24 กุมภาพันธ์ 2549 14:30 น.
Ramida
บทเพลงเศร้าบรรเลงเป็นสักขี
เมื่อชีวีต้องทนทุกข์ไร้เหตุผล
ฝันแสนไกลต้องหยุดยั้งอย่างจำนน
หากใจคนแสนเย็นชามาบดบัง
ในชีวิตคนหนึ่งคนล้วนหลากหลาย
เมื่อมากมายเหตุการณ์ผ่านเวียนหน
คงอยู่ที่จิตใจจะอดทน
หรือผ่านพ้นอุปสรรคอย่างปล่อยวาง
ดังตัวอย่างเห็นได้ชัดในชีวิต
เราไม่อาจลิขิตชะตาได้
หากเชื่อฟังคำพูดคนพลาดพลั้งไป
อาจเจ็บช้ำเกินสิ่งใดจะเปรียบเปรย
เพราะคนเรามิอาจดูแค่หน้าตา
ดูทีท่าใช่ว่าจะสดใส
ภาพเบื้องหน้าสวยสดไพเราะใจ
เบื้องหลังไซร้เปรียบไปดั่งฝุ่นควัน
วาจาดีท่าทางดีมีถมไป
แต่หัวใจกลับกลอกสุดค้นหา
ดูแววตาสื่อความหมายสดใสมา
ใช่ว่าตราความคิดจะดีงาม
เช่นบางคนพบเห็นมาเนิ่นนาน
ดูวันวานก่อนเก่าช่างโปร่งใส
เลยซื่อตรงเว้นความกังวลใจ
ดูส่วนไหนไม่ครุ่นคิดตริตรึกตรอง
แต่โลกสวยต้องเปลี่ยนแปลงแทรกความเศร้า
เป็นเพราะเราไว้ใจหรือสิ่งไหน
ส่งผลให้เรื่องไกลตัวมาเยือนใจ
เหมือนแก้วใสหมองไปในพริบตา
ในภาษิตสำนวนมีมากหลาย
อย่าไว้ใจมนุษย์สุดค้นหา
ไม่ว่าเปลี่ยนวันคืนกี่เพลา
จิตใจกล้าเปลี่ยนตามมโนธรรม
กลุ่มเมฆหมอกปิดใจที่สดใส
มืดมัวไปเพราะความคิดริษยา
หากเหนียวรั้งยิ่งเคลื่อนไปไกลตา
สุดยากหาสิ่งไหนมาเคลียร์ใจ
อาจเหลือเพียงความเศร้าเป็นบทเรียน
จงรีบเขียนใส่ใจไว้แน่นหนา
ตัดสินคนไม่ได้แค่เวลา
ภาพลวงตามากหลายในชีวิน.
_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_
23 กุมภาพันธ์ 2549 15:39 น.
Ramida
ตะวันรอนเปิดม่านกระจ่างฟ้า
รับเพลารุ่งสางกลางวันใหม่
เสียงนกร้องก้องป่าพนาไพร
สายน้ำไหลวนเวียนเรียงเรืองรอง
หลายชีวิตหลากชนิดสัตว์น้อยใหญ่
ฟากฟ้าไกลนกร้องบินร่อนเที่ยว
ฝูงมัจฉาแหวกว่ายวนลดเลี้ยว
พาใจเปลี่ยวคะนึงจิตคิดฝันไกล
น้ำค้างร่วงจากฟ้าเพิ่มความหนาว
แสงแดดพราวส่องสว่างลำธารใส
คล้ายจะส่งความรักความห่วงใย
ผ่านแดนไกลสู่แสงดวงตะวัน
ใบไม้ร่วงร่อนลงแนบผืนหญ้า
จากนภาสู่ดินถิ่นอาศัย
เสียงยอดไผ่ไหวเอนล่องลอยไกล
ส่งสายใยสานต่อความผูกพัน
กลุ่มดอกไม้ปลิวไหวตามแรงลม
น่าชื่นชมสว่างจิตคิดสดใส
มองท้องฟ้าช่างงามประทับใจ
ชวนฝันไกลไปสู่ท้องนภา
ครั้นยามเย็นวิหกโผคืนรัง
ดวงตะวันฝังตัวลับภูผา
ข้างมวลเมฆแทนด้วยดวงดารา
ส่งแสงตราระยิบระยับจับจิตใจ
คือความงามดั่งฝันที่สรรสร้าง
คือทุกสิ่งคือทุกอย่างที่งามสม
คือบทบาทจากธรรมชาติน่าชื่นชม
หวังให้คงยั่งยืนอยู่ตลอดไป
ธรรมชาติยังคงอยู่ดั่งใจหวัง
รุ่นก่อนหลังคงเห็นเป็นสักขี
หากมนุษย์รักษาให้ทวี
ทางชีวีคงสุขทุกคืนวัน.
........................................................................
21 กุมภาพันธ์ 2549 15:16 น.
Ramida
โอ้โลกเราเป็นดั่งเช่นควันไฟ
เผาผลาญใจให้มอดทุกวิถี
อีกเมื่อไรเล่าจักพบวิธี
ทางชีวีพบวันสุขมาเยือน
ทั้งฝุ่นควันมลพิษรายล้อมโอบ
ทั้งทุกข์โศกเสกใจให้เปลี่ยนผัน
เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างมืดมัวพลัน
อยากให้เป็นเพียงฝันอย่ากลับกลาย
ประการแรกโลกร้อนเพราะใจมนุษย์
ช่างเหลือสุดเหลือแสนถึงแสบสัน
ทำร้ายได้ซึ่งคนที่หวังดีกัน
ยากจะผันเปลี่ยนได้ในอารมณ์
ความซื่อสัตย์ยุติธรรมนั้นหายาก
คงลำบากเหลือหลายคล้ายเวหา
อยากจะจับอยากจะต้องคงไกลตา
อยากจะหาคงแทบน้ำตานอง
ประการสองฝุ่นควันมาย่ำกราย
คงหลากหลายการกระทำบังความใส
บังจิตใจผ่องแผ้วคว้างทิ้งไกล
ที่วาดไว้คงดับเพราะคนทำ
เหลือเพียงความเศร้าสร้อยประดับจิต
เจ็บทั้งใจทั้งชีวิตก็เปลี่ยนผัน
ลืมคิดถึงสิ่งที่ก่อขึ้นกัน
ยากเปลี่ยนผันกลับมาสวยดังเดิม