8 พฤศจิกายน 2552 23:00 น.

14/104 เก็บรักไว้...เมื่อไม่รัก (ว่าด้วยกลบท ตกกระทบ)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

*เก็บคำรักภักดิ์ลวงจากทรวงหลอน
เคยอาวรณ์วันวานยังหวานหวาม
ต่อแต่นี้นานเนิ่นอย่าเกริ่นนาม
ปล่อยไปตามทางตัวอย่ามัวตรอง

*เมื่อไม่รักรสร้าวเร่งเร้าร้อน
ส่งสาส์นสอนใจสั่งถึงครั้งสอง
คราหมองมัวกลั้วหม่นระคนมอง
น้ำตานองหนักหนาอยู่ช้านาน

*ปล่อยพี่ไปปะปนเป็นคนแปลก
อย่าได้แหวกว่ายวอนออดอ้อนหวาน
ทุกคำถ้อยปล่อยเถิดเพื่อเกิดทาน
จงกล่าวขานคำขาดไม่อาจควง

*บุญชาตินี้มีน้อยจึงกร่อยนัก
พี่จำหักห้าวหาญเพราะคร้านหวง
คนคิดลืมปลื้มหลอกเย้าหยอกลวง
จนใจกลวงกาลก่อนอย่าย้อนไกล


คำอธิบาย

กลบทตกกระทบ
เป็นกลบทที่ “ง่าย”บทหนึ่ง
แค่บังคับให้ซ้ำเสียงพยัญชนะ
ตรงคำที่๓-๕-๘ทุกวรรคจนจบ


ตัวอย่างกลอนที่เกี่ยวข้อง

หัวใจเมียหลวง (ด้วยกลบทตกกระทบ)   ญามี่
เวิ้งว่างไหวไวว้าแวะเวียนหวั่น
ระรัวพรั่นพลิกเพ้อละเมอเผลอ
จ่อมจมเจ็บเหน็บจำภาพเจอะเจอ
โศกเสมอยามเมียงพบนัยเมิน

อรุณรุ่งจูงรักผลักห่างหลง
กดจมกรงกรุ่นกลิ่นเศร้าเกินเกริ่น
ผะผ่าวพ้อก่อพล่ามกระชากเพลิน
โดดเดี่ยวเดินเดียวดายท่ามทุกข์ดัน

เพราะรักเราเร้าเลยบทหวานร่าย
อกสลายไหลหล่นลืมลดหลั่น
รักนานปีปี้ป่นเพราะผันปัน
เธอกับฉันชุ่มเชื้อเกลียดเชิญชวน

ตะวันลงแผลรอนสะท้อนหลอน
บรรจงผ่อนพิษพ่ายมิผันผวน
ราตรีโรยโปรยลวงหน่วงเร่ารวน
กระจายกวนหวนกรายคิดแย่งกุม

อดีตชื่นคืนฉ่ำที่เคยชุบ
มาหดหุบหลุดหายหมดเปลือกหุ้ม
ให้ตระหนักทรวงในล้วนชุมนุม
แต่ปมปุ่มตุ่มปร่าตรวนถึงปลาย

รักภาคเปลี่ยนเปลี่ยวเปล่าจนพอกป่วน
คลอเคียงครวญอวนขมมิหลุดข่าย
ทรมาไหม้หมองยอกมากมาย
ยากปลดป่ายหายปวดกลางทุกข์ปอง

เวลาคร่าล่าเคลิ้มปิดจุดไข
อยู่ฤาไป่ไต่ปวดเจ็บเกินป้อง
เป็น“เมียหลวง” ควงร้าวแพ้คนรอง
ที่สนองแนบเนื้อชายในนัย...				
6 พฤศจิกายน 2552 23:36 น.

13/104 คืนนี้พี่ครวญ (ว่าด้วยกลบท เสือซ่อนเล็บ)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

*คืนค่ำนี้พี่ครวญจวนค่ำแล้ว
เพราะไร้แววแก้วตาพาไร้หวัง
เหมือนทุกข์โถมโหมเร้าเอาทุกข์ประดัง
เจ็บหมื่นครั้งยังร้ายกลายหมื่นที

*โอ้โศกใจใดหนอพอโศกเศร้า
ช่างเร่งเร้าเย้ายวนชวนเร่งหนี
เหมือนเธอลืมปลื้มแล้วแววเธอมี
คนแทนที่พลีรักภักดิ์แทนเรา

*ช้ำรักร้าวคราวนี้ที่รักจ๋า
หยดน้ำตาคราไหลใช่น้ำเปล่า
ทุกหยาดหยดรดรินสิ้นหยาดเงา
ไหลให้เจ้าเฝ้ารู้ดูให้พอ

*อกพี่เอ๋ยเลยวุ่นหนุนพี่เหม่อ
ฤา คนเซ่อเพ้อพร่ำคำคนหนอ
คิดว่ารักปักใจใช่ว่ารอ
แท้จริงหนอก็หลอกบอกจริงจัง

*ค่ำคืนนี้พี่ครวญจวนคืนใหม่
เหมือนสิ้นใจใครเห็นเป็นสิ้นหวัง
เมื่ออกร้าวคราวแหลกแยกอกพัง
ร้องเสียงดังชังตนหม่นเสียงครวญ

*จะเจ็บนานปานใดใจเจ็บช้ำ
ร้องไห้ร่ำพร่ำเพ้อเผลอไห้หวน
หริ่งเรไรไยร้องก้องเรรวน
ทำเหมือนชวนป่วนเศร้าเราเหมือนกัน

*จนป่านนี้มีเธอเพ้อป่านนั้น
เฝ้าถามจันทร์วันเหงาเฝ้าถามฝัน
เพราะฉะนี้นี่หรือคือฉะนั้น
ในทุกวันครั้นตื่นฝืนทุกครา

*ขอคืนนี้พี่นอนก่อนคืนหม่น
กลัวเพ้อจนหม่นไหม้ใจเพ้อหา
ภาพรักเก่าเย้าเล่นเห็นรักมา
กลัวบาดตาพาเพลินเกินบาดใจ....


คำอธิบาย

กลบทเสือซ่อนเล็บ

บังคับให้ซ้ำคำที่๒-๗
และซ้ำเสียงสระตรงคำว่า๓-๔ และ ๕-๖ ทุกวรรค


ตัวอย่าง กลอนที่เกียวข้อง

คล้ายใครครวญ(กลบทเสือซ่อนเล็บ)   โอเลี้ยง

ในใจเราเศร้าเพ้อเผลอใจหา
คอยบอกว่าชาช้ำร่ำบอกป่วย
ใจระรัวรั่วขมพรมระรวย
เหมือนจะม้วยด้วยห่วงช่วงจะไกล

เมื่อไปไกลไยวุ่นกรุ่นไปทั่ว
นัยน์ตามัวรัวร่ำน้ำตาไหล
คล้ายขาดหายกายแหลกแยกขาดใจ
จำจากไปไร้ชื่นฝืนจากจร

กับใจครวญป่วนโศกโยกใจวุ่น
จิตคล้ายขุ่นคุ้นช้ำดำคล้ายหลอน
เจ็บตอนจากพรากร่ำพร่ำตอนรอน
จิตคอยคล้อยร้อยร้อนอ้อนคอยรอ

ฟ้ามืดแล้วแววหม่นปนมืดหมอง
จิตเพรียกก้องร้องไยใครเพรียกหนอ
หรือเราเหม่อเผลอคิดจิตเราพ้อ
จึงเศร้าเก้อเป๋อรอออเศร้าครวญ...

****************-------------------*******

ขอแค่มีสักวัน...(ด้วยกลบทเสือ-สิงห์)    โอเลี้ยง

กลบทสิงห์โตเล่นหาง


อยากบอกเธอถึงรักสักนิดหนึ่ง
จิตดื้อดึงหวังนักทักมาหา
แม้อยู่ห่างไกลเกินเดินไปมา
ทุกเวลาซุกซ่อนร้อนคะนึง

กาลผ่านพ้นจิตนี้พลีแต่ภักดิ์
ไม่เคยผลักหักห้ามถามคิดถึง
เฝ้าห่วงหาพลางคิดชิดรำพึง
ต้องตรมตึงอึ้งเงียบเลียบหวังรอ

ขอเพียงเธอส่งตอบชอบสักนิด
จะไปซบสนิทชิดตามขอ
แต่นี่เธอเฉไฉไม่มองง้อ
ปล่อยให้ท้อกรายเกาะเคาะกลางทรวง


กลบทเสือซ่อนเล็บ


ที่บอกไปใช่คิดจิตบอกเพ้อ
เธอชอบเผลอเจอฉันพลันชอบหวง
แต่ถามไถ่ไพล่เฉยเลยถามท้วง
ทำเหมือนถ่วงลวงหลอกบอกเหมือนเมิน

เธอรักฉันพันผูกปลูกรักไหม
ไยหันไวไกลเลือนเหมือนหันเหิน
ไยคิดรอคลอปิดจิตคิดเกิน
หรือแค่เพลินเดินดักทักแค่นั้น

เจนจำจิตคิดนึกคึกจำหด
เธอเหมือนปดคดคิดจิตเหมือนบั่น
บอกมาเถิดเปิดปากฝากมาพลัน
ฤาให้รักพักพลันยันให้รู้...

