* อธิปไตยไร้เสรีภาพ * อยุติธรรมนำหน้าเสรีภาพ เหม็นโฉ่ฉาบตุลาการผ่านรักษา สร้างความดีได้ชั่วมั่วทุกครา ยากจะหายุติธรรมนำปกครอง สิ้นนับถืออันธพาลผ่านครานี้ ไร้ศักดิ์ศรีความชั่วกลั้วเกิดสนอง ฝากความหวังครั้งใดคล้ายละออง สร้างหม่นหมองแบ่งชั้นกลั้นน้ำตา ประชาธิปไตยไหนใคร่มองเห็น ทุกประเด็นสร้างไว้ไร้สิ่งหา อันความหวังผ่านไปไร้ราคา สิ้นศรัทธาเหลือทนของคนดี ความโป้ปดมดเท็จดั่งเห็ดสล้าง งามกระจ่างดังเดือนเหมือนสุรสีย์ แผ่กระจายทั่วไทยกระจายมี มองทุกที่ประหลาดดารดาษตา คนทำดีเหมือนได้คล้ายสิ่งชั่ว ถูกเขามั่วเหลือเกินเมินรักษา เกลื่อนไปด้วยหมู่มารผ่านอหังกา อดทนฝ่าเพื่อหวังสร้างธิปไตย เสรีภาพฉาบไว้คล้ายน้ำตาล แต่ไม่หวานคนชั่วมั่วหวั่นไหว ทุกวันนี้เขย่าบ้านผ่านแกว่งไกว ยากหวังได้อิสระมาครอบครอง ล้วนแต่พวกมารเหล่าเฝ้าครอบงำ สร้างสิ่งช้ำทำลายให้มาสนอง เฝ้าปั่นหัวพวกไว้ให้คึกคนอง ต่างยกย่องเป็นพ่อแม่แท้จริง ประชาธิปไตยอิสระชนปนอนาถ แค่ภาพวาดให้งามหยามทุกสิ่ง ประหลาดหนอเมืองไทยไร้ที่อิง มีพวกปลิงเสรีภาพฉาบล่อลวง. * แก้วประเสริฐ. *
ชาติ ไม่เคยขึ้นวอหนอคางคก ทำผงกหัวหางวางท่าห่าม หัวมงกุฎท้ายมังกรห่อนรู้ความ ราศีทรามฤาสมพอกับวอทอง ด้วยจับพลัดจับผลูดูไม่จืด มายืนยืดกินรุ้งจนพุงป่อง จมูกบานหนังหนานัยน์ตาพอง สำรากร้องทระนงหลงตัวเอง หากคางคกอยู่ตมคงสมเหมาะ เที่ยวลัดเลาะบึงหนองจนท้องเป่ง นี่สวมหมวกสวมชฎายิ่งพาเซ็ง อวดตะเบ็งอึงอลจนคับวอ วาสนาใครบ้างเหมือนอย่างเจ้า ลิ่วล้อเขาชมว่าแก่แต่ยังหล่อ มันโดนใจคางคกคำยกยอ นั่งหัวร่อจมูกทู่เหมือนหมูตอน พวกสิงสาราสัตว์สะบัดหาง อยู่เคียงข้างหมอบราบราวภาพหลอน ล้วนน่าเกลียดน่ากลัวจนหัวคลอน ต้องหน้ายุ่งพุงขย้อนอยากอาเจียน ชอบสำรอกปนสำรากฝีปากกล้า เที่ยวตีด่ากับคนอื่นน่าคลื่นเหียน หลงนึกว่ากูแน่คงแก่เรียน ทำกระเหี้ยนกระหือรือเขาซื้อมา(หนอย..) เถิด..วันหนึ่งมวลชน..ทนไม่ได้ คงสิ้นลายน่าวิตก..คางคกจ๋า... รอถึงวันฟ้าสว่างกระจ่างตา... (อะแฮ่ม...กรุณาเลือกข้อที่ท่านชอบวรรคจบ....) ก.) ปวงประชาถีบคางคก..จนตกวอ... ข.) เชิญประชาถีบคางคก..ให้ตกวอ... ค.) มาเรามาถีบคางคก..ให้ตกวอ... ง.) ตีนประชาถีบคางคก..จนตกวอ... จ.) รวมบาทาถีบคางคก..ให้ตกวอ..... ฉ.) และอื่นๆตามใจชอบ................. ปล.ส่วนตัวผมเลือกข้อ..ก.ครับ.. จริงๆแอบชอบข้อ...งองู.อิ..อิ... อ้อ..แอบมาเติมข้อจ.อีก เพิ่งนึกได้เมื่อคืน...รุ้สึกจะเวิร์คเหมือนกัน...อิ..อิ.. แมวคราว.... 9 กค.51 เขียนให้..คางคกที่ขึ้นวอแล้วลืมตัวทุกๆตัว
