26 เมษายน 2551 03:08 น.

ราชันย์ สบูจ๋าย : คู่หูดูโอ้ กับอดีตที่ได้มาพานพบกัน

กวีเถื่อน

ย้อนเวลากลับไป หลังวิกฤตการ Y2K เป็นช่วงที่ สังคมกำลังเริ่มเน่าเฟะ จากการกระทำของสื่อ หรือกลุ่มคนที่หวังผลประโยชน์ ไม่ว่าความต้องการใดไม่ทราบ เป็นยุคที่มนุษยชาติ เห็นคุณค่าของกระดาษเป็นเรื่องหลักในการคบกัน มุมมองเรื่องของฟุ่มเฟือยโหมกระหน่ำซ้ำเข้ามาฟังลึกลงในจิตใจ ของกลุ่มคนในยุคสมัยนั้น เทคโนโลยี เริ่มเข้ามาเป็นปัจจัยที่6 ต่อจากรถยนตร์
ผู้คนทะเยอทะยาน ไขว่คว้า หาความสุข โดยวิธีมิชอบ ยาเสพติด เริ่มมองกลุ่มเป้าหมาย และลงหนักในตัวกลุ่มวัยรุ่น ความรักกลายเป็นสิ่งที่ต้องมีตัวแปรในการจัดกระทำ ถึงจะเกิดขึ้นได้ หามีความรักแท้บริสุทธิ์ เฉกเช่นสมัยก่อนไม่ การมีเพศสัมพันธ์จึงเกิดขึ้นง่ายในยุคสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็น รักต่างวัย รักวัยเรียน หรือไม่ว่ารักไหนๆก็มีเพศสัมพันธ์กันง่ายดายทั้งนั้น โรคทางเพศสัมพันธ์ หรือที่รู้จักกันโรคเอดส์ กลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าหวาดหวั่น อีกต่อไป หรือเป็นเพราะว่า ความต้องการความเสียว ทำให้คนหลายคนไม่หวั่นกับมัน
และซ้ำวิถีชีวิตของมนุษย์ ก็เริ่มเปลี่ยนไป จากการใช้ชีวิตในช่วงเวลากลางวัน ก็พลันต้องเลยเถิดไปยามกลางคืน แหล่งพบปะของเยาวชนก็เริ่มเบนทิศทางไปยังสถานบันเทิง และแหล่งรื่นเริ่งยามราตรี ผู้คนต่างเริ่มมองหาคู่กันจากที่มืดๆ ซึ่งแตกต่างจากอดีตโดยแท้ กลายเป็นค่านิยมจวบจนมาถึงปัจจุบัน 

ณ บ้านหลังหนึ่ง ที่มีสวนล้อมรอบ อยู่ในซอยลึก ย่านพิบูลสงคราม ณห้องที่อยู่ใกล้ระเบียงที่สุด ซึ่งเปิดไฟอยู่ ภายในห้องอากาศเย็นฉ่ำ เพราะเจ้าของห้อง เปิดแอร์ทิ้งไว้ เสียงคนอาบน้ำอยู่ในห้องน้าม "ซู่ ซู่" 
แล้วทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเพลง ดังขึ้นมา "ยอมรับโดยดี ว่าอ่านแฮรี่ พอตเตอร์ หนังสือ อินเตอร์ที่อยากเสนอ ให้ทั่วกัน" หลังจากที่เสียงเพลงที่ดังขึ้นโดยไม่ทราบแหล่งที่มานั้น ดังอยู่ ก็มีเสียงคน เปิดประตู และวิ่งมาที่เตียงนอน "ตึกๆๆๆๆๆ"

