า
อุราข้า ก็ยิ่งช้ำ ระกำขม
มิอาจเอื้อม แตะต้อง และดอมดม
ทุกระทม กี่ชาติจึง มิคลาดกัน... javascript:nicTemp();

หน้าสวยแต่เท้าเหม็น

burst


เธอคือสโนไวท์ของฉัน
รอยล้านความสวยนั้นรวมอยู่นี่
เธอรวมทุกความงามที่โลกมี
มากระจุกรวมอยู่ที่หน้าของเธอ
ฉันก็คนธรรมดา
มีหรือจะไม่มานั่งเพ้อ
แค่แว่บเดียวที่เหลียวมาเจอ
ก็เล่นเอาฉันเหม่อไปหลายวัน
อย่างเธอเรียกสวยสะท้าน
ใครเห็นเป็นลนลานนั่งฝัน
อยากจะอยู่ใกล้เธอซักวัน
ใครกันหนอใครกันได้โชคดี
เธอคือนางฟ้าลอยเด่น
แหงนหน้ามองเห็นอยู่ตรงนี้
ยังไม่มีใครได้ไมตรี
ฉันจึงถือโอกาสนี้รีบไปจอง
สวัสดีครับผมทักทาย
เธอทำเอียงอายปัดป้อง
ไม่รอช้าผมรีบประคอง
อย่าอายเลยน้องหันหน้ามา
แว่บเดียวที่อยู่ใกล้เธอ
ฉันจึงได้เจอคำตอบว่า
ทำไมใครใครไม่กล้ามา
เพิ่งจะรู้ความจริงว่าเป็นยังไง
หน้าสวยสวยน้องเจ้า....แต่เท้าเหม็น
ไม่นึกหนอว่าจะเป็นไปได้
ร้อยล้านกลิ่นเหม็นเหมือนเป็นใจ
มากระจุกอยู่นี่ไงที่เท้าเธอ
ตั้งแต่นั้นคบคนอย่าดูหน้า
อาจเสียท่าเป็นบ้านั่งเหม่อ
เจ้าประคู้นนน....ชาตินี้อย่าได้เจอ
เห็นสวยสวยแต่เท้าเธอเหม็นบรรลัย
อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงครับ เจอเธอที่ร้านเสริมสวย
ตอนนั่งรอเห็นสวยมาก พอถอดรองเท้านั่งเก้าอี้เสริมสวย
โอ้วว.....พระเจ้า เรียกเทศบาลมาที

“ไม่รบนายไม่หายจน”

คอนพูทน


๏ ผ่านมาสิบกว่าวัน          เกินซึ้งนั่นความปรานี
ประเคนชาวประชาชี          รุนแรงเชือดกรีดเลือดเฉือน
 
๏ บอกรัฐยางพารา           ว่าเดือดร้อนทุกครัวเรือน
กลับมองชาวบ้านเหมือน    ไร้ความหมายแสร้งทำเมิน
 
๏ เรียกพวกจึงรวมพล        ปากท้องดลพากันเดิน
ป่าเขาทุกโขดเขิน            ออกมาขานเรื่องราคา
 
๏ อุ้มหน่อยโปรดช่วยหนอ   เพียงเสี้ยวหนึ่งของชาวนา
ขอหมูกลับให้หมา            สักนิดไหม? จริงใจมี
 
ทุกข์ยิ่ง..ชาวสวนยาง
๏ ทุกข์ยิ่งชาวสวนยาง       เพียงคิดต่างเขาทุบตี
หนึ่งทีเป็นหลายที            เมื่อเกินทนอาจมีทอน
 
๏ คนใต้หัวใจเต็ม             ยิ่งมาเติมยากขาดตอน
พันเหลี่ยมรัฐบาลหลอน      แหกตาหลอกคอยแต่แหล
 
๏ ปิดถนนเขาจัดหนัก        บ้างถูกกักขังรังแก
เปิดแผลหลายร้อยแผล      คอยดูผลไม่นานเพียง
 
๏ ราชประสงค์คนปิดสุข      ไกลห่างคุกอำมาตย์เคียง
คือสองมาตรฐานเสียง        คนแช่งสาปพร้อมความทราม
 
๏ เลือดหยดบนสวนยาง     คนไร้ยางแล้วถึงยาม
รอเธอตอบคำถาม            กลับหนีเที่ยวหลีกไกลสถาน
 
๏ เมืองไหน? เอาควายนำ   เวรของกรรมบูรณาการ
ต้นน้ำกลางน้ำผลาญ         ปลายน้ำผีอีแพงโกง
ร่อนเพลินภาษีผลาญ         ก่อนชาติพัง “ยิก”เถิดผอง ๚ะ๛
                                      คอนพูทน

เลือกไปก็เท่านั้น

วิทย์ ศิริ


เลือกไปก็เท่านั้น
คนหน้าเดิมมันบงการ
วางแผนตราบเท่านาน
มีสายป่านอันยาวไกล
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่ว่าฉันหรือใครใคร
ได้พวกหน้าเดิมไง
ทั้งเสือกไสทั้งมาเอง
เลือกไปก็เท่านั้น
บทเรียนเก่ามันครื้นเครง
กินกันไม่ยำเกรง
ช่างข่มเหงน้ำใจกัน
เลือกไปก็เท่านั้น
รู้ทันมันสู้อดกลั้น
ก่อกรรมอย่างล่ำสัน
หวังโทษทัณฑ์สักวันเยือน
เลือกไปก็เท่านั้น
วาดสวรรค์ฝันสะเทือน
ตื่นมาต้องย้ำเตือน
ระอาเอือมเบือนหน้าหนี
เลือกไปก็เท่านั้น
ใครเพื่อนกันมันบายศรี
ใครศัตรูสู้ราวี
หาคนดีจากที่ใด
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่หมดยุคทุกข์แบบไทย
การเมืองแบบสาไถย
ไร้จริงใจใครศรัทธา
เลือกไปก็เท่านั้น
อย่าหุนหันมันอุตส่าห์
กับดักเลือกเฟ้นมา
หมายสวา-ปามทั้งเมือง

เสือเหลือง

ม้าก้านกล้วย


วัดใหม่ ท้ายนา เวลาเช้า
ธรรมลำเนา ก้องดัง วังเวงแว่ว
สังฆ์การี น้อมนำ ทำตามแนว
แห่งดวงแก้ว ไตรรัตน์ ขจัดมาร
อุปถาก จนยาก ตามประสา
แม้นบุญ หนุนพา มหาศาล
ขอกุศล ที่สั่งสม มาช้านาน
ขออาจารย์ งวดนี้ ได้ทีรวย
สมภาร เอ่ยว่า ถ้าหวังนัก
ก็จักใบ้ เลขให้ เอาใจช่วย
เด่นสอง ขึ้นหน้า ถ้าไม่ซวย
คงได้รวย ตามเผดียง เพียงลำพัง
ข่าวโด่ง ข่าวดัง ยั้งไม่อยู่
พระครู องค์ นี้ มีมนต์ขลัง
รถบัส รถเบนช์ เซ่นกันจัง
โต๊ะตั้ง ปัจจัยสังฆ์ มลั่งมเลือง
วัดใหม่ ท้ายนา เวลา นี้
พุงอ้วนพี หลามเหลือ เป็นเสือเหลือง
เจ้ากูลอย เหลิงฟ้า ทำท่าเฟื่อง
จุฬาเหลือง ร่อนเวหา ถลาลม
ธรรมมะ ทำเมา ไม่เอาแล้ว
สีกา สีแก้ว เป็นแถวถม
ปัจจัย ปัดแจกลาม ตามอารมณ์
ติดตม ติดอบาย ไม่หน่ายเลย
บิณฑบาต ข้าวชาวบ้าน นั้นไม่สน
เขาเปรอ เขาปรน บนเขนย
ขาหมู ขาสมัน นั้นเสบย
บุญเกย บาปไกล ได้เพราะกู
แล้ววัดใหม่ ก็กลาย เปล่งปลั่งเปรื่อง
บูชาเช่า พระเครื่องค้ำ ประคำคู่
ธรรมะ อยู่ที่ไหน ไม่เคยรู้
สงบอยู่ อย่างไร ทำไม่เป็น
---(ม้าก้านกล้วย)---