แสวงหาประโยชน์เือื้อ.......ญาติกา ยกเหล่าทูนกันมา..........รอบข้าง หมุนเวียนเปลี่ยนพฤกษา....ร่วงผลัด จริงเท็จยกมาง้าง.........ประโยชน์นั้นผดุงผองฯ ศรัทธาจักเกิดได้..........ฉันใด หากกิเลสครองใจ..........ยากรู้ ความโลภเกาะเนื้อใน.....เกินสลัด เถิดขี่หลังเสือสู้..........รีบร้อนลงไฉนฯ กินปูนกินป่าไม้...........กลืนถนน ความลับปิดปูดปน........ยักไว้ กินเถิดอย่ากังวล.......จะนิ่ง เฉยนา ฝนตกชะล้างได้........ผิดนั้นบ่เผยฯ @ แก้วประัภัสสร @ 28/07/2555
บังยียึดที่ตั้ง.....................หมากเตะ
คงจะดูเละเทะ.................อีกแล้ว
ทีมชาติเน่าฟอนเฟะ........เฟอะตลอด
อนาคตคงไม่แคล้ว..........วืดถ้วยทุกสนาม
ความบริหารผิดเพี้ยน........ผูกขาด
สายเลือดไทยอเน็จอนาถ........หนักด้วย
แปดปีสิบปีชาติ............หน้าเถิด
บอลโลกฝันหลังม้วย........มอดไหม้ตายตาม
รวมพลคนชอบเมาท์ห้าเจ้าจอม ครบหน้าพร้อมเมาท์กระจายเรื่องใครอื่น อัพเดทเรื่องชาวบ้านทุกวันคืน ใครไหนชื่นใครเศร้ารู้เท่าทัน แลกข้อมูลกันและกันหายคันปาก เมาส์มันส์มาก..บ้างอำให้ขำขัน เรื่องชาวบ้านคืองานมานานวัน เรื่องเรานั้น..ดันไม่รู้หดหู่จัง อิอิ หากวันไหนออนเอ็มไม่เต็มแก๊งค์ แน่นอนต้องมีแว้งแทงข้างหลัง คนไหนหายคนนั้นมั่นจีรัง ถูกนินทาไม่ยั้งแบบพรั่งพรู จึงไม่กล้าออฟไลน์หรือหายหัว เพราะว่ากลัวปากเพื่อนเหมือนอดสู ฝึกน้ำอดน้ำทนคล้ายคนรู วันวันอยู่จับเจ่าเฝ้าหน้าจอ เหมือนเป็นยามเฝ้าบ้านเช้ายันค่ำ ที่ประจำหลังขดเพราะจดจ่อ รออัพเดทข่าวคราวราวบ้าบอ หวังหัวข้อไหนเด็ดต้องเสร็จเรา 555+ ทามไปได้
หมาเห่าใบตองแห้ง อาทิตย์อัสดงลงเหลื่ยมเขา เสียงหมาเห่ากลางลานม่านไม้ไหว แกรกแกรกแกรกแหวกหาว่าอะไร .สัญชาตญานสั่งให้ไล่ล่าตาม ก็แค่เห่าใบตองจ้องจ้องขู่ ที่รู้รู้ใครใครไม่เกรงขาม ที่ป่าวร้องเสียงแหบหลายโมงยาม เขาประณามหมาเห่าเขารำคาญ เห่าประกาศศักดาบ้าอำนาจ นี่แหละชาติสันดานเดรัจฉาน หวงลาภยศหวงของเขตภิบาล ใครอาจหาญบุกมาข้าเอาตาย ต่างระแวงเกรงกริ่งชิงแข่งขัน เข้าประจัญรุกรบจนเสียหาย จิตอิจฉาจึงกล้าและท้าทาย ลืมความหมายชีวิตลืมคิดตรอง หมาเห่าใบตองแห้ง เป็นสำนวนที่เปรียบเทียบกับสุนัขที่ชอบเห่าใบตองแห้ง คือเห่าใบกล้วยที่แห้งติดอยู่กับต้น เวลาลมพัดใบกล้วยแห้งจะแกว่งหรือเสียดสีกัน มีเสียงแกรกกราก สุนัขเห็นอะไรไหว ๆ หรือได้ยินเสียงแกรกกรากก็จะเห่าขึ้น แต่ก็เห่าไปอย่างนั้นเอง ไม่กล้าไปกัดใบตองแห้ง กิริยาของสุนัขนี้จึงนำมาเปรียบกับคนที่ชอบพูดจาเอะอะในลักษณะที่อวดตัวว่าเก่งกล้า แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้กล้าสมกับคำพูด แต่ปกติถ้าเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกมาก่อนนะ เช่นสุนัขตำรวจ หมานายพรานมักใช้จมูกได้ไว และแม่นมาก ถ้าเห่าแล้วก็แสดงว่าเจองู แย้ กระต่าย หรืออะไรสักอย่างแน่ๆ แล้วแต่สายพันธุ์
เหม็นกลิ่นดอกหลอกลวง..เจ้าพวงเหม็น กลิ่นเยือกเย็นจนหนาว..เจ้าชาเฉย เจ้าโรยกลิ่นโชยกรุ่นอย่างคุ้นเคย คล้ายจะเย้ยมวลหมู่ ผู้ดมดอม เหม็นกลิ่นดอกรักเร่เจ้าเหหัน รักผกผันหลายใจ..ไม่ถนอม ผลิกิ่งก้านกลิ้งกลอกหนอดอกพยอม ยามเขาพร้อม เจ้าผละ..ละจากไป เหม็นกลิ่นดอกคำสร้อย..คนร้อยเล่ห์ พร่ำถ่ายเท..ยากนัก จักฝันใฝ่ เจ้าหว่านเมล็ดผลิกอแตกหน่อใจ แล้วผลักไสคืนคำ..ลำนำลวง เหม็นซะจัง น้ำใจ..ใครช่างเหม็น เปิดประเด็นนุ่มนวล..ชวนห่วงหวง ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อนฉะอ้อนทรวง ปลายกลับร่วงโรยรา..เหม็นหน้าจัง !!
สัตว์สภา กลอนกลบท ฉัตรสามชั้น สัตว์หน้าเปื้อนเกลื่อนสภา เปื้อนหน้าสัตว์ เสียงส่ำซัดชัดคำซัดส่ำเสียง เรียงรายนั่งพรั่งหลายนั่งรายเรียง อึงถ้อยเถียงเยี่ยงถ่อยเถียงถ้อยอึง โลดลอยเริงเหลิงพลอยเริงลอยโลด ขึ้งเกลียดโกรธโคตรเสนียดโกรธเกลียดขึ้ง รึงรุมพิษผิดสุมพิษรุมรึง วนเวียนทึ้งทะลึ่งเพี้ยนทึ้งเวียนวน ทุกข์คนปรี่มีล้นปรี่คนทุกข์ ข้นแค้นขุกกระอุกแน่นขุกแค้นข้น ชลชุ่มโชกโศกสุมโชกชุ่มชล มัวหมองหม่นทนครองหม่นหมองมัว สัตว์ผองไยใคร่ผยอง ไยผองสัตว์ มั่วแว้งกัดขัดแย้งกัดแว้งมั่ว ตัวพ้นผิดบิดยุบลผิดพ้นตัว ฮาเฮชั่วโฉเกชั่วเฮฮา เน้นแดกย้ำขย้ำแหลกย้ำแดกเน้น พร่าผลาญเผ่นเล่นร่านเผ่นผลาญพร่า พาพวกฉลปล้นสะดวกฉลพวกพา มันฆ่ายากอยากจะบ้า ยากฆ่ามัน (ร่างเดิม ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ แก้ไขครั้งล่าสุด ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ครับผม) หมายเหตุ: ๑.กลบท ฉัตรสามชั้น มีปรากฏอยู่ทั้งในวรรณคดีไทยเรื่อง สิริวิบูลกิตติ์ นิพนธ์โดยท่านหลวงศรีปรีชา (เส้ง) และประชุมจารึกวัดพระเชตุพน น่าสังเกตตรงที่ รูปลักษณ์ของกลนี้ เหมือนกับกลอักษรชื่อ ม้าลำพอง (ดังที่กลบท ม้าเทียมรถ มีรูปแบบเหมือนกลอักษร เมขลาโยนแก้ว กระนั้น) ผมศึกษากลดังกล่าว จากหนังสือกวีนิพนธ์ รอยทราย ของท่านอาจารย์วันเนาว์ ยูเด็น แหละหนังสือกฎบนกลบท ของท่านอาจารย์คมทวน คันธนู ครับ ๒.ยินข่าวนักการเมืองทะเลาะกันในสภาขณะประชาชนส่วนมากเดือดร้อนแล้ว ผมทนไม่ไหวจริง
ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะเริ่มเกิด ความเป็นเลิศใช่ว่าอยู่นานโข ความเป็นไปสภาวะอกาลิโก ตั้งแต่โบราณมา..ว่าจริงแท้ ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะประสบ กลการรบเลิศล้ำยังถลำแพ้ ชัยชนะจากคาวเปื้อนสะเทือนแด ผ่านพ้นแค่..ประวัติศาสตร์..ที่อาจจะเป็น อย่าร้อนรนทนท้อต่อการแพ้ รู้เพียงแต่...มีศรัทธาอย่าหลบเร้น รู้สิ่งใดผิดถูกผูกประเด็น อย่าว่างเว้นศีลธรรม..โปรดยำเกรง หากที่สุดความหวังเธอพังพ่าย อย่ามัวไปโทษฟ้าว่าข่มเหง ขอโทษนั้นตกอยู่ที่ฉันเอง เพราะมัวบรรเลงเพลงกวี..เสียดสีกัน ...แบบว่า
..มานั่งคิดสิทธ์อะไรไปสอนสั่ง จึงต้องนั่งวางท่าทำหน้าเฉย ช่างมันซะใช่ธุระปล่อยละเลย ผลลงเอยเพื่อนเที่ยวพาลประจานตน ..ภาษิตไทยน้ำใสจึ่งไว้นอก ดังท่านบอกห้ามพูดร้ายขยายผล หยุดป่าวร้องฟ้องเรื่องร้ายทำลายตน หมั่นฝึกฝนสิ่งใดควรล้วนเรื่องดี ..ละเรื่องลบหยุดสาวใส้ให้กากิน คำติฉินหรือควรคู่คิดดูถี มีใครบ้างเห็นใจเล่าเจ้าคนดี หยุดซะทีเลิกเล่าขานประจานตัว ..วันหนึ่งใดต่อไปในวันหน้า เรื่องวันนี้จะพาส่งผลชั่ว โพสต์เรื่องดี ส่งเสริมดีมีแก่ตัว พร่ำบ่นมั่ว พ่นทุกยามงามหน้าเอง
o ไม่เป็นไร สักหน่อย เรื่องแค่นี้ ก็แค่อยู่ ดีดี เธอหนีหาย ไม่เป็นไร ไม่มี แแผลทางกาย พักสักหน่อย ค่อยหาย อย่าเอ็นดู o ไม่เป็นไร สักหน่อย ไม่เป็นไร เจ็บเจียนตาย ก็ยัง หายใจอยู่ ไม่เป็นไร หรอกนะ จงรับรู้ ก็ยังหาย ใจอยู่ ยังไม่ตาย o ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร จริงจริงจ๊ะ ก็เจ็บนะ แต่ว่า ยังทนไหว คำสามคำ จำไว้ ไม่เป็นไร ไม่ต้องการ ให้ใคร เวทนา o ไม่เป็นไร บอกว่าไม่ เป็นไรเล่า ก็ใจเรา ยังอยู่ กับเราหนา แค่ใจเจ็บ ช้ำหน่อย ธรรมดา พลาสเตอร์ยา ปิดไว้ ก็หายเอง o ไม่เป็นไร จริงจริง เชื่อบ้างสิ แค่ตำหนิ ในใจ ไงคนเก่ง ไม่เป็นไร มั่นใจ ใจนักเลง มันเจ็บเอง ก็หายเอง “ไม่เป็นไร” .....19/11/12....
