รักจริงมีบ้างไหมขอถามหน่อย หัวใจลอยไปลอยมาได้ยังกะผี หลอกกันได้แม้กะทั้งหัวใจดีดี กี่คนแล้วล่ะที่เธอทำให้ช้ำใจ สนุกมากไหมคนหลายหน้า ทั้งวาจามารยาพาสาไถ หรือเป็นอาชีพหลักทุกวันไป หลอกหัวใจใครใครมาต้มยำ ขอโทษที...บังเอิญฉันไร้หัวใจ จะล้วงตับให้แทนก็ดูขำ จะรู้ตัวบ้างไหมที่เธอทำ พฤติกรรมอย่างเธอไม่ใช่คน
ปิ๊ดปี้ปิ๊ด โปลิศ มาจับขะโมย พวกเด็กรีบวิ่งโกยขะโมยหนีโปลิศ แต่คราวนี้ได้ยินเสียงนกหวีด มิใช่โปลิศกลับเป็นประชาธิปัติย์ ประชาชนไม่เคยนึกสงสัย เพราะรู้ไส้เป็นเรื่องที่เขาถนัด ความเสียหายเตยทำสารพัด เพียงจะขจัดศัตรูทางการเมือง สุวรรณภูมิเสียหายหลายแสนล้าน ปิดเพชรเกษมห้ามผ่านให้เป็นเรื่อง คราวนี้เหิม เริ่มประกาศขนาดเขื่อง วันพรุ่งนี้เดินเครื่องระดมพล สู้ทั้งในรัฐสภาอย่างบ้าบิ่น สมาชิกทุกถิ่นให้ออกสู้ท้องถนน ทั้งกรุงเทพฯคงเดือดร้อนประชาชน โกลาหลยึดทำเนียบสถานีรถไฟ เป้าหมายแรกชุมทางรถไฟสามเสน นักรบศรีวิชัยถูกเกณท์เอามาใช้ หยุดการเดินทางขึ้นเหนือและล่องใต้ ทั้งอิสานไม่ให้ไปดูสักที เป้าต่อไปสถานีขนส่งหมอชิต การเดินทางหยุดสนิทยุ่งเต็มที่ ดองกฏหมายปรองดองอีกหลายปี ล้มรัฐบาลครั้งนี้หวังรอดคุก อัยการสูงสุดฟ้องได้ก็ฟ้องไป เดินขบวนป่วนไทยให้สนุก ไม่รับรู้ชาวบ้านจะได้ทุกข์ นี่คือยุคเดนนรกอหังการ์ ถ้าชุมนุมในกรอบของกฏหมาย ย่อมมีสิทธิ์ทำได้ซึ่งเข้าท่า ไม่ต้องสร้างเดือดร้อนชาวประชา ปิดคมนาคมนี่คนบ้าหรือไรกัน...