โอ้ชาวบ้าน

โอ้ละหนอ


โอ้ชาวบ้านโอ้ชาวบ้านโอ้ชาวบ้าน
น่ารำคาญชอบกล่าวขานเรื่องคนอื่น
ชอบสอดรู้และสอดเห็นทุกวันคืน
บ้านคนอื่นล่ะชอบแส่แหย่เข้าไป
อยากหนีไปอยู่ป่าเหมือนดาบส
ต้องมาอดทนชาวบ้านชอบขานไข
ทำปากยื่นปากยาวสาวเข้าไป
แส่ทุกเรื่องเสียได้ให้ระอา
ฉันจะกินจะเดินขี้ปี้หรือนอน
จะพักผ่อนจะสรวลเสหรือเฮฮา
จะกระดิกหันซ้ายหรือหันขวา
เอาเป็นว่าเพื่อนต้องมาสอดรู้เห็น
ปิดประตูหน้าต่างก็ยังสอด
ชอบมาดอดสอดส่ายสายตาเห็น
ไม่สบตาก็พยายามถามให้เป็น
โอ้ลำเค็ญคับแค้นใจให้เบื่อจัง
ทำยังไงดีหนอก้อมันเซ็ง
ต้องคอยเกร็งปวดกบาลพาลปวดหลัง
เบื่อจังเลยที่ต้องมาคอยระวัง
พวกชาวบ้านที่มานั่งหวังสอดรู้
ฉันมันคนสันโดษและเดียวดาย
บอกไม่อายฉันรำคาญเพื่อนบ้านอยู่
อย่ามาทำสอดส่ายไม่น่าดู
ปล่อยฉันอยู่อย่ามาสอใส่เกือกเลย

* อธิปไตยไร้เสรีภาพ *

แก้วประเสริฐ


* อธิปไตยไร้เสรีภาพ *
อยุติธรรมนำหน้าเสรีภาพ
เหม็นโฉ่ฉาบตุลาการผ่านรักษา
สร้างความดีได้ชั่วมั่วทุกครา
ยากจะหายุติธรรมนำปกครอง
สิ้นนับถืออันธพาลผ่านครานี้
ไร้ศักดิ์ศรีความชั่วกลั้วเกิดสนอง
ฝากความหวังครั้งใดคล้ายละออง
สร้างหม่นหมองแบ่งชั้นกลั้นน้ำตา
ประชาธิปไตยไหนใคร่มองเห็น
ทุกประเด็นสร้างไว้ไร้สิ่งหา
อันความหวังผ่านไปไร้ราคา
สิ้นศรัทธาเหลือทนของคนดี
ความโป้ปดมดเท็จดั่งเห็ดสล้าง
งามกระจ่างดังเดือนเหมือนสุรสีย์
แผ่กระจายทั่วไทยกระจายมี
มองทุกที่ประหลาดดารดาษตา
คนทำดีเหมือนได้คล้ายสิ่งชั่ว
ถูกเขามั่วเหลือเกินเมินรักษา
เกลื่อนไปด้วยหมู่มารผ่านอหังกา
อดทนฝ่าเพื่อหวังสร้างธิปไตย
เสรีภาพฉาบไว้คล้ายน้ำตาล
แต่ไม่หวานคนชั่วมั่วหวั่นไหว
ทุกวันนี้เขย่าบ้านผ่านแกว่งไกว
ยากหวังได้อิสระมาครอบครอง
ล้วนแต่พวกมารเหล่าเฝ้าครอบงำ
สร้างสิ่งช้ำทำลายให้มาสนอง
เฝ้าปั่นหัวพวกไว้ให้คึกคนอง
ต่างยกย่องเป็นพ่อแม่แท้จริง
ประชาธิปไตยอิสระชนปนอนาถ
แค่ภาพวาดให้งามหยามทุกสิ่ง
ประหลาดหนอเมืองไทยไร้ที่อิง
มีพวกปลิงเสรีภาพฉาบล่อลวง.
*  แก้วประเสริฐ. *