สักพักก็มีเสียงกดปุ่มดัง"ปี๊บ"ตามด้วยเสียงของผู้ชายพูดขึ้นมาว่า "ว่าไงครับคุณทนายสุดหล่อ" เสียงดังตอบกลับมาจากโทรศัพท์ปลายสายอย่างสวนกัน "ว่าไงพ่อคุณหุ่นนายแบบ คืนนี้ไปเที่ยวไหนดี"เจ้าของเสียงต้นสายตอบกลับไปว่า"ที่ไหนก็ได้แล้วแต่คุณ"
เสียงปลายสายตอบสวนไปว่า "โอเค งั้นเจอกันที่ ตรอกข้าวสาร 3ทุ่มนะ หน้าร้าน Burker king นะเว้ย" เจ้าของเสียงต้นสายถามกลับไปว่า "ข้าวสารเหรอ ร้านไรว่ะ" เจ้าของเสียงปลายสายตอบกลับไปว่า "ยังไม่รู้เลยหวะ เอาเป็นว่า เดินเล่น ดูของชิวๆ ไปก่อน ร้านไหนของลง ก็ร้านนั้น " เจ้าของเสียงต้นสายตอบกลับไปว่า " โอเค เอางั้นก็ได้ แค่นี้ก่อนนะ กูไปแต่งตัวก่อน" 

ณ.เวลา 3ทุ่ม ย่านถนนข้าวสาร ที่หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ไม่ว่า ไทยและเทศ ที่หวังจะมาพักผ่อนหย่อนใจ กับสถานเริงรมย์ ยามราตรีใน ละแวก นั้น อาจเป็นเพราะเป็นวันศุกร์ที่ทุกคน เหนื่อยจากการทำงาน ตรอกข้าวสาร วันนี้จึงมีคนหนาแน่นเป็นพิเศษ 

ณ. บริเวณ หน้าร้าน Burker king ในย่านตรอกข้าวสาร มีชายหนุ่ม รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทน หน้าคมเข้ม สวมเสื้อเชิ้ต แขนยาว สีขาว กางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาว ยืนสูบบุหรี่ และก็มองไป บริเวณถนนที่ มีรถวิ่งแล่น ผ่านไปมา

ทันใดนั้น ก็มีรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง มาจอดตรงบริเวณ ฟุตบาต หน้าร้าน  สายตาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ ก็ไปหยุด ที่ตรงประตูผู้โดยสาร พอประตูผู้โดยสารเปิดออก ก็มีชายหนุ่ม ผิวขาวหน้าตี๋ สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อน กางเกงยีนส์ สีดำ ผ้าใบสีเขียวคาดขาวเดินลงมา ชายหนุ่ม ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ ก็ตะโกน ไปทักทายว่า "ไอ้สาด หวานมาเลย นะคุณพี กะ แดกหญิง หมดร้านเลยดิมึง"
ชายหนุ่มตี๋ก็ตอบสวนกลับไป "แล้วมิงอ่ะ แต่งซะเต็มที่เลย รีบมายืน แอ็คหญิง ก่อนกูเลย นะไอ้คุณเติม จองไว้กี่ตัวแล้วหล่ะ" เติมตอบสวนกลับไป "กรวย กูเพิ่งมาถึงเมื่อกี้เอง แล้วจะเอาไงต่อดี" พีตอบกลับ " เอางี้ เดินเล่นก่อนสัก2รอบ ร้านไหนโอเค ก็ร้านนั้น "

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินเล่นอยู่บริเวณถนนข้าวสาร สายตาของหนุ่มทั้งสองก็สอดส่ายไปทั่วบริเวณ โดยเฉพาะพี จะสนใจมองและเล็งเพศสตรีรอบข้างอย่างเป็นพิเศษ และพีก็พูดขึ้นว่า"หญิงไทยสมัยนี้แม่งไม่โดนใจเลยหวะ" เติมก็ตอบกลับไปว่า "ทำไมมิงคิดอย่างนั้นว่ะ " เติมตอบพร้อมทำหน้าคิดๆ และพูดเสริมไปอีกว่า " หรือมิงชอบผู้ชาย" เติมพูดจบ พร้อมหัวเราะ"55555" พีเลยตอบกลับไป "เหอๆๆๆไม่ใช่โว้ย กูเบื่อเพราะผู้หญิงไทย แม่งชอบแต่งตัวคล้ายๆกัน แถมแม่งงี่เง่า คิดแต่หวังเกาะผู้ชายอย่างเดียว คนที่กูคบอยู่ตอนนี้แม่งก็คิด แต่จะจะให้กูไปรับไปส่ง ไอ้สาด กลับบ้านเองไม่เป็นเหรอไงว่ะ" เติมได้ฟังดังนั้นก็ตอบกับไปว่า " เอาน่ามีเครื่องให้ซักก็ดีกว่าสักมืออ่ะนะ ห่าสักผ้ายังต้องหยอดเหรียญเลย และนับภาษาอะไร กับคนแม่งก็ต้องหวัง สิ่งแลกเปลี่ยนบ้างแหละหวะ เหมือนกับหนังการ์ตูนเรื่องนึง ที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างการให้ได้มานั้น ต้องแลกเปลี่ยนกันอย่างเท่าเทียม 55555555" พีเลยตอบกลับไปว่า "ก็งี้แหละกูเลยคบใครได้ไม่นาน ไง " หลังจากนั้นพี ก็พูดว่า "ร้านนี้และกัน คนแม่งไม่เยอะเพลงไม่ดังดี จะได้คุยกันสบายๆ" เติมตอบกลับไปว่า "hippy เหรอมิง ก็ได้จะได้นั่งคุยกัน และจะได้รำลึกถึงความหลังด้วย"
ขณะที่เดินไปสนทนากันไป และพยามสอดส่องกันอยู่บริเวณข้าวสารอยู่หลายรอบก็มา หยุดบริเวณทางเข้าหน้าร้านแห่งหนึ่ง ร้านที่ว่านี้ภายนอกจะเป็นบ้านไม้ส่วนภายในจะมีการตบแต่งสไตล์ย้อนยุค โดยนำของเก่ามาตบแต่งร้าน ร้านที่วว่านี้ มีชื่อว่า ร้าน Hippy de bar 

หลังจากที่ เติมกับพี ได้ตัดสินใจที่จะนั่งร้าน Hippy de bar ก็ได้พากันเดินเข้าไปในร้าน โดยมีเสียงเพลงดนตรี แนวยุค  70  (ไม่ทราบแน่ชัด) ค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าไปภายในร้าน พีก็พูดขึ้นว่า "เดี๋ยวขึ้นไปดูข้างบนก่อน ว่าเป็นไง ถ้าไม่Work ค่อยลงมานั่งข้างล่าง" เติมตอบกลับไปว่า "ไงก็ได้แล้วแต่คุณเลยและกัน"

หลังจากนั้นชายหนุ่มทั้ง2ก็เดินขึ้นไปชั้นบนของร้าน และพยามสอดส่ายสายตาหาที่เหมาะๆนั่งคุยกัน และแล้วเติมก็พูดขึ้นว่า "ข้างบนแม่งโล่งๆหวะ กูว่านั่งข้างล่างเหอะ" พีก็ตอบกลับว่า "โอเค"

และแล้วทั้ง2ก็เดินกลับลงไปชั้นล่าง และพยามมองหาที่นั่ง จนมีเด็กเสิร์ฟชายเดินมาถามว่า "มีไรให้ช่วยมั้ยครับ" พีก็ตอบกลับไปว่า "น้องช่วยหาที่ให้นั่งหน่อยดิ" เด็กเสิร์ฟถามกลับว่า "แล้วมากันกี่คนครับ" พีตอบกลับไป "ตอนนี้มีแค่2แต่เดี๋ยวสักพักน่าจะมาอีก2  4ที่อ่ะ ขอมุมส่องแจ๋วๆหน่อยนะ" เด็กเสิร์ฟทวนคำสั่งอีกครั้ง "4ที่ใช่มั้ยครับ " พีพยักหน้า 

