14 พฤศจิกายน 2545 12:38 น.

เสียงเรียกของหัวใจ

maysa

แต่ละคนมีมุมมองเกี่ยวกับความรักนั้นแตกต่างกันออกไป   แพรไหมนักเขียนนวนิยายแนวรักโรมันติกหน้าใหม่และคอลัมน์นีส นิตยสารที่มีชื่อก็เช่นกันที่มีทัศนคติในเรื่องของความรักในแบบฉบับของตัวเธอเองถึงแม้เธอจะคอยแก้ปัญหาเรื่องหัวใจให้แก่คนอื่นมากๆ มายแต่เธอไม่เคยแก้ปัญหาหัวใจของตัวเองได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
	 กรี๊ง ๆๆๆ  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแพรไหมจึงวางมือจากงานเขียนไปรับโทรศัพท์
	 สวัสดีค่ะ  แพรไหมรับสายกล่าว
	 สวัสดีค่ะ คุณแพรไหมหรือเปล่าค่ะ   ต้นสายถาม
	 ค่ะไม่ทราบว่ามีอะไรค่ะ  แพรไหมถามกลับ
	 คือว่าดิฉันมีเรื่องที่อยากให้คุณแพรไหมช่วยหน่อยนะค่ะ คือว่าเพื่อนของดิฉันนะค่ะชอบแอบชอบคนโน้นคนนี้แต่เขาไม่กล้าที่จะบอกคนที่เขาแอบชอบนะค่ะไม่ทราบว่าคุณแพรไหมมีคำแนะนำสำหรับเพื่อนของดิฉันบ้างไหมค่ะ 
	 ก็ไม่ต้องทำอย่างไรหรอกนะค่ะแค่ปล่อยให้เขาเป็นของเขาอย่างนั้นดีแล้วค่ะ  คุณอินทิราไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อนคนนั้นหรอกนะค่ะแพรคิดว่าเขาคงเอาตัวรอดได้ถึงแม้เขาจะต้องอยู่คานทองก็ตาม  แพรไหมรู้ว่าเพื่อนรักจึงแกล้งที่จะตอบยั่วเพื่อน
	 จริงๆ เลยยายไหมทำไมจำได้ทุกครั้งเลยว่าเป็นฉัน  ต้นสายเพื่อนนั้นต่อว่าเพื่อน
	 นี่คุณอินทิราเจ้าค่ะคือว่าดิฉันกับคุณคบกันมา 10 ปีกว่าแล้วนะค่ะเรื่องแค่นี้มันเรื่องเล็กแล้ว  ว่าแต่โทรมามีธุระอะไรหรือเปล่า   แพรไหมถามเพื่อน
	 ก็เห็นเงียบหายไปหลายวันเลยโทรมาดูว่าอยู่ดีหรือเปล่า  ถ้าอย่างนั้นวันศุกร์ตอนเย็นอย่างลืมนะยะแล้วตอนเช้าอินจะไปหาไหมที่บ้านนะ  อินทิราบอกเพื่อน
	 จ๊ะ ถ้าอินไม่มีอะไรไหมจะได้ขอไปทำงานต่อนะ  แพรไหมบอกเพื่อน
	 ถ้าอย่างนั้นไหมไปทำงานต่อเถอะแล้ววันศุกร์เจอกัน โชคดีนะ  อินทิราบอกเพื่อน
	จ๊ะ สวัสดี โชคดีนะ  แพรไหมบอกเพื่อนเช่นกัน
เมื่อแพรไหมกับอินทิราวางสายแล้วแพรไหมกลับไปนั่งเขียนหนังสือของเธอต่อจนบ่าย 4 โมงเย็นกว่าแพรไหมจึงออกไปรับหลานชายที่โรงเรียน 
	เมื่อมาถึงโรงเรียนด้วยความรับร้อนกลัวหลานจะรอนานแพรไหมเดินชนชายหนุ่มจนของที่ชายหนุ่มถือว่าหล่นหมดแพรไหมต้องรีบขอโทษแล้วช่วยเก็บ
	 ขอโทษนะค่ะ  แพรไหมกล่าวขอโทษแล้วรับช่วยเก็บแต่พอเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เดินชนทำให้อาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเกิดขึ้นมา
	 ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ  ครูหนุ่มถามแพรไหม
	 ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอตัวก่อนนะค่ะ  แพรไหมรีบตอบแล้วรับเดินไปรับหลานชายที่ยืนรออยู่
	 น้าไหมมาชาจัง อ้นรอตั้งนาน  หลานชายต่อว่าน้าสาว
	 ขอโทษที่น้าทำงานเพลินไปหน่อย ไปเร็ว  แพรไหมบอกหลานชายแล้วจูงมือหลานไปขึ้นรถ
ปกติแพรไหมจะใช้ชีวิตอยู่บ้านมากว่าที่จะออกไปข้างนอก  ทุกวันเธอจะเขียนคอลัมน์และหนังสือของเธอ แล้วก็รับส่งหลานชาย  ถ้าวันไหนเธอต้องส่งต้นฉบับเธอจะออกไปข้างนอกแล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนในตัวด้วย  แต่บ้างครั้งเมื่อสมองตื้อคิดอะไรไม่ออกแพรไหมจะขับรถไปนั่งชายทะเลคนเดี่ยวเป็นประจำ  ทำให้เพื่อนว่าอยู่ตลอดเพราะกลัวว่าแพรไหมจะเกิดอุบัติเหตุ  วันนี้แพรไหมก็ไปรับหลานชายอีกเช่นเคยแล้วแพรไหมก็ได้เจอชายหนุ่มคนที่เธอเดินชนเมื่อวาน แพรไหมจึงเรียบเคียงถามหลานชาย
	 อ้น คนนั้นเป็นครูที่นี่หรือเปล่า  แพรไหมชี้ให้หลานชายดี
	 ใช่ สอน ป. 3  หลานชายตอบน้าสาวอย่างไรเดียงสาตามประสาของเด็ก ป1.
	 แล้วชื่ออะไร  แพรไหมถามหลานชาย
	 ครูภูวดล  หลายชายตอบ
	ภูวดล แพรไหมพูดกับตัวเองแล้วจูงมือหลานไปขึ้นรถ
	ตังแต่วันนี้แพรไหมเจอกบครูภูวดลอยู่บ่อยครั้งเวลาที่เจอก็แค่ต่างคนต่างยิ้มให้กันเพียงเล็กน้อยเท่านนั้น แต่การที่แพรไหมได้เจอกับภูวดลเกือบทุกวันทำให้แพรไหมเริ่มรู้สึกมีความดีๆ ให้กับภูวดลถึงแม้จะเป็นเพียงความรู้สึกของแพรไหมเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม  แพรไหมตั้งใจว่าถ้าสักวันหนึ่งเธอมีความรู้สึกดีๆ มากพอเธอจะเดินเข้าไปบอกความรู้สึกของเธอให้เขาได้รับรู้
	การที่แพรไหมได้เจอภูวดลทำให้แพรไหมมีความรู้สึกที่ดีให้กลับภูวดลแพรไหมไม่ได้บอกใครแม้แต่เพื่อนที่สนิทกันมาก  เพราะแพรไหมไม่ต้องการที่จะให้เพื่อนๆ เป็นห่วงแต่อินทิราก็รูจนได้เมื่ออินทิรามาหาแพรไหมที่บ้านแล้วไปรับอ้นหลานชายของแพรไหมด้วย เพราะอาการที่เวลาแพรไหมแอบชอบใครมักจะเป็นอยู่ประจำคือจะคอยมองเขาเพียงอย่างเดียว
	 ไหมมองใคร  อินทิราถามเพื่อนแบบรู้ทันเพื่อนรัก
	 เปล่า  แพรไหมปฏิเสธเพื่อน
	อินทิราไม่พูดอะไรได้แต่มองเพื่อนอย่างรู้ทัน  แต่แพรไหมทำไม่รู้ไม่ชี้
	 สวัสดีครับน้าอิน  อ้นหลานชายแพรไหมกล่าวสวัสดีอินทิราเพื่อนน้าสาว
	 สวัสดีครับ ทำไมลงมาเร็วจังน้าไหมเขายังมองไม่เต็มเลย
แพรไหมมองค้อนเพื่อนเมื่อเพื่อนรู้ทัน
	 น้าไหมมองอะไร  อ้นถามน้าสาว
	 เปล่าจ๊ะ น้าอินเขาหาเรื่อง ไปกลับบ้านได้แล้ว  แพรไหมตอบหลานชายแล้วจูงมือหลานชายไปขึ้นรถทิ้งให้เพื่อนยื่นมองตามก่อนเดินตามไปขึ้นรถ
	ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านไม่ว่าอินทิราจะถามอะไรแพรไหมก็ไม่ตอบเพื่อนจนกระทั้งถึงบ้าน
	 อ้นไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวมากินข้าวนะ  แพรไหมบอกหลานชาย
	ครับ  อ้นหลานชายรับคำแล้ววิ่งเข้าบ้าน
	แพรไหมเองก็กำลังจะเข้าบ้านเช่นกัน
	 เดี๋ยวไหม มันเกิดอาการแบบนั้นขึ้นมาอีกแล้วเหรอ  อินทิราถามเพื่อนสาว
	 รู้แล้วจะถามทำไม  แพรไหมตอบแบบไม่รู้ไม่ชี้
	 แล้วคนนี้จะบอกเขาไหม
	 ไม่รู้แล้วแต่สถานการณ์ เพราะยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน  แพรไหมตอบข้อสงสัยของเพื่อนแล้วเดินเข้าบ้าน      อินทิราจึงต้องเดินตามเข้าไปในบ้านด้วยแล้วร้องเรียกแพรไหม
	 ไหมคุยกันให้รู้เรื่องก่อนซิ  อินทิราตามมาพูดกับเพื่อน
	 คุยอะไร แพรไหมหยุดคุยกับเพื่อน
	 ก็ไหมชอบเขาจริงหรือเปล่า อินถามจริงๆ นะไม่ได้เล่น  อินทิราถามเพื่อนอย่างจริงจังทำให้แพรไหมสีหน้าเปลี่ยนไปด้วย
	 ไหมยังไม่รู้แค่ตอนนี้ไหมแค่มีความรู้สึกดีๆ ให้เขาข้างเดี่ยวเท่านั้น  แพรไหมตอบเพื่อนแบบจริงจังเช่นกัน
	 แล้วไหมคิดจะบอกกับเขาไหม  
	 ถ้าไหมแน่ใจว่าไหมชอบเขาจริงไหมคงจะบอกความรู้สึกนี้แก่เขา
	 แต่เขาคือผู้ชายในอุดมคติของไหมใช่ไหม
	 ก็ใช่ แต่ไหมต้องดูก่อนว่าวันข้างหน้าเป็นอย่างไรไหมตอบไม่ได้ตอนนี้เขาอาจจะมีเจ้าของแล้วก็ได้ ถ้าอยู่ไหมเดินเข้าไปบอกว่าไหมคิดอย่างไรกับเขา แล้วเขาบอกว่าเขามีคนของเขาอยู่แล้วอินจะให้ไหมทำอย่างไร
	 อินเข้าใจ แต่อินอยากให้ไหมลองทิ้งความรู้สึกต่างๆ ของไหมที่เห็นว่าไม่ควรที่จะบอกเขาให้เขารับรู้ไปสักเขา อินอยากให้ไหมบอกเขาบ้างที่มันอาจจะตรงข้ามกับที่เราคิดไว้ก็ได้  อินทิราบอกเพื่อน
	แพรไหมกับอินทิราคุยกันได้สักครู่เพื่อนๆ ในกลุ่มก็มาพร้อมกันที่บ้านของแพรไหม มีเสียงเข้ามาก่อนเห็นตัว
	 ขอโทษที่นะจ๊ะ ที่มาช้า รถติดมาก  พลับพลึงแก้ตัวก่อนโดนแพรไหมและอินทิราต่อว่า
	 ไหมยังได้ว่าอะไรรับแก้ตัวเชี่ยวนะ  แพรไหมรับเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเพื่อนอีก3 คนในกลุ่มมาถึงผิดกับอินทิราที่ยังทำหน้าไม่พอใจอยู่
	 เป็นอะไรอีกคุณนายอิน  พีรเทพชายหนุ่มคนเดี่ยวในกลุ่มถามอินทิราเมื่อเห็นหน้าเพื่อนบูดบึ้ง
	 ลองถามคุณแพรไหมซิ  อินทิราโยนให้แพรไหมบอก
	 มีอะไรกันไหม  เพชรลดาเพื่อนอีกคนถามแพรไหม
	 ก็ไม่มีอะไรนี่  แพรไหมรีบบอกเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนแล้วรีบเดินหนีเข้าครัวปล่อยให้เพื่อนยืนงงกัน
	 แต่ฉันว่าอาการแบบมันต้องมีแน่ๆ   พีรเทพพูดขึ้น
ต่างคนต่างมองหน้ากันแล้วไม่มีใครพูดอะไรทุกคนเดินเข้าไปในบ้านหมด  
	เมื่อทานอาหารเย็นกันเสร็จทุกคนมานั่งคุยกันแต่เรื่องส่วนใหญ่ที่คุยก็เป็นเรื่องของแพรไหมมากกว่าเพราะบรรดาเพื่อนๆ ต่างเห็นว่าแพรไหมกำลังมีปัญหา ทุกคนต้องการที่จะรู้สาเหตุที่แท้จริงแต่แพรไหมไม่ยอมบอกเพื่อนๆ 
	 ไหม อินว่าถ้าไหมได้บอกความรู้สึกของไหมให้เขาได้รับรู้มันก็ไม่ผิดหรอก  ไหมลองเอาเหตุผลต่างๆ ที่ไหมคิดว่ามันไม่สมควรกับหัวใจของไหมเองลองชั่งน้ำหนักด้วยใจของไหมดูว่าไหมควรจะบอกความรู้สึกแก่เขาหรือไม่  อินทิราพูดกับแพรไหม
	 ใช่ ไหมลองทำตามที่ใจไหมต้องการสักครั้งดูซิมันจะเป็นไร  พีรเทพเสริมต่อ
	แพรไหมไม่ได้พูดอะไรแต่สีหน้าบอกถึงความสับสนในใจอยู่ไม่น้อย

	หลังจากวันที่เพื่อนๆ ในกลุ่มมาทานข้าวที่บ้านแพรไหมในวันนั้น แพรไหมคิดไม่ตกว่าตัวเองจะจัดการอย่างไรกับหัวใจตัวเอง  บ้างช่วงเวลาเสียงเรียกร้องของหัวใจให้กล้าที่เผชิญหน้าที่เขาไปบอกเขาโดยไม่ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมา  แต่อีกด้านหนึ่งมีเหตุผลต่างๆ นานา มาคัดค้าน ตลอดเวลาที่แพรไหมไปรับอ้นหลานชายที่โรงเรียนแพรไหมเจอภูวดลเกือบทุกวัน
	เมื่อได้เจอหน้าธนดลเกือบทุกวันทำให้เสียงของหัวใจเรียกร้องมากขึ้นทุกวัน เมื่อแพรไหมคิดถึงคำพูดของอินทิราทำให้แพรไหมมีความมั่นใจมากขึ้น  และด้วยสถานการณ์แพรไหมตัดสินใจที่เขาไปบอกความรู้สึกของตัวเองให้ภูวดลได้รับรู้
	 เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน  แพรไหมพูดกับตัวเองพร้อมสูดลมหายใจเขาปอดเต็มที่แล้วเดินเข้าไปหาภูวดลด้วยความมั่นใจ  แต่เมื่อแพรไหมเดินใกล้ภูวดลเขาทุกที่เหตุผลที่ไม่สมควรต่างๆ นานาก็ผุดขึ้นมาในหัวของแพรไหมเต็มไปหมด แพรไหมยืนนิ่งแล้วถอนหายใจ แพรไหมหันหลังกลับมานั่งเราหลานชายลงมาที่เดิม
	เมื่อแพรไหมกับอ้นกลับถึงบ้านแพรไหมเห็นอินทิราอยู่ที่บ้านเมื่อแพรไหมเห็นหน้าอินทิราเท่านั้น น้ำตาคลอขึ้นมาแล้วโผเข้าหาเพื่อนรัก
	 อิน ไหมทำไม่ได้  แพรไหมบอกเพื่อนไปน้ำตาที่คลอดอยู่ก็ไหมออกมา
	 ไม่เป็นไรหรอกไหม ชั่งมันสักวันไหมต้องกล้าที่จะเดินเขาไปบอกเขาจนได้ อินเชื่อ  อินทิราไม่รู้จะปลอบเพื่อนอย่างไรได้แต่ปล่อยให้เพื่อนร้องไห้   ถึงแม้แพรไหมจะเคยแอบชอบใครต่อใครแต่แพรไหมไม่เคยเป็นถึงขนาดนี้
	เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอินทิราและเพื่อนๆ ไม่ให้แพรไหมต้องอยู่คนเดี่ยว อินทิรา พีรเทพ  เพชรลดา  พลับพลึง ต่างมาหาแพรไหมที่บ้านบ่อยขึ้น และโทรศัพท์มาคุยด้วยทุกวัน   ทำให้แพรไหมรู้สึกซาบซึงถึงน้ำใจของเพื่อนทุกคน
	 ไหม ไหม ทำอะไรอยู่   พลับพลึงเรียกแพรไหมแทนเพื่อนๆ 
	 อ้าว มากันหมดเลยจะไปไหนกันหรือค่ะ  แพรไหมออกมาดูเพื่อนๆ หน้าบ้าน
	 ก็มาหาคุณนะซิเจ้าค่ะ  เพชรลดาตอบพร้อมกับเดินเข้าบ้านกัน
	 มีอะไรกันหรือเปล่า เดี๋ยวไหมจะไปรับอ้น  แพรไหมบอกเพื่อนๆ 
	 ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปด้วย  เพชรลดาบอกแพรไหม
	 ไหมไปครู่เดี่ยว แพรไหมบอกเพื่อน หันมามองเพื่อนๆ ด้วยความแปลกใจ  
	 ตามใจอยากไปก็ไป  แพรไหมบอกเพื่อนอย่างขัดไม่ได้แล้วตัวเองเดินไปขึ้นรถ เพื่อนๆ เดินตามไปขึ้นรถ
	เมื่อมาถึงโรงเรียนแพรไหมก็ขึ้นไปรับอ้นหลานชายคนเดี่ยวให้เพื่อนๆ รออยู่ที่รถ
	 ไม่รู้จะมากันทำไมแค่มารับเด็กคนเดี่ยว  รอกันที่รถก็ได้ไหมขึ้นรับรับอ้นคนเดี่ยวก็พอ   แพรไหมพูดเปรยๆ ออกมาแล้วเดินขึ้นไปรับอ้นยังบนห้องเรียน  
	เพื่อนๆ หาได้รอไหมที่รถอย่างที่แพรไหมบอกแต่อย่างใดทุกคนพากันไปที่แพรไหมเคยนั่งรอหลานข้างล่าง  แล้วก็ได้เจอกับภูวดล
	 นั้นไงครูภูวดล  อินทิราชี้มือไปทางภูวดล
	 แล้วจะเอากันอย่างไงต่อล่ะ  พลับพลึงถามขึ้น
	 เอาอย่างนี้ พวกเธอทุกคนนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา   พีรเทพบอกเพื่อนแล้วตัวเองเดินเข้าไปหาภูวดลที่กำลังเดินมา
	 สวัสดีครับคุณภูวดล  พีรเทพกล่าวทักทายก่อน  
	 สวัสดีครับ  ภูวดลตอบด้วยความงง
	 คุณภูวดลคงจะงงว่าทำไมผมถึงได้รู้จักชื่อคุณต่างมันเถอะครับ  ผมขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน ผมชื่อพีรเทพ เป็นเพื่อนกับน้าของเด็กนักเรียนที่นี้นะครับ คือผมอยากรู้ความรู้สึกของผู้ชายด้วยกันสักหน่อยนะครับแต่ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ   พีรเทพแนะนำตัวและบอกความประสงค์ของตัวเอง
	 ครับถ้าผมตอบได้ผมจะตอบ  ภูวดลตอบรับ
	 ผมอยากทราบความรู้สึกของคุณภูวดลว่าถ้ามีผู้หญิงมาบอกกับคุณภูวดลว่าเขามีความรู้สึกดีๆ แก่คุณภูวดลไม่ทราบว่าคุณภูวดลมีความเห็นอย่างไรกับผู้หญิงคนนั้นครับ เอาความรู้สึกจริงๆ เลยนะครับ  พีรเทพถามภูวดลอย่างตรงประเด็นด้วยรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
	 มันก็คงดีนะครับอย่างน้อยมีคนรักชอบเราก็ดีกว่ามีคนเกียจแน่  แต่ผมไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นทำผิดอะไรเพราะเรื่องอย่างนี้มันบังคับกันไม่ได้ ใช่ว่าเมื่อเขาบอกว่าเขาชอบผมแล้วจะทำให้ผมชอบเขากลับก็คงไม่ใช่ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน  
	 ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณภูวดลไม่ได้รังเกียจหรือดูถูกผู้หญิงที่เขามาบอกความรู้สึกของตัวเองให้คุณภูวดลได้รู้
	 ครับ   ภูวดลตอบข้อสงสัยแก่พีรเทพอย่างจริงใจถึงแม้จะไม่รู้ว่าพีรเทพต้องการรู้เหตุผลไปทำไมก็ตาม
	 ของคุณมากนะครับคุณภูวดล เราคงเป็นเพื่อนกันได้นะครับ  
	 ได้ซิครับ  ว่าแต่คุณต้องการรู้ความเห็นของผมไปทำไมหรือครับ  ด้วยความสงสัยภูวดลอดถามพีรเทพไม่ได้
	 แล้วสักวันคุณภูวดลต้องได้รูแน่ครับผมรับรอง  ผมขอตัวก่อนนะครับ พีรเทพกล่าวขอบคุณแล้วเดินกลับไปหาเพื่อนอีก 3 คนที่นั่งรออยู่  เมื่อพีรเทพกลับมาหาเพื่อนเล่าถึงความรู้สึกที่เขาได้ถามจากภูวดลให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ทุกคน
	แต่ขณะที่พีรเทพและภูวดลสนทนากันอยู่นั้นแพรไหมได้เห็นและสงสัยว่าทำไม่พีรเทพถึงได้ไปพูดคุยกับภูวดลได้แต่แพรไหมไม่ได้ถามข้อสงสัยกับเพื่อนจนกระทั่งถึงบ้าน
	 เดี๋ยว  แพรไหมเรียกเพื่อนทุกคนด้วยน้ำเสียงดุๆ
	 ไหมมีอะไรหรือ   อินทิราถามอย่างด้วยความไม่รู้เรื่อง
	 ไหมไม่รู้นะว่าพวกเธอกำลังทำอะไรกัน แต่ไหมเชื่อว่าทุกคนหวังดีกับไหม  แต่ไหมไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ของไหม  ไหมขอเวลาอีกหน่อยแล้วไหมก็เชื่อว่าสักวันถ้าไหมเจอคนที่ไหมรักเขาจริงไหมจะต้องกล้าเขาไปบอกเขา  ส่วนคุณภูวดลถ้าไหมชอบเขาจริงไหมก็ต้องทำได้  แต่ถ้าไหมทำไม่ได้แสดงว่าไหมยังรักเขาไม่เพียงพอ  ซึ่งไหมก็ทำใจได้แล้ว  เพราะถึงแม้ไหมจะไม่มีคู่ชีวิตแต่สิ่งที่ไหมภูมิใจอย่างมากไหมได้มีเพื่อนที่ดีที่รักเป็นห่วงไหมตลอดเวลา  ไหมสัญญาว่าจะพยายามไม่ทำให้ทุกคนต้องกังวลใจเรื่องอย่างนี้ของไหม    แพรไหมบอกความรู้สึกที่ในที่ตัวเองมีแก่เพื่อนๆ ทำให้ทุกคนพูดอะไรไม่ออกได้แต่มองหน้ากันอย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
	 นั้นซินะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพวกเราทุกคนจะช่วยกันแก้ไขปัญหาได้ ว่าแต่ตอนนี้เขาบ้านกันดีกว่า  เพชรลดาพูดขึ้นทำให้เพื่อนอารมณ์ผ่อนคลายขึ้น ต่างยิ้มแย้มกันได้แล้วทุกคนเขาในบ้าน  ต่างพูดคุยเรื่องต่างๆ นานาๆด้วยความสนิทสนมกันอย่างเคย

	ตั้งแต่เหตุการณ์วันนี้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี  พีรเทพ  พลับพลึง   เพชรลดา นอกจากงานนอกบ้านก็ต้องดูแลเอาใจใจต่อครอบครัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น ทั้ง 3 พยายามหาเวลาว่างให้ได้ถึงแม้เพียงไม่กี่นาที่ก็จะคุยโทรศัพท์กันทุกวันเพื่อให้มิตรภาพของความเป็นเพื่อนอยูต่อไปและยืนยาวต่อไปเรื่อยๆ     อินทิราเป็นคนเดี่ยวที่ไปหาแพรไหมทุกสัปดาห์ ด้วยที่เธอเป็นคนว่างงานสามารถรับรู้และข่าวของเพื่อนๆ ทุกคนได้มาก    ส่วนแพรไหมยังเขียนหนังสือและรับส่งหลานอยู่ เขาเองได้เจอกับภูวดลอยู่เช่นเคย  แต่ช่วงหลังจากการเจอหน้ากันต่างคนต่างมองหน้ากันเฉยๆ ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มให้กันทำให้หัวใจของแพรไหมกระชุ่มกระช่วยขึ้น  เธอเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งเธอคงจะทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเธอโดยที่ทุกอย่างไม่สายเกินไป				
14 พฤศจิกายน 2545 12:37 น.

เสียงเรียกของหัวใจ

maysa

แต่ละคนมีมุมมองเกี่ยวกับความรักนั้นแตกต่างกันออกไป   แพรไหมนักเขียนนวนิยายแนวรักโรมันติกหน้าใหม่และคอลัมน์นีส นิตยสารที่มีชื่อก็เช่นกันที่มีทัศนคติในเรื่องของความรักในแบบฉบับของตัวเธอเองถึงแม้เธอจะคอยแก้ปัญหาเรื่องหัวใจให้แก่คนอื่นมากๆ มายแต่เธอไม่เคยแก้ปัญหาหัวใจของตัวเองได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
	 กรี๊ง ๆๆๆ  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแพรไหมจึงวางมือจากงานเขียนไปรับโทรศัพท์
	 สวัสดีค่ะ  แพรไหมรับสายกล่าว
	 สวัสดีค่ะ คุณแพรไหมหรือเปล่าค่ะ   ต้นสายถาม
	 ค่ะไม่ทราบว่ามีอะไรค่ะ  แพรไหมถามกลับ
	 คือว่าดิฉันมีเรื่องที่อยากให้คุณแพรไหมช่วยหน่อยนะค่ะ คือว่าเพื่อนของดิฉันนะค่ะชอบแอบชอบคนโน้นคนนี้แต่เขาไม่กล้าที่จะบอกคนที่เขาแอบชอบนะค่ะไม่ทราบว่าคุณแพรไหมมีคำแนะนำสำหรับเพื่อนของดิฉันบ้างไหมค่ะ 
	 ก็ไม่ต้องทำอย่างไรหรอกนะค่ะแค่ปล่อยให้เขาเป็นของเขาอย่างนั้นดีแล้วค่ะ  คุณอินทิราไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อนคนนั้นหรอกนะค่ะแพรคิดว่าเขาคงเอาตัวรอดได้ถึงแม้เขาจะต้องอยู่คานทองก็ตาม  แพรไหมรู้ว่าเพื่อนรักจึงแกล้งที่จะตอบยั่วเพื่อน
	 จริงๆ เลยยายไหมทำไมจำได้ทุกครั้งเลยว่าเป็นฉัน  ต้นสายเพื่อนนั้นต่อว่าเพื่อน
	 นี่คุณอินทิราเจ้าค่ะคือว่าดิฉันกับคุณคบกันมา 10 ปีกว่าแล้วนะค่ะเรื่องแค่นี้มันเรื่องเล็กแล้ว  ว่าแต่โทรมามีธุระอะไรหรือเปล่า   แพรไหมถามเพื่อน
	 ก็เห็นเงียบหายไปหลายวันเลยโทรมาดูว่าอยู่ดีหรือเปล่า  ถ้าอย่างนั้นวันศุกร์ตอนเย็นอย่างลืมนะยะแล้วตอนเช้าอินจะไปหาไหมที่บ้านนะ  อินทิราบอกเพื่อน
	 จ๊ะ ถ้าอินไม่มีอะไรไหมจะได้ขอไปทำงานต่อนะ  แพรไหมบอกเพื่อน
	 ถ้าอย่างนั้นไหมไปทำงานต่อเถอะแล้ววันศุกร์เจอกัน โชคดีนะ  อินทิราบอกเพื่อน
	จ๊ะ สวัสดี โชคดีนะ  แพรไหมบอกเพื่อนเช่นกัน
เมื่อแพรไหมกับอินทิราวางสายแล้วแพรไหมกลับไปนั่งเขียนหนังสือของเธอต่อจนบ่าย 4 โมงเย็นกว่าแพรไหมจึงออกไปรับหลานชายที่โรงเรียน 
	เมื่อมาถึงโรงเรียนด้วยความรับร้อนกลัวหลานจะรอนานแพรไหมเดินชนชายหนุ่มจนของที่ชายหนุ่มถือว่าหล่นหมดแพรไหมต้องรีบขอโทษแล้วช่วยเก็บ
	 ขอโทษนะค่ะ  แพรไหมกล่าวขอโทษแล้วรับช่วยเก็บแต่พอเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เดินชนทำให้อาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเกิดขึ้นมา
	 ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ  ครูหนุ่มถามแพรไหม
	 ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอตัวก่อนนะค่ะ  แพรไหมรีบตอบแล้วรับเดินไปรับหลานชายที่ยืนรออยู่
	 น้าไหมมาชาจัง อ้นรอตั้งนาน  หลานชายต่อว่าน้าสาว
	 ขอโทษที่น้าทำงานเพลินไปหน่อย ไปเร็ว  แพรไหมบอกหลานชายแล้วจูงมือหลานไปขึ้นรถ
ปกติแพรไหมจะใช้ชีวิตอยู่บ้านมากว่าที่จะออกไปข้างนอก  ทุกวันเธอจะเขียนคอลัมน์และหนังสือของเธอ แล้วก็รับส่งหลานชาย  ถ้าวันไหนเธอต้องส่งต้นฉบับเธอจะออกไปข้างนอกแล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนในตัวด้วย  แต่บ้างครั้งเมื่อสมองตื้อคิดอะไรไม่ออกแพรไหมจะขับรถไปนั่งชายทะเลคนเดี่ยวเป็นประจำ  ทำให้เพื่อนว่าอยู่ตลอดเพราะกลัวว่าแพรไหมจะเกิดอุบัติเหตุ  วันนี้แพรไหมก็ไปรับหลานชายอีกเช่นเคยแล้วแพรไหมก็ได้เจอชายหนุ่มคนที่เธอเดินชนเมื่อวาน แพรไหมจึงเรียบเคียงถามหลานชาย
	 อ้น คนนั้นเป็นครูที่นี่หรือเปล่า  แพรไหมชี้ให้หลานชายดี
	 ใช่ สอน ป. 3  หลานชายตอบน้าสาวอย่างไรเดียงสาตามประสาของเด็ก ป1.
	 แล้วชื่ออะไร  แพรไหมถามหลานชาย
	 ครูภูวดล  หลายชายตอบ
	ภูวดล แพรไหมพูดกับตัวเองแล้วจูงมือหลานไปขึ้นรถ
	ตังแต่วันนี้แพรไหมเจอกบครูภูวดลอยู่บ่อยครั้งเวลาที่เจอก็แค่ต่างคนต่างยิ้มให้กันเพียงเล็กน้อยเท่านนั้น แต่การที่แพรไหมได้เจอกับภูวดลเกือบทุกวันทำให้แพรไหมเริ่มรู้สึกมีความดีๆ ให้กับภูวดลถึงแม้จะเป็นเพียงความรู้สึกของแพรไหมเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม  แพรไหมตั้งใจว่าถ้าสักวันหนึ่งเธอมีความรู้สึกดีๆ มากพอเธอจะเดินเข้าไปบอกความรู้สึกของเธอให้เขาได้รับรู้
	การที่แพรไหมได้เจอภูวดลทำให้แพรไหมมีความรู้สึกที่ดีให้กลับภูวคลแพรไหมไม่ได้บอกใครแม้แต่เพื่อนที่สนิทกันมาก  เพราะแพรไหมไม่ต้องการที่จะให้เพื่อนๆ เป็นห่วงแต่อินทิราก็รูจนได้เมื่ออินทิรามาหาแพรไหมที่บ้านแล้วไปรับอ้นหลานชายของแพรไหมด้วย เพราะอาการที่เวลาแพรไหมแอบชอบใครมักจะเป็นอยู่ประจำคือจะคอยมองเขาเพียงอย่างเดียว
	 ไหมมองใคร  อินทิราถามเพื่อนแบบรู้ทันเพื่อนรัก
	 เปล่า  แพรไหมปฏิเสธเพื่อน
	อินทิราไม่พูดอะไรได้แต่มองเพื่อนอย่างรู้ทัน  แต่แพรไหมทำไม่รู้ไม่ชี้
	 สวัสดีครับน้าอิน  อ้นหลานชายแพรไหมกล่าวสวัสดีอินทิราเพื่อนน้าสาว
	 สวัสดีครับ ทำไมลงมาเร็วจังน้าไหมเขายังมองไม่เต็มเลย
แพรไหมมองค้อนเพื่อนเมื่อเพื่อนรู้ทัน
	 น้าไหมมองอะไร  อ้นถามน้าสาว
	 เปล่าจ๊ะ น้าอินเขาหาเรื่อง ไปกลับบ้านได้แล้ว  แพรไหมตอบหลานชายแล้วจูงมือหลานชายไปขึ้นรถทิ้งให้เพื่อนยื่นมองตามก่อนเดินตามไปขึ้นรถ
	ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านไม่ว่าอินทิราจะถามอะไรแพรไหมก็ไม่ตอบเพื่อนจนกระทั้งถึงบ้าน
	 อ้นไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวมากินข้าวนะ  แพรไหมบอกหลานชาย
	ครับ  อ้นหลานชายรับคำแล้ววิ่งเข้าบ้าน
	แพรไหมเองก็กำลังจะเข้าบ้านเช่นกัน
	 เดี๋ยวไหม มันเกิดอาการแบบนั้นขึ้นมาอีกแล้วเหรอ  อินทิราถามเพื่อนสาว
	 รู้แล้วจะถามทำไม  แพรไหมตอบแบบไม่รู้ไม่ชี้
	 แล้วคนนี้จะบอกเขาไหม
	 ไม่รู้แล้วแต่สถานการณ์ เพราะยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน  แพรไหมตอบข้อสงสัยของเพื่อนแล้วเดินเข้าบ้าน      อินทิราจึงต้องเดินตามเข้าไปในบ้านด้วยแล้วร้องเรียกแพรไหม
	 ไหมคุยกันให้รู้เรื่องก่อนซิ  อินทิราตามมาพูดกับเพื่อน
	 คุยอะไร แพรไหมหยุดคุยกับเพื่อน
	 ก็ไหมชอบเขาจริงหรือเปล่า อินถามจริงๆ นะไม่ได้เล่น  อินทิราถามเพื่อนอย่างจริงจังทำให้แพรไหมสีหน้าเปลี่ยนไปด้วย
	 ไหมยังไม่รู้แค่ตอนนี้ไหมแค่มีความรู้สึกดีๆ ให้เขาข้างเดี่ยวเท่านั้น  แพรไหมตอบเพื่อนแบบจริงจังเช่นกัน
	 แล้วไหมคิดจะบอกกับเขาไหม  
	 ถ้าไหมแน่ใจว่าไหมชอบเขาจริงไหมคงจะบอกความรู้สึกนี้แก่เขา
	 แต่เขาคือผู้ชายในอุดมคติของไหมใช่ไหม
	 ก็ใช่ แต่ไหมต้องดูก่อนว่าวันข้างหน้าเป็นอย่างไรไหมตอบไม่ได้ตอนนี้เขาอาจจะมีเจ้าของแล้วก็ได้ ถ้าอยู่ไหมเดินเข้าไปบอกว่าไหมคิดอย่างไรกับเขา แล้วเขาบอกว่าเขามีคนของเขาอยู่แล้วอินจะให้ไหมทำอย่างไร
	 อินเข้าใจ แต่อินอยากให้ไหมลองทิ้งความรู้สึกต่างๆ ของไหมที่เห็นว่าไม่ควรที่จะบอกเขาให้เขารับรู้ไปสักเขา อินอยากให้ไหมบอกเขาบ้างที่มันอาจจะตรงข้ามกับที่เราคิดไว้ก็ได้  อินทิราบอกเพื่อน
	แพรไหมกับอินทิราคุยกันได้สักครู่เพื่อนๆ ในกลุ่มก็มาพร้อมกันที่บ้านของแพรไหม มีเสียงเข้ามาก่อนเห็นตัว
	 ขอโทษที่นะจ๊ะ ที่มาช้า รถติดมาก  พลับพลึงแก้ตัวก่อนโดนแพรไหมและอินทิราต่อว่า
	 ไหมยังได้ว่าอะไรรับแก้ตัวเชี่ยวนะ  แพรไหมรับเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเพื่อนอีก3 คนในกลุ่มมาถึงผิดกับอินทิราที่ยังทำหน้าไม่พอใจอยู่
	 เป็นอะไรอีกคุณนายอิน  พีรเทพชายหนุ่มคนเดี่ยวในกลุ่มถามอินทิราเมื่อเห็นหน้าเพื่อนบูดบึ้ง
	 ลองถามคุณแพรไหมซิ  อินทิราโยนให้แพรไหมบอก
	 มีอะไรกันไหม  เพชรลดาเพื่อนอีกคนถามแพรไหม
	 ก็ไม่มีอะไรนี่  แพรไหมรีบบอกเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนแล้วรีบเดินหนีเข้าครัวปล่อยให้เพื่อนยืนงงกัน
	 แต่ฉันว่าอาการแบบมันต้องมีแน่ๆ   พีรเทพพูดขึ้น
ต่างคนต่างมองหน้ากันแล้วไม่มีใครพูดอะไรทุกคนเดินเข้าไปในบ้านหมด  
	เมื่อทานอาหารเย็นกันเสร็จทุกคนมานั่งคุยกันแต่เรื่องส่วนใหญ่ที่คุยก็เป็นเรื่องของแพรไหมมากกว่าเพราะบรรดาเพื่อนๆ ต่างเห็นว่าแพรไหมกำลังมีปัญหา ทุกคนต้องการที่จะรู้สาเหตุที่แท้จริงแต่แพรไหมไม่ยอมบอกเพื่อนๆ 
	 ไหม อินว่าถ้าไหมได้บอกความรู้สึกของไหมให้เขาได้รับรู้มันก็ไม่ผิดหรอก  ไหมลองเอาเหตุผลต่างๆ ที่ไหมคิดว่ามันไม่สมควรกับหัวใจของไหมเองลองชั่งน้ำหนักด้วยใจของไหมดูว่าไหมควรจะบอกความรู้สึกแก่เขาหรือไม่  อินทิราพูดกับแพรไหม
	 ใช่ ไหมลองทำตามที่ใจไหมต้องการสักครั้งดูซิมันจะเป็นไร  พีรเทพเสริมต่อ
	แพรไหมไม่ได้พูดอะไรแต่สีหน้าบอกถึงความสับสนในใจอยู่ไม่น้อย

	หลังจากวันที่เพื่อนๆ ในกลุ่มมาทานข้าวที่บ้านแพรไหมในวันนั้น แพรไหมคิดไม่ตกว่าตัวเองจะจัดการอย่างไรกับหัวใจตัวเอง  บ้างช่วงเวลาเสียงเรียกร้องของหัวใจให้กล้าที่เผชิญหน้าที่เขาไปบอกเขาโดยไม่ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมา  แต่อีกด้านหนึ่งมีเหตุผลต่างๆ นานา มาคัดค้าน ตลอดเวลาที่แพรไหมไปรับอ้นหลานชายที่โรงเรียนแพรไหมเจอภูวดลเกือบทุกวัน
	เมื่อได้เจอหน้าธนดลเกือบทุกวันทำให้เสียงของหัวใจเรียกร้องมากขึ้นทุกวัน เมื่อแพรไหมคิดถึงคำพูดของอินทิราทำให้แพรไหมมีความมั่นใจมากขึ้น  และด้วยสถานการณ์แพรไหมตัดสินใจที่เขาไปบอกความรู้สึกของตัวเองให้ภูวดลได้รับรู้
	 เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน  แพรไหมพูดกับตัวเองพร้อมสูดลมหายใจเขาปอดเต็มที่แล้วเดินเข้าไปหาภูวดลด้วยความมั่นใจ  แต่เมื่อแพรไหมเดินใกล้ธนดลเขาทุกที่เหตุผลที่ไม่สมควรต่างๆ นานาก็ผุดขึ้นมาในหัวของแพรไหมเต็มไปหมด แพรไหมยืนนิ่งแล้วถอนหายใจ แพรไหมหันหลังกลับมานั่งเราหลานชายลงมาที่เดิม
	เมื่อแพรไหมกับอ้นกลับถึงบ้านแพรไหมเห็นอินทิราอยู่ที่บ้านเมื่อแพรไหมเห็นหน้าอินทิราเท่านั้น น้ำตาคลอขึ้นมาแล้วโผเข้าหาเพื่อนรัก
	 อิน ไหมทำไม่ได้  แพรไหมบอกเพื่อนไปน้ำตาที่คลอดอยู่ก็ไหมออกมา
	 ไม่เป็นไรหรอกไหม ชั่งมันสักวันไหมต้องกล้าที่จะเดินเขาไปบอกเขาจนได้ อินเชื่อ  อินทิราไม่รู้จะปลอบเพื่อนอย่างไรได้แต่ปล่อยให้เพื่อนร้องไห้   ถึงแม้แพรไหมจะเคยแอบชอบใครต่อใครแต่แพรไหมไม่เคยเป็นถึงขนาดนี้
	เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอินทิราและเพื่อนๆ ไม่ให้แพรไหมต้องอยู่คนเดี่ยว อินทิรา พีรเทพ  เพชรลดา  พลับพลึง ต่างมาหาแพรไหมที่บ้านบ่อยขึ้น และโทรศัพท์มาคุยด้วยทุกวัน   ทำให้แพรไหมรู้สึกซาบซึงถึงน้ำใจของเพื่อนทุกคน
	 ไหม ไหม ทำอะไรอยู่   พลับพลึงเรียกแพรไหมแทนเพื่อนๆ 
	 อ้าว มากันหมดเลยจะไปไหนกันหรือค่ะ  แพรไหมออกมาดูเพื่อนๆ หน้าบ้าน
	 ก็มาหาคุณนะซิเจ้าค่ะ  เพชรลดาตอบพร้อมกับเดินเข้าบ้านกัน
	 มีอะไรกันหรือเปล่า เดี๋ยวไหมจะไปรับอ้น  แพรไหมบอกเพื่อนๆ 
	 ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปด้วย  เพชรลดาบอกแพรไหม
	 ไหมไปครู่เดี่ยว แพรไหมบอกเพื่อน หันมามองเพื่อนๆ ด้วยความแปลกใจ  
	 ตามใจอยากไปก็ไป  แพรไหมบอกเพื่อนอย่างขัดไม่ได้แล้วตัวเองเดินไปขึ้นรถ เพื่อนๆ เดินตามไปขึ้นรถ
	เมื่อมาถึงโรงเรียนแพรไหมก็ขึ้นไปรับอ้นหลานชายคนเดี่ยวให้เพื่อนๆ รออยู่ที่รถ
	 ไม่รู้จะมากันทำไมแค่มารับเด็กคนเดี่ยว  รอกันที่รถก็ได้ไหมขึ้นรับรับอ้นคนเดี่ยวก็พอ   แพรไหมพูดเปรยๆ ออกมาแล้วเดินขึ้นไปรับอ้นยังบนห้องเรียน  
	เพื่อนๆ หาได้รอไหมที่รถอย่างที่แพรไหมบอกแต่อย่างใดทุกคนพากันไปที่แพรไหมเคยนั่งรอหลานข้างล่าง  แล้วก็ได้เจอกับภูวดล
	 นั้นไงครูภูวดล  อินทิราชี้มือไปทางภูวดล
	 แล้วจะเอากันอย่างไงต่อล่ะ  พลับพลึงถามขึ้น
	 เอาอย่างนี้ พวกเธอทุกคนนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา   พีรเทพบอกเพื่อนแล้วตัวเองเดินเข้าไปหาภูวดลที่กำลังเดินมา
	 สวัสดีครับคุณภูวดล  พีรเทพกล่าวทักทายก่อน  
	 สวัสดีครับ  ภูวดลตอบด้วยความงง
	 คุณภูวดลคงจะงงว่าทำไมผมถึงได้รู้จักชื่อคุณต่างมันเถอะครับ  ผมขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน ผมชื่อพีรเทพ เป็นเพื่อนกับน้าของเด็กนักเรียนที่นี้นะครับ คือผมอยากรู้ความรู้สึกของผู้ชายด้วยกันสักหน่อยนะครับแต่ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ   พีรเทพแนะนำตัวและบอกความประสงค์ของตัวเอง
