กาพย์เห่ชมเพื่อนปลาวาฬ รัตนโกสินทร์ศักราช ๒๒๙ ปลาวาฬจากฟ้ามิ่ง...............มหาสวรรค์ แหวกว่ายสู่สยามขยัน............หลักล้าน มุ่งหน้าสู่กรุงบัน-................ดาลทุกข์ เทวษฤา เพียงแค่อยากกลับบ้าน........เกิดใต้อ่าวไทย โอ้โห เจ้าปลาวาฬ ห้าสิบล้านที่ได้ยิน จากฟ้ามาสู่ดิน ดำแหวกว่ายอยู่ในกรุง ปลาวาฬมากมีเพื่อน เมื่อมาเยือนย่อมมียุง กัดแขน-ขา-หน้า-พุง ของทุกผู้ทุกคนไป ปลาตัวน้อยใหญ่ยักษ์ หลายเผ่าพรรคเที่ยวกรุงใหญ่ ลัดเลาะตึกนอกใน ใต้ทางด่วนล้วนมีปลา เหี้ยน้อยผู้น่ารัก ว่ายทายทักเห็นตำตา หลุดจากรัฐสภา มาแหวกว่ายแถวดอนเมือง ดูคล้ายจระเข้ หากตาเขอาจมีเคือง โดนงับย่อมต้องเปลือง ค่ารักษาพยาบาล ฝูงปลิงยิ่งมีเยอะ ลุยน้ำเจอะอยู่หน้าบ้าน ดูดเลือดแข่งยุงปาน เป็นกาชาดสากลกัน ปลาวาฬสวัสดี ญาติน้องพี่มีครบครัน หมาน้อยลอยคอมัน หัดว่ายน้ำยามจำเป็น แมวเหมียวปีนต้นไม้ เขาไว้ลายไว้ให้เห็น งูเหลือมใช่ประเด็น เผ่นขึ้นเลยไม่เคยกลัว งูเขียวแมมโบหลุด แหวกว่ายมุดมาหลายตัว ปลาวาฬใจเต้นรัว นี่เพื่อนสัตว์จากรัฐใด จ๊ะเอ๋ เจ้าลิงน้อย ว่ายน้ำคอยมาเอาใจ ท่วมถึงเมฆเมื่อใด จะบอกให้กระต่ายมา หยอกล้อขอเป็นเพื่อน ดูดาวเดือนกินมาม่า ต้อนรับปลาวาฬพา เพื่อนเที่ยวท่องฉลองกรุง เถิดเที่ยวให้อิ่มหนำ เถิดเพื่อนดำแหวกว่ายพุ่ง ผ่านเจ้าสมุทรผดุง พระเดโชโปไซดอน ผ่านอ่างทุกอ่างไป ก่อนจะไหลไปพักผ่อน สู่ดินแดนต่ำตอน เดือนน้ำลดหมดเสี
เมื่อก่อนเป็นประชาชนคนเล็ก-เล็ก ไม่ขี้เก็กไม่หยิ่ง..ไม่ยโส แต่พอเป็นนายกฯ ทำตัวโต... หยิ่งยโสไม่เคยมีกลับมีมา ประชาชนเลือกมาเป็นนายกฯ ทำยืดอกกูใหญ่กว่าใครเขา มีลูกน้องตามติดมาเป็นเงา มาคอยเฝ้าประจบหวังเป็นคนใหญ่โต วัน- วันเอาแต่วางก้าม ไม่ทำตามสัญญาประชาไว้ หาแต่ประโยชน์ส่วนตนไม่สนใคร ไม่ใส่ใจประชาชนคนเดินดิน นโยบายชั่วช้าประชาห้ามกูไม่ฟัง ใครจะพังพินาศยับกูไม่สน กูจะรวยใครจะเป็นคนยากจน กูไม่สนถ้ากูได้กูจะทำ... เมื่อนายกฯ ขึ้นไปนั่งอยู่บนวอ คนโง่เรียกมันว่าพ่อ...เลียแข้งขา ประจบประแจง..โดนความโลภปิดหูตา มองไม่เห็นความชั่วช้าที่มันมี นายกฯ ลืมตนเคยเป็นคนเล็ก-เล็ก ตัวเองไร้เดียงสากว่าเด็กยังไม่รู้ หยิบคำว่านายกฯมาแปะหน้าแล้วเชิดชู หวังจะอยู่ค้ำฟ้าทัดเทียมบิดาไทย สุดท้ายนายกฯ นึกว่าตัวเองใหญ่ เป็นเจ้าของประเทศไทยทั้งหมดสิ้น มองไม่เห็นแม้ความสูงส่งของประมุขของแผ่นดิน ลืมหมดสิ้นความนบน้อมและถ่อมตน...
ย้อนรอย2475 ชะตาบ้านเมืองแปรผัน ทหารตำรวจดวดกัน แข่นขันอำนาจบาทมี ทูลขอล้นเกล้าประชาธิปไตย มอบให้..พร้อมหรือประชานี่? คณะราษฎร์ตั้งแล้วสดุดี มีพลมีพรรคสมัครรวม เฉลิมฉลองอำนาจเมืองแมน สวมโขนใส่แขนมาสวม เผด็จการเบ็ดเสร็จรวม ใครร่วมใครต่างย่างไฟ เลือดนองตุลามหาวิปโยค คืนโศกวีรชนหม่นไหม้ นิสิตเดือดแร้นแทนใคร อธิปไตยอยู่ไหนท่านให้มา? อำนาจล้นเกล้ามอบให้ วนวกเวียนว่ายคล้ายค้นหา บัณฑิต ปราชญ์ผู้รู้วิชา ช่วยนำประชาของท่านที ให้อำนาจของท่านสู่ปวงชน ใช่หนึ่งคนหนึ่งคณะณ.ที่นี้ เพื่อประชาของท่านทั้งปฐพี มีประชาธิปไตยไทยทั้งปวง จนปี2555 อนิจจาอธิปไตยที่แหนหวง บัดนี้รอยแยกแตกกลวง ลืมหวงลืมห่วงประเทศไทย แบ่งแยกแตกสีอับอาย แบ่งฝ่ายลืมเหง้าหรือไฉน ต่างฝ่ายเรียกหาประชาธิปไตย เพื่ออะไรหากใช้มันไม่เป็น! MV ส่งใจ (รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนแปลง) http://www.youtube.com/watch?v=HrZnR-RDvw0
มหาสมุทรที่สุดนั้น คือแม่ฉันในกาลก่อน แดดเผาเข้าก็ร้อน สุดผัดผ่อนก่อนเป็นไอ ก่อตัวไปทั่วฟ้า เป็นเมฆาไม่ช้าได้ กลายตนเป็นฝนใหญ่ ลมพัดไปในแผ่นดิน หยดน้ำฝนพรำนั้น คือพวกฉันมั่นถวิล ฟ้าปล่อยลอยสู่ดิน ชโลมรินให้ดินฉ่ำ ผืนถิ่น ดิน เขา ป่า แอ่นอกอ้ารอท่าน้ำ เริงร่าคราฝนพรำ ร่วมดินน้ำ ล้ำนานมา รากดูด หยุดพวกฉัน มีเชิงชั้นลาดหลั่นช้า เก็บกักอย่างนักหนา ทุกครั้งคราที่มาเยือน แบ่งส่วนมวลพวกฉัน ไหลเจือจานไม่ฟั่นเฟือน ลำธารนั้นเสมือน ทางฉันเคลื่อนไหลเลื่อนมา แม่น้ำนำช่วงต่อ พาลอยคอชะลอบ่า ผ่านเมืองมนุษย์มา มุ่งออกท่ามหาสมุทร วัฏจักร..วิถีฉัน มีนมนาน บริสุทธิ์ ตราบที่มีมนุษย์ เริ่มยื้อยุด..ฉุดฉันไว้ พวกเขาเข้าห้ำหั่น ตัดโค่นฟันกันยกใหญ่ ขุดถม ล้มป่าไม้ ล่มสลาย ไม่นำพา โลกจึงร้อนไม่ผ่อนพัก เผาแม่หนักผลักขึ้นฟ้า มรสุมรุมเข้ามา เพิ่มฝนฟ้าหนักกว่าก่อน มวลฉัน นั้นมากขึ้น ป่าไม่ฟื้นผืนแล้งร้อน รากดูด หยุดฉันก่อน ร้างสลอนราบสลาย เขื่อนต้าน ฉันยิ่งคลั่ง เพิ่มพลังโถมถั่งใหญ่ แม่น้ำสุดช้ำใจ รับไม่ไหวใหญ่เกินตัว มนุษย์รุดหน้ากั้น เสริมขอบคัน..ฉันปวดหัว มหาสมุทรไกลสุดตัว เจอคันทั่ว ฉันมั่วทาง นับนานกักฉันอยู่ มนุษย์รู้ สู้ กั้น ขวาง ขัดแย้งทุกแห่งทาง แบ่งฟากฝั่ง ไม่ฟังกัน มนุษย์เอ๋ย ! ขอเอ่ยทัก มวลน้ำมากเกินกักกั้น เปล่าดาย
//////////////////////////////////////// ต้องการความรักใช่ไหมคนดี ขอโทษที ถ้าจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เข้าใจไหมว่ามันจบแล้ว รักมันจบลงไป จะให้ทำยังไง ก็ไม่ย้อนคืนมา ระหว่างเรา!!! มันมีเพียงความเศร้าไร้ร่องรอยความห่วงหา ถ้าเธอยังต้องการ ลองถามตัวเองสิว่าที่ผ่านมา เธอเคยมองฉันคนนี้มีค่าพอหรือยัง แล้ววันนี้จะมาอ้อนวอนอะไร จะมาถามทำไมถึงหัวใจที่ยากจะฉุดรั้ง จำไว้หน่อยนะว่า ทั้งหมดที่ผ่านมากำลังพัง ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดนั่น มันจบด้วยมือเธอ //////////////////////////////////////////////
เปิดฟ้า...เพื่อปิดฟ้า นโยบาย บรรเจิด รัฐเปิดฟ้า เปิดการค้า สู่โลกกว้าง อย่างอาจหาญ เปิดสู่ความ ศิวิไลซ์ ในจักรวาล เปิดขยาย กิจการ ด้านอุตสาหกรรม มีทุกอย่าง ทุกสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่ มีปล่องไฟ ปล่องควัน วันยังค่ำ มีค่าเงิน ฟูเฟื่อง เมืองชั้นนำ วัฒนธรรม นำเข้า สู่เยาวชน เกิดสังคม อมทุกข์ คลุกขี้เถ้า ไฟกามกร่อน ร้อนเร่า เข้าขุมขน แฟชั่นเปิด โชว์ร่าง ทั้งล่างบน สูบควันพ่น กลางแสงไฟ ในราตรี หมู่ชาวนา ยังทำนา ฝ่าแดดฝน เคยสู้ทน ก็ยังทน ทุกท้องที่ กำไรข้าว ไม่พอกิน เมื่อสิ้นปี ยังพอกหนี้ พูนเพิ่ม เติมทุกวัน ฟ้าเคยใส ป่าไม้สวย ด้วยฝนฉ่ำ บัดนี้คล้ำ หม่นมัว ทั่วเขตขัณฑ์ รองน้ำฝน ใส่ตุ่มใส ไว้แบ่งปัน บัดนี้นั้น เป็นฝนกรด หยดหลั่งริน รัฐเปิดฟ้า เศรษฐกิจ มาปิดฟ้า ปิดผืนหล้า แผ่ขยาย ไปทั่วถิ่น มลภาวะ เคล้าเมฆมัว ทั่วแดนดิน ใครจะดิ้น ชักตาย ไปก่อนกัน นายฐปกรณ์ โสธนะ (ลุงรอง)
สองวาระ เดือนเหตุเภทสองพ้องพาน ผองไทยไล่ผลาญ พร่าไทยไหวทั้งพสุธา คือสองทศพรรษพฤษภา พึงตรึกศึกษา สองห้าสามห้าสากรรจ์ ร่วมสองปีผ่านวารวัน เวียงผวนป่วนผัน พฤษภาสองห้าห้าสาม ใครย่ำกำราบปราบปราม เปรมปรีดียาม ยลศพซบก่าย กายกอง แล้วใครไต่ขั้นครรลอง โลดเหลิงเริงฉลอง เล็งแลแน่ครัน นั้นใคร ลึกลับซับซ้อนซ่อนนัย แน่วจิตวินิจฉัย ใช่เชื่อเมื่อเขากล่าวชวน คั้นเค้นเห็นไคล้ ใคร่ครวญ ครันครบทบทวน ถึงทางสร้างฐานศานติธรรม หยุดกรุ่นขุ่นแน่นแค้นนำ เคียดนักมักถลำ หล่มล้อมห้อมคลุมหลุมพราง ด้วยแรงแห่งรักรางชาง เรืองโชติโรจน์ถาง- ทางทอง ถ่องรุ้งรุ่งพราว พฤษภาคราเคืองเรื่องราว เลือดราดสาดคาว สองครั้งจุ่งสร่างลางเข็ญ แคล้วคลาดขาดกรรมลำเค็ญ ขอพฤษภาเพ็ญ ไพบูลย์บุญนันธน์นิรันดร (๑๙ ถึง ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕)
แสวงหาประโยชน์เือื้อ.......ญาติกา ยกเหล่าทูนกันมา..........รอบข้าง หมุนเวียนเปลี่ยนพฤกษา....ร่วงผลัด จริงเท็จยกมาง้าง.........ประโยชน์นั้นผดุงผองฯ ศรัทธาจักเกิดได้..........ฉันใด หากกิเลสครองใจ..........ยากรู้ ความโลภเกาะเนื้อใน.....เกินสลัด เถิดขี่หลังเสือสู้..........รีบร้อนลงไฉนฯ กินปูนกินป่าไม้...........กลืนถนน ความลับปิดปูดปน........ยักไว้ กินเถิดอย่ากังวล.......จะนิ่ง เฉยนา ฝนตกชะล้างได้........ผิดนั้นบ่เผยฯ @ แก้วประัภัสสร @ 28/07/2555
อาซิ้มคนหนึ่ง เดินข้ามถนนในช่วงเวลาพลุกพล่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯราชธานีของประเทศไทย ตำรวจนายหนึ่งจึงรีบวิ่งเข้ามาคว้าตัวอาซิ้มนั้น พลางตะคอกว่า "นี่อาซิ้ม ลื้อไม่รู้หรือว่าเขาห้ามข้ามถนนตรงนี้ จะข้ามต้องไปข้ามทางม้าลาย เขากำลังฝึกให้คนไทยมีวินัยข้ามถนนให้ถูกวิธี "ก็อั๊วไม่รู้นี่!" "รู้ไม่รู้ก็ต้องปรับ เขาประกาศกันล่วงหน้าแล้ว!" "แล้วลื้อจะปรับอั๊วเท่าไหร่ล่ะ!" หญิงชราถามขึ้นด้วยความอยากรู้ "ปรับลื้อ 50 บาทแล้วทีหลังอย่าทำอีกนะ!" หญิงชราก้มหน้าอันยู่ยี่คิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง มือล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรใบละ 100 บาทขึ้นมาใบหนึ่ง ยื่นให้ตำรวจหนุ่มผู้นั้น พลางกล่าวว่า "ลื้อเอาไป แล้วไม่ต้องทอนนะ เดี๋ยวอั๊วจะต้องเดินข้ามกลับมาอีกทีหนึ่ง!"?????
บังยียึดที่ตั้ง.....................หมากเตะ
คงจะดูเละเทะ.................อีกแล้ว
ทีมชาติเน่าฟอนเฟะ........เฟอะตลอด
อนาคตคงไม่แคล้ว..........วืดถ้วยทุกสนาม
ความบริหารผิดเพี้ยน........ผูกขาด
สายเลือดไทยอเน็จอนาถ........หนักด้วย
แปดปีสิบปีชาติ............หน้าเถิด
บอลโลกฝันหลังม้วย........มอดไหม้ตายตาม
ชาติ ไม่เคยขึ้นวอหนอคางคก ทำผงกหัวหางวางท่าห่าม หัวมงกุฎท้ายมังกรห่อนรู้ความ ราศีทรามฤาสมพอกับวอทอง ด้วยจับพลัดจับผลูดูไม่จืด มายืนยืดกินรุ้งจนพุงป่อง จมูกบานหนังหนานัยน์ตาพอง สำรากร้องทระนงหลงตัวเอง หากคางคกอยู่ตมคงสมเหมาะ เที่ยวลัดเลาะบึงหนองจนท้องเป่ง นี่สวมหมวกสวมชฎายิ่งพาเซ็ง อวดตะเบ็งอึงอลจนคับวอ วาสนาใครบ้างเหมือนอย่างเจ้า ลิ่วล้อเขาชมว่าแก่แต่ยังหล่อ มันโดนใจคางคกคำยกยอ นั่งหัวร่อจมูกทู่เหมือนหมูตอน พวกสิงสาราสัตว์สะบัดหาง อยู่เคียงข้างหมอบราบราวภาพหลอน ล้วนน่าเกลียดน่ากลัวจนหัวคลอน ต้องหน้ายุ่งพุงขย้อนอยากอาเจียน ชอบสำรอกปนสำรากฝีปากกล้า เที่ยวตีด่ากับคนอื่นน่าคลื่นเหียน หลงนึกว่ากูแน่คงแก่เรียน ทำกระเหี้ยนกระหือรือเขาซื้อมา(หนอย..) เถิด..วันหนึ่งมวลชน..ทนไม่ได้ คงสิ้นลายน่าวิตก..คางคกจ๋า... รอถึงวันฟ้าสว่างกระจ่างตา... (อะแฮ่ม...กรุณาเลือกข้อที่ท่านชอบวรรคจบ....) ก.) ปวงประชาถีบคางคก..จนตกวอ... ข.) เชิญประชาถีบคางคก..ให้ตกวอ... ค.) มาเรามาถีบคางคก..ให้ตกวอ... ง.) ตีนประชาถีบคางคก..จนตกวอ... จ.) รวมบาทาถีบคางคก..ให้ตกวอ..... ฉ.) และอื่นๆตามใจชอบ................. ปล.ส่วนตัวผมเลือกข้อ..ก.ครับ.. จริงๆแอบชอบข้อ...งองู.อิ..อิ... อ้อ..แอบมาเติมข้อจ.อีก เพิ่งนึกได้เมื่อคืน...รุ้สึกจะเวิร์คเหมือนกัน...อิ..อิ.. แมวคราว.... 9 กค.51 เขียนให้..คางคกที่ขึ้นวอแล้วลืมตัวทุกๆตัว
บทกวีนำเสนอเพื่อรำลึก ก้าวสู่ ๒๔ ปี ...สืบ นาคะเสถียร
เรื่องที่ ๔ สุดสลด ..คชสาร
ไอ้มนุษย์ ! ตัวนิดๆ พิษช่างร้าย
มันทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า เพื่อนร่วมโลกเล็กหรือใหญ่ไม่ยอมรา เข้าเข่นฆ่า เฉือนเชือด.. อย่างเลือดเย็น คชสาร.. ตัวใหญ่ๆ ในป่ากว้าง เดินย่องย่างหากินถิ่นลึกเร้น เป็นเจ้าป่าร่างใหญ่ไม่ลำเค็ญ ใครกล้าเข่น ได้เห็นดีทุกทีไป ย้อนช้างศึก คึกคักหักการรบ เข้าสยบไพรีคร้ามสนามใหญ่ สัตว์ราชาสง่างามยามย่างไป ร่วมชิงชัยเหยียบค่ายขุม คุ้มบ้านเมือง ! ช่วยกอบกู้เอกราชอย่างชัดชี้ เห็นสุดๆ ยุทธหัตถีที่ลือเลื่อง ไชยยานุภาพ! ปราบพม่าล่ากลับเมือง ชาติประเทืองเรืองโรจน์ปรากฏชัด ข่าวฆ่าช้างเพื่อเอางา ..