กลอนเสียดสี

ประชาธิปไตยยายกะหลาน

ศรีสมภพ


ประชาธิปไตยแบบไทยๆ.. ฟังยายเล่า
เป็นเรื่องยาวเก่าก่อนยังอ่อนหัด
สลับร่างนั่งเก้าอี้ มีปฏิวัติ
เข้ากุมรัฐ เหมือนกันหมดประโยชน์ท่าน
หญิงชรา.. ทำหน้าเศร้านั่งเล่าเรื่อง
ถึงการบ้านการเมืองเรื่องพ้นผ่าน
จากจุดเริ่ม ถึงจุดนี้ที่ยาวนาน
มีเหตุการณ์ ผ่านดีร้ายให้ติดตาม
เปลี่ยนระบอบ.. สมบูรณาญาสิทธิราชย์
มีประกาศปฏิวัติคณะราษฎร์สยาม
สู่ระบอบประชาธิปไตยให้งดงาม
เจริญตามอารยประเทศเหตุผลนั้น
๒๔ มิถุนา ๒๔๗๕ ....
ปักต้นกล้าประชาธิปไตยให้ตั้งมั่น
ร่างกฎหมายธรรมนูญหนุนรัฐบาล
เข้าบริหารบ้านเมืองสืบเนื่องมา
ยายได้รู้ได้เห็น..เรื่องหลายหลาก
มีแบ่งพรรค มีแบ่งฝ่ายหลายปัญหา
มีประท้วง มีล้มล้าง ต่างๆนาๆ
เปลี่ยนไปมาเปลี่ยนกันเล่นเช่นละคร
ยามเลือกตั้ง..ก็ยังเห็นอยู่เช่นนั้น
ถ้าเลือกมันจะเจริญมีเงินฟ่อน
พูดจาดี มีโค้งไหว้มือไม้อ่อน
ซ้ำบทตอน ละครเก่าเน่านานมา
๘๐ ปี .. ยายเฝ้าดูจึงรู้เห็น
ทุกสิ่งอย่างก็ยังเป็นเช่นนี้หนา
ก่อนอย่างไรก็อย่างนั้นไม่พัฒนา
เช่นต้นกล้าถูกรากินจนแคระแกร็น
ก่อนจะตายยายจะบอกให้หลานรู้
เพราะต่างตู่ เอามาอ้างอย่างมีแผน
เอาอัตตาประชาธิปไตยมาใส่แทน
ชาติจึงคลอนง่อนแง่นไม่แน่นหนา
หญิงชรา..นัยน์ตาเศร้ายังเล่าเรื่อง
หมุดทองเหลืองพื้นถนนสนามเสือป่า
สัญลักษณ์หมุดหมายชี้..เสรีประชา
นับเวลาอายุยาว.. เท่ากับยาย !
..............................................................................
วันนั้น.

เปิดฟ้า เพื่อปิดฟ้า

"ลุงรอง


เปิดฟ้า...เพื่อปิดฟ้า
นโยบาย  บรรเจิด  รัฐเปิดฟ้า
เปิดการค้า  สู่โลกกว้าง  อย่างอาจหาญ
เปิดสู่ความ  ศิวิไลซ์  ในจักรวาล
เปิดขยาย  กิจการ  ด้านอุตสาหกรรม
มีทุกอย่าง  ทุกสิ่ง  ที่ยิ่งใหญ่
มีปล่องไฟ  ปล่องควัน  วันยังค่ำ
มีค่าเงิน  ฟูเฟื่อง  เมืองชั้นนำ
วัฒนธรรม  นำเข้า  สู่เยาวชน
เกิดสังคม  อมทุกข์  คลุกขี้เถ้า
ไฟกามกร่อน  ร้อนเร่า  เข้าขุมขน
แฟชั่นเปิด  โชว์ร่าง   ทั้งล่างบน
สูบควันพ่น  กลางแสงไฟ  ในราตรี
หมู่ชาวนา  ยังทำนา  ฝ่าแดดฝน
เคยสู้ทน  ก็ยังทน  ทุกท้องที่
กำไรข้าว  ไม่พอกิน  เมื่อสิ้นปี
ยังพอกหนี้  พูนเพิ่ม  เติมทุกวัน
ฟ้าเคยใส  ป่าไม้สวย  ด้วยฝนฉ่ำ
บัดนี้คล้ำ  หม่นมัว  ทั่วเขตขัณฑ์
รองน้ำฝน  ใส่ตุ่มใส  ไว้แบ่งปัน
บัดนี้นั้น  เป็นฝนกรด  หยดหลั่งริน
รัฐเปิดฟ้า  เศรษฐกิจ  มาปิดฟ้า
ปิดผืนหล้า  แผ่ขยาย  ไปทั่วถิ่น
มลภาวะ  เคล้าเมฆมัว  ทั่วแดนดิน
ใครจะดิ้น  ชักตาย  ไปก่อนกัน
นายฐปกรณ์  โสธนะ (ลุงรอง)

ยุบโรงเรียนหนูทำไม ???

ประภัสสุทธ


โรงเรียนของหนูอยู่ไหน
เคยไปทุกวันไม่หาย
วันนี้ไม่เห็นแม้ป้าย
ใจร้ายหนอใครบอกที
 
เขาว่าโรงเรียนหนูเล็ก
เด็กเด็กแค่สามสิบสี่
บอกเหตุสิ้นเปลื้องภาษี
จึงยุบทุบตีโรงเรียน
แล้วหนูจะเรียนที่ไหน
“โรง”ใหม่ทางไกลวนเวียน
ไปช้าไม่ทันอ่านเขียน
“เขา”เปลี่ยนโรงเรียนหนูใหม่

...ตำนานเกินไป...

dark side of mind


...
มีแต่เจ๊ากับเจ๊งเซ็งไม๊เจ๊
เล่นแต่เล่ห์กับเหลี่ยมอันเหี้ยมโหด
คอยปั้นเรื่องปั้นราวมากล่าวโทษ
ปลุกให้โกรธให้เกลียดเบียดเบียนกัน
เก่งทั้งโกงทั้งแก้แต๊แต๊เจ้า
เรื่องพิพาทกลับงี่เง่าโง่เข้าขั้น
เรื่องสอพลอจ้อถวายเป็นรายวัน
เรื่องสร้างสรรค์กลับแบนแสนระกำ
กล่าวถึงใครที่ไหนอย่างไรนี่
จะยุคโน้นยุคนี้มีซ้ำซ้ำ
ใช่จะมาตอกลิ่มคอยทิ่มตำ
แค่ตอกย้ำตำนานนักการเมือง

เลือกไปก็เท่านั้น

วิทย์ ศิริ


เลือกไปก็เท่านั้น
คนหน้าเดิมมันบงการ
วางแผนตราบเท่านาน
มีสายป่านอันยาวไกล
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่ว่าฉันหรือใครใคร
ได้พวกหน้าเดิมไง
ทั้งเสือกไสทั้งมาเอง
เลือกไปก็เท่านั้น
บทเรียนเก่ามันครื้นเครง
กินกันไม่ยำเกรง
ช่างข่มเหงน้ำใจกัน
เลือกไปก็เท่านั้น
รู้ทันมันสู้อดกลั้น
ก่อกรรมอย่างล่ำสัน
หวังโทษทัณฑ์สักวันเยือน
เลือกไปก็เท่านั้น
วาดสวรรค์ฝันสะเทือน
ตื่นมาต้องย้ำเตือน
ระอาเอือมเบือนหน้าหนี
เลือกไปก็เท่านั้น
ใครเพื่อนกันมันบายศรี
ใครศัตรูสู้ราวี
หาคนดีจากที่ใด
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่หมดยุคทุกข์แบบไทย
การเมืองแบบสาไถย
ไร้จริงใจใครศรัทธา
เลือกไปก็เท่านั้น
อย่าหุนหันมันอุตส่าห์
กับดักเลือกเฟ้นมา
หมายสวา-ปามทั้งเมือง

ถึงฤดูกาล ....อีกแล้ว

อิสรชัย รัตน


สวัสดี พี่น้อง ผองมิตร
ทักทายกัน ใกล้ชิด มิตรสหาย
มีโครงการดีเด่นให้มากมาย
เพียงจำไว้ เข้าคูหา กาทันที
โครงการผมทำได้ไร้รอยต่อ
เพียงแม่พ่อ พอใจไม่แหนงหนี
ให้ผมได้รับใช้ เลือกผมที
สิ่งที่ดี จะตามมา หาเร็วพลัน
เลือกผมไป ทำงาน สานต่อเนื่อง
เร่งสร้างเมือง ให้ก้าวหน้า ดั่งพาฝัน
เมืองหลวง ประเทศไทย เติบใหญ่ครัน
ผมมุ่งมั่น ทุ่มเท ทุกเวลาเสียงปี่กลอง
เพลงหาเสียง สำเนียงฉาว
มากเรื่องราว หลากหลายคำ นำกล่าวหา
เพียงเพื่อตน ได้ทำงาน พร่ำพรรณนา
อดีตนั้น อย่ากล่าวหา ไม่น่าชม
แม้ประวัติด่างเสีย อย่าได้คิด
แม้อดีต เคยทำผิด คนด่าขรม
อย่าไปย้อน ให้รำคาญ ด้านมืดมน
ปัจจุบัน ผมเป็นคน ดีจริงจริง
เชื่อคำผม เถิดพี่น้อง  เชื่อผมเถิด
ขอให้ผม ได้เกิด สร้างทุกสิ่ง
เลือกเบอร์ผม เถิดหนา อย่านอนนิ่ง
ผมไม่ทิ้ง แน่นอน ประชาชน

สังคมก้มหน้า

กุ้งหนามแดง


ไม่สนคนอยู่ตรงหน้า
ไขว่คว้าคนไกลไร้เสียง
โต้ตอบถ้อยคำลำเลียง
จ้องเพียงในกรอบชอบจริง
หลงใหลได้ปลื้มลืมกิจ
เสพติดมาร์ทโฟนโดนสิง
ตื่นมายันง่วงท้วงติง
หงุงหงิงรีรองอแง
เป็นโลกส่วนตัวหัวใหม่
ตามไล่ฝันเลี้ยงเหวี่ยงแห
โลกจริงละเลยเหลียวแล
ตอแยแค่จ่ายรายเดือน
ขอเธอจำแนกแยกแยะ
โลกและสังคมเสมือน
ต่างเห็นคุณค่ามาเยือน
ลืมเลือนเกลื่อนกลบ.ทบทวน
..

เราเรียนไปเพื่ออะไรใครบอกที ?

ประภัสสุทธ


๏ ฉันเป็นนักศึกษาปัญญาชน
ท่ามกลางทางสับสนคนแบ่งสี
หลอมหล่อและล่อหลอกหลายคัมภีร์
ถูกบ่มในเบ้านี้ "มหาลัย"
 
๏ "มหาลัย มหาหลอก" กลอกกลับคำ
จับจองจำกับตำราน่าสงสัย
ครุ่นคำถามนิยามตามจิตใจ
"
เราเรียนไปเพื่ออะไรใครบอกที ? "
 
๏ เพื่อก้าวผ่านประสบการณ์กร้านความคิด
เพื่อพ้นพรากจากชีวิตโง่งมนี้
เป็นนักปราชญ์ปราดเปรื่องปัญญาดี
แหละกดขี่คนโง่โตต่อไป
 
๏ เพื่อสำเร็จเสร็จได้ใบกระดาษ
ประกาศโชว์โอ่สังคมนิยมใหญ่
สมัครงานผ่านสบายหมายมั่นใจ
มีรายได้ใช้จ่ายถ่ายชีวิต
 
๏ เพื่อประโยชน์โพดโผยผลผู้เกื้อ
เพื่อเป็นเนื้อเชื้อเพลิงผู้ผลิต
เป็นแถวทาสนายทุนตุ๋นความคิด
สู่สายพานการผลิตติดกับดัก
 
๏  เพื่อรับใช้ไฟฝันฝั่งมวลชน
สละตนติดดินสิ้นยศศักดิ์
สานฝันอุดมการณ์ด้วยความรัก
ยืนปักหลักชัยใน
"หมู่บ้าน"
 
๏ หรือเรียนเพียรเขียนอ่านตามระบอบ
ท่องตำราบ้าสอบตอบโวหาร
จดบันทึกทุกคำจำหลักการ
จมปลักดักดานอ่านหนังสือ
 