คนฉลาด คิดแต่กลัวเอาตัวรอด คุณจึงอยู่เยี่ยมยอดปลอดภัยผอง คุณซ่อนซุกสุขกระไรในกระดอง คุณเมียงมองจ้องกำไรไว้ทุกครา ยามภัยมาคุณซุกร่างแอบข้างหลัง หวาดระวังมิให้ออกมานอกหน้า สยบพร้อมยอมแพ้แก่ชะตา เพราะรู้ว่าจะมีคนดิ้นรนแทน เขาเป็น คนโง่โง่ ไร้แง่เงื่อน เขาเห็นทุกข์ของเพื่อนนับเรือนแสน เขามีใจรับรู้ไม่ดูแคลน เขายอมแอ่นอกรับกับพิษภัย คนฉลาด ฉลาดรู้ดูทางลม ถ้าเขาล้มก็เหยียบย่ำซ้ำเติมใส่ ถ้าเขาชนะก็ดี๋ด๋ามาร่วมใจ ร่วมประโยชน์ฉลองชัยไม่เคยอาย เขาโง่เง่าในสายตาคนฉลาด แต่องอาจในวิถีมีความหมาย เขารู้เท่ารู้ทันว่าอันตราย แต่เสี่ยงตายด้วยสำนึกระลึกรู้ บ้านเมืองไม่อับจนเพราะ คนโง่โง่ ที่กล้าขืนยืนโต้ออกต่อสู้ คนโง่โง่ ต้องเจ็บตัวเต็มประตู คนฉลาด จึงได้อยู่อย่างร่มเย็น! ในสถานการณ์คับขันหรือเกิดปัญหาขึ้นในสังคม เรามักจะพบคนสองกลุ่มใหญ่ๆเสมอ กลุ่มหนึ่งโถมตัวอุทิศตนเข้ามารับผิดชอบแก้ไขปัญหา ขณะอีกกลุ่มหนึ่งนั่งดูอยู่ห่างๆเพื่อรอเวลารับผลประโยชน์
กาพย์เห่ชมเพื่อนปลาวาฬ รัตนโกสินทร์ศักราช ๒๒๙ ปลาวาฬจากฟ้ามิ่ง...............มหาสวรรค์ แหวกว่ายสู่สยามขยัน............หลักล้าน มุ่งหน้าสู่กรุงบัน-................ดาลทุกข์ เทวษฤา เพียงแค่อยากกลับบ้าน........เกิดใต้อ่าวไทย โอ้โห เจ้าปลาวาฬ ห้าสิบล้านที่ได้ยิน จากฟ้ามาสู่ดิน ดำแหวกว่ายอยู่ในกรุง ปลาวาฬมากมีเพื่อน เมื่อมาเยือนย่อมมียุง กัดแขน-ขา-หน้า-พุง ของทุกผู้ทุกคนไป ปลาตัวน้อยใหญ่ยักษ์ หลายเผ่าพรรคเที่ยวกรุงใหญ่ ลัดเลาะตึกนอกใน ใต้ทางด่วนล้วนมีปลา เหี้ยน้อยผู้น่ารัก ว่ายทายทักเห็นตำตา หลุดจากรัฐสภา มาแหวกว่ายแถวดอนเมือง ดูคล้ายจระเข้ หากตาเขอาจมีเคือง โดนงับย่อมต้องเปลือง ค่ารักษาพยาบาล ฝูงปลิงยิ่งมีเยอะ ลุยน้ำเจอะอยู่หน้าบ้าน ดูดเลือดแข่งยุงปาน เป็นกาชาดสากลกัน ปลาวาฬสวัสดี ญาติน้องพี่มีครบครัน หมาน้อยลอยคอมัน หัดว่ายน้ำยามจำเป็น แมวเหมียวปีนต้นไม้ เขาไว้ลายไว้ให้เห็น งูเหลือมใช่ประเด็น เผ่นขึ้นเลยไม่เคยกลัว งูเขียวแมมโบหลุด แหวกว่ายมุดมาหลายตัว ปลาวาฬใจเต้นรัว นี่เพื่อนสัตว์จากรัฐใด จ๊ะเอ๋ เจ้าลิงน้อย ว่ายน้ำคอยมาเอาใจ ท่วมถึงเมฆเมื่อใด จะบอกให้กระต่ายมา หยอกล้อขอเป็นเพื่อน ดูดาวเดือนกินมาม่า ต้อนรับปลาวาฬพา เพื่อนเที่ยวท่องฉลองกรุง เถิดเที่ยวให้อิ่มหนำ เถิดเพื่อนดำแหวกว่ายพุ่ง ผ่านเจ้าสมุทรผดุง พระเดโชโปไซดอน ผ่านอ่างทุกอ่างไป ก่อนจะไหลไปพักผ่อน สู่ดินแดนต่ำตอน เดือนน้ำลดหมดเสี
เห็นชัดๆจับปลาสิบมือ แต่เธอก็ยังด้านดื้อไปเรื่อยๆ ให้ความห่วงใยกับใครอย่างฟุ่มเฟือย ขอโทษ ต้มไม่ทันเปื่อยฉันรู้ทัน หวานอย่างนี้สาวชอบนัก แต่ฉันที่คือคนรักใจชักสั่น ทนได้นานแค่ไหน ไม่รับประกัน ที่รู้ๆว่าสักวัน ฉันสู้ตาย ถ้าหยุดซะก่อนวันนี้ บางทีความรักดีๆอาจไม่โหดร้าย จะเลือกเอาใครข้างทางที่มีมากมาย หรือเลือกเลิกสันดานเสียดาย...แล้วได้ฉันคนเดียว...
เหม็นกลิ่นดอกหลอกลวง..เจ้าพวงเหม็น กลิ่นเยือกเย็นจนหนาว..เจ้าชาเฉย เจ้าโรยกลิ่นโชยกรุ่นอย่างคุ้นเคย คล้ายจะเย้ยมวลหมู่ ผู้ดมดอม เหม็นกลิ่นดอกรักเร่เจ้าเหหัน รักผกผันหลายใจ..ไม่ถนอม ผลิกิ่งก้านกลิ้งกลอกหนอดอกพยอม ยามเขาพร้อม เจ้าผละ..ละจากไป เหม็นกลิ่นดอกคำสร้อย..คนร้อยเล่ห์ พร่ำถ่ายเท..ยากนัก จักฝันใฝ่ เจ้าหว่านเมล็ดผลิกอแตกหน่อใจ แล้วผลักไสคืนคำ..ลำนำลวง เหม็นซะจัง น้ำใจ..ใครช่างเหม็น เปิดประเด็นนุ่มนวล..ชวนห่วงหวง ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อนฉะอ้อนทรวง ปลายกลับร่วงโรยรา..เหม็นหน้าจัง !!
ก็เห็นอยู่โต้งโต้งมันโกงชาติ ยังปล่ออยขาดคดีความตามที่เห็น กินป่าไม้หินทรายหลายประเด็น ยังปล่อยเร้นหลบได้ ไร้น้ำยา เราพูดมากลากปืนมายืนจ้อง พวกเอ็งต้องหุบปากหากกังขา เดี๋ยวจะโดนไข้โป้ง จบชีวา อย่านินทารู้ไว้ใครคือนาย ปากก็สอนกันไว้ให้รักชาติ เป่าประกาศอย่าให้ใครไปขาย เอาเข้าจริงเผยไปมีแด่ดาย ไม่ก็ย้ายที่ทางถูกขังคุก พูดกับทำแตกต่างกันอย่างนี้ ก็เห็นทีดีไป คงไร้สุข หากจะดีแล้วต้องเสี่ยงความทุกข์ เลิกเถอะลูกหลานข้าอย่าทำเลย รู้รักษาตัวรอดนั่นยอดนัก นี่คือหลักเขากระซิบหยิบมาเผย มัวหลงลมชมเขาเราจะเชย ถูกมันเย้ยเอาได้เมื่อปลายมือ เหมือนปู่ไงล่ะหลาน ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฆ่าตัดตอนละครสามตอนจบ แล้วสยบข่าวลือมือสังหาร ยกเรื่องราวทายท้าบรรณาการ เสียงวิจารณ์ลุกลามจนข้ามแดน เสรีภาพเข้าปิ้งสิ้นติงไหว สวนประชาธิปไตยที่แห่แหน ลดศรัทธาบั่นทอนจนคลอนแคลน เข้าใจแก่นจริงแท้ฤาแค่เงา เชือดไก่ให้ลิงดูต่างรู้สึก ยึดขวดหมึกเปิดสาดกระดาษเผา ปากกาด้ามสุดท้ายข้างกายเรา จะโยนเข้ากองไฟหรือใช้งาน อยู่กันอย่างหลอนหลอกถูกฟอกขาว ต่อปรองดองชั่วคราวใต้ร้าวฉาน เมื่อสงบภาคบังคับขยับลาน ความจริงย่อมคืบคลานประสานเฟือง!!! ..
สัตว์สภา กลอนกลบท ฉัตรสามชั้น สัตว์หน้าเปื้อนเกลื่อนสภา เปื้อนหน้าสัตว์ เสียงส่ำซัดชัดคำซัดส่ำเสียง เรียงรายนั่งพรั่งหลายนั่งรายเรียง อึงถ้อยเถียงเยี่ยงถ่อยเถียงถ้อยอึง โลดลอยเริงเหลิงพลอยเริงลอยโลด ขึ้งเกลียดโกรธโคตรเสนียดโกรธเกลียดขึ้ง รึงรุมพิษผิดสุมพิษรุมรึง วนเวียนทึ้งทะลึ่งเพี้ยนทึ้งเวียนวน ทุกข์คนปรี่มีล้นปรี่คนทุกข์ ข้นแค้นขุกกระอุกแน่นขุกแค้นข้น ชลชุ่มโชกโศกสุมโชกชุ่มชล มัวหมองหม่นทนครองหม่นหมองมัว สัตว์ผองไยใคร่ผยอง ไยผองสัตว์ มั่วแว้งกัดขัดแย้งกัดแว้งมั่ว ตัวพ้นผิดบิดยุบลผิดพ้นตัว ฮาเฮชั่วโฉเกชั่วเฮฮา เน้นแดกย้ำขย้ำแหลกย้ำแดกเน้น พร่าผลาญเผ่นเล่นร่านเผ่นผลาญพร่า พาพวกฉลปล้นสะดวกฉลพวกพา มันฆ่ายากอยากจะบ้า ยากฆ่ามัน (ร่างเดิม ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ แก้ไขครั้งล่าสุด ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ครับผม) หมายเหตุ: ๑.กลบท ฉัตรสามชั้น มีปรากฏอยู่ทั้งในวรรณคดีไทยเรื่อง สิริวิบูลกิตติ์ นิพนธ์โดยท่านหลวงศรีปรีชา (เส้ง) และประชุมจารึกวัดพระเชตุพน น่าสังเกตตรงที่ รูปลักษณ์ของกลนี้ เหมือนกับกลอักษรชื่อ ม้าลำพอง (ดังที่กลบท ม้าเทียมรถ มีรูปแบบเหมือนกลอักษร เมขลาโยนแก้ว กระนั้น) ผมศึกษากลดังกล่าว จากหนังสือกวีนิพนธ์ รอยทราย ของท่านอาจารย์วันเนาว์ ยูเด็น แหละหนังสือกฎบนกลบท ของท่านอาจารย์คมทวน คันธนู ครับ ๒.ยินข่าวนักการเมืองทะเลาะกันในสภาขณะประชาชนส่วนมากเดือดร้อนแล้ว ผมทนไม่ไหวจริง
ย้อนรอย2475 ชะตาบ้านเมืองแปรผัน ทหารตำรวจดวดกัน แข่นขันอำนาจบาทมี ทูลขอล้นเกล้าประชาธิปไตย มอบให้..พร้อมหรือประชานี่? คณะราษฎร์ตั้งแล้วสดุดี มีพลมีพรรคสมัครรวม เฉลิมฉลองอำนาจเมืองแมน สวมโขนใส่แขนมาสวม เผด็จการเบ็ดเสร็จรวม ใครร่วมใครต่างย่างไฟ เลือดนองตุลามหาวิปโยค คืนโศกวีรชนหม่นไหม้ นิสิตเดือดแร้นแทนใคร อธิปไตยอยู่ไหนท่านให้มา? อำนาจล้นเกล้ามอบให้ วนวกเวียนว่ายคล้ายค้นหา บัณฑิต ปราชญ์ผู้รู้วิชา ช่วยนำประชาของท่านที ให้อำนาจของท่านสู่ปวงชน ใช่หนึ่งคนหนึ่งคณะณ.ที่นี้ เพื่อประชาของท่านทั้งปฐพี มีประชาธิปไตยไทยทั้งปวง จนปี2555 อนิจจาอธิปไตยที่แหนหวง บัดนี้รอยแยกแตกกลวง ลืมหวงลืมห่วงประเทศไทย แบ่งแยกแตกสีอับอาย แบ่งฝ่ายลืมเหง้าหรือไฉน ต่างฝ่ายเรียกหาประชาธิปไตย เพื่ออะไรหากใช้มันไม่เป็น! MV ส่งใจ (รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนแปลง) http://www.youtube.com/watch?v=HrZnR-RDvw0
นี่คือความเจริญที่เดินพร้อม กับภาวะจำยอมแห่งหนี้สิน ห้าสิบปีผ่อนพลางร่างฝังดิน จะได้ยินเสียงใดจากปลายทาง สมัยแม่คิดแค่มีรถด่วน ถึงกระอักกระอ่วนล้วนถือหาง เพื่อต้อนรับ AEC เร็วรี่วาง ระบบรางตามรัฐพัฒนา ในวันนี้ส่งผ่านสารจากแม่ เยี่ยมหรือแย่คิดถูกไหมลูกจ๋า ขอให้เจ้าเข้าใจเจตนา ไม่ก่นด่าเย้ยหยันบรรพชน อนุสรณ์รถไฟความเร็วสูง ยกประโยชน์ชักจูงฝันฟุ้งขน เป็นศูนย์กลางอาเชียนแลกเปลี่ยนคน สำเร็จผลตามเป้าหรือเปล่าดาย.. ..
หลังเรียกร้องก็ได้ชัยชนะ โดยสละเลือดเนื้อบางเสื้อสี ประชาธิปไตยเชื่อว่ามี การันตีโอกาสอย่างเท่าเทียม เสรีภาพพร่ำพรอดเคยออดอ้อน ชักร้อนร้อนหนาวหนาวคละเคล้าเหนียม ได้แต่คิดผลิตคำผิดธรรมเนียม จั๊กกะเดียมลมโปรยหยอกโชยดิน มีอำนาจสมหวังก็ตั้งกฏ ใจกบฎโยนความปรามติฉิน หมิ่นประมาทปรักปรำขวางทำกิน กดหัวก่อนตัดลิ้นสิ้นจุดยืน อุดมการณ์สนธิเกียรติศักดิ์ เทน้ำหนักทางใดไม่ขัดขืน เสมอภาคชีช้ำทนกล้ำกลืน ขวางทางปืนรอดตายเลี้ยงไม่โต!!! ..
เอาแชมป์ไปเลยดีฝ่า!!! เป็นเจ้าภาพบังหน้าเค้าได้ ไม่รู้ซื้อกรรมการไปเท่าไร เห็นชนะใครใครมาหลายที โปรตุเกสอิตาลีสเปน ตัดสินเอียงเอนอออกอย่างนี้ ลูกมันเข้าประตูไปกี่ที ไม่เห็นเลยจะมียุติธรรม ประชาชนเป็นล้านเฉลิมฉลอง ชัยชนะที่มัวหมองตอกย้ำ เป็นคนไทยไม่ดีใจซักคำ หากชนะมาด้วยทำลับหลังใคร ทีมใหญ่ๆส่ายหัวกลัวเอเชีย จิตใจละเหี่ยเกินทนไหว ใช่ว่าแพ้เพราะมันเก่งซะเมื่อไร นี่มันแพ้เพราะใจมันเลวทราม ลูกไปนอนก้นตาข่ายใช่ชนะ ก็นี่ล่ะ...ที่ว่าน่าเกรงขาม กรรมการมันร่วมโกงอยู่ทุกยาม จึงแพ้ความเลวทรามน่าไม่อาย วันนี้....เกาหลีเจอเยอรมัน ดูซิดู...ดูมันโกงได้ไหม เจ้าประคู้น....ขอให้มันต้องเจ็บใจ แพ้ 5-0 เลยได้ไหม....ช่วยผมที!!! เราคนไทย ไม่ชอบโกงใครเนาะ แพ้ก็แพ้สิ ถ้าชนะแบบโกงเค้ามาตลอด มันหน้าตัวเมียเกินไป!
* อธิปไตยไร้เสรีภาพ * อยุติธรรมนำหน้าเสรีภาพ เหม็นโฉ่ฉาบตุลาการผ่านรักษา สร้างความดีได้ชั่วมั่วทุกครา ยากจะหายุติธรรมนำปกครอง สิ้นนับถืออันธพาลผ่านครานี้ ไร้ศักดิ์ศรีความชั่วกลั้วเกิดสนอง ฝากความหวังครั้งใดคล้ายละออง สร้างหม่นหมองแบ่งชั้นกลั้นน้ำตา ประชาธิปไตยไหนใคร่มองเห็น ทุกประเด็นสร้างไว้ไร้สิ่งหา อันความหวังผ่านไปไร้ราคา สิ้นศรัทธาเหลือทนของคนดี ความโป้ปดมดเท็จดั่งเห็ดสล้าง งามกระจ่างดังเดือนเหมือนสุรสีย์ แผ่กระจายทั่วไทยกระจายมี มองทุกที่ประหลาดดารดาษตา คนทำดีเหมือนได้คล้ายสิ่งชั่ว ถูกเขามั่วเหลือเกินเมินรักษา เกลื่อนไปด้วยหมู่มารผ่านอหังกา อดทนฝ่าเพื่อหวังสร้างธิปไตย เสรีภาพฉาบไว้คล้ายน้ำตาล แต่ไม่หวานคนชั่วมั่วหวั่นไหว ทุกวันนี้เขย่าบ้านผ่านแกว่งไกว ยากหวังได้อิสระมาครอบครอง ล้วนแต่พวกมารเหล่าเฝ้าครอบงำ สร้างสิ่งช้ำทำลายให้มาสนอง เฝ้าปั่นหัวพวกไว้ให้คึกคนอง ต่างยกย่องเป็นพ่อแม่แท้จริง ประชาธิปไตยอิสระชนปนอนาถ แค่ภาพวาดให้งามหยามทุกสิ่ง ประหลาดหนอเมืองไทยไร้ที่อิง มีพวกปลิงเสรีภาพฉาบล่อลวง. * แก้วประเสริฐ. *
เธอคือสโนไวท์ของฉัน รอยล้านความสวยนั้นรวมอยู่นี่ เธอรวมทุกความงามที่โลกมี มากระจุกรวมอยู่ที่หน้าของเธอ ฉันก็คนธรรมดา มีหรือจะไม่มานั่งเพ้อ แค่แว่บเดียวที่เหลียวมาเจอ ก็เล่นเอาฉันเหม่อไปหลายวัน อย่างเธอเรียกสวยสะท้าน ใครเห็นเป็นลนลานนั่งฝัน อยากจะอยู่ใกล้เธอซักวัน ใครกันหนอใครกันได้โชคดี เธอคือนางฟ้าลอยเด่น แหงนหน้ามองเห็นอยู่ตรงนี้ ยังไม่มีใครได้ไมตรี ฉันจึงถือโอกาสนี้รีบไปจอง สวัสดีครับผมทักทาย เธอทำเอียงอายปัดป้อง ไม่รอช้าผมรีบประคอง อย่าอายเลยน้องหันหน้ามา แว่บเดียวที่อยู่ใกล้เธอ ฉันจึงได้เจอคำตอบว่า ทำไมใครใครไม่กล้ามา เพิ่งจะรู้ความจริงว่าเป็นยังไง หน้าสวยสวยน้องเจ้า....แต่เท้าเหม็น ไม่นึกหนอว่าจะเป็นไปได้ ร้อยล้านกลิ่นเหม็นเหมือนเป็นใจ มากระจุกอยู่นี่ไงที่เท้าเธอ ตั้งแต่นั้นคบคนอย่าดูหน้า อาจเสียท่าเป็นบ้านั่งเหม่อ เจ้าประคู้นนน....ชาตินี้อย่าได้เจอ เห็นสวยสวยแต่เท้าเธอเหม็นบรรลัย อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงครับ เจอเธอที่ร้านเสริมสวย ตอนนั่งรอเห็นสวยมาก พอถอดรองเท้านั่งเก้าอี้เสริมสวย โอ้วว.....พระเจ้า เรียกเทศบาลมาที