ก่อนสัญญา เอาไว้ อย่างไรหนอ ให้เรารอ ความฝัน ในวันหน้า จะยิ่งรัก ยิ่งฝัน ทุกเวลา นี่ผ่านมา สองปี ที่เฝ้ารอ สิ่งที่เห็น ไม่เป็น อย่างที่คิด ถูกเบือนบิด หัวใจ อย่างไรหนอ แม้บอกรัก ทุกวัน อย่างฉันรอ แต่ใจท้อ เพราะเพียงแต่ แค่คารม เธอพร่ำท่อง อ่านบท เหมือนจดไว้ คล้ายจริงใจ ปากหวาน ปานขนม จะดูแล หัวใจ ไม่ให้ตรม เพียงคารม สมอ้าง อย่างนิยาย มาวันนี้ รู้ใน ใจเธอแล้ว คงไม่แคล้ว ถูกหลอก ให้ใจหาย คนยิ่งรัก ต้องทน จนวอดวาย นางฟ้ากลาย เป็นมาร ในร่างคน ยังมีใคร มากมาย โดนเธอหลอก แม้พร่ำบอก อย่างไร ไม่เคยสน หลับหูตา ตามกระแส แค่ใจตน องครักษ์ พิทักษ์คน ที่เลวทราม หวังเอาไว้ สักวัน ตาสว่าง หันดูบ้าง สักครั้ง ตั้งคำถาม ทบทวนเหตุ ดูผล แล้วคิดตาม ลองนิยาม ใหม่เถิด เปิดหัวใจ ลืมตาเถิด อย่าหลง คารมเขา เปิดใจเรา รับเอา ความจริงไว้ แค่อ้าปาก มองเห็น ถึงเครื่องใน จะหาความ จริงใหน จากใจเธอ ......มวลภมร......
//////////////////////////////////////// ต้องการความรักใช่ไหมคนดี ขอโทษที ถ้าจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เข้าใจไหมว่ามันจบแล้ว รักมันจบลงไป จะให้ทำยังไง ก็ไม่ย้อนคืนมา ระหว่างเรา!!! มันมีเพียงความเศร้าไร้ร่องรอยความห่วงหา ถ้าเธอยังต้องการ ลองถามตัวเองสิว่าที่ผ่านมา เธอเคยมองฉันคนนี้มีค่าพอหรือยัง แล้ววันนี้จะมาอ้อนวอนอะไร จะมาถามทำไมถึงหัวใจที่ยากจะฉุดรั้ง จำไว้หน่อยนะว่า ทั้งหมดที่ผ่านมากำลังพัง ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดนั่น มันจบด้วยมือเธอ //////////////////////////////////////////////
เมื่อก่อนเป็นประชาชนคนเล็ก-เล็ก ไม่ขี้เก็กไม่หยิ่ง..ไม่ยโส แต่พอเป็นนายกฯ ทำตัวโต... หยิ่งยโสไม่เคยมีกลับมีมา ประชาชนเลือกมาเป็นนายกฯ ทำยืดอกกูใหญ่กว่าใครเขา มีลูกน้องตามติดมาเป็นเงา มาคอยเฝ้าประจบหวังเป็นคนใหญ่โต วัน- วันเอาแต่วางก้าม ไม่ทำตามสัญญาประชาไว้ หาแต่ประโยชน์ส่วนตนไม่สนใคร ไม่ใส่ใจประชาชนคนเดินดิน นโยบายชั่วช้าประชาห้ามกูไม่ฟัง ใครจะพังพินาศยับกูไม่สน กูจะรวยใครจะเป็นคนยากจน กูไม่สนถ้ากูได้กูจะทำ... เมื่อนายกฯ ขึ้นไปนั่งอยู่บนวอ คนโง่เรียกมันว่าพ่อ...