/////////////////////////////////////////////////////////

26 เมษายน 2552   
http://blog.eduzones.com/friends/22950

รักของเสือ(กลบท เสือซ่อนเล็บ)   victoriasecret
ชอบเย้าหยอก...หลอกอำ...ทำเย้าหยอก
เที่ยวไปหลอก...หยอกเย้า...เขาไปทั่ว
ลวงหลอกอำ...กรรมย้อน...หลอนหลอกตัว
ตนหมองมัว...กลัวจน...หม่นหมองใจ

ความจริงใจ...ให้เห็น...เป็นจริงแท้
อย่าหวั่นแด...แม้จิต...คิดหวั่นไหว
คิดโทษเขา...เราผิด...คิดโทษใคร
เจ็บทรวงใน...ใครซึ้ง...ถึงทรวงเรา

เกิดเป็นคน...ทนได้...ใจเป็นสุข
ใจมากทุกข์...สุขยาก...หากมากเศร้า
อดทนไว้...ใจท้อ...ก็ทนเอา
หากมัวเมา...เราด้อง...หมองมัวตน

จงบากบั่น...ดั้นด้น...ทนบากหน้า
อาจนำพา...ค่าให้...ได้นำผล
ให้แยบคาย...หลายทาง...อย่างแยบยล
ทุกแห่งหน....ล้นสุข...ทุกแห่งไป….

..............................................

หลานเองจะใครซะอีก

กลบทขี้เมาซ่อนขวด...

มีน้าแก่ขึ้นคานวานน้าหน่อย
อย่าทำกร่อยหยิ่งนักจักทำเศร้า
นึกว่าหนุ่มหล่อปลื้มลืมว่าเงา
สีผมเทาหลอกผสมว่าผมดำ

ทำเป็นบอกสับรางทางเป็นหมื่น
สาวไหนอื่นกระชุ่มหนุ่มไหนขำ
มาอ้อนรักละอ่อนมาอ้อนคำ
สาวหลงจำสะอื้นคืนหลงตัว

คำคนแก่ร้ายกว่าคำคนหนุ่ม
ที่ร้อนรุ่มสุมใจให้ร้อนทั่ว
สาวเฝ้าฝันแต่สาวยังเฝ้ากลัว
หลอกตามัวมืดสนิทปิดตานาง

ปล่อยให้น้าสนุกปลุกให้ฝัน
รวมสร้างกันรวมทางมิสร้างขวาง
จะสาวอ่อนรวยจนหนสาวทาง
น้าไม่ร้างสนิทใกล้หลานไม่ลืม...อิอิ

.............................................................................................

จะไม่เด็ด
จงบากบั่น...ดั้นด้น...ทนบากหน้า
อาจนำพา...ค่าล้ำ...พร้อมนำผล
ให้แยบคาย...หลายทาง...อย่างแยบยล
ทุกแห่งหน....ล้นสุข...ทุกแห่งไป

.
.
รักจะอยู่...แห่งใหน...ใคร่จะรัก
จะหาญหัก...ใจดื้อ...หรือหาญไหว
คงต้องตาม...หารัก...หากต้องไป
สุดฟ้าไกล...ไม่ว่า...ฟากฟ้าใด..

…………………………………………………………


น้าแจ๊ก
หลานค้างคาน...นานปี...ที่ค้างเติ่ง
กลัวเสียเชิง...เหลิงลอย...พลอยเสียขวัญ
ถือว่างาม...ย่ามใจ...ไม่ว่ากัน
คงสักวัน...ฝันร้าว...เข้าสักที

ทำเริงรื่น...ฝืนใจ...ให้เริงร่า
เพียงหันหน้า...ท่าทาง...อย่างหันหนี
ไม่รู้ใคร...ไร้คู่...คงรู้ดี
อาจบางที...มีใจ...ให้บางคน

รักข้างเดียว...เหี่ยวเฉา...เมาข้างขวด
หนึ่งร้อยปวด...รวดร้าว...เมาร้อยหน
เจ็บเหลือใจ...ใช้เหล้า...เศร้าเหลือทน
เขาไม่สน...จนใจ...เขาไม่แล

เมื่อไร้ชาย...หมายปอง...ต้องไร้คู่
จำใจอยู่...ผู้เดียว...เปลี่ยวใจแย่
อกหวั่นไหว...ใจสั่น...หวาดหวั่นแด
รันทดแท้...แพ้หมด...รันทดใจ....

……………………………………………….

ญามี่
พี่แจ็คเก่ง เปล่งปล่อย ลอยแจ็คพ็อต
เอาเสือสอด ลอดรั้ว กลัวเสือขู่
หยอกเร้ามาก ลากชีพ บีบเร้ารู้
จำยอกอยู่ คู่ซม ชมยอกเยือน

ช่างอำเยอะ เปรอะป่วน ครวญอำสวย
ดูร่ำรวย ป่วยปลอม อ้อมร่ำเลื่อน
บัดเดี๋ยวช้ำ ร่ำรัด บัดเดี๋ยวเลือน
ใช่บอกเตือน เกลื่อนเกย เลยบอกจริง

ช้ำฤาสุข คลุกเคล้า เกลาฤาหมด
ร้อยร้าวทด บทปวด ตรวจร้าวสิง
พบอ้างข้าง พรางพิง สิ่งอ้างอิง
นั่งหลอกนิ่ง วิ่งเวียน เพียรหลอกล้อ..

แลเหลือบบ่อย คล้อยตาม ยามเหลือบเห็น
มีหลายเว้น เป็นป่วน ชวนหลายข้อ
พี่เขียนเก่ง เร่งเรียน  เวียนเขียนคลอ
อย่าอ้อนออ รอลี้ ถี่อ้อนไอ..

……………………………………………..

น้าแจ๊ก
จงบากบั่น...ดั้นด้น...ทนบากหน้า
อาจนำพา...ค่าล้ำ...พร้อมนำผล
ให้แยบคาย...หลายทาง...อย่างแยบยล
ทุกแห่งหน....ล้นสุข...ทุกแห่งไป

รักจะอยู่...แห่งใหน...ใคร่จะรัก
จะหาญหัก...ใจดื้อ...หรือหาญไหว
คงต้องตาม...หารัก...หากต้องไป
สุดฟ้าไกล...ไม่ว่า...ฟากฟ้าใด..

จะตามนวล...ชวนชิด...ติดตามขวัญ
แม้เพียงฝัน...มั่นนัก...รักเพียงไหน
อาจท้อแท้...แต่ก็...ไม่ท้อใจ
คงมั่นใน...ใจนั้น...ยังมั่นคง....

////////////////////////////////////////////////////////

วันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน 2551 
กลบทเสือซ่อนเล็บ (สู้อย่างเสือ ใจดีสู้เสือ) 
Posted by หยาดกวี , ผู้อ่าน : 257 , 21:36:19 น.  

ที่โยงข้างล่าง คือ คำซ้ำกัน 
 
กลอนตัวอย่าง
                                                        เห็นคนจน ดิ้นรน โอ้คนหนา
              ที่เรามอง สองข้าง ทางเรามา     มีหลังคา ผุพัง ทุกหลังไป
(ข้อสังเกต ที่จุดไข่ปลาเว้นไว้ คือให้เติมคำที่ ๒ นับจากต้นวรรคไป ก็จะสมบูรณ์)
กลบท เสือซ่อนเล็บ
เห็นคนจน ดิ้นรน โอ้...หนา
ที่เรามอง สองข้าง ทาง...มา
มีหลังคา ผุพัง ทุก...ไป
มาสิ้นจน บนดิน เกือบ...จิต
ถ้าไม่คิด แก้กัน มัน...ไหว    
ถ้าแบ่งปัน ทุกแห่ง ที่...ไป   
ให้จนไทย ทุกหน หมด...กัน
ที่ใดจน คนไหน ที่...แก้            
อย่าพึงแพ้ เพื่อนหนึ่ง ให้...ขยัน
ไม่ท้อถอย คอยขอ อย่า...กัน    
จงบากบั่น หมั่นมาก ลำ...ไป    
     
เมื่อยังชีพ รีบรั้ง เมื่อ...อยู่        
จักขอสู้ ดูหนอ ไม่...ไหน         
เอาจากเหงื่อ เพื่อยาก ใช่...ใคร
ขอสู้ไป ทนอยู่ เรา...กัน          
เขาเป็นคน จนเห็น เรา...เหมือน
มันยิ่งเตือน ชายหญิง มัน...ขัน  
ให้ทุกคน อดทน จน...วัน         
คงสุขสันต์ เสริมยุค สร้าง...จริง
จะไม่ถอย คอยใคร จะ...ถอย
ชาติชายร้อย รู้ไว้ นะ...หญิง  
จักดิ้นรน จนสิ้น จัก...จริง     
ไม่ละทิ้ง จริงหนา ไม่...เพียร
รุ่งเช้าตื่น ตื่นเช้า แต่...ตรู่       
รีบหันดู คู่ขวัญ ไม่...เหียน      
จดจำงาน การทำ แม่...เนียร   
ต้องขืนเพียร เรียนตื่น ใช่...ใจ
ต้องสู้ทำ จำครู จำ...จริง       
ไม่หลงสิ่ง เสื่อมลง ไม่...ใหล
ทางมีพิษ คิดดี จะ...ภัย        
จะหลีกไป ไกลปลีก ให้...เลย
หาเพื่อนแท้ แลเหมือน เป็น...คบ
รู้ทางหลบ หลีกบ้าง คือ...เฉลย
ถ้าเพื่อนดี มีเหมือน เป็น...เคย
โอ้เพื่อนเอ๋ย เคยเหมือน เป็น...ตาย
เราสุขสุข เพื่อนสุข ก็...ด้วย         
 ยามเราซวย เศร้าเฉา เพื่อน...หาย  
มาเสียคน จนเพลีย น่า...ดาย       
เสียเพื่อนตาย ร้ายเหมือน ยัง...กิน
มีเพื่อนดี เพียงหนึ่ง ถึง...น้อย        
เหมือนทรัพย์น้อย เร่งนับ เป็น...สิน 
เพราะคนดี มีค่า กว่า...กิน            
ที่เดินดิน สิ้นเพลิน เที่ยว...ชน       
มักขี้เกียจ เดียดดี มัก...คร้าน      
ไม่เอาการ งานเฉา ไม่...ผล         
มัวเที่ยวเล่น เป็นเกลียว เดิน...ชน
ทุกแห่งหน คนแสดง ทุก...ไป      
คนมั่งมี มากมาย มี...คั่ง 
ไม่ถอยหลัง นั่งลอย โชค...ไหล
ต่อสู้การ งานอยู่ จัก...ไป
ด้วยหัวใจ รู้ทั่ว เพราะ...ดี
ไม่ท้อแท้ แลหนอ ไม่...ถอย  
ไม่มัวคอย คิดมั่ว หมอง...ศรี
ทำวันนี้ ดีกว่า หา...ดี         
ไม่รอรี รับก่อ ไม่...คอย       
ถ้าลำแข้ง แข่งขัน หมด...เข็ญ  
ทรัพย์ใช้เป็น เห็นง่าย ที่...สอย
วันเลื่อนไป ใช่เชือน ให้...ลอย
ไม่ท้อถอย  คอยรอ ให้...ใจ    
นึกสิ่งใด ได้จริง ทุก...สรรพ    
คนขานรับ  รองงาน คน...ไข  
ทำสิ่งจริง ได้จริง ทุก...ไป      
พ้นทุกข์ภัย ผ่านยุค พ้น...เอย.
                         ...หยาดกวี...
                      ๗  กันยายน  ๒๕๕๑

//////////////////////////////////////////////////////////////

yamiejung
สมาชิกดีเด่น     
http://www.praphansarn.com/new/forum/forum_posts.asp?TID=8896&PN=26

กับใจเราเคล้าเพ้อเผลอใจหา
อยากบอกว่าถ้าช้ำย้ำบอกด้วย
ใจระรัวกลัวขมพรมระรวย
เหมือนจะม้วยด้วยห่วงช่วงจะไกล
 
เมื่อไปไกลไยวุ่นกรุ่นไปทั่ว
นัยน์ตามัวรัวร่ำน้ำตาไหล
คล้ายขาดหายกายแหลกแยกขาดใจ
จำจากไกลไร้ชื่นฝืนจากจร
 
กับใจครวญชวนโศกโยกใจวุ่น
จินต์คล้ายขุ่นคุ้นช้ำย่ำคล้ายหลอน
จิตตอนจากพรากร่ำพร่ำตอนรอน
จิตคอยคลอนร้อนร้าวคราวคอยรอ
 
ฟ้ามืดแล้วแววหม่นปนมืดหมอง
จิตเพรียกก้องร้องไยใครเพรียกหนอ
หรือเราเหม่อเผลอคิดจิตเราพ้อ
เสียงที่คลอออตรมรมที่ใจ...
..................ยามี่จัง///...

////////////////////////////////////////////////////////

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yimyam&group=11&month=05-2008&date=15
โดย: ย.ยิ้มแย้ม  15 พฤษภาคม 2551 16:20:52 น.

๑๐. ดอกไม้บาน ขานรับ กับไม้ต้น
ชื่นฉ่ำฝน หล่นมา พาฉ่ำหลาย
ไม่ได้ปลด อดหนอ ก็ได้คลาย
สมใจหมาย หายปลิด จิตใจตรม

กอดกับนาง ร่างชิด ติดกับน้อง
เราคู่สอง ปรองดอง ครองคู่สม
แม้นานนัก รักมั่น กันนานนม
ได้ชื่นชม ห่มรัก จักชื่นบาน

/////////////////////////////////////////////////////////////////

http://www.baanmaha.com/community/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%9A-23673/

กลบทสุภาษิต
หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)

เสือซ่อนเล็บ

รู้ว่ายาก หากเห็น เช่นว่าทุกข์
ทางนี้สุข ปลุกปลื้ม ลืมนี้หนอ
รำพึงเพียร เวียนวน ทนพึงพอ 
เพียรรวนล่อ ต่อตั้ง กังวลใจ

ยลแต่อย่าง ต่างรู้ อยู่แต่ยาก 
เหลือนิหาก จากล้น พ้นนิสัย
เหมือนขว้างงู ชูเชิด เปิดกว้างไป 
ก็กลับใกล้ ไคล้ยุค ฉุดกลับมา

สิ่งที่เบื่อ เหลือเบือน เหมือนที่รัก 
ต่างร่ำผลัก มักเป็น เช่นร่ำว่า
รำคาญไหน ใฝ่เฝ้า เข้าคานตา 
เช่นคอยท่า หาสุข ทุกข์คอยรึง

///////////////////////////////////////

http://www.khonshop.com/board_view.php?id=51734&category_id=7

กลบทเสือซ่อนเล็บค่ะ 
1 2 3 4 5 6 7 8    
คำที่2กับ7 เป็นคำซ้ำกันค่ะ 
คำ3กับ4 และ คำ5กับ6 พ้องเสียง ทุกวรรค 

ชอบเย้าหยอก หลอกอำ จำเย้าเล่น 
น้ำฝนเย็น เห็นมอง จ้องฝนหล่น 
นั่งมองฟ้า พาใจ ให้มองคน 
ฝืนจำทน หม่นหมอง ต้องจำใจ
ไม่รักหลอก ตอกย้ำ จำรักแม่น
รักแนบแน่น แสนท้อ พอแนบไหว
รักที่ลวง ห่วงหา ลาที่ใจ
รักแล้วไกล ใยรัก พักแล้วลวง

////////////////////////////////////////

(ดาลใจจากบท ขอทานบรรดาศักดิ์ /นาฏกรรมบนลานกว้าง/อ.คมทวน คันธนู)
http://kannungseu.blogspot.com/2009/02/blog-post_7258.html
/กลบทเสือซ่อนเล็บ/

เฒ่าหนึ่งครุ่นคำนึงเฒ่าหนึ่งหมอง
เฒ่าหนึ่งมองครุ่นคำนึงเฒ่าหนึ่งบ้าง
สบตาประสานตา ชะตาลาง
วันเลื่อนเดือนห่างอย่างเลื่อนลอย

จึงฝนอุ้มชุ่มหล่นไล่ฝนแล้ง
จึงเศร้าแหนงของผู้เฒ่าคลายเศร้าหงอย
จึงรอแล้วของแม่เฒ่า ไม่รอคอย
สิ้นคืนแล้งไอม๋าน้อยจะคืนนา

การกลับหายวับเหมือนกลับกัน
แม่เฒ่าฝันนั้นช่างเศร้า พ่อเฒ่าว่า
ข้าเห็นฝนกี่สาดเซ็น ไม่เห็นมา
ไอลูกม๋าลืมแม่แก้วแล้วลูกแก

คำพ่อเฒ่ากรีดใจดำ คำพ่อเฒ่า
น้ำตาเศร้าพร่างพร่าจากตาแม่
พ่อเฒ่าว่าฉันก็เศร้าเท่าเท่าแก
จะติดตามก็ห่วงแต่เงินติดตัว

/////////////////////////////////////////

http://www.212cafe.com/boardvip/view.php?user=cm99&id=1187

ความคิดเห็นที่ : 20    รวมกานท์ กลอน.. คอนพูทน..+*

..........คอย..คุณมาเคียง........


เมื่อวัยสาววาวใสสู่วัยสวย
ยามคุณนวยนาดกรุ่นเยี่ยงคุณหนู
มาชื่นชมรมณ์รื่นหมายชื่นชู
เธอเลิศหรูดูเริดชวนเลิศรส

เพียงแรกเห็นเป็นแปลกเหมือนแรกหา
น้องนวลยาน่ายวนยิ้มนวลหยด
โอ้สูงยิ่งกิ่งยูงอีกสูงยศ
เพียงจ่อจดหมดข้อคิดจ่อใจ

ยลความสวยรวยงามแถมความสาว
อยากเกี่ยวดาวกราวเดียวหากเกี่ยวได้
อันอัมพรวอนพร่ำผ่องอำไพ
ฝากบอกไปใช่หลอกช่วยบอกปอง

หลงรักเธอเจอทักกลัวรักท้อ
เพียงพื่อนพอขอเตือนแบบเพื่อนผอง
ในตานั้นมันปร่าน้ำตานอง
เพราะคู่ครองน้องอยู่เราคู่คอย

แม้นนานไหนไกลกาลแม้นานนัก
จะสุดศักดิ์ศรีหยุดเกินสุดสอย
แม่เนื้อกรุ่นกลิ่นเรื่อโอ้เนื้อกลอย
ใจดวงน้อยร้อยรวงแต่ดวงนี้
..........................
..กลบทเสือซ่อนเล็บ..
มาเยี่ยมมาเยือน..บทกลอนหวานหวาน..ซึ้งซึ้ง
หวัดดีคุณเอไซ555 ทีมงานทุกท่าน มีความสุข
วันหยุดทุกคนเด้อ.......

โดย : คอนพูทน [ 2007-08-26 16:59:43 ] 
 ที่มา...
http://www.212cafe.com/boardvip/view.php?user=cm99&id=1150
**......เธอ...จงรู้........** โดย : eisai555 เมื่อ : 2007-08-24

//////////////////////////////////////////////////////////

เสือซ่อนเล็บ   ผู้แต่ง: หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) 
 http://www.reurnthai.com/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%95#.E0.B9.80.E0.B8.AA.E0.B8.B7.E0.B8.AD.E0.B8.8B.E0.B9.88.E0.B8.AD.E0.B8.99.E0.B9.80.E0.B8.A5.E0.B9.87.E0.B8.9A

๏ รู้ว่ายาก หากเห็น เช่นว่าทุกข์		ทางนี้สุข ปลุกปลื้ม ลืมนี้หนอ 
รำพึงเพียร เวียนวน ทนพึงพอ		เพียรรวนล่อ ต่อตั้ง กังวลใจ 
ยลแต่อย่าง ต่างรู้ อยู่แต่ยาก		เหลือนิหาก จากล้น พ้นนิสัย 
เหมือนขว้างงู ชูเชิด เปิดกว้างไป		ก็กลับใกล้ ไคล้ยุค ฉุดกลับมา 
สิ่งที่เบื่อ เหลือเบือน เหมือนที่รัก		ต่างร่ำผลัก มักเป็น เช่นร่ำว่า 
รำคาญไหน ใฝ่เฝ้า เข้าคานตา		เช่นคอยท่า หาสุข ทุกข์คอยรึง 
	      	
////////////////////////////////////////////////////////////////////

sita
Newbie  

http://www.romanticgals.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5604&postdays=0&postorder=asc&start=390
b]อันนี้ลองกลบทเสือซ่อนเล็บค่ะ 

นั่งมองฝน หล่นมา พามองคลื่น 
ไม้ยังรื่น คืนหม่น ฝนยังไหล 
ไม่หนีท้อ ขอทิ้ง กลิ้งหนีไกล 
ถึงอย่างไร ใจเลือน เหมือนอย่างเงา 

สายฝนพร่าง ทางไกล ให้ฝนหลั่ง 
หัวใจยัง ฝังไว้ ในใจเหงา 
สายลมโบก โศกหนี มีลมเบา 
สายใยเรา เฝ้าเรื้อ เยื่อใยจาง 

แค่เย้าหยอก หลอกไป ใครเย้าเล่น 
อย่าหลบเร้น เช่นรัก จักหลบร้าง 
เมื่อรักหน่าย หายไป ใจรักจาง 
ก็เมินหมาง ทางรัก จักเมินกัน 

ยามฝนฉ่ำ ซ้ำมา พาฝนหนาว 
ฟ้าไร้ดาว พราวพร่าง ทางไร้ฝัน 
รักหนีร้าง ทางไกล ใกล้หนีกัน 
ความผูกพันธ์ วันนี้ ที่ผูกใจ[/b]				
6 พฤศจิกายน 2552 20:58 น.

12/104 เพียงร้อยถ้อย (ว่าด้วยกลบท พิณประสาณสาย)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

บทนี้ ยากสุดของสุดยาก ที่แต่งมา  ผมเลย แต่งแบบผ่านๆ เอาตามแบบพอ อย่าว่ากันครับ  ลองสักบท จะเข้าใจธรรมชาติกานท์กลอน เป็นแน่แท้ อิอิ


*เพียงรอยถอย   เพียงรักถัก    เพียงร้อยถ้อย
อกกร่อยหน่อย   อกกักนัก    อกกล้าหนา
หากมอบชอบ  หากมองช่อง   หากมาชา
ผ่านหน้าตา   ผ่านน้องตรอง   ผ่านหนามตาม

*คนร่ำพร่ำ   คนเรียกเพรียก   คนรอพ้อ
กลับทอยอ   กลับทำย้ำ  กลับท่ามหยาม
จากค้อนงอน    จากคงงง   จากจากความงาม   
ไกลสามยาม   ไกลแสร้งแย้ง   ไกลสรวลยวน

*กอบกำคำ   กอบกลืนขื่น   กอบก้มข่ม
รอลมห่ม     รอแรงแห้ง    รอรวนหวน
ทุกข์อื่นคืน    ทุกข์อายคลาย    ทุกข์อวลครวญ
สุขกวนล้วน   สุขก้าวร้าว   สุขก่อนรอน

*เพียงถ้อยคล้อย    เพียงเที่ยงเคียง    เพียงไถ่ใคร่
เอ่ยไวไหม    เอ่ยว่ามา     เอ่ยวอนหมอน
เมื่อจากพราก    เมื่อจำพร่ำ     เมื่อจรพร
ยังอ้อนวอน   ยังอาจวาด     ยังอ่านวาน

*ต้องพอต่อ   ต้องพ้องตรอง   ต้องพร่ำต่ำ
ควรทำคำ   ควรทวนครวญ   ควรทานขาน
กล่าวกลอนร้อน   กล่าวกูรู   กล่าวกร้านกานท์
คงการงาน   คงกล้ามงาม   คงไกลไง

-*-/-*-/-*-
 / 7/
 -----

คำอธิบาย 

กลบทพิณประสานสาย

เป็นกลบท๙คำที่บังคับมากสักนิด คือ

๑. คำที่๑-๔-๗ ต้องใช้คำเดียวกัน(บางบรมครูอนุญาตให้ซ้ำเสียงได้เช่นคำควบ ที่ลงด้วยเสียงคล้ายกัน)

ตัวอย่างเช่น
สนุกรุก สนานราน สนั่นรั้น


๒. คำที่๒-๕-๘ ต้องเป็นคำพยัญชนะเสียงเดียวกัน
๓.คำที่๓-๖-๙ ก็ต้องเป็นคำเสียงพยัญชนะเดียวกันอีกด้วย
๔.คำที่๒-๓ คำที่๕-๖ คำที่ ๘-๙ ต้องซ้ำเสียงสระกันอีกข้อหนึ่งด้วย


ตัวอย่าง กลอน ที่เกี่ยวข้อง

พ้อภักดิ์รักใฝ่ (ด้วย กลบทพิณประสานสาย)   ญามี่

ระงมขม ระเหงาเคล้า ระงับขับ
ละลายปลาย ละรับปรับ ละเลาะเปาะ
เพียรพร้อมยอม  เพียรพอกยอก เพียรเพาะเยาะ
ยอมย้อนกร่อน ยอมเหยาะเกาะ ยอมย่ำกรำ

พ้อรักภักดิ์  พ้อเร่าเผา พ้อหลอนผ่อน
เพียรออมยอม เพียรอ้อนหย่อน เพียรอำย่ำ
พร้อมปลิดจิต พร้อมแปลงแจ้ง พร้อมปล้ำจำ
ให้รักทัก ให้ร่ำทำ ให้ร่าท้า

สนุกรุก สนานราน สนั่นรั้น
เพราะทุกข์ปลุก เพราะถั่นปัน เพราะถาปร่า
จิตเอียงเคียง จิตอาบคาบ จิตอ้าคา
ห้อยรักหยัก ห้อยระย้า ห้อยร้าวยาว

รักเลื่อนเปื้อน รักลิ่วปลิว รักรวนป่วน
ยังถ่อห่อ ยังทวนหวน ยังท้าวหาว
หวังคลอขอ หวังใคร่ไข หวังข่าวคราว
รดก้อนร้อน รดก้าวร้าว รดกลวงลวง

////////////////////////////////////////

กลบท พิณประสานสาย 
Posted by หยาดกวี , ผู้อ่าน : 258 , 00:22:16 น.

ลบท พิณประสานสาย  มีข้อบังคับให้วรรคหนึ่งมี ๙ คำ แบ่งเป็น ๓ ชุด ชุดละ ๓ คำ การสัมผัสคือเล่นเสียงพยัญชนะต้น ๓ คำ และยังกำหนดให้ สองคำหลังของทุกชุด สัมผัสสระชิด(จายหมาย เจิงเมิง จางหมาง) อีกอย่างหนึ่ง ให้คำแรกของแต่ละชุดเป็นคำเหมือนกัน ดังแผน 

f5565.jpg

 เส้นที่โยงข้างบน คือ คำสัมผัสอักษรซ้ำสลับ แต่คำที่ ๑ ที่ ๔ ที่ ๗ สัมผัสทั้งพยัญชนะและสระเส้นที่โยงข้างล่าง ๓ คู่ คือ คำที่ ๒ กับคำที่ ๓ คำที่ ๕ กับคำที่ ๖ และ....คำที่ ๘ กับคำที่ ๙ สัมผัสสระชิด ส่วนคำที่ ๑ กับคำที่ ๔ กับคำที่ ๗ เป็นคำที่เหมือนกันทุกประการ ดังตัวอย่าง

กระจายหมาย กระเจิงเมิง กระจางหมาง
                                                    ก   จ     ม     ก   จ   ม   ก   จ     ม
ขวางมิดทิศ ขวางมั่วทั่ว ขวางมางทาง     มากางหงาง มาเกงเหงง มาโกงโหงง
ข     ม  ท   ข     ม  ท  ข     ม   ท        ม  ก     ง    ม  ก     ง   ม   ก     ง
กลบท พิณประสานสาย   
                                กระจายหมาย กระเจิงเมิง กระจางหมาง
ขวางมิดทิศ ขวางมั่วทั่ว ขวางมางทาง   มากางหงาง มาเกงเหงง มาโกงโหงง
    
ป่าดูคู่ ป่าดีคี่ ป่าดงคง               ว่าปงหลง ว่าเปิงเหลิง ว่าโปงโหลง
มาเยือนเตือน มาย้ำตำ มาโยงโตง      ปลาโทงโยง ปลาแทงแยง ปลาทนยน
   
จะไปไหล จะปักหลัก จะปายหลาย       จิตจายหาย จิตแจ้งแห่ง จิตจนหน
มาท่าว่า มาแทะแวะ มาทนวน          โอ้บ่นทน โอ้เบื่อเทื่อ โอ้บาทา
   
จะขายลาย จะของลอง จะขัดลัด          มามัดหัด มามากหาก มามาหา
คิดขาค่า คิดข่มคน คิดขายคา           มันหลาจา มันไหลใจ มันหล่มจม
   
ระทึกนึก ระทวยนวย ระแทงแนง       จิตแรงแสง จิตรักศักดิ์ จิตรมสม
มารวยด้วย มาเริ่มเดิม มารมดม        นั่งหล่มจม นั่งหลามจาม นั่งแลแจ
   
คนจำคำ คนจนคน คนจิตคิด           ถือสิทธิ์ผิด ถือสารผ่าน ถือแสแผ
มากวนล้วน มากางลาง มาแกแล        ไม่แยแส ไม่ยอมส้อม ไม่ยมซม
   
กระโจมโลม กระจายลาย กระจางลาง     มะยางสาง มะยอมสอม มะยมสม
จะจองลอง จะจ้างล้าง จะจมลม           ถึงอมขม ถึงเอินเขิน ถึงอื่นคืน
   
พระเสริฐเลิศ พระศาลา พระศอลอ       มายอขอ มายำขำ มายืนขืน
ตัวต้องย่อง ตัวตั้งยัง ตัวตื่นยืน          คนอื่นขืน คนอาจขาด คนอำขำ
   
มาอึมหึม มาอำหัม มาอาจหาญ           จะรานขาน จะเรื่องเขือง จะรำขำ
มันร่านจ้าน มันร้องจ้อง มันรำจำ         จะรำคำ จะรานคาน จะรนคน
   
จากพารา จากพึ่งรึง จากเพียรเรียน       มาเวียนเหียน มาวันหัน มาวนหน
ประนอมค้อม ประนดคด ประนมคน       จะรนดล จะรำดำ จะรีบดี
   
มาเกินเขิน มากันขัน มากู่ขู่             จะดูหมู จะดาหมา จะดีหมี
พระสบพบ พระสงฆ์พงศ์ พระสีพี         ศักดิ์ศรีมี ศักดิ์สิทธิ์มิตร ศักดิ์สัมมา
   
มารังทัง มาแรงแทง มารงทง            จะกงหง จะแกงแหง จะกางหา
  
ถึงลงกง ถึงลังกัง ถึงลังกา               จากคาหา จากเคเห จากคนหน
   
ช่างกำลำ ช่างก่อลอ ช่างเก็บเล็บ          มาเจ็บเส็บ มาแจกแสก มาจนสน
มารำพำ มาร้องพ้อง มารนพน           ใจพ้นจน ใจพังจัง ใจไพรใจ
   
เสียงเทิ้งเติ้ง เสียงทึ่งตึ้ง เสียงทึ๊ดตึด       ดังจึดลึด ดังเจิงเลิง ดังใจไหล
แว่วอิ้งวิ้ง แว่วอึ้งวึ้ง แว่วไอไว           น้ำไหลใส น้ำลงสรง น้ำล่ำซำ
   
ป่าปกรก ป่าเปรียบเรียบ ป่าไปไร        มีไก่ไข่ มีกังขา มีกรรมขำ
มีคิดจิต มีคนจน มีคำจำ               มีลำนำ มีแลแน่ มีลองนอง
   
เขียนยากมาก เขียนยุ่งมุ่ง เขียนยำมำ     มาอำขำ มาอืนขืน มาอองของ
จะลามา จะแลแม่ จะลองมอง            มาลองออง มาแลงแอง มาเลยเอย.
                                          ...หยาดกวี...
                                       ๒ ตุลาคม ๒๕๕๑

///////////////////////////////////////////////////////////////////

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/10/W5923069/W5923069.html

จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม   - [ 16 ต.ค. 50 13:56:15 ] 

 

๑๐. เมื่อโง่โซ เมื่องึมซึม เมื่อเหงาเศร้า
ใครเย้าเล่า ใครยอล่อ ใครยอมหลอม
ยอมนวลข่วน ยอมนางข้าง ยอมน้อมค้อม
ไม่จอมปลอม ไม่จิตปลิด ไม่จงปลง

ขอดวลนวล ขอดำน้ำ ขอดาหน้า
แม้จ้าล้า แม้ใจไหล แม้จงหลง
ให้คำย้ำ ให้คู่อยู่ ให้คงยง
เพลงส่งตรง เพลงแสร้งแต่ง เพลงสูตู				
4 พฤศจิกายน 2552 22:50 น.