๏ คำตอบมอบให้เธอบำเรอคิด
ค้นหาทั้งชีวิตที่เธอถือ
อีกทางคือวางปล่อยลอยตามสื่อ
"
คำตอบฉันชอบคือ จุด จุด จุด "
 
                                                      4
สิงหาคม 2556

เชือดไก่ให้ลิงดู

กุ้งหนามแดง


หลังเรียกร้องก็ได้ชัยชนะ
โดยสละเลือดเนื้อบางเสื้อสี
ประชาธิปไตยเชื่อว่ามี
การันตีโอกาสอย่างเท่าเทียม
เสรีภาพพร่ำพรอดเคยออดอ้อน
ชักร้อนร้อนหนาวหนาวคละเคล้าเหนียม
ได้แต่คิดผลิตคำผิดธรรมเนียม
จั๊กกะเดียมลมโปรยหยอกโชยดิน
มีอำนาจสมหวังก็ตั้งกฏ
ใจกบฎโยนความปรามติฉิน
หมิ่นประมาทปรักปรำขวางทำกิน
กดหัวก่อนตัดลิ้นสิ้นจุดยืน
อุดมการณ์สนธิเกียรติศักดิ์
เทน้ำหนักทางใดไม่ขัดขืน
เสมอภาคชีช้ำทนกล้ำกลืน
ขวางทางปืนรอดตายเลี้ยงไม่โต!!!
..

ชั่งใจ

กุ้งหนามแดง


ฆ่าตัดตอนละครสามตอนจบ
แล้วสยบข่าวลือมือสังหาร
ยกเรื่องราวทายท้าบรรณาการ
เสียงวิจารณ์ลุกลามจนข้ามแดน
เสรีภาพเข้าปิ้งสิ้นติงไหว
สวนประชาธิปไตยที่แห่แหน
ลดศรัทธาบั่นทอนจนคลอนแคลน
เข้าใจแก่นจริงแท้ฤาแค่เงา
เชือดไก่ให้ลิงดูต่างรู้สึก
ยึดขวดหมึกเปิดสาดกระดาษเผา
ปากกาด้ามสุดท้ายข้างกายเรา
จะโยนเข้ากองไฟหรือใช้งาน
อยู่กันอย่างหลอนหลอกถูกฟอกขาว
ต่อปรองดองชั่วคราวใต้ร้าวฉาน
เมื่อสงบภาคบังคับขยับลาน
ความจริงย่อมคืบคลานประสานเฟือง!!!
..

หมาเห่าใบตองแห้ง

กันนาเทวี


หมาเห่าใบตองแห้ง
อาทิตย์อัสดงลงเหลื่ยมเขา
เสียงหมาเห่ากลางลานม่านไม้ไหว
แกรกแกรกแกรกแหวกหาว่าอะไร
.สัญชาตญานสั่งให้ไล่ล่าตาม
ก็แค่เห่าใบตองจ้องจ้องขู่
ที่รู้รู้ใครใครไม่เกรงขาม
ที่ป่าวร้องเสียงแหบหลายโมงยาม
เขาประณามหมาเห่าเขารำคาญ
เห่าประกาศศักดาบ้าอำนาจ
นี่แหละชาติสันดานเดรัจฉาน
หวงลาภยศหวงของเขตภิบาล
ใครอาจหาญบุกมาข้าเอาตาย
ต่างระแวงเกรงกริ่งชิงแข่งขัน
เข้าประจัญรุกรบจนเสียหาย
จิตอิจฉาจึงกล้าและท้าทาย
ลืมความหมายชีวิตลืมคิดตรอง
หมาเห่าใบตองแห้ง เป็นสำนวนที่เปรียบเทียบกับสุนัขที่ชอบเห่าใบตองแห้ง คือเห่าใบกล้วยที่แห้งติดอยู่กับต้น เวลาลมพัดใบกล้วยแห้งจะแกว่งหรือเสียดสีกัน มีเสียงแกรกกราก สุนัขเห็นอะไรไหว ๆ หรือได้ยินเสียงแกรกกรากก็จะเห่าขึ้น แต่ก็เห่าไปอย่างนั้นเอง ไม่กล้าไปกัดใบตองแห้ง
กิริยาของสุนัขนี้จึงนำมาเปรียบกับคนที่ชอบพูดจาเอะอะในลักษณะที่อวดตัวว่าเก่งกล้า แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้กล้าสมกับคำพูด
แต่ปกติถ้าเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกมาก่อนนะ เช่นสุนัขตำรวจ หมานายพรานมักใช้จมูกได้ไว และแม่นมาก ถ้าเห่าแล้วก็แสดงว่าเจองู แย้ กระต่าย หรืออะไรสักอย่างแน่ๆ แล้วแต่สายพันธุ์

คารวะคุณูปการ...คนโง่โง่

แทนคุณแทนไท


“คนฉลาด” คิดแต่กลัวเอาตัวรอด
คุณจึงอยู่เยี่ยมยอดปลอดภัยผอง
คุณซ่อนซุกสุขกระไรในกระดอง
คุณเมียงมองจ้องกำไรไว้ทุกครา
ยามภัยมาคุณซุกร่างแอบข้างหลัง
หวาดระวังมิให้ออกมานอกหน้า
สยบพร้อมยอมแพ้แก่ชะตา
เพราะรู้ว่าจะมีคนดิ้นรนแทน
เขาเป็น “คนโง่โง่” ไร้แง่เงื่อน
เขาเห็นทุกข์ของเพื่อนนับเรือนแสน
เขามีใจรับรู้ไม่ดูแคลน
เขายอมแอ่นอกรับกับพิษภัย
“คนฉลาด” ฉลาดรู้ดูทางลม
ถ้าเขาล้มก็เหยียบย่ำซ้ำเติมใส่
ถ้าเขาชนะก็ดี๋ด๋ามาร่วมใจ
ร่วมประโยชน์ฉลองชัยไม่เคยอาย
เขาโง่เง่าในสายตาคนฉลาด
แต่องอาจในวิถีมีความหมาย
เขารู้เท่ารู้ทันว่าอันตราย
แต่เสี่ยงตายด้วยสำนึกระลึกรู้
บ้านเมืองไม่อับจนเพราะ “คนโง่โง่”
ที่กล้าขืนยืนโต้ออกต่อสู้
“คนโง่โง่” ต้องเจ็บตัวเต็มประตู
“คนฉลาด” จึงได้อยู่อย่างร่มเย็น!
ในสถานการณ์คับขันหรือเกิดปัญหาขึ้นในสังคม เรามักจะพบคนสองกลุ่มใหญ่ๆเสมอ
กลุ่มหนึ่งโถมตัวอุทิศตนเข้ามารับผิดชอบแก้ไขปัญหา
ขณะอีกกลุ่มหนึ่งนั่งดูอยู่ห่างๆเพื่อรอเวลารับผลประโยชน์

"เพื่อนที่แสนดี"

บุ๋ม


เอาไปเถอะ...ผู้ชายคนนี้
ฉันให้เพื่อนที่แสนดีอย่างเธอได้
ไม่ต้องแอบ ๆ ซ่อน ๆ ให้ลำบากใจ
คนรักฉันที่เธอฝันใฝ่.....
ฉันยกให้ก็ได้ถ้าเธอต้องการ
ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจ
ไหน ๆก็ไหน ๆ ยอมหน้าด้าน
แค่ผู้ชายคนเดียว ฉันจะนึกว่าทำทาน
ให้เพื่อนแสนดีที่กลายเป็นนางมาร....อย่างเธอ....

เหม็นขี้หน้า

cicada


เหม็นกลิ่นดอกหลอกลวง..เจ้าพวงเหม็น
กลิ่นเยือกเย็นจนหนาว..เจ้าชาเฉย
เจ้าโรยกลิ่นโชยกรุ่นอย่างคุ้นเคย
คล้ายจะเย้ยมวลหมู่ ผู้ดมดอม
 
เหม็นกลิ่นดอกรักเร่เจ้าเหหัน
รักผกผันหลายใจ..ไม่ถนอม
ผลิกิ่งก้านกลิ้งกลอกหนอดอกพยอม
ยามเขาพร้อม เจ้าผละ..ละจากไป
 
เหม็นกลิ่นดอกคำสร้อย..คนร้อยเล่ห์
พร่ำถ่ายเท..ยากนัก จักฝันใฝ่
เจ้าหว่านเมล็ดผลิกอแตกหน่อใจ
แล้วผลักไสคืนคำ..ลำนำลวง
 
เหม็นซะจัง น้ำใจ..ใครช่างเหม็น
เปิดประเด็นนุ่มนวล..ชวนห่วงหวง
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อนฉะอ้อนทรวง
ปลายกลับร่วงโรยรา..เหม็นหน้าจัง !!

