8 พฤศจิกายน 2546 13:25 น.

***...กว่าจะมาเป็นดาว...***

chemicalbond


กว่าจะมาเป็นดาว  

ดาว...ในความหมายของใครหลายๆคนอาจมีความหมายที่แตกต่างกัน แต่ในความแตกต่างของความหมายนั้น  อาจมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือการเป็นสิ่งที่ดี ที่สวยงาม หรือเป็นสิ่งที่ทุกคนหมายปอง  

ดาวในความหมายของนักเรียนมัธยมปลายนั้น มักจะหมายความถึงจุดหมายที่สำคัญมากในชีวิต  นั่นคือการสอบเข้าในคณะที่ตนต้องการหรือในมหาวิทยาลัยที่ตนใฝ่ฝันให้ได้

ผมก็มีดาว

ดาวของผมคือการสอบเข้าศึกษาในคณะที่ใฝ่ฝันภายในรั้วสถาบันที่ทรงเกียรติแห่งนี้

หากย้อนไปสัก 1 ปี เมื่อผมเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผมเองรู้สึกได้ว่าเพื่อนๆทุกคนต่างมีดาวดวงที่ตนเองใฝ่ฝันอยากจะเป็นกันแล้วทั้งนั้น เพื่อนๆทุกคนต่างช่วยเหลือกัน ช่วยกันติวหนังสือ หากมีที่เรียนพิเศษที่ไหนดีก็จะแนะนำกัน หากเพื่อนคนไหนไม่มีเงินเรียนก็จะนำชีทมาให้อ่าน หรือช่วยกันนำความรู้ที่ได้จากการเรียนพิเศษมาสอนกัน ไม่มีใครหวงความรู้เพราะต่างอยากให้เพื่อนได้เป็น ดาว ดวงที่ตนเองใฝ่ฝัน

อาจมีบ้างที่ระหว่างบันไดสู่ทางเดินแห่งดวงดาวไกลไปสักหน่อย   อาจไม่ราบรื่นเหมือนที่คิด ความท้อถอยไม่ใช่เรื่องที่แปลก จึงไม่ผิดที่ระหว่างทางเดินนั้นเราอาจแวะหยุดพักข้างทาง เราสามารถพักได้ เพราะว่าความตึงเกินไปจะทำให้เราเหนื่อยล้า การพักเติมไฟให้กับชีวิตจึงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้

แต่เราต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า จุดมุ่งหมายของเราคืออะไร เพราะบางทีความสบายอาจทำให้เราไม่อยากกลับมาลำบากอีกครั้ง!!

เคยมีคนกล่าวว่าเวลาช่วงที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตคือช่วงเวลา 3 ปีที่ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะชีวิตทั้งชีวิตของเราจะถูกกำหนดด้วยเวลาช่วงนี้   ดังนั้นเราต้องบริหารเวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุดโดยต้องอยู่บนพื้นฐานของ  ความพอดี 

ไม่มีใครตอบได้ว่าความพอดีของแต่ละคนอยู่ตรงจุดไหน  นี่คือสิ่งที่ตัวเราต้องเป็นคนหาคำตอบเองละทำมันให้ได้

เมื่อถึงวันสอบเอนทรานซ์ครั้งที่ 1 ไม่จำเป็นเสมอไปว่าเราจะสามารถอ่านหนังสือได้จบและสามารถจำได้ทุกตัวอักษรแม้ว่าเราจะเตรียมตัวมานาน ขอเพียงเราทำให้เต็มที่ที่สุด แม้ว่าผลสอบจะออกมาเป็นเช่นไรเราต้องยอมรับให้ได้ว่านี้คือตัวเราเอง และอย่าไปเสียใจกับมันเพราะว่าการสอบยังเหลืออีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ผลการสอบเอนทรานซ์ครั้งที่ 1 ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เราควรสำรวจตนเองและนำข้อผิดพลาดจากประสบการณ์ที่ได้จากการสอบครั้งแรกมาปรับปรุง เราอาจจะตื่นเต้นกับการสอบมากเกินไป หรือว่าอ่านหนังสือไม่ตรงจุด เหล่านี้ต่างเป็นปัญหาที่ควรแก้ไข 

อย่าเสียใจกับผลที่ออกมานานเกินไปนักเพราะว่าเราเหลือเวลาไม่มาก เวลาที่เราจะเอามาร้องไห้เปลี่ยนเป็นเวลาที่จะเอามาอ่านหนังสือต่อเพื่อสู้กับข้อสอบในรอบที่ 2 น่าจะดีกว่าไหม?


หากคนที่ผิดหวังไม่ใช่เราแต่เป็นเพื่อนของเราเราอย่าทอดทิ้งเพื่อน อย่าลืมว่ากำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราก้าวเดินต่อไปได้ ให้กำลังใจแก่กันและก้าวเดินไปด้วยกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

เวลาในช่วงเทอม 2 เป็นเวลาช่วงที่สำคัญช่วงสุดท้ายที่เราสามารถเตรียมตัวและแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเองได้ ซึ่งเราควรจะเต็มที่กับมันมากที่สุด

เมื่อถึงเดือนมีนาคม เป็นการสอบเอนทรานซ์รอบสุดท้ายของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จงเต็มที่กับมันให้เท่ากับหรือมากกว่าการสอบครั้งแรก และควรเตรียมใจต่อผลที่จะเกิดขึ้น จงยอมรับกับมันแม้มันไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ ผมเชื่อเหลือเกินว่าหากเราทำอะไรแล้วทำให้ดีที่สุด ผลที่จะออกมาย่อมดีแน่นอน



     
     
ดาว

ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ				
1 พฤศจิกายน 2546 16:55 น.

**..วันเปิดเทอม..**

chemicalbond

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
วันที่ซึ่งไม่อาจได้ตื่นสาย
วันที่ฉันไม่อาจไปเที่ยวได้ให้ชื่นกาย
วันที่คล้ายวันสุดเศร้า...วันเปิดเทอม

ต้องอำลาเจ้าแล้วล่ะเจ้าเตียงหมอน
วันนี้ซ่อนการ์ตูนมาหนังสือเสริม
วันนี้ลาทีวีเครื่องเดิม
วันนี้เพื่อนคนเดิมกระเป๋าหนังสือก็คืนมา

ได้เวลาบอกลาเวลาสุข
อย่าลืมปลุกนาฬิกา 6 โมงนะ
อย่าลืมเตรียมไปเล่าเรื่องราวตอนปิดเทอมที่ผ่านมา
อย่าลืมเก็บความสดใสที่ของวันเวลา...ไว้ในใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟchemicalbond
Lovings  chemicalbond เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟchemicalbond
Lovings  chemicalbond เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟchemicalbond
Lovings  chemicalbond เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงchemicalbond