23 สิงหาคม 2546 19:31 น.

" เพียงในใจ "

kongdin

ฉันบอกตัวเองไม่ถูก.... กับการที่ได้พบกับเธอในวันนี้ ความรู้สึกมากมายมันเกิดขึ้นมากับภาพของเธอที่ก่อเกิดความรู้สึกแปลก....หวั่นไหวในใจฉัน 
เธอ ..... ก้อยังเป็นผู้ชายขี้เหงา คนเดิม ตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน 
ฉันยืนอยู่ไม่ห่างไกลเธอ เธอคงจะมองไม่เห็นฉันหรือจะเห็น แต่เธอเองก้อคงไม่ใส่ใจ เพราะฉันมันก้อเป็นแค่ผู้หญิงที่แสนจะธรรมดา จนบางครั้งเธออาจจะมองข้ามไป ซึ่งฉันเองก้อพอจะรู้ว่า ไม่ว่า วันวาน วันนี้ หรือวันไหนๆ เธอคงจะไม่เคยมองเห็นฉันในสายตาและหัวใจของเธอ 

" เห้ย ไอ่หนุ่ม มาดูนี่สิ " เสียงใครคนนึงเรียกเธอ ให้หันไปดูบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้น 
" อะไรเหรอ " 
" น่า....มาดู ๆ " 

เธอลุกขึ้นจากที่นั่ง มองผ่านหน้าต่างชั้นสองลงไป ภาพที่ปรากฏขึ้น เป็นภาพของ ชายหญิงเดินจับมือกันไป 
ฉันแอบชำเลืองมองดูเธอ เห็นเธอชะงักนิดนึง 

" ให้ดูทำไมวะ ? " 
" ก้อ...น้องหนิง... "  เพื่อนเธออ้ำอึ้ง..แต่ไม่พูดต่อ
" ช่างเขาเหอะ ความสุขของเขา ....อย่าอิจฉาเขาเลยน่า... " เธอพูด

ฉันแอบเห็นสายตาของเธอ ..... ในเวลาแบบนี้ฉันควรทำอย่างไร อยากเข้าไปพูดคุยปลอบใจเธอบ้าง ฉันอาจช่วยอะไรเธอได้ไม่มาก แต่อย่างน้อยหากเธอได้ระบายความอัดอั้นในใจ ....อะไรต่างๆ มันคงดีขึ้นมาบ้าง ... แต่ ฉันก้อไม่กล้าเหมือนเดิม 

              เธอ นั่งอยู่คนเดียว สายตาทอดมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย .... เธอกำลังคิดอะไรอยู่หนอ? แต่ ฉันก้อพอจะเดาออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอคงจะเหงาสินะ ...... ฉันอยากรู้ความรู้สึกของเธอ ไม่รู้ว่าทำไม ฉันจึงสนใจและใคร่รู้ ..ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ เห็นเธอเป็นแบบนี้ .... ฉันก้อพลอยรู้สึกเหงาๆ ในใจไปด้วย 
บางครั้ง .... ฉันยังคิดไปไกล หากฉันเป็นเธอคนนั้นได้ฉันคงไม่ทำให้เธอเจ็บปวดอย่างนี้ 
แต่.... ฉันก้อไม่กล้าอยู่ดี หากต้องมีเธอเข้ามาในใจจิงๆ เธอจะเข้ามาทำให้ใจฉันมีความสุข หรือว่าจะกลับซ้ำเติมความเหงากันนะ 
ก้อเพราะเป็นแบบนี้ ฉันก้อคงทำได้แค่เก็บสิ่งต่างๆ ไว้ในใจ ..... คงทำได้เท่านั้น จิง - จิง 


                                                                    - อันชิสา -				
23 สิงหาคม 2546 19:15 น.

" ใด ฤา คือ รัก "

kongdin

ดวงตะวันทอดแสง ผ่านช่องลมเล็กๆ แสงแดดยามเช้า ปลุกฉันขึ้นจากภวังค์ อีกเดี๋ยวเสียงเจ้านาฬิกาหัวเตียงก้อคงดังติดตามมาแน่นอน ฉันยังไม่อยากตื่นขึ้นมา ได้แต่แอบเร้นกายไว้ใต้ผ้าห่ม ความเหนื่อยล้าที่มีอยู่มันยังไม่ได้จางหายไป . แต่จะทำยังไงได้ คงต้องสลัดความเหนื่อยล้าออกไป เพราะ หน้าที่การงานที่กำลังรอฉันอยู่ เฮ้อ ทำไมหนอ ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันถึงต้องเกิดมารับผิดชอบอะไรมากมายแบบนี้ 
           นาฬิกา ข้างผนังห้องชี้บอกเวลา ว่า หากมัวชักช้ากว่านี้ คงไปทำงานสายแน่ ฉันได้แต่เร่งฝีเท้าขึ้น หวังว่า คงจะไปถึงที่ทำงาน เร็วกว่า หัวหน้าซักหน่อย เมื่อก้าวเท้ามาถึงหน้าที่ทำงานก้อพาลได้ยินเสียง เล็กๆ ของใครคนหนึ่ง ดังขึ้นตามหลัง 

 พี่ขวัญ ค่ะ ๆๆ รอเดี๋ยวสิค่ะ  เสียงของน้องประชาสัมพันธ์ คนสวยนั่นเอง 
 รีบเดินจังเลยนะคะ เปิ้ลมีเรื่องจะเล่าให้ฟังอยู่พอดีเลย  
 พี่รีบอ่ะ เปิ้ล ค่อยคุยกันนะ  ฉันตอบไป พร้อมกับสาวเท้ายาวๆ กะจะเดินต่อ แต่ไม่ทันจะก้าวขา ก้อถูกดึงกลับมาเสียก่อน 
 น่านะ แป้บนึงค่ะ คือยังงี้ เมื่อวานน่ะ มีคนมาถามหาพี่ด้วยแหละ ทายซิใครเอ่ย  
 ใครล่ะ เปิ้ล  ฉันถาม พร้อมกับเก็บอาการเพื่อที่จะไม่ให้แสดงออกมา คงไม่ใช่เค้าคนนั้นนะ ในใจฉันหวังเอาไว้อย่างงั้น 
 ก้อ หนุ่มวิศวะคนนั้นไงค่ะ คนที่พี่ขวัญ เย็บแผลให้ไง นี่ขนาดแผลหายได้หลายวันแล้วนะคะ ทำไม ยังวนเวียนมาแถว โรงพยาบาลเราอีกก้อไม่รู้  
 แล้วพี่จะรู้หรือป่าวล่ะ เปิ้ล ไม่เอาแล้ว พี่ไปก่อนนะ สายแล้ว  ฉันต้องรีบเลี่ยงไปซะก่อน เพราะแค่นี้ ในใจมันก้อเต้นไม่เป็นระส่ำ . ไม่อยากคิดมาก ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง แค่นี้ก้อวุ่นวายสับสนมากเกินพอแล้ว 

จงอย่าพยายามเข้าใจ สิ่งต่างๆ จากที่เราเห็น 
เพราะบางอย่าง อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด 
อย่าเอาความรู้สึก ของเราเพียงฝ่ายเดียว  
. มาเป็นตัวกำหนด 
บางครั้ง สิ่งที่เราเห็น  
อาจจะเป็นเพียงแค่ด้านเดียว ของเรา


             ฉันก้าวเท้ายาวๆ เพื่อกะว่าจะให้ผ่านไปจากที่ตรงนั้น เพราะกลัวว่า หากอยู่นานไปกว่านี้ คงต้องเผลอหลุดอาการอะไรออกมาแน่นอน เมื่อก้าวเท้าเข้ามาถึงห้องทำงาน ก้อต้องพบเจอกับสภาพเดิมๆ ที่ไม่ค่อยอยากจะพบเจอเท่าไหร่ สภาพคนไข้ที่นอนร้องครวญครางด้วยความทุกข์ทรมานจากโรคภัยที่เขาเป็นอยู่ เฮ้อ .. แต่ได้ถอนใจ ทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเราเลือกที่จะทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว ก้อคงต้องทำมันให้ดีที่สุดจริงมั๊ย ? 

 สวัสดีจ๊ะ น้องขวัญ มาตรงเป๊ะเลยนะจ๊ะ  พี่พยาบาล คนนึง กล่าวทักทาย 
 ค่ะ พี่ออม ก้อมัวเสียเวลากะเจ้าเปิ้ลอยู่สิคะ เป็นไงบ้างค่ะ ยุ่งหรือป่าวเมื่อคืนนี้  ฉันถาม 
 ก้อไม่เท่าไหร่จ๊ะ พี่โอเค case คุณตาคนนี้หน่อยนะจ๊ะ ปวดท้องมาอ่ะ พี่ฉีดยาให้แล้วไม่ดีขึ้น ก้อรอให้หมอมาดูอีกทีแล้วกัน  พี่ออมพูดต่อ 
 ค่ะ พี่ออม งั้นพี่ออมก้อลงเวรเถอะค่ะ เดี๋ยวขวัญดูต่อให้เอง  
 จ๊ะ ขอบใจมาก  
รู้สึกเห็นใจคนที่อยู่เวรมาทั้งคืน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ก้ออย่างงี้แหละนะ ชีวิตของพยาบาลผู้ให้บริการ ถึงจะเหนื่อยหน่ายแค่ไหนก้อคงต้องทำให้ดีที่สุด เมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่เราช่วยให้หายจากความเจ็บป่วย มันก้อคุ้มนะ ถึงจะเหนื่อยกายอยู่บ้าง แต่ความรู้สึกอิ่มในใจมันก้อเข้ามาทดแทนให้ความล้าความเหนื่อยได้ทุเลาเบาบางลงได้ 

                                  . 

               อากาศ ช่วงบ่ายของหน้าร้อน มันช่างร้อนได้มากมายจริง พาลจะทำให้อารมของคนร้อนตามไปด้วย อีกไม่กี่นาทีก็จะลงเวรแล้ว รู้สึกกลัวๆ ยังไงบอกไม่ถูก กลัวว่า วันนี้จะต้องเจอกับใครบางคนที่พยายามหลบเลี่ยง แต่วันนี้มันรู้สึกหวั่นๆ ยังไงก้อไม่รู้ เพราะต้องมาทำงานตอนเช้า กลัวซะจริงๆ สาธุ . ขอให้วันนี้เป็นอีกวันนึงเถอะนะที่เราจะเลี่ยงไปได้ คิดเอาไว้ในใจอย่างงั้น 

 เอาล่ะ น้องขวัญจ๋า ลงเวรได้แล้วมั๊งค่ะ เลยเวลามาตั้ง 10 นาทีแล้วนะคะ  พี่หัวหน้า พูดเปรยๆ ขึ้นมา 
 อ๋อ  ค่ะ แล้วพี่ตาล ไม่ลงเวรเหรอค่ะ  ฉันถามต่อ 
 จ๊ะ เดี๋ยวพี่ไป กะจะเดินไปห้องธุรการซะก่อน  พี่ตาล พูด 
 ค่ะ งั้น ขวัญขอตัวก่อนนะคะ พี่ตาล สวัสดีค่ะ  ฉันพูดพลางเดินไปเก็บกระเป๋า 
ค่อยๆ ก้าวออกจากห้องทำงาน เดินก้มหน้าก้มตาพยายามที่จะไม่มองสบตากับใคร ในใจมันกระวนกระวาย รู้สึกกลัวอะไรมากมายขนาดนี้นะ นึกอยู่ในใจว่า ถ้าหากวันนี้ได้เจอเขาคนนั้นเราจะทำยังไงดี จะพูด จะเอ่ย ประโยคไหนก่อน นี่มันอะไรกันนะ เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรานี่ ไม่เข้าใจเลย ทำไมถึงได้วุ่นวายในใจได้ขนาดนี้ ............. ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร?

              เดินผ่านตึกโรงพยาบาลเริ่มเข้าเขตแฟลตที่พักมาได้ ฉันก้อพลอยรู้สึกโล่งใจไปเปราะนึง ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา คิดในใจว่า คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน สายตาทอดไปตรงข้างทางที่มีต้นไม้เขียวขึ้นปกคลุม สลับกับแปรงดอกไม้ที่ปลูกเอาไว้ นี่แหละนะ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันเลือกที่จะมาทำงานในที่ที่ห่างไกลจากผู้คน จากชุมชนที่วุ่นวายสับสน มันช่วยให้จิตใจของฉันสงบลงได้บ้าง เมื่อต้องพบเจอกับปัญหาและเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต 
แสงแดดร่ำไร ในช่วงเย็น สาดส่องมากระทบใบหน้า พร้อมๆ กับสายลมที่พัดเอื่อยๆ 
. สวัสดี ดวงตะวัน คืนนี้มีดาวเต็มฟ้าทอประกาย ภาระฉันจึงไม่มีมากมาย . 
พอมีเวลานั่งเขียนถึงเธอ อยู่สบายไหมตะวัน เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยใช่ไหม ทั้งๆ ที่ฟ้าเดียวกันเหมือนไกล และเพราะภาระของเราต่างกัน แม้จะไม่ได้พบเจอเธอ ก้อรู้เสมอว่าเธออยู่ตรงไหน และฉันก้อรู้ว่างานเธอหนักเพียงใด เธอต้องดูแลใครๆ มากมาย .. 
แอบเผลอ ร้องเพลงประจำที่ชอบไปด้วย รู้สึกชอบเพลงนี้มากๆ เพราะเหมือนว่า ความหมายมันเขียนให้กับตัวเองยังไงอย่างงั้น เดินไปพลาง ร้องเพลงไปพลาง ดูมีความสุขซะจิงๆ  จนไม่ได้สนใจเสียงใครบางคนที่ดังไล่หลังมา 

 คุณขวัญ ครับ คุณขวัญ  
 ค่ะๆ  ฉันต้องผงะ เมื่อมองกลับไปตามเสียงร้องเรียกที่อยู่ด้านหลัง 
ตกใจมาก เมื่อคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คือ เขาคนนั้น 
 อ่ะ  คุณ . คุณวิศวะ เอ่อ สวัสดีค่ะ  ฉันกล่าวออกไปอย่างละล้ำละลัก ไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดอย่างไร 
 ครับ สวัสดี ครับ ดีใจจังเลยที่คุญขวัญจำผมได้ ผมชื่อ เอก ครับ เป็นคนไข้ที่คุณขวัญเย็บแผลให้ไงครับ  เขา กล่าว พร้อมกับแนะนำตัว ไปด้วย 
 ค่ะ ขวัญจำได้  .  มีอะไรให้ขวัญช่วยหรือค่ะ  ฉันถามต่อ เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ประโยคไหนสนทนากับเขาดี 
 เปล่าๆๆ ครับ ที่ผมมาเนี่ยไม่ได้มีเรื่องอะไรรบกวนคุณขวัญหรอกครับ เพียงแต่ว่า  เขาหยุดประโยคนิดนึง ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกลุ้นกับประโยคต่อไปที่เขาจะกล่าวออกมา สาธุคุณพระคุณเจ้า อย่าให้เขาพูดอะไรที่ทำให้ฉันต้องช็อคมากกว่านี้อีกเลย 
 เอ่อ  ก้อไม่มีอะไรมากหรอกครับ เพียงแต่ว่า อยากจะมาขอบคุณที่คุณขวัญช่วยเย็บแผลให้ในวันนั้น  เขากล่าวต่อจนจบ 
 อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ เป็นหน้าที่ของขวัญอยู่แล้ว เพราะยังไงขวัญก้อต้องทำให้คนไข้ทุกคนอยู่แล้วค่ะ  ฉัน พูด ออกไปแบบนั้นได้ยังไงนะ ในใจเล็กๆ มันรู้สึกคัดค้านอยู่เป็นนัย 
 ครับ ผมก้อคิดว่า คุณขวัญคงดูแลคนไข้ดีแบบนี้ทุกคน ไม่ได้ทำให้ใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว  เขาพูด . ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังรู้สึกได้ถึงความน้อยใจที่มีอยู่ 
 เอ่อ แล้ว คุณเอก สบายดีมั๊ยค่ะ  ฉันไม่รู้จะถามอะไรต่อดี 
 ครับ สบายดี  เขาเว้นประโยคนิดนึง ก่อนจะพูดต่อ  คุณขวัญว่างหรือเปล่าครับ วันนี้  
ฉันตกใจนิดนึง กับคำถามที่เขาถามมา คิดๆๆๆๆ จะตอบยังไงดีหนอ ??? 
 เอ่อ วันนี้ขวัญไม่ว่างค่ะ คือว่า ต้องต่อเวรดึกอีกวันนี้ เที่ยงคืนค่ะ  ฉันโกหกเขา .. ฉันตอบไปได้ยังไงเนี่ย ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง 
 แล้วพรุ่งนี้ ล่ะครับ  เขายังไม่ลดละ ความพยายาม 
 พรุ่งนี้ ขวัญต้องต่อเวรบ่ายอีกค่ะ  ฉันตอบ อันนี้ไม่ได้โกหก เพราะต้องขึ้นเวรจริงๆ 
 เฮ้ออ. สรุป คุณขวัญ คงไม่มีวันหยุดสำหรับผม ใช่มั๊ยครับเนี่ย  เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ ทำให้คนฟังรู้สึกได้ 
 เอ่อ .. วันมะรืนค่ะ ขวัญหยุด  ได้ยินประโยคที่ตัดพ้อฉันพลอยรู้สึกใจอ่อนไปด้วย ก้อเลยต้องตอบความจริงออกไป 
 งั้น วันมะรืนนะครับ ผมจะมารับคุณขวัญไปทานข้าว ตอนเย็น  
 ไปทานข้าว เนื่องในโอกาสอะไรค่ะ  ฉันถามต่อ 
 เอ่อ .. โอกาส อะไรดีล่ะ เอาเป็นว่าเลี้ยงขอบคุณที่คุณขวัญช่วยเย็บแผลก้อแล้วกันนะครับ  เขาคงคิดหาเหตุผลที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วมั๊ง ฉันนึกขำอยู่ในใจ 
 อ่อ ค่ะ ได้ งั้นวันมะรืนเจอกันนะคะ งั้นขวัญต้องขอตัวไปก่อน นะคะ บายค่ะ 
             ฉันต้องรีบตัดบทสนทนาเพราะเกรงว่า หากต้องยืนอยู่ต่อหน้าเขานานกว่านี้ ตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง อาจจะยืนไม่อยู่เป็นลมลมพับไปเลยก้อได้ ฉันรีบสาวเท้าเดินแบบจ้ำอ้าวขึ้นแฟลต เข้ามาถึงห้องพัก รีบกระโดดขึ้นเตียงกอดเจ้าตุ๊กตาหมี กอดไป กลิ้งไปกลิ้งมา  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน มันเป็นความฝันหรือป่าว หัวใจมันพองโต ล่องลอยไปไกลแสนไกล ถึงไหนแล้วก้อไม่รู้ นะใจเอย . 

พบเพื่อรู้จัก 
เพื่อจะรัก เพื่ออาทร 
หรือ เพื่อนำความร้าวรอน 
มาแอบซ่อนในหัวใจ 
พบเพื่อเรียนรู้ 
ที่เป็นอยู่ คือ อ่อนไหว 
ทั้งหวงทั้งห่วงใย 
อยากอยู่ใกล้ทุกเวลา

                              .............................................


             ถึงวันนี้แล้วสินะ วันที่ต้องเจอกับเขาอีก รู้สึกหวั่นๆ ตื่นเต้นยังไงก้อบอกไม่ถูก จะเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้างนะ ? ไม่อยากคาดเดาอะไรมากมาย คงต้องปล่อยให้ทุกๆ อย่างเป็นไปตามกาลเวลาและตามที่มันควรจะเป็น 
นาฬิกา เรือนน้อย บอกเวลาว่า อีกไม่กี่นาทีจะหกโมงเย็นแล้ว .. อีกหน่อยเขาคงจะมาแล้วมั๊ง ? ฉันก้อยังคงนั่งรอต่อไปเงียบๆ 

             เสียงฝนสาดซัดผสมผสานไปกับเสียงสายลมที่พัดอย่างรุนแรงเหมือนกับคนบ้าคลั่งอยู่ภายนอกหน้าต่าง ฉันนอนทอดกาย สายตามันเหลือบมองไปที่นาฬิกา .. จะรอบที่เท่าไหร่ ไม่อาจนับได้ รู้เพียงแต่ ครั้งนี้มันทำให้ฉันพอจะรู้ได้ว่า  เขาคงไม่มาแล้วแน่นอน 
 ทำไมนะ เพราะอะไร เขาอยู่ไหนกันนะ .. นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันอีก  คำถามมากมายประดังประเดเข้ามา ไม่รู้ว่าจะตอบตัวเองยังไงดี 
สายฝนร่วงโรย อย่างไม่มีวี่แววจะหยุด เช่นเดียวกับ สายฝนในใจที่หลั่งไหลล้นออกมาเป็นน้ำตาอยู่ในตอนนี้ รู้สึกน้อยใจ น้อยใจในวาสนาของตัวเอง ทำไมนะ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่ต้องพบเจอแต่เรื่องเลวร้ายแบบนี้ พยายามกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่จะเลี่ยงหลบ เพราะไม่อยากให้หัวใจต้องเจ็บ ต้องเจอกับอะไรที่เลวร้ายซ้ำๆ ซากๆ แล้วครั้งนี้ล่ะ มันก้อกลับมาซ้ำตรงรอยเดิม ประสบการณ์ความรักของฉันมันช่างเลวร้ายอะไรอย่างนี้ ชีวิตทั้งชีวิตนี้ จะไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสความสุขจาก คำว่า รัก เลยหรืออย่างไร ? ใครตอบฉันได้บ้าง 

.. เจ็บแบบซ้ำๆ จบแบบช้ำๆ เรื่องราวก้อซ้ำตรงคำว่าเสียใจ เมื่อไหร่ความรัก จะหยุดทำลายหัวใจ ไม่รู้ทำไม จะเจ็บซ้ำเท่าไร ไม่เคยจำ .. 

คงต้องปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น คงจะห้าม จะรั้งอะไรไม่ได้อีกแล้ว สงสารก้อแต่หัวใจ ที่อ่อนล้า เหน็ดเหนื่อยเหลือเกินแล้วตอนนี้ พักเถอะนะใจเอย .. เก็บเรี่ยวแรงเอาไว้ เพื่อที่จะต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ . อยู่แห่งไหนนะ หัวใจ ล่องลอยไปถึงไหน กลับมาเสียเถิด ไม่ต้องโหยหา ไม่ต้องอาวรณ์กับใครเขาอีกแล้ว 

 โอ้ ใจเอย จะลอยเอ้อระเหยไปถึงไหน 
อย่าลืมสิว่าความห่างไกล ได้ทำให้เขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม 
แล้วใยยังเฝ้าติดตาม ทักถามอยู่กับความชาเฉย 
ไม่เข็ดอีกหรือใจเอย กับความร้างเลยที่เขาตอบมา 
หยุดเถอะนะใจ อย่าเหนื่อยไปเฝ้าคิด ติดตามหา 
เมื่อไม่มีความใยดีตอบกลับมา ก้ออย่าเสียเวลาเลยนะใจ  

                            .............................................................. 
  
 ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ  เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ไม่อยากจะลืมตา ยังอยากจะหลับไม่อยากตื่นขึ้นมาคิด มารับรู้เรื่องราวใดๆ ยังเหนื่อยและล้า แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเรามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ คงต้องตัดมันออกไปจากหัวใจ 
ฉันค่อยๆ เดินทอดน่องเรื่อยๆ ไปตามทางเดิน สายตาเหม่อลอยไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย มันก้อคงจะเก็บอาการอะไรได้ไม่มากนัก เดินไปจนไม่รู้ว่าถึงไหน แล้วก้อต้องสะดุ้งเมื่อมีมือของใครสักคนหนึ่ง เขย่าแขนฉันอยู่ 

 พี่ขวัญๆๆ พี่ขวัญขา  เสียงน้องเปิ้ลนั่นเอง พูดพร้อมกับเขย่าแขนฉันไปด้วย 
 อ้าว เปิ้ลนั่นเอง  ฉันสะดุ้งตื่นจากความเหม่อลอย 
 พี่ขวัญเป็นไรไปค่ะ เปิ้ลเรียกอยู่จะเป็นสิบครั้งแล้วนะ  เปิ้ลบอก 
 ป่าวค่ะ เมื่อคืนพี่นอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ เช้านี้ก้อเลยรู้สึกเบลอๆ ซักหน่อย  
 พี่ขวัญ รู้เรื่องเมื่อคืนหรือยังค่ะ  น้องเปิ้ลเล่าต่อ ด้วยสีหน้า ตื่นๆ 
 เมื่อคืนมีอะไร เหรอเปิ้ล  ฉันถามต่อ สนใจขึ้นมาบ้าง 
 ก้อเมื่อคืนตอนที่ฝนตกแรงๆ อ่ะ คุณวิศวะของพี่ขวัญน่ะ  เปิ้ลหยุดสักนิด พร้อมกับแสดงสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 
 อะไรเปิ้ล  ฉันถาม พร้อมกับเขย่าที่มือของเปิ้ล 
 เอ่อ เมื่อคืนนี้คุณวิศวะ เค้าประสบอุบัติเหตุค่ะ .. เสียชีวิตคาที่เลย  ฉันอึ้ง 
 ตอนที่ฝนเริ่มจะตกหนัก มีคนเล่าว่า เขาขับรถออกมาข้างนอก แต่ทั้งลมทั้งฝน มันก้อเลยทำให้เขาเสียหลักขับรถพุ่งชนกะต้นไม้ข้างทางอ่ะ  พี่ขวัญ ๆ พี่ขวัญทำไมเงียบค่ะ  

เธอคงไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้ฉันไม่รับรู้อะไรแล้ว ตั้งแต่ได้ยินประโยคที่ว่า เขาตาย. 

          นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกนะ ทุกอย่างมันเป็นความฝันใช่มั๊ย ไม่ใช่เรื่องจริง เขาคงไม่ได้จากฉันไปหรอก ฉันพยายามคิดเข้าข้างตัวเองเอาไว้ 
แต่.. นี่มันคือเรื่องจริง ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย 
ในตอนนี้ ฉันรู้สึกเสียใจ เสียใจอย่างมาก หากแต่ไม่ใช่ความรู้สึกเสียใจอย่างเมื่อคืนที่ฉันรู้สึก แต่มันเป็นความรู้สึกเสียใจ ที่ทำไมตัวเองถึงได้มองคุณในแง่ร้าย ทำไมถึงได้เข้าใจคุณผิดๆ 
ฉันขอโทษ กับความรู้สึกไม่ดีที่ฉันรู้สึกกับคุณไป ฉันรู้แล้วล่ะว่า คุณไม่ได้ไปไหน เมื่อคืนคุณก้อคงอยู่กับฉันตลอดเวลา จริงมั๊ยค่ะ ? 
ช่วงเวลาที่ทำให้เราได้รู้จักกันถึงแม้ว่า มันแสนจะสั้น และผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่มันก้อทำให้ฉันได้รับรู้อะไรหลายๆ อย่าง ถึงแม้ว่า ตลอดเวลาที่เรารู้จักกัน คุณจะไม่เคยบอก ไม่เคยกล่าวอะไรให้ฉันได้รับรู้ความรู้สึกของคุณที่มีต่อฉันเลย  แต่ฉันก้อสัมผัสได้ค่ะ ว่าคุณคิดกับฉันยังไง จะสายเกินไปมั๊ยค่ะ ถ้าหากฉันจะบอกคุณตอนนี้ว่า 

 ขวัญ รัก เอก นะคะ  

ไม่ว่าคุณจะอยู่แห่งหนใด ขอให้รู้เอาไว้เถอะว่า ฉันคนนี้จะยังระลึกถึงคุณ 
ภาพแห่งความทรงจำดีๆ ระหว่างเราสองคนจะยังคงติดตรึงอยู่ในใจฉันตลอดไป .. ฉันสัญญา 

. หลับตา นะที่รัก ในวงแขนของฉัน 
จะไม่มีผู้ใด คิดทำร้ายเธอได้ 
. หลับตา นะที่รัก ขอเธอจงหลับฝัน 
ที่ตรงนี้จะมีฉันอยู่ เสมอ




                                                                            - อันชิสา -				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟkongdin
Lovings  kongdin เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟkongdin
Lovings  kongdin เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟkongdin
Lovings  kongdin เลิฟ 0 คน
  kongdin
ไม่มีข้อความส่งถึงkongdin