หมาเห่าใบตองแห้ง

กันนาเทวี


หมาเห่าใบตองแห้ง
อาทิตย์อัสดงลงเหลื่ยมเขา
เสียงหมาเห่ากลางลานม่านไม้ไหว
แกรกแกรกแกรกแหวกหาว่าอะไร
.สัญชาตญานสั่งให้ไล่ล่าตาม
ก็แค่เห่าใบตองจ้องจ้องขู่
ที่รู้รู้ใครใครไม่เกรงขาม
ที่ป่าวร้องเสียงแหบหลายโมงยาม
เขาประณามหมาเห่าเขารำคาญ
เห่าประกาศศักดาบ้าอำนาจ
นี่แหละชาติสันดานเดรัจฉาน
หวงลาภยศหวงของเขตภิบาล
ใครอาจหาญบุกมาข้าเอาตาย
ต่างระแวงเกรงกริ่งชิงแข่งขัน
เข้าประจัญรุกรบจนเสียหาย
จิตอิจฉาจึงกล้าและท้าทาย
ลืมความหมายชีวิตลืมคิดตรอง
หมาเห่าใบตองแห้ง เป็นสำนวนที่เปรียบเทียบกับสุนัขที่ชอบเห่าใบตองแห้ง คือเห่าใบกล้วยที่แห้งติดอยู่กับต้น เวลาลมพัดใบกล้วยแห้งจะแกว่งหรือเสียดสีกัน มีเสียงแกรกกราก สุนัขเห็นอะไรไหว ๆ หรือได้ยินเสียงแกรกกรากก็จะเห่าขึ้น แต่ก็เห่าไปอย่างนั้นเอง ไม่กล้าไปกัดใบตองแห้ง
กิริยาของสุนัขนี้จึงนำมาเปรียบกับคนที่ชอบพูดจาเอะอะในลักษณะที่อวดตัวว่าเก่งกล้า แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้กล้าสมกับคำพูด
แต่ปกติถ้าเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกมาก่อนนะ เช่นสุนัขตำรวจ หมานายพรานมักใช้จมูกได้ไว และแม่นมาก ถ้าเห่าแล้วก็แสดงว่าเจองู แย้ กระต่าย หรืออะไรสักอย่างแน่ๆ แล้วแต่สายพันธุ์

ดีเกินไป!!!!!!!!!!!!

zonkung


คำถามโง่-โง่ของชายคนหนึ่ง
กับคำตอบซึ้ง-ซึ้งของหญิงไม่จริงใจ
กับคำว่ารักที่ลวงหลอกไว้
กับคำว่าไปทั้งที่บอกรักกัน
บอกฉันให้ลืมฝันครั้งนี้
ส่วนเธอไปมีวันใหม่กับคนนั้น
ทิ้งขออ้างเดิม-เดิมที่เธอเคยใช้มัน
กับคำพูดสั้น-สั้นว่าฉันดีเกินไป
ขอบคุณสำหรับคำชม
แต่ฉันคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่
ฉันเองก็ไม่ได้ดีมากมายอะไร
คงเลวพอใช้ได้กับหญิงมากชายอย่างเธอ

เขาคือทหาร

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


แต่งเครื่องแบบเต็มยศไม่ปดพูด
บ่ามีดาวครอบมงกุฎช่างโก้หรู
ออกทีวียืนยันมือชั้นครู
ให้คนรู้ไม่เป็นเครื่องมือใคร
 
จะทำงานตามคำสั่งรัฐบาล
ฤๅแล้วมากองทหารเขาสั่งได้
กระชับพื้นที่ก็ทำได้โดยเร็วไว
ทั้งศึกเสือเหนือใต้ตามต้องการ
 
ข้าเห็นแล้วเชื่อแล้วว่าผ่านศึก
ดูท่าทางหาญฮึกเหมือนทหาร
ประชาชนเห็นแล้วศึกที่ผ่าน
ศัตรูคือชาวบ้านตายเป็นเบือ
 
ตายเมษาห้าสองมิใช่น้อย
พฤษภาตายทะยอยไม่น่าเชื่อ
ศึกครั้งนี้ตีไล่ได้เนื้อเนื้อ
เก้าสิบสองไม่เหลือเลือดท่วมนอง
 
ใช้อาวุธทันสมัยยิงยอดตึก
พร้อมชี้เป้าเขาฝึกเป็นคู่สอง
บอกล้มแล้วล้มแล้วคงนอนกอง
ได้ผ่านศึกคึกคะนองบนรางรถ
 
ยิงลงไปในวัดถนัดแน่
ไม่เลือกสาวเลือกแก่เอาให้หมด
พวกเดินตามรถถังไม่ยั้งลด
สาดกระสุนราวกับโกรธมาร้อยปี
 
มีเวรกรรมตามทันเกินหันหลบ
ยิงลูกแตกกระทบสายไฟร้อนฉี่
กระดอนกลับมาระเบิดพาเปิดหนี
นายตัวดีพร้อมลูกน้องม่องเท่งทึง
 
ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยเห็น
ไปสู้ศึกจำเป็นแม้เพียงหนึ่ง
เห็นแต่ลากอาวุธรุดมาถึง
ยึดอำนาจปราศคำนึงถึงปวงชน
 
ออกมาไล่ยิงคนแล้วกี่ครั้ง
หากหยุดยั้งเมืองไทยได้กุศล
เป็นตัวอย่างลูกหลานอนุชน
สวมเครื่องแบบทุกคนเป็นคนดี
 
งบประมาณซื้ออาวุธไม่ต้องใช้
โอนไปให้ฟื้นฟูได้ทุกที่
พัฒนาหลังน้ำท่วมประจำปี
ประชาชีเป็นสุขทุกครัวเรือน

สัตว์สภา

ตราชู


สัตว์สภา
กลอนกลบท ฉัตรสามชั้น
สัตว์หน้าเปื้อนเกลื่อนสภา เปื้อนหน้าสัตว์
เสียงส่ำซัดชัดคำซัดส่ำเสียง
เรียงรายนั่งพรั่งหลายนั่งรายเรียง
อึงถ้อยเถียงเยี่ยงถ่อยเถียงถ้อยอึง
โลดลอยเริงเหลิงพลอยเริงลอยโลด
ขึ้งเกลียดโกรธโคตรเสนียดโกรธเกลียดขึ้ง
รึงรุมพิษผิดสุมพิษรุมรึง
วนเวียนทึ้งทะลึ่งเพี้ยนทึ้งเวียนวน
ทุกข์คนปรี่มีล้นปรี่คนทุกข์
ข้นแค้นขุกกระอุกแน่นขุกแค้นข้น
ชลชุ่มโชกโศกสุมโชกชุ่มชล
มัวหมองหม่นทนครองหม่นหมองมัว
สัตว์ผองไยใคร่ผยอง ไยผองสัตว์
มั่วแว้งกัดขัดแย้งกัดแว้งมั่ว
ตัวพ้นผิดบิดยุบลผิดพ้นตัว
ฮาเฮชั่วโฉเกชั่วเฮฮา
เน้นแดกย้ำขย้ำแหลกย้ำแดกเน้น
พร่าผลาญเผ่นเล่นร่านเผ่นผลาญพร่า
พาพวกฉลปล้นสะดวกฉลพวกพา
มันฆ่ายากอยากจะบ้า ยากฆ่ามัน
(ร่างเดิม ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ แก้ไขครั้งล่าสุด ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ครับผม)
หมายเหตุ:
๑.กลบท “ฉัตรสามชั้น” มีปรากฏอยู่ทั้งในวรรณคดีไทยเรื่อง สิริวิบูลกิตติ์ นิพนธ์โดยท่านหลวงศรีปรีชา (เส้ง) และประชุมจารึกวัดพระเชตุพน น่าสังเกตตรงที่ รูปลักษณ์ของกลนี้ เหมือนกับกลอักษรชื่อ “ม้าลำพอง” (ดังที่กลบท “ม้าเทียมรถ” มีรูปแบบเหมือนกลอักษร “เมขลาโยนแก้ว”  กระนั้น) ผมศึกษากลดังกล่าว จากหนังสือกวีนิพนธ์ รอยทราย ของท่านอาจารย์วันเนาว์ ยูเด็น แหละหนังสือกฎบนกลบท ของท่านอาจารย์คมทวน คันธนู ครับ
๒.ยินข่าวนักการเมืองทะเลาะกันในสภาขณะประชาชนส่วนมากเดือดร้อนแล้ว ผมทนไม่ไหวจริง

เหม็นขี้หน้า

cicada


เหม็นกลิ่นดอกหลอกลวง..เจ้าพวงเหม็น
กลิ่นเยือกเย็นจนหนาว..เจ้าชาเฉย
เจ้าโรยกลิ่นโชยกรุ่นอย่างคุ้นเคย
คล้ายจะเย้ยมวลหมู่ ผู้ดมดอม
 
เหม็นกลิ่นดอกรักเร่เจ้าเหหัน
รักผกผันหลายใจ..ไม่ถนอม
ผลิกิ่งก้านกลิ้งกลอกหนอดอกพยอม
ยามเขาพร้อม เจ้าผละ..ละจากไป
 
เหม็นกลิ่นดอกคำสร้อย..คนร้อยเล่ห์
พร่ำถ่ายเท..ยากนัก จักฝันใฝ่
เจ้าหว่านเมล็ดผลิกอแตกหน่อใจ
แล้วผลักไสคืนคำ..ลำนำลวง
 
เหม็นซะจัง น้ำใจ..ใครช่างเหม็น
เปิดประเด็นนุ่มนวล..ชวนห่วงหวง
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อนฉะอ้อนทรวง
ปลายกลับร่วงโรยรา..เหม็นหน้าจัง !!

เธอ..หลายใจ..

ตฤณ


เห็นชัดๆจับปลาสิบมือ
แต่เธอก็ยังด้านดื้อไปเรื่อยๆ
ให้ความห่วงใยกับใครอย่างฟุ่มเฟือย
ขอโทษ ต้มไม่ทันเปื่อยฉันรู้ทัน
หวานอย่างนี้สาวชอบนัก
แต่ฉันที่คือคนรักใจชักสั่น
ทนได้นานแค่ไหน ไม่รับประกัน
ที่รู้ๆว่าสักวัน ฉันสู้ตาย
ถ้าหยุดซะก่อนวันนี้
บางทีความรักดีๆอาจไม่โหดร้าย
จะเลือกเอาใครข้างทางที่มีมากมาย
หรือเลือกเลิกสันดานเสียดาย...แล้วได้ฉันคนเดียว...

สังคมก้มหน้า

กุ้งหนามแดง


ไม่สนคนอยู่ตรงหน้า
ไขว่คว้าคนไกลไร้เสียง
โต้ตอบถ้อยคำลำเลียง
จ้องเพียงในกรอบชอบจริง
หลงใหลได้ปลื้มลืมกิจ
เสพติดมาร์ทโฟนโดนสิง
ตื่นมายันง่วงท้วงติง
หงุงหงิงรีรองอแง
เป็นโลกส่วนตัวหัวใหม่
ตามไล่ฝันเลี้ยงเหวี่ยงแห
โลกจริงละเลยเหลียวแล
ตอแยแค่จ่ายรายเดือน
ขอเธอจำแนกแยกแยะ
โลกและสังคมเสมือน
ต่างเห็นคุณค่ามาเยือน
ลืมเลือนเกลื่อนกลบ.ทบทวน
..

โทษฉัน..วันเธอ(ประเทศไทย)พ่ายแพ้

จะไม่เด็ด.


ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะเริ่มเกิด
ความเป็นเลิศใช่ว่าอยู่นานโข
ความเป็นไปสภาวะอกาลิโก
ตั้งแต่โบราณมา..ว่าจริงแท้
ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะประสบ
กลการรบเลิศล้ำยังถลำแพ้
ชัยชนะจากคาวเปื้อนสะเทือนแด
ผ่านพ้นแค่..ประวัติศาสตร์..ที่อาจจะเป็น
อย่าร้อนรนทนท้อต่อการแพ้
รู้เพียงแต่...มีศรัทธาอย่าหลบเร้น
รู้สิ่งใดผิดถูกผูกประเด็น
อย่าว่างเว้นศีลธรรม..โปรดยำเกรง
หากที่สุดความหวังเธอพังพ่าย
อย่ามัวไปโทษฟ้าว่าข่มเหง
ขอโทษนั้นตกอยู่ที่ฉันเอง
เพราะมัวบรรเลงเพลงกวี..เสียดสีกัน
...แบบว่า