เฝ้าเสาะค้นมานานเป็นร้อยปี มาวันนี้พบแล้วเส้นทางใหม่ ประการแรกต้องปิดทางรถไฟ การต่อไปปิดถนนทุกหนทาง ยึดทำเนียบศาลากลางขวางสภา แต่ละเว้นสนามม้ายังเปิดกว้าง เพราะเป็นแหล่งรายได้ไม่ยอมวาง พร้อมขัดขวางรัฐบาลต้านกฏหมาย นี่แหละคือประชาธิปไตยสมัยนี้ อยากให้ใครไม่ดีเอาขี้ป้าย เรื่องที่ดีพูดสับให้กลับร้าย ประชาชนเหมือนควายไม้รู้ฟัง ใครเดือดร้อนยังไงไม่ต้องสน ไม่ได้เล่ห์เอาด้วยกลไม่ต้องยั้ง เศรษฐกิจชะงักงันช่วยกันพัง กว่าความหวังสมใจได้เป็นรัฐบาล แต่ตอนนี้คนใต้เขาเดือดร้อน ใต้ด้วยกันกัดกร่อนให้แตกฉาน จะขึ้นเหนือลงใต้ไม่สำราญ เพราะพรรคพาลหมดท่ามาข้างถนน
ฉายา " การเมือง " ฉายาว่าไว้ หลายฝ่ายการเมือง มากมายหลายเรื่อง ประเทืองปัญญา ละครคนจน ไม่พ้นเน่าหนา มายาดราม่า ดารามากมาย ราคาค่าข้าว จำนำค้ำขาย โรงสีสบาย กำไรกำรี้ น้ำท่วมร่วมแล้ง ร้ายแรงเหลือที่ น้ำตาท่วมปรี่ ไม่มีข้าวขาย ละครคนจน ทุกคนทนไป ปีหน้าฟ้าใหม่ ปลูกขายอีกที ! สภา หน้าฉาก มีมากหน้าที่ หลังฉากไม่มี ชีวิตชีวา ซอมบี้ ถูกปลุก ให้ลุกขึ้นฆ่า ไม่มีราคา อาสาให้นาย ประทุประท้วง ก้าวล่วงหยาบหลาย ต่อหน้าท้าทาย ลงท้ายฟ้องความ ฝ่ายรัฐ ก่อร่าง ขึ้นห้างช่างค้ำ ร่วมเวรร่วมกรรม ต่างทำต่างถอย จับปลาสองมือ ต้องถือมือค่อย จำใจไม่ปล่อย จำถอยเพราะปอด โลงผุผีเน่า งานเข้าตลอด จำใจจำกอด อิดออดพรอดพร่ำ สัญญาว่าไว้ เปลี่ยนได้ไม่ย้ำ จำเป็นเปลี่ยนคำ จำใจลงเรือ ฝ่านค้าน ฉันหล่อ นั่งรอกินเหยื่อ ท่าเก่าเน่าเบื่อ เล่นเผื่อมีโชค ติดหล่มความหลัง ไม่ยั้งคลั่งโขก บลั๊บท่านายก ฉกฉวยเสียดสี ดึงขาหน้าขวาง ไม่วางวาที ปิดทุกวิถี .. อย่ามีที่ไป ฉายานี้หนอ มก. ว่าไว้ แต่งกลอนค่อนใส่ อย่าได้ว่