	 ครับถ้าผมตอบได้ผมจะตอบ  ภูวดลตอบรับ
	 ผมอยากทราบความรู้สึกของคุณภูวดลว่าถ้ามีผู้หญิงมาบอกกับคุณภูวดลว่าเขามีความรู้สึกดีๆ แก่คุณภูวดลไม่ทราบว่าคุณภูวดลมีความเห็นอย่างไรกับผู้หญิงคนนั้นครับ เอาความรู้สึกจริงๆ เลยนะครับ  พีรเทพถามภูวดลอย่างตรงประเด็นด้วยรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
	 มันก็คงดีนะครับอย่างน้อยมีคนรักชอบเราก็ดีกว่ามีคนเกียจแน่  แต่ผมไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นทำผิดอะไรเพราะเรื่องอย่างนี้มันบังคับกันไม่ได้ ใช่ว่าเมื่อเขาบอกว่าเขาชอบผมแล้วจะทำให้ผมชอบเขากลับก็คงไม่ใช่ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน  
	 ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณภูวดลไม่ได้รังเกียจหรือดูถูกผู้หญิงที่เขามาบอกความรู้สึกของตัวเองให้คุณภูวดลได้รู้
	 ครับ   ภูวดลตอบข้อสงสัยแก่พีรเทพอย่างจริงใจถึงแม้จะไม่รู้ว่าพีรเทพต้องการรู้เหตุผลไปทำไมก็ตาม
	 ของคุณมากนะครับคุณภูวดล เราคงเป็นเพื่อนกันได้นะครับ  
	 ได้ซิครับ  ว่าแต่คุณต้องการรู้ความเห็นของผมไปทำไมหรือครับ  ด้วยความสงสัยภูวดลอดถามพีรเทพไม่ได้
	 แล้วสักวันคุณภูวดลต้องได้รูแน่ครับผมรับรอง  ผมขอตัวก่อนนะครับ พีรเทพกล่าวขอบคุณแล้วเดินกลับไปหาเพื่อนอีก 3 คนที่นั่งรออยู่  เมื่อพีรเทพกลับมาหาเพื่อนเล่าถึงความรู้สึกที่เขาได้ถามจากภูวดลให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ทุกคน
	แต่ขณะที่พีรเทพและภูวดลสนทนากันอยู่นั้นแพรไหมได้เห็นและสงสัยว่าทำไม่พีรเทพถึงได้ไปพูดคุยกับภูวดลได้แต่แพรไหมไม่ได้ถามข้อสงสัยกับเพื่อนจนกระทั่งถึงบ้าน
	 เดี๋ยว  แพรไหมเรียกเพื่อนทุกคนด้วยน้ำเสียงดุๆ
	 ไหมมีอะไรหรือ   อินทิราถามอย่างด้วยความไม่รู้เรื่อง
	 ไหมไม่รู้นะว่าพวกเธอกำลังทำอะไรกัน แต่ไหมเชื่อว่าทุกคนหวังดีกับไหม  แต่ไหมไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ของไหม  ไหมขอเวลาอีกหน่อยแล้วไหมก็เชื่อว่าสักวันถ้าไหมเจอคนที่ไหมรักเขาจริงไหมจะต้องกล้าเขาไปบอกเขา  ส่วนคุณภูวดลถ้าไหมชอบเขาจริงไหมก็ต้องทำได้  แต่ถ้าไหมทำไม่ได้แสดงว่าไหมยังรักเขาไม่เพียงพอ  ซึ่งไหมก็ทำใจได้แล้ว  เพราะถึงแม้ไหมจะไม่มีคู่ชีวิตแต่สิ่งที่ไหมภูมิใจอย่างมากไหมได้มีเพื่อนที่ดีที่รักเป็นห่วงไหมตลอดเวลา  ไหมสัญญาว่าจะพยายามไม่ทำให้ทุกคนต้องกังวลใจเรื่องอย่างนี้ของไหม    แพรไหมบอกความรู้สึกที่ในที่ตัวเองมีแก่เพื่อนๆ ทำให้ทุกคนพูดอะไรไม่ออกได้แต่มองหน้ากันอย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
	 นั้นซินะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพวกเราทุกคนจะช่วยกันแก้ไขปัญหาได้ ว่าแต่ตอนนี้เขาบ้านกันดีกว่า  เพชรลดาพูดขึ้นทำให้เพื่อนอารมณ์ผ่อนคลายขึ้น ต่างยิ้มแย้มกันได้แล้วทุกคนเขาในบ้าน  ต่างพูดคุยเรื่องต่างๆ นานาๆด้วยความสนิทสนมกันอย่างเคย

	ตั้งแต่เหตุการณ์วันนี้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี  พีรเทพ  พลับพลึง   เพชรลดา นอกจากงานนอกบ้านก็ต้องดูแลเอาใจใจต่อครอบครัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น ทั้ง 3 พยายามหาเวลาว่างให้ได้ถึงแม้เพียงไม่กี่นาที่ก็จะคุยโทรศัพท์กันทุกวันเพื่อให้มิตรภาพของความเป็นเพื่อนอยูต่อไปและยืนยาวต่อไปเรื่อยๆ     อินทิราเป็นคนเดี่ยวที่ไปหาแพรไหมทุกสัปดาห์ ด้วยที่เธอเป็นคนว่างงานสามารถรับรู้และข่าวของเพื่อนๆ ทุกคนได้มาก    ส่วนแพรไหมยังเขียนหนังสือและรับส่งหลานอยู่ เขาเองได้เจอกับภูวดลอยู่เช่นเคย  แต่ช่วงหลังจากการเจอหน้ากันต่างคนต่างมองหน้ากันเฉยๆ ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มให้กันทำให้หัวใจของแพรไหมกระชุ่มกระช่วยขึ้น  เธอเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งเธอคงจะทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเธอโดยที่ทุกอย่างไม่สายเกินไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmaysa
Lovings  maysa เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmaysa
Lovings  maysa เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmaysa
Lovings  maysa เลิฟ 0 คน
  maysa
ไม่มีข้อความส่งถึงmaysa