ป่าสะท้าน แก่งกระจาน มนุษย์ไหน ? หนอใจสัตว์ เมนูเด็ด สนองใจให้ต่างชาติ เนื้อช้างใหญ่ใบสั่งจัด ..ภัตตาคาร ไอ้มนุษย์ ! ตัวน้อยนิดพิษสุดร้าย ล้มสัตว์ใหญ่ใช้อาวุธสุดจะต้าน เนรคุณผู้กอบกู้ หลู่ตำนาน สัตว์คู่บ้าน ! ผลาญได้ไง ? จัญไรจริงๆ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ “พระราชินี”เสียพระทัยช้างป่าแก่งกระจานถูกฆ่าเผาเอางา เชิญพระราชเสาวนีย์ถึง “อธิบดีอุทยานฯ” เร่งแก้ปัญหา แฉขบวนการ เหี้ยมเร่งไล่ล่า เปิดเผยความคืบหน้าการตามล่าหาตัวคนร้ายที่ฆ่าช้างป่าในเขตอุทยานแช่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า ขณะนี้รู้ตัวขบวนการที่ร่วมมือกันฆ่าช้างแล้ว โดยทำกันเป็นขบวนการมีทั้งคนมีสี นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่
โรคระบาดความคิดเกิดผิดเพี้ยน ดินฟ้าเปลี่ยนแปลกไปหรือไรนี่ หรือมีคนไปย้ำทำไม่ดี จึงเกิดมีโรคาพาเพี้ยนไป กิริยาท่าทางดูขวางโลก ชื่นชมการสับโขกให้โยกไหว ลุกลามทั่วตกออกทั้งนอกใน จึงเป็นไปทั่วทิศผิดครรลอง สาเหตุโรคนั้นหนอพออ่านออก ใจถูกพอกหมดงามเพราะความหลง เห็นอำนาจวาสนาว่ายืนยง ไม่คิดปลงคิดปลดเลยหมดงาม
ก็เห็นอยู่โต้งโต้งมันโกงชาติ ยังปล่ออยขาดคดีความตามที่เห็น กินป่าไม้หินทรายหลายประเด็น ยังปล่อยเร้นหลบได้ ไร้น้ำยา เราพูดมากลากปืนมายืนจ้อง พวกเอ็งต้องหุบปากหากกังขา เดี๋ยวจะโดนไข้โป้ง จบชีวา อย่านินทารู้ไว้ใครคือนาย ปากก็สอนกันไว้ให้รักชาติ เป่าประกาศอย่าให้ใครไปขาย เอาเข้าจริงเผยไปมีแด่ดาย ไม่ก็ย้ายที่ทางถูกขังคุก พูดกับทำแตกต่างกันอย่างนี้ ก็เห็นทีดีไป คงไร้สุข หากจะดีแล้วต้องเสี่ยงความทุกข์ เลิกเถอะลูกหลานข้าอย่าทำเลย รู้รักษาตัวรอดนั่นยอดนัก นี่คือหลักเขากระซิบหยิบมาเผย มัวหลงลมชมเขาเราจะเชย ถูกมันเย้ยเอาได้เมื่อปลายมือ เหมือนปู่ไงล่ะหลาน ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะเริ่มเกิด ความเป็นเลิศใช่ว่าอยู่นานโข ความเป็นไปสภาวะอกาลิโก ตั้งแต่โบราณมา..ว่าจริงแท้ ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะประสบ กลการรบเลิศล้ำยังถลำแพ้ ชัยชนะจากคาวเปื้อนสะเทือนแด ผ่านพ้นแค่..ประวัติศาสตร์..ที่อาจจะเป็น อย่าร้อนรนทนท้อต่อการแพ้ รู้เพียงแต่...มีศรัทธาอย่าหลบเร้น รู้สิ่งใดผิดถูกผูกประเด็น อย่าว่างเว้นศีลธรรม..โปรดยำเกรง หากที่สุดความหวังเธอพังพ่าย อย่ามัวไปโทษฟ้าว่าข่มเหง ขอโทษนั้นตกอยู่ที่ฉันเอง เพราะมัวบรรเลงเพลงกวี..เสียดสีกัน ...แบบว่า