ดีเกินไป!!!!!!!!!!!!

zonkung


คำถามโง่-โง่ของชายคนหนึ่ง
กับคำตอบซึ้ง-ซึ้งของหญิงไม่จริงใจ
กับคำว่ารักที่ลวงหลอกไว้
กับคำว่าไปทั้งที่บอกรักกัน
บอกฉันให้ลืมฝันครั้งนี้
ส่วนเธอไปมีวันใหม่กับคนนั้น
ทิ้งขออ้างเดิม-เดิมที่เธอเคยใช้มัน
กับคำพูดสั้น-สั้นว่าฉันดีเกินไป
ขอบคุณสำหรับคำชม
แต่ฉันคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่
ฉันเองก็ไม่ได้ดีมากมายอะไร
คงเลวพอใช้ได้กับหญิงมากชายอย่างเธอ

ฉายา.. ว่ากันไป

ศรีสมภพ


ฉายา " การเมือง "
ฉายาว่าไว้              หลายฝ่ายการเมือง
มากมายหลายเรื่อง  ประเทืองปัญญา
“ ละครคนจน ”        ไม่พ้นเน่าหนา
มายาดราม่า              ดารามากมาย
ราคาค่าข้าว              จำนำค้ำขาย
โรงสีสบาย                กำไรกำรี้
น้ำท่วมร่วมแล้ง       ร้ายแรงเหลือที่
น้ำตาท่วมปรี่           ไม่มีข้าวขาย
ละครคนจน             ทุกคนทนไป
ปีหน้าฟ้าใหม่           ปลูกขายอีกที !
“ สภา ” หน้าฉาก      มีมากหน้าที่
หลังฉากไม่มี            ชีวิตชีวา
“ ซอมบี้ ” ถูกปลุก    ให้ลุกขึ้นฆ่า
ไม่มีราคา                 อาสาให้นาย
ประทุประท้วง           ก้าวล่วงหยาบหลาย
ต่อหน้าท้าทาย          ลงท้ายฟ้องความ
“ ฝ่ายรัฐ ” ก่อร่าง     ขึ้นห้างช่างค้ำ
ร่วมเวรร่วมกรรม     ต่างทำต่างถอย
จับปลาสองมือ            ต้องถือมือค่อย
จำใจไม่ปล่อย           จำถอยเพราะปอด
โลงผุผีเน่า                งานเข้าตลอด
จำใจจำกอด              อิดออดพรอดพร่ำ
สัญญาว่าไว้               เปลี่ยนได้ไม่ย้ำ
จำเป็นเปลี่ยนคำ       จำใจลงเรือ
“ ฝ่านค้าน ” ฉันหล่อ นั่งรอกินเหยื่อ
ท่าเก่าเน่าเบื่อ           เล่นเผื่อมีโชค
ติดหล่มความหลัง       ไม่ยั้งคลั่งโขก
บลั๊บท่านายก              ฉกฉวยเสียดสี
ดึงขาหน้าขวาง            ไม่วางวาที
ปิดทุกวิถี ..                 อย่ามีที่ไป
ฉายานี้หนอ                มก. ว่าไว้
แต่งกลอนค่อนใส่       อย่าได้ว่

โรคระบาด

บุญพร้อม


        โรคระบาดความคิดเกิดผิดเพี้ยน       ดินฟ้าเปลี่ยนแปลกไปหรือไรนี่
       หรือมีคนไปย้ำทำไม่ดี
    จึงเกิดมีโรคาพาเพี้ยนไป
        
        กิริยาท่าทางดูขวางโลก
      ชื่นชมการสับโขกให้โยกไหว
       ลุกลามทั่วตกออกทั้งนอกใน
       จึงเป็นไปทั่วทิศผิดครรลอง
         สาเหตุโรคนั้นหนอพออ่านออก
       ใจถูกพอกหมดงามเพราะความหลง
        เห็นอำนาจวาสนาว่ายืนยง 
        ไม่คิดปลงคิดปลดเลยหมดงาม