12 ตุลาคม 2550 22:55 น.

เมื่อลมหนาวพัดหวน

ก.กวีเถื่อน

เมื่อลมหนาวพัดหวน

          ปลายพรรษา สิ้นหน้าฝน ชนหน้าหนาว      
ลมพัดผ่าว เป่าสำเนียง เสียงลมหวน
ลมหนาวพัด สะบัดมา พารัญจวน
เหมันต์หวน ป่วนฤทัย ให้เดียวดาย
        ท้องฟ้าคราม ยามสายัญ ตะวันคล้อย
หมู่เมฆลอย คล้อยเคลื่อน เลื่อนลาหาย
สายลมโบก โยกทิวไผ่ ไหวเอนปลาย
อ่อนตามลาย สายลมพัด สะบัดเบา
        อัสดง ทรงกรด จรดค่ำ
ฟ้าเริ่มดำ นำราตรี ที่เงียบเหงา
ลมรัญจวน ครวญสำเนียง เสียงแผ่วเบา
สายลมเป่า เหงาทั้งหนาว ร้าวทรวงใน
       ในราตรี ที่เงียบเหงา เรานั่งเหม่อ
ใจพร่ำเพ้อ ละเมอคิด จิตหวั่นไหว
ลมพัดแผ่ว แว่วสำเนียง เสียงเรไร
เหงาจับใจ ในค่ำคืน ยืนรำพึง
       หนาวครานี้ ฤดีเศร้า เหงาดวงจิต
ลมเปลี่ยนทิศ หวนจิตใจ ให้คิดถึง
ภาพหน้าหนาว คราวก่อนนั้น มันตราตรึง
ให้คะนึง ถึงอดีต คอยกรีดใจ
         เมื่อหน้าหนาว คราวก่อน ตอนลมล่อง
คืนจันทร์ส่อง ท้องฟ้าคราม งามสดใส
มีเราสอง นั่งมองจันทร์ สันติ์สุขใจ
ลมพัดไหว ใจสะท้าน ซ่านผิวกาย
       แม้ลมหนาว แต่เราอุ่น กรุ่นไอรัก
แม้หนาวนัก รักคอยคลุม ห่มให้หาย
ในคืนหนาว เราอิงแอบ แนบชิดกาย
หนาวก็คลาย หายไป ใจชื่นบาน
        เราโอบกอด พรอดพร่ำ รำพันรัก
สุขใจนัก กับรักนี้ ที่แสนหวาน
อยากพร่ำพรอด กอดกันไว้ ให้แสนนาน
รักเบ่งบาน ปานแสงจันทร์ อันวิไล
       เอ่ยวาจา สัญญามั่น คืนจันทร์ผ่อง
ให้เราสอง ปองใจมั่น ไม่หวั่นไหว
ขอจันทร์เพ็ญ เป็นพยาน ผสานใจ
แม้ต้องไกล ไปห่างกัน จะมั่นคง
       สิ้นลมหนาว เจ้าก็ไกล ไปเหินห่าง
ต้องไกลทาง ห่างกันไป ไม่ประสงค์
ลมหนาวจาก พรากเจ้าไกล ใจพะวง
หวั่นอนงค์ จะหลงทาง ห่างหัวใจ
       สุดอาลัย ในวันลา น้ำตาหล่น
โอ้ใจเราเศร้าเหลือทน จนอ่อนไหว
เจ้า สัญญา ว่าลมหนาว คราวถัดไป
จะหอบใจ ให้หวนมา คราเหมันต์
    เหมันต์นี้ มีเพียงเรา เฝ้ามองฟ้า
ลมพัดมา คราใด ใจแสบสัน
มันหนาวเหน็บ เจ็บหัวใจ ให้รำพัน
ลมพัดไหวใจหนาวสั่น สะบั้นกาย
       แม้ผิงไฟ ให้คลายหนาว แค่คราวครั้ง
แต่หนาวใจ ไม่ประทัง ยังไม่หาย
ยิ่งลมพัด ปัดปลิว คลอผิวกาย
แทบวางวาย กายใจเหน็บ เจ็บซ้ำทรวง
       เจ้าอยู่ไหน จึงไม่หวน ทวนท้องทุ่ง
หรือหลงกรุง มุ่งฝักใฝ่ ในเมืองหลวง
ปล่อยหนุ่มนา น้ำตาคลอ รอพุ่มพวง
หวั่นในทรวง ห่วงคนไกล จะไม่มา
       หรือลืมแล้ว หนอแก้วตา สัญญาเก่า
ที่สองเรา เฝ้ารำพึง คะนึงหา
เมื่อคราวครั้ง นั่งมองจันทร์ เอ่ยสัญญา
จะคืนมา คราลมหวน ทวนเหมันต์
      คงเที่ยวท่อง ล่องแสงสี ที่เมืองฟ้า
ลืมทุ่งนา สัญญาเดิม เริ่มเปลี่ยนผัน
อยู่เมืองไกล ใจก็ต่าง ห่างสัมพันธ์
คงลืมกัน ลืมวันวาน ลืมบ้านไพร
      ยังคอยเฝ้า เจ้าแก้วตา จะมาไหม
นี่ก็ผ่าน กาลเหมันต์ หลายวันเข้า
คอยจดเจ้าอยู่ไหน จึงไม่มา หาคนคอย
จ้อง มองทาง อย่างท้อใจ
      กลอยรู้ไหม ใครคนหนึ่ง คิดถึงเจ้า
ทุกค่ำเช้า เฝ้าห่วงใย จนใจหงอย
จะผ่านหนาว กี่คราวครั้ง ยังเฝ้าคอย
ใจเหม่อลอย คอยสัญญา เมื่อสายัญ
      ลมเปลี่ยนทิศ แต่จิตใจ ยังไม่เปลี่ยน
ฤดูเปลี่ยน เวียนหมุนไป ใจไม่ผัน
ยังจดจำ คำสัญญา คราเหมันต์
คำเหล่านั้น มันแทงใจ ให้ค่ำครวญ
       วอนลมหนาว ข่าวคนไกล ให้สักหน่อย
ว่าหนุ่มนา ตั้งตาคอย กลอยให้หวน
ทวงสัญญา คราเหมันต์ อันรัญจวน
ฝากลมหวน ชวนขวัญยืน คืนบ้านนา
       เนิ่นนานวัน ผันเป็นเดือน เคลื่อนเป็นปี
จนวันนี้ กี่ลมหนาว เฝ้าคอยหา
เหมันต์เข้า หนาวก็ทวน หวนทุกครา
แต่เจ้าใยไม่หวนมา......หาคนคอย






				
2 ตุลาคม 2550 11:06 น.

งามบาดใจ

ก.กวีเถื่อน

ยิ่งมอง น้องยิ่งงาม ยามแลจ้อง
ผิวนวนผ่อง เป็นยองใย ใบหน้าขาว
ยิ้มสดใส ในตาคม ผมสวยยาว
ประดุจดาว พราวบนฟ้า นภาลัย
     ยามแลจ้อง มองสายตา คราใดนั้น
อกไหวสั่น หวั่นดวงจิต พิศมัย
ช่างงามแท้ แม่ละออ หนอทรามวัย
ต้องหวั่นไหว ใครเผลอมอง น้องคนงาม
     หุ่นชะอง ทรงสง่า น่าสวาท
ผิวสะอาด บาดหัวใจ ให้วาบหวาม
ปทุมถัน ชันชู ดูงดงาม
สุดจะห้าม ปรามสายตา คราจ้องมอง
     ขาเรียวงาม ยามแลจ้อง ต้องตาค้าง
แขนสองข้าง ช่างงามงด หมดความหมอง
ใครได้ยล ต้องดลใจ ให้หมายปอง	
อยากจับต้อง น้องคนงาม ทุกยามเลย	
     ดุดหงษ์เหิน ยามเดินย่าง ช่างงามงด
งามหยาดหยด จรดเท้า แม่เจ้าเอ๋ย
อยากเป็นชู้ คู่คนงาม โอ้ทรามเชย	
โอ้แม่เอย เผยโฉมหน้า มาประโลม 
     เหมือนนางฟ้า มาจำแลง แปลงกายร่าง
ทุกสิ่งอย่าง สร้างสรรค์ ประชันโฉม
เสน่ห์เจ้า เย้ายวนใจ ให้ประโลม
อยากยลโฉม โลมไล้ ให้ทั่วเรือน
     จะหาใคร ในโลกา มาปานเปรียบ
มิอาจเทียบ เปรียบได้ ไม่แม้นเหมือน
ใครได้ครอง ต้องปักใจ ไม่แชเชือน
เปรียบเสมือน เดือนบนฟ้า นภาลัย.....				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก.กวีเถื่อน
Lovings  ก.กวีเถื่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก.กวีเถื่อน
Lovings  ก.กวีเถื่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก.กวีเถื่อน
Lovings  ก.กวีเถื่อน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก.กวีเถื่อน