11/104 คอยคนนั้น...(ว่าด้วยกลบทกบเต้นสลักเพชร)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

*ใครคนนั้น   ครั้นเคียงนิด  คิดคอยหน่อย
คงไม่ถอย  ค่อยมองถาม   คร้ามมัวถอย
ปองคนเคย   เปรยคำแคลง  แปลงคืนคอย
พี่อ่อนด้อย  พลอยอกดิ่ง  พิงเอี่ยวดาย 

*ค่ำคืนนี้  คลี่ความนัย  ใคร่ครวญนึก
ป่วนรู้สึก   ปึกเรื่องเศร้า   เปล่ารอสาย
จนพี่ครวญ   จวนพลบค่ำ   จำพรากคลาย
เจ็บเจียนตาย  จ่ายจิตตรม  จมใจตรอง

*ครวญคะนึง  ครึ่งคะนอง  ครองความแน่
ยังรักแม้    แย่รอยหม่น   ย่นเรื่องหมอง
เพียงเพราะร้าง  พลางเพรียกร่ำ  พร่ำพูดลอง
สุดจับจอง   ส่องจิตใจ   ใส่จวนเจียน

*ค่อยคิดนึก  คึกคักนาน  คร้านคลั่งน้อง
เราจองหอง  ร้องจงหวน  รวนจิตเหียน
เมื่อเธอพราก  มากที่เพ้อ  เหม่อทิ้งเพียร
แสนวนเวียน  เศียรวุ่นวาย  ส่ายว่องไว

*คิดคำนวณ  ครวญคิดน้อม  ค้อมคำนับ
เรียงร้อยศัพท์    รับรองส่ง  หลงรอยใส
จึงกล่าวกลอน  จรกกกอด   จอดกันไกล
เหตุอันใด  ให้อกด้าน  หาญอื่นดาม

*คอยคนนั้น  ครั่นคร้ามแน่  แคร์แค่ไหน
ช่างหวั่นไหว   ใช่วันหวัง  ชังแววหวาม
คนแสนงอน   ค้อนแสร้งหงอย  ค่อยสวยงาม
ท้องฟ้าคราม   ท่ามฝนครวญ   ทวนฟ้องคำ

*ใครคนไหน  ใคร่คบน้อง  คล้องครองเนื้อ
พี่ติดเชื้อ  เผื่อตายช้า   พร่าตนช้ำ
แม้ถลอก  หมอกถลา   มาถ่อลำ
ทุกรอยจำ  ทำรอยจาก   ถากรอยจร

อธิบายกลบท.....

กลบทกบเต้นสลักเพชร

เป็นกลอน ๙ คำ ที่บังคับให้ใช้
เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียงถึง ๓ชุดๆละ ๓ เสียง สลับกันตลอดวรรค

และต้องซ้ำเสียงสระอีก ๒ ที่ตรงคำที่๓-๔ และ๖-๗ทุกวรรคเช่นกัน

อีกข้อบังคับคือ เลื่อนคำรับสัมผัสจากคำที่๓ไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๖


ตัวอย่าง กลอนกลบท ที่เกี่ยวข้อง

สร้างโลก..โยกกังวล (ด้วยกลบทกบเต้นสลักเพชร)   ญามี่
พิรุณร่าย พายเรือหลบ พบโลกเร้น
ระรัวตื่น รื่นลมเต้น เล่นรอบต้น
ไม้ลูกดื่น หมื่นลูกได้ ไหม้หล่นดล
สักพักพลัน สรรค์เพิ่มผล สนพอกพัน

เตร่ไปรอ ตอเปื่อยรก ตกปริรุ่น
กลิ่นเหม็นขื่น กลืนหมองคุ้น กรุ่นหมายคั่น
พารำลึก พฤกษ์หลอนหลง พงร้อยรั้น
ของวิถี คลี่วางทัน ครั้นหวั่นทัก

ทุกข์รื่นลาม ท่ามร้องลบ ทบไหลหลอม
คือวลี คลี่แวดล้อม ค่อมวางหลัก
สร้อยแล้วลุก สุขแล้วรอน ซ่อนล้อลัก
กังวลกราย ก่ายวักกัก กวักหวานเกลา

โลกเร้นลับ หลับเลยร้อน หลอนลืมร่ำ
บางเวลา บ่าวอดล้ำ บ๋ำวิ่งเร่า
ลองจ่อมบ่อ ล่อเจ็บใบ้ ไล่จางเบา
สติต้อง ส้องติดเตา เศร้าต้องตัด

ผ่านโลกเร้น เพ็ญลอยล่อง พร่องรอนร่วง
กายซ่านซ่า กล้าสุมทรวง กลวงส่องสัตย์
กลัวต้องมี กี่ตรมมา กล้าตามมัด
แต่ต้องพัก ตักตวงผลัด ตัดตอนพร้อม...

////////////////////////////////////////

http://www.praphansarn.com/new/forum/forum_posts.asp?TID=8797&PN=24
ขุนพลน้อย
สมาชิกดีเด่น    Posted: 18 January 2008 เวลา 23:39 | IP Logged
ระลอกคลื่นลื่นลับคล้อยลอยเลือนข้าง
 คลอซบเรียงเคียงเซาะล่างข้างทรายร่วน
เดินเชยชมดมชื่นชูดูเชิญชวน  
กลิ่นหอมทรายกรายห่างสวนกวนหาดทราย

น้ำสีฟ้าหน้าทรายฝันนั่นสอนใฝ่ 
อยากเขียนคำย้ำคำไขใหญ่คล้ายค่าย
เพราะคิดถึงพึงคิดถามพล่ามครวญคลาย 
 เขียนเรียงรายคล้ายร้อนร่ายขายร้อนรน

จิตหมองไหม้ใจเหม่อหม่นจนเมินหมาย
คิดแหนหวงควงห่างหายคล้ายห่วงหน
เหมือนเวียนวุ่นมุ่นแวะวางหมางวกวน 
เหมือนทุกทางหมางทุกข์ทนหม่นถักทอ

                                                   ลมรอนผ่านรานรุกพร่ำร่ำรักพ้น
คิดถึงคำคร่ำครวญค้นคนเคยขอ
ใจคิดถึงจึงคิดถักจักถักทอ 
คอยคิดคร่ำค่ำขอคลอคลอคนเคย

**************-----------------------------------------*******************

Posted: 19 January 2008 เวลา 13:26 | IP Logged
คำคนเหยียดเครียดเขาหยันคั้นคำเย้ย"
"อยากทำเฉยเย้ยที่ชอกยอกที่ฉล"
ใจเจ็บหนักจักจำหน่ายจ่ายจำนน
คำเป็นผลคนเป็นพิษคิดเป็นพาล
กอดเกลียวคลื่นกลืนกรรมเคราะห์เกาะกรรมคด
ทะเลลดทดลมท้อทอหลักฐาน
ธาตุสายลมถมใส่ลำทำสิ้นลาน
หูไม่เบาเหาไม่บานหารไม่บาง
ห่างไม่เบี้ยวเ*่ยวไม่บดหดไม่บาป
เกลียดคำหยาบกราบคือหยุดกุดคอย่าง
แหล่ะลมเลวเหลวลืมลากหลากลางลาง
ชั่วให้วางช่างให้เว้นเช่นให้วาย
(อิอิ-เพิ่งหัดเขียน)

////////////////////////////////////////////////

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=488.0;wap2

...พร่ำร่ำเรียงเพียงร่ำร้อยประดอยประดิษฐ์
คอยตั้งจิตคิดตั้งใจเฝ้าใฝ่เฝ้าฝัน
ถักคำซอยถ้อยคำซึ้งรำพึงรำพัน
มิตรรวมกันมันเรื่องกลอนขจรขจาย
...เชิญมาครวญชวนมาคล้องสนองสนุก
สิ้นสร่างทุกข์สุขเสริมท้นจนล้นจนหลาย
แม้นเริงร่ามาร่ายเรียงอย่าเอียงอย่าอาย
หมายอยากชวนมวลหญิงชายลองร่ายลองเรียง

**************************----------------------************************

พลายงาม:
o ใจคิดนำจับคำนึกฝึกสลัก
เรียบเรียงถ้อยร่ำร้อยถักร่างอักษร
แต่งถ้อยนำตามทำนองคล้องบทกลอน
ลองกานท์ยลเล่นกลย้อนสุดอ่อนใจ ฯ

*********************************----------------------------**********************

o....
เรียบเรียงถ้อยร้อยเรียงถักร่างอักษร
ลับสมองลองสมานสานเป็นกลอน
กลไล่ย้อนก่อนเลียนเยี่ยงเพียงอยากลอง
oนึกคำกลอนนอนคิดเกลาสำเนาร่าง
วาดคำสร้างวางคำเสริมเค้นสมอง
แม้จะยุ่งมุ่งใจย้ำคำคล้องจอง
จัดถ้อยนำจำทำนองแต่โบราณ
oนึกเทียบคำนำเทียบเคียงเรียงคำหน้า
คิดสัมผัสคัดสรรพามาประสาน
สำนวนกล้ำสำเนากลอนพิศดาร
เขียนพลาดผิดคิดพลั้งผ่านจงอภัย
oเห็นต้องยากหากแต่งยาวคงหมดฤทธิ์
เกรงพามั่วกลัวเพื่อนมิตรจะบ่นให้
จบยังยากจากยังเย็นสุดเข็ญใจ
กลฝากวอนก่อนฝากไว้ให้ยลยิน
oใช่อยากเด่นเช่นอย่างดังแค่ตั้งฝัน
หวังสืบสานวานสืบสรรวรรณศิลป์
ขอยืนยงคงยืนอยู่คู่ฟ้าดิน
หมดดวงแดแม้ดับดิ้นไม่สิ้นเอย ฯ

///////////////////////////////////////////////

http://www.srakaew.tht.in/aticle55Blank.html
กลบทกบเต้นสลักเพชร
เพราะหลงรัก ภักดิ์รักลวง  พ่วงรักหลอน
ชอกเหยียบย่ำ  ช้ำเยือนย้อน  ชอนเย็นเยียบ
จิตทาบเพ้อ  เจอทุกข์พ้อ  จ่อทุกข์เพียบ
รัวร้อนเร่า  เร้ารุกเรียบ  เลียบลามรวม


คะนึงใฝ่  ใคร่นั่งฝัน   คั่นนอนเฝ้า
รอนรอซุ่ม  รุมรวมเศร้า  เร้ารอสวม
ร่ำเจ็บบ่อย    รอยเจ็บบ่ง หลงจนบวม
ทุกข์จับนิ่ง   ทิ้งจนน่วม  ท่วมจมนาน


รักมาซุก  รุกหม่นเศร้า  เร้าหมองซ่อน
อยากตัดรัก    ยักตอนรอน  ย้อนตัดร่าน
ลบซึมซุก  รุกโศกซบ ลบซมซาน
ไม่ไพล่เผลอ เหม่อพบพาน  มารพาเพ้อ

//////////////////////////////////////////

http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=5.645

plyfha 
Hero Member   
 
Re: ฝากกลอนไว้จากปลายฟ้า 
« ตอบ #645 เมื่อ: 06 ตุลาคม, 2009, 04:04:07 pm »	

พาลมรัก พักรักลวง พ่วงรอยรอ
จะคอยคิด จิตใครครอ จ้อครวญคร่ำ
ระลอกคลื่น รื่นเริงขอ รอเรียงคำ
ลมไล้โชย โรยลาช้ำ ล้ำรอยชา

ใจร้าวป่วน จวนรักปิด จิตเลยปล่อย
เลยจำคำ ร่ำใจคอย ร้อยใจคว้า
ใจหมองหม่น จนหมองหมาง จางเมฆมา
รอยฝากฝัง รั้งฝั่งฟ้า ล้าฟาดฟัน

หมุนใจเยือน เหมือนใจยอก หมอกจะย้อน
มองดูฟ้า มาเดินฝาก มากได้ฝัน
ไม้ได้จอง มองดูจิต มิตรดูจันทร์ 
ไม่ฝากฟ้า มาฝากฝัน มันฟุ่มเฟือ

//////////////////////////////////////////////

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/10/W5923069/W5923069.html
แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 50 14:12:16 

จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม   


๔. เว้นจากร้าย วายจิตร้อน วอนเจ้ารัก
เมื่อจะหัก มักเจ็บให้ ไม่จักเห็น
รักจะยืน รื่นจะย้อน ร้อนจะเย็น
ห่างลำเค็ญ เห็นล้ำค่า หาเลือนความ

มีรักแท้ แม้ไร้ที่ มีร้ายทับ
จากสิ่งสรรพ จับซ้ำสอง จ้องซ้ำสาม
มิคลาดเคลื่อน เหมือนใครใคร ไม่ครั้นคร้าม
ข้าจักตาม ความจักตาย คลายจิตตรม				
2 พฤศจิกายน 2552 22:22 น.

10/104 ทางผ่าน...รัก (ว่าด้วยกลบทกบเต้นกลางสระบัว)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

วันนี้ ง่วงนอนครับ

เอาไว้ต่อ พรุ่งนี้  ไม่หก ก็แปด  สุดท้าย ได้ เจ็ดบท อิอิ

*ผ่านแล้ว แผ่วรัก ตระหนักผ่าน  
ไหนซ่าน นานซึ้ง นานถึงไหน
ใจร้าว  เจ้าหลอก  ออกนอกใจ
เจ็บใด ใจดำ  เธอทำเจ็บ

*ขอหยุด  ขุดหย่า  วาจาขอ
เหน็บต่อ หนอตรม  ยิ่งจมเหน็บ
เก็บคำ  กล้ำข่ม สะสมเก็บ
แสนเจ็บ  เจ็บแสบ  ปวดแปลบแสน

*ขื่นใด  ไข้ดัน ประจัญขื่น
แผนรื่น  ผื่นร้าย  เป้าหมายแผน
แทนคำ  ทำค้อน  มาอ้อนแทน
สุดแดน  แสนดิ้น  จะสิ้นสุด

*น้อยต่ำ  น้ำตา  ไหลมาน้อย
ผุดบ่อย  พลอยบ่น  ระคนผุด
ชุดช้ำ   ช่ำชอง  ดั่งลองชุด
เศร้าสุด  ชุดโศก  วิโยคเศร้า

*ทางผ่าน  ทานพ่าย  เรียงรายทาง
เหงาอย่าง  ง้างยิง  ก็ยิ่งเหงา
เราครวญ  ล้วนคราง ก็ช่างเรา
เรื่องเก่า ร้าวเกิน  จะเดินเรื่อง

*ผ่านรัก  ผลักไล่  ไปให้ผ่าน
เปลื้องตรม  ปมต่าง  แค่วางเปลื้อง
เนืองนอง  น้องหน่าย  ไปเนืองเนือง
เปล่าเปลือง เปลื้องปลด  ก็หมดเปล่า

*ดิ้นรน  ด้นรั้ง  ก็ยังดิ้น
เศร้ากิน  สิ้นกลวง ทะลวงเศร้า
เราคอย  รอยคำ  เคยพร่ำเรา
แล้วเจ้า  ราวจาก  ไปพรากแล้ว


คำอธิบายการแต่ง

กลบทกบเต้นกลางสระบัว

เป็นกลอน ๗ คำ ที่บังคับให้ใช้

๑.เสียงพยัญชนะตัวแรกวรรคไปจบที่ท้ายวรรคด้วย
เช่น รัก.. .. .. .. .. รัก

๒.เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียง ๒ชุดแรก ชุดละ ๒ เสียง สลับกันตลอดวรรค
เช่น
รักมาก หลากมัว

๓.ต้องซ้ำเสียงสระอีก ๒ ที่ตรงคำที่๒-๓ และ๔-๖ทุกวรรคเช่นกัน
เช่น
รักมาก หลากมัว ทรวงรัวรัก

๔. เลื่อนคำรับสัมผัสจากคำที่๓ไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๔
เช่น
รักมาก หลากมัว ทรวงรัวรัก
จิตใฝ่ ใจฝัก สุดหักจิต

ตัวอย่าง บทกลอนที่เกี่ยวข้อง  

อาลัย...ยามจาก(ด้วยกลบทกบเต้นกลางสระบัว)    ญามี่
เปล่าเดียว เปลี่ยวดายเ หมือนป่ายเปล่า
ข้างหงอย คอยเหงา สร้อยเผาข้าง
ร้างแหล่ง แรงหลอน  ก่อรอนร้าง
เหมือนมนต์ หม่นหมาง แวะวางเวียน

เปลี่ยวโรย โปรยเร่า ปร่าเปล่าเปลี่ยว
เปลี่ยนไล้ ไป่เลี้ยว เลาะเลี้ยวเปลี่ยน
เลียนลา ล้าหลอก เกินหลอกเลียน
ทรวงซ่อน ซ้อนเสี้ยน เบียดเบียนทรวง

ยากจาก อยากจำ สิ่งย้ำยาก
หน่วงปอง นองปาก คอยลากหน่วง
ท้วงถาม ท่ามท้อ  ถักล้อท้วง
เคียงขอ คลอควง คนล่วงเคียง

ฝันป่าย ฝ่ายปวด เกินอวดฝัน
เสียงสร้อย ซอยสรรค์ คั่นบั่นเสียง
เรียงน้ำ ร่ำนาน ทั่วลานเรียง
นัยน์ตา หน้าเตียง เกินเกี่ยงนัย

บ่งคิด บิดใคร่ ใช่ไกลบ่ง
ขัยสร้อย คอยส่ง ปลิดปลงขัย
ชัยช้ำ ช่ำชอก คอยบอกชัย
รอนอ้า อาลัย รั้งนัยรอน

เดี่ยวด้น ดลด่าว ทุกก้าวเดี่ยว
ผ่อนเปล่า เผาเปลี่ยว ยากเหนี่ยวผ่อน
ทอนรุก ทุกข์ร่น จำทนทอน
ยามจาก ยากจร ทุกข์ค่อนยาม

/////////////////////////////////////

http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/09/30/entry-1
กลบท กบเต้นกลางสระบัว
  
มีข้อกำหนด ให้วรรคหนึ่ง มีด้วยกัน ๗ คำ แบ่งเป็น ๓ ชุด 
   
๒ ชุดแรก ชุดละ ๒ คำ 
  
ส่วนชุดที่ ๓ มี ๓ คำ  
  
๒ ชุดแรกมีการซ้ำเสียงพยัญชนะ  และให้สัมผัสอักษรซ้ำสลับกัน 
  
และสัมผัสสระชิด 
  
อีกอย่างหนึ่ง คำแรกและคำสุดท้ายวรรคเหมือนกัน ดังแผน
  


เส้นที่โยงข้างบน คือ สัมผัสอักษรสลับกัน 
  
เส้นที่โยงข้างล่าง คือ สัมผัสสระ และคำเหมือนกัน 
  
หรือ คำที่ ๑ กับคำที่ ๓ คำที่ ๒ กับคำที่ ๔ สัมผัสอักษร  
  
คำที่ ๒ กับคำที่ ๓ คำที่ ๔ กับคำที่ ๖ สัมผัสสระ  
  
ส่วนคำที่ ๑ กับคำที่ ๗ คือ คำที่เหมือนกัน ดังตัวอย่าง
        
ท่องป่า ท่าไป ดูใจท่อง         ไหนมอง หนองมี อยู่ที่ไหน
ไพรมี พี่มา อย่าว่าไพร         เดินไหน ใดน้อง มาต้องเดิน
     
กลบท กบเต้นกลางสระบัว
    
                                                                                           เสียงโลก โศกล้วน รัญจวนเสียง
เวียงอ้อน วอนเอื้อน เป็นเพื่อนเวียง   แลเถียง เลี่ยงท่า ไม่น่าแล
    
หนาเมือง เนื่องหมด รันทดหนา        แสหา สาเหตุ ทุเรศแส
แยลาก อยากล่อ มาต่อแย               คนแก่ แค่กวน มาชวนคน
    
ไหนมี หนี้หมด สิ้นจดไหน               สนใจ ใส่จิต ไม่คิดสน
จนมี จี้หมด มาอดจน                     ใจคน จนคู่ อดสูใจ
   
เข้าป่า ข้าไป ให้ไกลเข้า                 ใสเจ้า เศร้าจำ ดูน้ำใส
ไพรป่า พาปก ร่มรกไพร                  ดูไสว ได้สว่าง เหยียบย่างดู
       
น้ำตก นกเตือน เย็นเหมือนน้ำ          สูข้าม สามเขา กับเราสู
ดูไม้ ได้มา ที่น่าดู                         สบายหู สูเห็น ใจเย็นสบาย
    
รักเมือง เรื่องมาก ลำบากรัก             หายหนัก หักไหน น่าใจหาย
วายวาง ว่างเว้น ไม่เห็นวาย             กันไว้ กายไหว ที่ไหนกัน
          
ดงไม้ ได้มอง มาท่องดง                 สัณฑ์ศวง ส่องไสว ในไพรสัณฑ์
จันทร์สว่าง จางแสง สีแดงจันทร์       ใจผัน จันทร์ผ่อง นั่งมองใจ

ท่องป่า ท่าไป ดูใจท่อง                  ไหนมอง หนองมี อยู่ที่ไหน
ไพรมี พี่มา อย่าว่าไพร                   เดินไหน ใดน้อง มาต้องเดิน
         
ผินหน้า พานก มาผกผิน                 เหินบิน หินบัง นกยังเหิน
เพลินตา พาต้อง เดินมองเพลิน        มองเกิน เมินกัน นกหันมอง
         
น้ำตก นกไต่ ตามไหล่น้ำ                สองตาม สามตัว มุดหัวสอง
นองไหล ไหนแล กระแสนอง           เจิงหนอง จ้องหนา น้ำป่าเจิง
         
ไหวลิง วิ่งเล่น มองเห็นไหว             เหลิงไป ไหล่ป่า ลิงมาเหลิง
เปิงลอง ปองเหลิด มาเปิดเปิง          มองเหยิง เมิงย่าง เมียงข้างมอง
         
โศกหมด สดมี หน่ายหนีโศก            ของโยก โขกย้าย เสียดายของ
มองป่า มาเปรียบ ลองเทียบมอง       จนหมอง จ้องมี โลกนี้จน
        
ป่านก ปกแน่น มีแสนป่า                  หนท่า หาทั่ว ทุกหัวหน
คนมา ค่ามี ความดีคน                    ดูจน ดลใจ ให้ไพรดู
        
ใยลาก อยากลวง มาห่วงใย             หูไหน ให้นัก มาหนักหู
คูขัน กันเข้า นกเจ้าคู                     เราสู รู้ซึ้ง คิดถึงเรา
         
เพื่อนคิด ผิดคน มาจนเพื่อน            เฉาเตือน เฉือนตาย หญิงชายเฉา
เราเศร้า ร้าวโศก วิโยคเรา               มาเผา เมาเพื่อน เขาเตือนมา
      
นกร้อง นกรู้ อยู่ที่นก                      หนาปก นกไป เศร้าใจหนา
พาบิน ผินใบ เศร้าใจพา                  หมดป่า พาไป ถามใครหมด (เอย.)
          
                                                              ...หยาดกวี...
๓๐ กันยายน ๒๕๕๑

///////////////////////////////////////////

มนต์รัก อักษรกล ( กลบท กบเต้นกลางสระบัว )   โดย  puumrapee  กวีกิตติมศักดิ์

« เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2009, 01:24:29 AM »

ร้อยคำร่ำความนิยามร้อย
ศิลป์ฐานสานถ้อยมาร้อยศิลป์
รินรายร่ายเรียงเป็นเสียงริน
ยลจินต์ยินจารตระการยล

ช่องว่างช่างเว้นดูเด่นช่อง
ผลกรองผ่องกานท์ละลานผล
กลบทกฏระเบียบดูเปรียบกล
วางยลวนย้อนอักษรวาง

ถ้อยสลักถักเสลาขัดเกลาถ้อย
ร่างรอยร้อยเรียงเทียบเคียงร่าง
พลางเสริมเพิ่มสรรพลิกผันพลาง
เพียรทางพลางทวนสำนวนเพียร

ฝึกกลฝนกานท์โวหารฝึก
เขียนนัยไขนึกค่อยฝึกเขียน
เวียนค้นวนคว้าตำราเวียน
เพลินเรียนเพียรรู้อ่านดูเพลิน

เริ่มจากรากใจมาใฝ่เริ่ม
เขียนเติมเคลิ้มต่อไม่ท้อเขิน
เดินมุมดุ่มมั่นบากบั่นเดิน
กลอนเชิญเกริ่นชักมารักกลอน ฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีน้อยเจ้าสำราญครับ