หลังจากนั้นเด็กเสิร์ฟก็พาพีกับเติมไปนั่งโต๊ะตัวที่อยู่บริเวณใกล้ทางเข้า พอพีกับเติมนั่งลง เด็กเสิร์ฟก็ถามว่า "จะรับอะไรดีครับ " พีตอบกลับไปว่า" เอาเบียร์ช้างขวดใหญ่2ขวด น้ำแข็งถังนึง" และเด็กเสิร์ฟก็ตอบรับ "ได้ครับรอสักครู่"

หลังจากนั้นเด็กเสิร์ฟก็เดินจากไป เติมก็ถามพีว่า "ไมสั่งเบียร์ว่ะมิง ไม่แดกเหล้าว่ะ แล้วใครจะมาอีกว่ะตั้ง2คน นี่แม่งก็3ทุ่มครึ่งและ" พีตอบกลับแบบหน้าตากวนๆเหมือนจะไม่อยากบอก เพื่อทำให้เติมอยากรู้มากขึ้น และก็พูดขึ้นว่า "ก็ไอ้ตุ้ยกะไอ้ไอซ์ไง ก็แดกรอพวกมันไปก่อน ไว้พวกมันมาว่าจะเอาไง จะได้แชร์กันด้วย" แล้วเติมก็รีบถามกลับไปว่า "แล้วพวกแม่งจะมากันแน่เหรอวะ แม่งยิ่งชอบเบี้ยวๆกันอยู่ด้วย" พีพูดกลับว่า "เอาน่าถ้า5ทุ่มพวกแม่งยังไม่มากัน เราก็แดกกันเองและกัน" หลังจากพีพูดจบเด็กเสิร์ฟ ก็ยกเบียร์และน้ำแข็งมาที่โต๊ะ ชายหนุ่มทั้ง2ไม่รอช้า รีบจัดแจงหยิงน้ำแข็งและรินเบียร์ใส่แก้วอย่างรวดเร็ว เหมือนกับคนที่หิวโหยแอลกอฮอล์ พร้อมกับยกแก้วขึ้นชนกัน ก่อนพีจะกินพีก็บ่นพึมพัมว่า "โอมวันนี้ขอให้ของลง ขอให้หญิงไหลมาเทมา" พีพูดจบเติมก็หัวเราะ"55555555"พร้อมกับพูดต่อไปอีกว่า "ไม่ได้มานั่งกินเหล้ากะมิงนานเท่าไรแล้วว่ะนี่" พีก็ตอบกลับไป "ก็นานอยู่" 

และเติมก็หันไปมองกลุ่มข้างๆที่เป็นเด็กวัยรุ่นกำลังดื่มเหล้าส่งเสียงดังอย่างสนุกสนาน และก็พูดขึ้นว่า "นึกถึงตอนสมัยรู้จักกับมิงแรกๆหวะที่มาเที่ยวข้าวสารสมัยที่แม่ง มีแต่ฝรั่ง แล้วกูกับมิงรู้จักกันได้ไงว่ะ" พีตอบกลับไปว่า "ก็ไอ้นุชไง " เติมร้องอ๋อแล้วพูดขึ้นว่า "อ่อจำได้และที่มี้โอ๊คกับไอ้บอลด้วยอ่ะนะ" พีตอบกลับ"เออ" และเติมก็พูดขึ้นว่า"กูขำที่ไอ้โอ๊คแม่งพูดให้กูฟังหวะว่ามันจะเอาเพื่อนกูให้ได้55555 นึกทีไรขำทุกที"พีพูดสนับสนุน"กูก็ว่า "

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 8ปีก่อนสมัยที่เติมยังใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาลัย แห่งหนึ่ง 

มีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า"ไอ้เติม ชั้นจะแนะนำเพื่อนใหม่ที่คณะนิติ ที่ชั้นเรียนอยู่ให้แกรู้จัก " เติมรีบถามกลับไปว่า "สวยป่ะว่ะ" เสียงผู้หญิงตอบกลับมาว่า"หูดำเร็วเลยนะมิงไม่ใช่ผู้หญิงเว้ย ผู้ชายหวะ" เติมรีบพูดกวนกลับไปว่า"ตั้งแต่มหาลัยเก่าและมิงนี่ไม่มีเพื่อนผู้หญิงให้กูบ้างเลยนะ มีแต่แนะนำผู้ชายให้กูรู้จัก กะสวยที่สุดในกลุ่มเลยดิ " เสียงผู้หญิงตอบกลับมาว่า"อ่ะแน่นอนเพราะกูสวย"เติมพูดกลับไปว่า "อ่ะใช่มิงสวยสุดในกลุ่มเพราะทั้งกลุ่มมีมิงเป้นผู้หญิงคนเดียว"เติมพูดจบพร้อมหัวเราะ ผู้หญิงก็พูดขึ้นมาว่า"เอาน่ารีบไปเพื่อนกูรออยู่ที่โรงอาหาร รีบไปเหอะ "แล้วเติมก็พูดว่า"มิงจะรีบไปไหนว่ะนี่ เพื่อนหรือผัววะ สาด รีบจิง 5555555"ผู้หญิงรีบพูดสวนกับมาว่า"อีห่าเพื่อนเว้ย"

หลังจากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็รีบพาเติมไปที่โรงอาหาร ขณะที่เดินไปในโรงอาหาร ผู้หญิงก็พูดขึ้นว่า "เออมิงแต่มีคนในกลุ่มนี้จีบกูคนนึง ให้มิงทายด้วยนะว่าใคร" เติมรีบพูดกลับ"เห็นมั้ย เห็นมั้ย กูว่าทำไมมิงรีบจัง มีว่าทีผัวเอ้ยไม่ใช่ว่าที่แฟนมิง อยู่ด้วยนี่เอง 5555555แล้วกลุ่มไหนว่ะ"ผ็หญิงตอบกลับ "กูไม่บอกมิงเดาเอา" 

หลังจากผู้หญิงพูดจบ เติมก็พยายามสังเกตุที่สายตาของเพื่อนสาว โดยมี Eye contact ไปที่ผู้ชาย3คนที่นั่งอยู่ โดยผู้ชายบนโต๊ะมีลักษณะต่างๆ ดังนี้ คนแรกผอมหัวทอง หน้าตี๋ๆ แต่งตัวเรียบร้อยมากกกก อีกคนผอมตัวดำ ตาโตคิ้วเข้ม หน้าตาจัดว่าใช้ได้ แต่ดูโหดๆไปนิด อีกคนพูดไม่ถูกแต่บอกได้คำเดียวหน้าแม่งเหมือน เจสัน ยัง มากๆๆๆ นึกเอาเองและกัน เติมคิดออกมาในใจว่า"หวังว่าคงไม่ใช่ไอ้3ตัวที่ว่านี้นะหน้าแม่งไม่เหมือนเด็กนิติเลย อย่างกับเด็กนิเทศ "ขณะที่เติมกำลังคิดอยู่นั้น ผู้หญิงก็พูดขึ้นมาว่า"ไอ้เติมแกคุย ดีๆนะเว้ย และก็ให้เกียรติกูด้วย "เติมได้ฟังดังนั้นรีบตอบกลับไปว่า "รับทราบคร้าบคุณเพื่อน กูจะFake ให้สุดๆเลยจ้า เอาน่ามิงไม่ต้องห่วง สาดครบกันมาตั้งแต่มัธยม แถมมิงก็เป็นเพื่อนแฟนเก่ากู และก็คบกะกูมานาน ไม่ทำให้มิงผิดหวังแน่นอน" และสักพักผู้หญิงก็พาเติมมาหยุดที่โต๊ะที่มีชาย3คนที่เติมคาดเดาไว้ตั้งแต่ตอนแรก จากการสังเกตสายตาของผู้หญิงกับชายหนุ่มทั้งสามคน และเติมก็พูดขึ้นว่า"สาดนี่ถ้าซื้อหวยนี่กูถูกรางวัลไปแล้ว"				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีเถื่อน
Lovings  กวีเถื่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีเถื่อน
Lovings  กวีเถื่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีเถื่อน
Lovings  กวีเถื่อน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีเถื่อน