เลียแข้งขา ประจบประแจง..โดนความโลภปิดหูตา มองไม่เห็นความชั่วช้าที่มันมี นายกฯ ลืมตนเคยเป็นคนเล็ก-เล็ก ตัวเองไร้เดียงสากว่าเด็กยังไม่รู้ หยิบคำว่านายกฯมาแปะหน้าแล้วเชิดชู หวังจะอยู่ค้ำฟ้าทัดเทียมบิดาไทย สุดท้ายนายกฯ นึกว่าตัวเองใหญ่ เป็นเจ้าของประเทศไทยทั้งหมดสิ้น มองไม่เห็นแม้ความสูงส่งของประมุขของแผ่นดิน ลืมหมดสิ้นความนบน้อมและถ่อมตน...
กาพย์เห่ชมเพื่อนปลาวาฬ รัตนโกสินทร์ศักราช ๒๒๙ ปลาวาฬจากฟ้ามิ่ง...............มหาสวรรค์ แหวกว่ายสู่สยามขยัน............หลักล้าน มุ่งหน้าสู่กรุงบัน-................ดาลทุกข์ เทวษฤา เพียงแค่อยากกลับบ้าน........เกิดใต้อ่าวไทย โอ้โห เจ้าปลาวาฬ ห้าสิบล้านที่ได้ยิน จากฟ้ามาสู่ดิน ดำแหวกว่ายอยู่ในกรุง ปลาวาฬมากมีเพื่อน เมื่อมาเยือนย่อมมียุง กัดแขน-ขา-หน้า-พุง ของทุกผู้ทุกคนไป ปลาตัวน้อยใหญ่ยักษ์ หลายเผ่าพรรคเที่ยวกรุงใหญ่ ลัดเลาะตึกนอกใน ใต้ทางด่วนล้วนมีปลา เหี้ยน้อยผู้น่ารัก ว่ายทายทักเห็นตำตา หลุดจากรัฐสภา มาแหวกว่ายแถวดอนเมือง ดูคล้ายจระเข้ หากตาเขอาจมีเคือง โดนงับย่อมต้องเปลือง ค่ารักษาพยาบาล ฝูงปลิงยิ่งมีเยอะ ลุยน้ำเจอะอยู่หน้าบ้าน ดูดเลือดแข่งยุงปาน เป็นกาชาดสากลกัน ปลาวาฬสวัสดี ญาติน้องพี่มีครบครัน หมาน้อยลอยคอมัน หัดว่ายน้ำยามจำเป็น แมวเหมียวปีนต้นไม้ เขาไว้ลายไว้ให้เห็น งูเหลือมใช่ประเด็น เผ่นขึ้นเลยไม่เคยกลัว งูเขียวแมมโบหลุด แหวกว่ายมุดมาหลายตัว ปลาวาฬใจเต้นรัว นี่เพื่อนสัตว์จากรัฐใด จ๊ะเอ๋ เจ้าลิงน้อย ว่ายน้ำคอยมาเอาใจ ท่วมถึงเมฆเมื่อใด จะบอกให้กระต่ายมา หยอกล้อขอเป็นเพื่อน ดูดาวเดือนกินมาม่า ต้อนรับปลาวาฬพา เพื่อนเที่ยวท่องฉลองกรุง เถิดเที่ยวให้อิ่มหนำ เถิดเพื่อนดำแหวกว่ายพุ่ง ผ่านเจ้าสมุทรผดุง พระเดโชโปไซดอน ผ่านอ่างทุกอ่างไป ก่อนจะไหลไปพักผ่อน สู่ดินแดนต่ำตอน เดือนน้ำลดหมดเสี