8 เมษายน 2550 23:20 น.

ใบไผ่

กุมภ์

ปลิดปลิวไป เหมือนใบไผ่ ที่ลอยคว้าง
สุดหนทาง แห่งรัก ดั่งผลักไส
ใบไผ่แห้ง แล้งรัก ไม่เหลือใจ 
ลอยคว้างไป ดั่งใจ ที่หลุดลอย

ปลิดปลิวไป เหมือนใบไผ่ ที่หล่นล่วง
ใจทั้งดวง ไม่เหลือ เศร้าเหงาหงอย
ยากรักษา ยากประสาน ฝังฝากรอย
ใบไผ่น้อย ลอยคว้าง กลางสายลม

ใจในไผ่ ไฉนจึง ยังห่วงล้น
ใจของคน ไฉนจึง ยังขื่นขม
อยากทวงถาม น้ำใจ เคยชื่นชม
กลับกลายขม หรือไร เจ้าไผ่เอย

เธอหนอเธอ ดูคล้าย ดั่งเพลิงผลาญ
ทรมาน วิญญาณ เกินเอื้อนเอ่ย
หนึ่งวาจา หนึ่งคุณค่า คนคุ้นเคย
ช่วยเฉลย สักคำ พอเข้าใจ

ใจหนอใจ ของฉัน คล้ายใบไม้
เป็นเชื้อไฟ เผาไหม้ หนอใบไผ่
ทุกคืนวัน เป็นได้ แค่เชื้อไฟ
มอดไหม้ไป อ่อนไหว เพื่อให้เธอ...........				
23 มีนาคม 2550 14:53 น.

แดดสุดท้าย

กุมภ์

อัสดง ร่มรื่น ชื่นลมพลิ้ว
สายลมปลิว ทิวข้าว ไหวเอนหนุน
ทุ่งสีทอง ต้องแดด นพคุณ
หอมละมุน อุ่นดิน กลิ่นท้องนา

ตะวันลับ เลื่อนลง นกบินร้อง
แสงสีทอง อาบท้องทุ่ง งามหนักหนา
แดดสุดท้าย อุ่นร่ำ สนธยา
สุดปลายนา ส่องต้อง ปลายริ้วรวง

เป็นรวงทอง ที่รอเคียว จากเรียวนิ้ว
แตะปลายริ้ว รวงทอง ที่ห่วงหวง
เจ้าเหนื่อยยาก ลำบาก จนตั้งรวง
คราวหน้าฝน เลยล่วง ด้วยแรงเรา

จากนาร้าง กลายเป็นทุ่ง อันสวยสด
หยาดเหงื่อรด เคียงคู่ น้ำใจสาว
สู้แดดฝน รอจน ข้าวเหลืองพราว
สุกสกาว ทุ่งข้าว เราสองคน

แดดสุดท้าย ก่อนพักกาย ตอนพลบค่ำ
ฟ้าสีดำ คลี่คลุม แผ่นดินฝน
ขี่เกวียนกลับ บ้านทุ่ง ของคนจน
ชื่นรอยยิ้ม หน้ามล บนฟอนฟาง..................				
22 มีนาคม 2550 00:42 น.

เพียงลมพัดผ่าน

กุมภ์

เพียงสายลม บางบาง ที่หวามไหว
รำเพยไป ทางได ไกลเหมือนฝัน........
ทิศทางของ หัวใจ ระหว่างกัน
ช่วยบอกฉัน สักที เถิดสายลม

สายลมเอย ผ่านเลย อยู่เสมอ
ใครเล่าเออ เลยหาย ฝืนใจข่ม
เหมือนสำเนียง แว่วผ่าน ในสายลม
ผ่านฉันไป ดั่งลม  พร่างพรมไป

ฝนตั้งเค้า หลังลม พรมระรื่น
ดูสดชื่น เม็ดฝน ช่างสดใส
ฝนเอยฝน ตกพรำ เปียกรดใจ
ขอเพียงพรม ไม้ใบ ให้ฉันที

คลายร้อนรุ่ม ห่อหุ้ม ไปทั้งโลก
ทั้งทุกข์โศก หมกหมุ้น โลกใบนี้
ฝนเอยฝน สั่งฟ้า มาสักที
ตั้งเค้ามา แล้วอย่าหนี ไปจากกัน

ฝนซาแล้ว คล้ายห่าง ลาลับล่วง
ยังเป็นห่วง ลมฝน พรมห่มขวัญ
ความคิดถึง ตราตรึง ยากรำพัน
หนึ่งสัมพันธ์ หวังดี มิคลอนคลาย

ยังละเมอ เพ้อพร่ำ กับลมฝน
หัวใจคน น้ำใจ ไม่ห่างหาย
แม้ห่างกัน เธอฉัน เพียงร่างกาย
ยังไม่ไร้ ขอใจ เธออย่าลืม.................				
17 มีนาคม 2550 01:47 น.

คืนหลอกลวง

กุมภ์

นอนมองแสง นีออน อยู่กลางห้อง
ตาจับจ้อง มองฝ้า เพดานสูง
แสนเปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง สุดอาดูร
เหมือนสิ้นสูญ ความรู้สึก นึกถึงเธอ

สองเท้าพา แค่ตัว ใจลอยล่อง
ตาไม่มอง ทางไหน เพียงใจเหม่อ
คืนนี้ออก จากบ้าน แค่อยากเจอ
เพียงพบเธอ เมื่อคืน ลืมไม่ลง

ค่ำคืนนี้ ไม่ได้เตรียม ใจมาเที่ยว
คนใจเปลี่ยว คนเดียว เหมือนลุ่มหลง
มาดักรอ พบเธอ จิตพะวง
หวังว่าคง ได้เห็น ไม่เย็นชา

นั่งรออยู่ ในร้าน ขาประจำ
แม่งามขำ อย่าเคือง อย่าถือสา
ใจมันสั่ง บอกว่า เอ็งต้องมา
เพียงสบตา ก็พอ ไม่สนใจ

อยากบอกให้ รู้ว่า ฉันคิดถึง
เพียงคืนหนึ่ง คืนนั้น ฉันฝันไฝ่
แม้คืนนี้ เธออาจ มากับใคร!!!
ฉันทำใจ ฉันได้ อย่ากังวล

แต่ยังนั่ง รอเธอ จะมาไหม???
เธออาจไป ใกล้ไกล ฉันไม่สน
แต่คืนนั้น คืนสุข สิ้นกังวล
ฉันแค่คน ใจหนาว คาวโลกีย์

คนมากมาย หลากหลาย ในคืนค่ำ
ฉันยังจำ คืนนั้น เหมือนคืนนี้
ฉันอยากเปลี่ยน สัมพันธ์ ที่เรามี
ให้เป็น สัมพันธ์ที่ ไม่หลอกลวง				
12 มีนาคม 2550 22:34 น.

สุวิทย์ วัดหนู

กุมภ์

คนจนผู้ยิ่งใหญ่
ฝากชื่อไว้ใต้แผ่นฟ้า
อดีตคนตุลา
เคยอยู่ป่ามาอยู่เมือง

ชื่อสุวิทย์ วัดหนู
นักต่อสู้ผู้ลือเลื่อง
ที่พึ่งของคนเมือง
มีต่อเนื่องเสมอมา

เขาคือนักเคลื่อนไหว
พร้อมรับใช้มวลประชา
ทุกข์ยากลำบากมา
เรื่องที่นาที่อยู่กิน

เอ็นจีโอคนจน
อุทิศตนไร้ทรัพย์สิน
ทำงานเพื่อแผ่นดิน
เพื่อท้องถิ่นอุดมการณ์

อยู่กินกับคนจน
อุทิศตนเพื่อแรงงาน
ต่อต้านเผด็จการ
นักจัดการเรื่องมวลชน

คมคนคมความคิด
ชื่อสุวิทย์มิตรคนจน
ต่อสู้บนเหตุผล
ไม่ยินยลอำนาจได

น้ำตาบนแท่งเทียน
ดุจความเพียรที่หยดไป
แสงเทียนเกิดแต่ไส้
ที่เผาในเนื้อในเทียน

บัดนี้เทียนมอดดับ
พิไรลับกับแสงเทียน
คือคนคงความเพียร
เพื่อต่อเทียนเล่มต่อไป

ท้ายสุดจากใจรัก
ขอพี่พักวางใจได้
ชีพนี้เพื่อเมืองไทย
ผู้ยิ่งใหญ่ของคนจน

ตายสิบเกิดอีกแสน
เป็นตัวแทนไม่ย่อย่น
ต่อสู้ให้คนจน
ดั่งผลิตผลที่งดงาม........				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุมภ์
Lovings  กุมภ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุมภ์
Lovings  กุมภ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุมภ์
Lovings  กุมภ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกุมภ์